ผมมีแผลเป็นลักษณะคล้ายๆกับแผลพอง (เหมือนมีน้ำอยู่ด้านในครับ) บริเวณปลายอวัยวะเพศครับ ไม่รู้สึกแสบหรือคันครับร้องไห้ เป็นมาตั้งแต่วันที่ 11 พค.ที่
ผ่านมานี้ครับ แผลนี้เกิดหลังจากการที่ผมช่วยตัวเองในคืนวันที่ 10 พค. ครับซึ่งก็ปกติตอนช่วยตัวเองครับ แต่พอตื่นเช้ามากลับมีแผลเกิดขึ้นครับ แผลไม่มี
การยุบตัวหรือขยายตัวเพิ่มครับ ความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ุค่อนข้างน้อยครับเพราะป้องกันตลอดครับ และไม่เที่ยวกลางคืนครับ มีเพศสัมพันธ์ุล่าสุด
ประมาณ 2 เดือนที่แล้วครับ ตรวจHIV และซิฟิลิส เมื่อวันที่ 15 พค. (ไปตรวจเพราะกังวลกับแผล+ความไม่สบายใจครับ) ผลเป็นลบทั้งคู่ครับ ยิ้ม
เมื่อวานผมได้ไปหาหมอที่รพ.รัฐแห่งนึง (ที่เดียวกับที่ไปตรวจเลือดครับ) และได้มีการตรวจปัสสาวะครับเพราะดูอาการเบื้องต้นหมอไม่สามารถบอกได้ว่า
เป็นอะไรครับ ตรวจพบเม็ดเลือดขาวปะปนอยู่กับปัสสาวะครับ หมอบอกว่ามีอาการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะครับ เลยบอกผมว่าอาจจะเป็นหนองในเทียม
(หมอไม่สามารถยืนยันได้ครับว่าเป็นหนองในเทียมรึป่าว แค่คาดเดาครับเพราะเจอเม็ดเลือดขาวในปัสสาวะครับ) หมอตรวจต่อมน้ำเหลืองบริเวณขาหนีบก็
ปกติครับ แต่เท่าที่หมอตรวจดูและตัวผมเองก็ไม่เจอหนองที่ไหลออกมาเลยครับ และตัวผมเองมีเพศสัมพันธุ์ครั้งล่าสุดเมื่อประมาณ 2 เดือนที่แล้วครับ และ
ครั้งนั้นป้องกันด้วยการสวมถุงยางอนามัยครับ ผมเลยค่อนข้างสงสัยครับว่าเชื้อมันสามารถฟักตัวนานขนาดนั้นเลยหรอครับ และผมเองก็ป้องกันครับ ทีนี้
หมอเลยให้ฉีดยาครับ เป็นยาฆ่าเชื้อครับ ฉีดบริเวณสะโพกครับ ตอนฉีดบวดมากๆบรีเวณที่ฉีดครับ และให้ยาฆ่าเชื้อมาทานอีก 4 เม็ดพร้อมกันหลังอาหาร
เย็นที่เดียวครับ เลยอยากปรึกษาเพื่อนพี่ๆครับว่าจากอาการข้างต้นนี่ผมเป็นอะไรอ่ะครับ เพราะเท่าที่ผมได้อ่านและศึกษามาอาการไม่ค่อยใกล้กับโรคไหนๆ
หรือว่าหนองในเลยอ่ะครับ เป็นกังวลมากครับ เศร้าร้องไห้
1. มีอาการพองเหมือนตุ่มน้ำบริเวณปลายอวัยวะเพศ ขนาดประมาณ 1 ซม. 1 จุด (ไม่บวมขึ้นหรือลดลง บวมเป็นเส้นๆ)
2. เป็นมาเกือบๆ2อาทิตย์ ต่มน้ำยังอยู่เหมือนเดิมครับ ไม่แตก
3. ไม่มีอาการแสบหรือคัน
4. ไม่มีหนองไหลจากอวัยวะเพศ
5. ปัสสาวะปกติไม่เจ็บหรือแสบครับ
6. รู้สึกปวดปัสสาวะบ่อยขึ้นนิดนึงครับ (ไม่รู้ว่ากังวลมากไปรึป่าวนะครับ)
ปล. ไม่ค่อยเชื่อใจหมอที่ไปตรวจมาเท่าไหร่ครับเพราะไม่ใช่หมอเฉพาะทางครับ และตรวจไม่ค่อยตรงกับอาการครับ จับผมฉีดยาเลยอีกต่างหาก เข้าใจนะครับว่าขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์แต่อาการมันไม่ใกล้เคียงเลยอ่ะครับ
ผมกลัวว่าจะเป็นแค่อาจจะเป็นแผลพองเฉยๆแต่ไปตรวจไปตรวจมาจะโดนฉีดยากินยาเยอะเกินความจำเป็นอ่ะครับ
ขอบคุณมากครับ
แผลตุ่มพองน้ำ บริเวณปลายอวัยวะเพศ ใครเคยเป็นบ้างครับ
ผ่านมานี้ครับ แผลนี้เกิดหลังจากการที่ผมช่วยตัวเองในคืนวันที่ 10 พค. ครับซึ่งก็ปกติตอนช่วยตัวเองครับ แต่พอตื่นเช้ามากลับมีแผลเกิดขึ้นครับ แผลไม่มี
การยุบตัวหรือขยายตัวเพิ่มครับ ความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ุค่อนข้างน้อยครับเพราะป้องกันตลอดครับ และไม่เที่ยวกลางคืนครับ มีเพศสัมพันธ์ุล่าสุด
ประมาณ 2 เดือนที่แล้วครับ ตรวจHIV และซิฟิลิส เมื่อวันที่ 15 พค. (ไปตรวจเพราะกังวลกับแผล+ความไม่สบายใจครับ) ผลเป็นลบทั้งคู่ครับ ยิ้ม
เมื่อวานผมได้ไปหาหมอที่รพ.รัฐแห่งนึง (ที่เดียวกับที่ไปตรวจเลือดครับ) และได้มีการตรวจปัสสาวะครับเพราะดูอาการเบื้องต้นหมอไม่สามารถบอกได้ว่า
เป็นอะไรครับ ตรวจพบเม็ดเลือดขาวปะปนอยู่กับปัสสาวะครับ หมอบอกว่ามีอาการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะครับ เลยบอกผมว่าอาจจะเป็นหนองในเทียม
(หมอไม่สามารถยืนยันได้ครับว่าเป็นหนองในเทียมรึป่าว แค่คาดเดาครับเพราะเจอเม็ดเลือดขาวในปัสสาวะครับ) หมอตรวจต่อมน้ำเหลืองบริเวณขาหนีบก็
ปกติครับ แต่เท่าที่หมอตรวจดูและตัวผมเองก็ไม่เจอหนองที่ไหลออกมาเลยครับ และตัวผมเองมีเพศสัมพันธุ์ครั้งล่าสุดเมื่อประมาณ 2 เดือนที่แล้วครับ และ
ครั้งนั้นป้องกันด้วยการสวมถุงยางอนามัยครับ ผมเลยค่อนข้างสงสัยครับว่าเชื้อมันสามารถฟักตัวนานขนาดนั้นเลยหรอครับ และผมเองก็ป้องกันครับ ทีนี้
หมอเลยให้ฉีดยาครับ เป็นยาฆ่าเชื้อครับ ฉีดบริเวณสะโพกครับ ตอนฉีดบวดมากๆบรีเวณที่ฉีดครับ และให้ยาฆ่าเชื้อมาทานอีก 4 เม็ดพร้อมกันหลังอาหาร
เย็นที่เดียวครับ เลยอยากปรึกษาเพื่อนพี่ๆครับว่าจากอาการข้างต้นนี่ผมเป็นอะไรอ่ะครับ เพราะเท่าที่ผมได้อ่านและศึกษามาอาการไม่ค่อยใกล้กับโรคไหนๆ
หรือว่าหนองในเลยอ่ะครับ เป็นกังวลมากครับ เศร้าร้องไห้
1. มีอาการพองเหมือนตุ่มน้ำบริเวณปลายอวัยวะเพศ ขนาดประมาณ 1 ซม. 1 จุด (ไม่บวมขึ้นหรือลดลง บวมเป็นเส้นๆ)
2. เป็นมาเกือบๆ2อาทิตย์ ต่มน้ำยังอยู่เหมือนเดิมครับ ไม่แตก
3. ไม่มีอาการแสบหรือคัน
4. ไม่มีหนองไหลจากอวัยวะเพศ
5. ปัสสาวะปกติไม่เจ็บหรือแสบครับ
6. รู้สึกปวดปัสสาวะบ่อยขึ้นนิดนึงครับ (ไม่รู้ว่ากังวลมากไปรึป่าวนะครับ)
ปล. ไม่ค่อยเชื่อใจหมอที่ไปตรวจมาเท่าไหร่ครับเพราะไม่ใช่หมอเฉพาะทางครับ และตรวจไม่ค่อยตรงกับอาการครับ จับผมฉีดยาเลยอีกต่างหาก เข้าใจนะครับว่าขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์แต่อาการมันไม่ใกล้เคียงเลยอ่ะครับ
ผมกลัวว่าจะเป็นแค่อาจจะเป็นแผลพองเฉยๆแต่ไปตรวจไปตรวจมาจะโดนฉีดยากินยาเยอะเกินความจำเป็นอ่ะครับ
ขอบคุณมากครับ