รู้สึกหมดไฟ หมดใจจะทำอะไร ไม่เหลือแรงจะคิดจะสู้ต่อ

แม้แต่ตั้งกระทู้ผมยังหมดแรงจะคิดคำ  กดแป้นคีย์บอร์ดเลย
เนื่องจากไม่สบายด้วย ไข้ขึ้น กลืนน้ำลาย 1กลืนก็เจ็บคอมาก

อยู่คนเดียวกับหมาน้อยในคอนโดไม่ได้ไปไหนเลยมา 3-4 วันแล้ว

แทบจะไม่เห็นพระอาทิตย์ ไม่ได้คุยกับมนุษย์

เวลาสั่งข้าวก็ขับรถออกไปซื้อข้าวกล่อง 2มื้อ มากินกับหมาน้อย เนื่องจากหลังๆ หมามันเริ่มติดอาหารคน ไม่ยอมกินอาหารเม็ด

มันเป็นหมาพันธ์ปอมปสม ตัวเล็กๆ เป็นรุ่นไร้เสียงจึงพอมาเลี้ยงในคอนโดในเมืองมหญ่ได้ จริงๆไม่ใช่หมาของผมหรอก

จริงๆไม่ใช่หมาของผมหรอก หมาของแฟนที่เพิ่งเลิกไม่ถึง 2 อาทิตย์ แต่ผมขอมาเลี้ยงไว้ ไห้รู้สึกที่โดนเธอบอกเลิก จะได้ซอฟลงเพราะมีหมาเป็นเพื่อน

ปัญหาของผม สิ่งที่ผมเจอและเผชิญมา อย่าว่าผมมาพิมพ์ระบายออกในนี้เลยนะครับ
ด้วยผมมันเพื่อนน้อย เพื่อนที่มีก็รอซ้ำเติมบ้าง ให้คำปรึกษาเชิงขายประกันบ้าง แต่สิ่งที่ผมเจอมามันเป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ ผมจะพยายามเรียบเรียงออกมาเป็นข้อๆ ดังนี้

1.เลิกกับแฟนที่คบกันมาประมาณ 5 เดือนมาได้2อาทิตย์ ด้วยสาเหตุ ดังต่อไปนี้
    •  ช่วงหลังๆเทอบ่นปวดท้องบ่อยๆ จนพาเทอไปหาคลีนิคแถวสวนผัก คุณหมอเรียกผมเข้าไปฟังกับเทอ แจ้งว่า เห็นเหมือนมีตัวอ่อน ในตัวเทอ นัดอีก2อาทิตย์มาดูอีกที

    •  เนื่องจากแม่ของเทออยู่ต่างประเทศ พ่ออยู่ในคุก เทอจึงไม่รุ้จะบอกแม่อย่างไร โดยผลักไสผมไห้ไปหาฤกษ์แต่งงาน มาไห้ได้เพื่อจะได้แต่งงานภายในปีนี้
ผมก็พยายามไห้เป็นหน้าที่แม่ผม แม่ผมก็ไปหามาข้อมูลที่ดังๆมาหมด นำเอี้ยง หรืออื่นๆ เนื่องด้วยตัวผมเองต้องทำงานด้วย

    •  หมอดังๆทั้ง2เจ้า เอาดวงพ่อแม่ทั้ง 2 ฝ่ายและดวงผมกับเทอไปดู บอกว่าแต่งไม่ได้ภายในปีนี้ จึงนำข่าวไปบอกเทอ เทอโมโหมาก บอกว่าจะรอไห้ป่องขึ้นมาหรือไง อายเค้า  ผมแค่เสนอว่าดูอย่างน้องที่ทำงานเก่าพี่ เค้ายังอยากอุ้มลูกขึ้นไปแต่งเลย พอผมพูดจบ โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ บอกลองมาท้องเองไหม ผมแค่เสนอเท่านั้นเอง

   •  พอรู้ว่าเทอท้อง หลังๆผมก็พยายามซื้อนมมาตุน ไข่ต้มมาตุนในตุ้เย้น  เตรียมเป็นพ่อคนเต็มตัว เพราะเราก็ไม่เคยมีโมเม้นแบบนี้มาก่อน

   •  มีบทสนทนาที่เทอส่งมาไห้ผมดูตอนหลังๆที่ทเลาะกัน ว่าเทอไปถามราคายาทำแท้ง และเพื่อนของเทอที่รู้ว่าเทอท้อง ได้ห้ามปรามเทอว่าอย่าคิดไปทำ

   •  มีวันนึงขณะที่แม่ผมกำลังเดินทางไป ถามหมอดูที่รอคิวตั้งแต่ 9โมงเช้า ได้คิวตอน 5โมงเย็น เทอก็พิมด่ากับผมในกรุ้ปไลนที่มีแม่ของผมอยู่ในนั้นด้วย
จนผมทนไม่ไหว สวสารที่แม่อตส่าดั้งด้นไปหาหมอดู รอนานก็นาน เดินทางไกลก็ไกล พิมไปว่า " ม่าม้ากลับบ้านเลย เค้าไม่เห็นความหวังดีของเราเลย อั้วขอโทษที่หาเรื่องเดือดร้อนมาไห้ อั้วขอโทษที่หาเมียดีๆไห้ไม่ได้"

    •  วันนั้นเทอเดินทางไปไหนกับญาติไม่รู้   เทอบอกจะกลับมาเก็บของๆเทออกจากคอนโดผมไปในเย็นวันนั้น

    •   เวลาทเลาะกันญาติของเทอยังด่าเทอเลยว่า  หาทางลงทางอื่นไม่เป็น  จะเก็บของกลับอย่างเดียว

    •   ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เทอเก็บเสื้อผ้ากลับแฟลตของเทอ  ผมจึงหยิบเสื้อผ้าเทอมากองไห้บนโซฟา  

    •   หลังจากเทอกลับแฟลตไป ด้วยอุบายอะไรของเทออีกไม่รู้ เรียกญาติๆฝ่ายพ่อของเทอ คนแก่คนหนุ่มมารวมตัวกันที่หน้าบ้านของผม (ไม่ใช่คอนโด)
10 คนเห็นจะได้

   •   โชคดีที่มีญาติฝ่ายแม่ของเทอคนนึงหวังดีกับผม โทรมาบอกผมไห้รีบกลับบ้าน เพราะยกญาติมาคุย10คน

   •    ประเด็นขณะที่คุย คือ จะเป็นงานลัษณะ หมั้น ที่หมอดังๆทั้ง2เจ้าบอกว่า แต่งไม่ได้ถ้าเป็นปีนี้  แต่เทอรอไม่ได้ต้องปีนี้เท่านั้น แม่ผมบอกถ้าแต่งปีหน้าดวงทั้งคู่จะโอเคเลน

   •    ประเด็นขณะที่คุย อีกคือ ทั้งสองคนยังรักกันอยู่ไหม ถ้ายังรักกันอยู่ก็คุยกันดีๆ ทำความเข้าใจกันดีๆ

   •   คืนนั้นเทอไลนมาหาผม ถามว่ายังรักอยู่ไหม ผมก็ตอบเทอไปว่า รัก ยังห่วงอยู่เสมอ ยิ่งมีลูกยิ่งรักและห่วงมากๆ และผมก็ถามเทอว่า เทอละ ยังรักผมอยู่ไหม เทอก็ตอบว่า รัก

   •   วัน  - สองวันไห้หลัง เทอบอกจะไปเดินเล่น คนเดียว เพราะรู้สึกเครียด เย็นวันนั้นผมซื้อกระดูกหมูต้มยำ ที่เทอชอบมาฝาก แต่เข้าห้องเทอไม่ได้ ได้ยินเสรยงแต่หมาเห่าออกมา

   •  เทอตั้งสถานะเฟสว่าโสด หลังจาก อินรีเรชั่น กับผม (จริงๆเรื่องโซเชี่ยลก็ไม่ได้ยึดติดอะไรมาก)

   • ผมเพิ่งมารู้ เพราะผมทำแต่งาน และไม่มีเวลาเข้าเฟสหรอก และหลังๆพยายามขยันมากขึ้น เมื่อรู้ว่าเทอท้อง

   • กลับไปวันที่เทอบอกจะไปเดินเล่นคนเดียว แต่งตัวสะสวย บอกว่าไปวัดพระรามเก้าคนเดียว และอีกครั้งนึงบอกว่าไปเดินอนุสาวรีย์ไชยคนเดียว

   •  ผมจึงห้อยกระดูกหมูต้มยำ ไว้ที่หน้าประตูเทอ  / บอกก่อนว่าพฤติกรรมโทรจิกของผม ตั้งแต่คบกัน ผมทำนับครั้งได้ เพราะเทอก็นอนที่ห้องของผมเป็นส่วนใหญ่

   •  แต่วันนั้น โมโหที่ผมได้ยินเสียงหมา แต่เข้าห้องเทอไม่ได้ มันทรมาน อยากเล่นกับมัน จึงโทรไปเทอปิดเครื่องในตอนแรก จึงพยายามติดต่อญาติของเทอ
ญาติของเทอก็พยายามติดต่อเทอไห้  จนคุยกับเทอได้ช่วงเย็นๆ พูดจาคลุมเคลือบอกไม่ได้ว่สอนู่ที่ไหน แต่บอกว่าไปเดิน้ล่นอนุสาวรีไชยคนเดียว ผมจึงโทรหาเทอไก้เปิดกล้องคุย เทอเปิดกล้องคุยกับผม แต่ไม่สามารถแพนกล้องได้ ไม่ว่าผมจะขอไห้เทอทำกี่ครั้ง จนเทอตัดบทวางสายแบ้วบล้อค ตามนิสัยของเทอทีาเคยทำกับแม่ของเทอ ขณะที่อยู่กับผม

  • เพื่อนสนิท เทอด่าผมว่า พี่จะบ้าหรอ คิดหน่อย ผู้หญิงท้องกับพี่อ่อนๆ ยังมาหึงอีกหรอ

• คืนนั้นเทอพิมมาบอกว่า เราเลิกกัน และลูกก็ไม่ต้องรับผิดชอบแล้ว แท้งแล้ว มีเลือดออกมาเพราะเครียด

  • 6โมง เช้าวันต่อมา  ผมจึงไปเคาะที่หน้าห้องของเทอ ไห้เทอเปิด เทอไม่ยอมเปิดในตอนแรก ผมก็ตะโกนว่า มันก็คือ 1 ชีวิตนะ ไปทำแท้งหรือเปล่า หรือได้ซื้อยามากินรึเปล่า เทอเปิดออกมาและก็มาด่าๆผม บอกว่าไม่ต้องเจอกันอีก

• ผมกอดกับเธอและร้องไห้ และขอหมาเทอมาเลี้ยงไว้ดูต่างหน้า

• ตอนนี้เคว้งมาก เพิ่งตกงานไม่ถึงเดือน ส่วนนึงก็มาจากไม่ผ่านการประเมิณ ที่ผมลาป่วยไปเล่นสงกรานกับเทอด้วย

• เมื่อคืนเทอไลนผ่านเพื่อนขิงเทอมาถึงผมว่า รักและไม่ได้โกด ก็เสียใจที่ต้องเลิก และไก้หมาผมเลี้ยงไปเลย

• อนาคตที่เคยวาดไว้ด้วยกัน ก็จบลงภายในการพลิกฝ่ามือของเทอ

• หมดกำลังใจทำงานอดิเรก และหางานใหม่ที่เป็นงานประจำ

• มีคนชวนผมไห้โทรไปหากลวงพ่อพระคริสต์ ว่าจะค่อยๆแก้ปัญหาอย่างไร
และแนะนำอย่าเพิ่งเข้าโบสถ์เพราะจิตยังฟุ้งซ่านอยู่

• ไปคุยกับเพื่อนเก่าคนนึงที่ไม่คุยกันมา 10 ปี ก็ได้มุมมองความคิดเรื่อง หินสามก้อน
ก็จำก็บันทึกเสียงมา แต่พอกลับมาที่ห้องก็ศังกะตาย เหมือนเดิม

• no motivation จะเปลี่ยนแปลง หรือ พัฒนาชีวิตไปทางไหน เนื่องจากเพิ่งอยู่ในภาวะ aftershock ทุกอย่างมันเกิดขึ้นและจบไแเร็วมาก

• ภาพที่เคยเล่นน้ำทะเลกับเทอ ยังคงเป็นภาพที่สวยที่สุดในไม่กี่ภาพ ที่เราต้องมาทเลาะกันกับเรื่องอะไรไม่รู้ที่เข้ามาในชีวิต

• ผมอายุ 30 กลางๆ ผมเป็นคนไม่มีหนี้ มีรถมีคอนโด มีบ้านพ่อแม่  แต่ไม่มีเงินเก็บ เงินก้อน เนื่องจากใช้จ่ายเก่ง และไม่มีการออมมาตั้งแต่ต้น

ถ้าเป็นคุณๆจะทำอย่างไรกับชีวิตในแบบผม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่