ผมไม่ค่อยสันทัดเพลงลูกทุ่งหรอกนะครับ แต่ที่ได้ดูเพราะคุณแม่ชอบดู
ยอมรับว่าไม่ค่อยรู้กติกาอะไรเท่าไหร่ เพราะเห็นขึ้นมากี่คน ร้องดีไม่ดีก็ผ่านหมด เอาจริงๆ นะ ผมดูแบบไม่ค่อยสนใจอะไรเท่าไหร่ แต่ที่สำคัญคือ ยังไม่เคยเห็นใคร "ไม่ผ่าน" เลยสักคน (แต่ก็อย่างที่บอกนะครับ ดูผ่านๆ เฉยๆ)
แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นมาตลอดเลย คือ คนที่มาออกรายการนี่แหละ คือ ทุกคนมีดราม่า ไอ้เรื่องสูญเสียคนในครอบครัว มันเป็นเรื่องปกตินะครับ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ทุกครอบครัวมีเหมือนกันหมด แต่ที่พ่วงเข้าไปด้วยคือ เรื่องหนี้สิน เรื่องโรคร้าย เรื่องขาดโอกาส ฯลฯ อย่างบางคนขึ้นมาก็ปกติดี ดูไม่มีอะไร พอสัมภาษณ์ไป ช้าก่อน...ชีวิตผมก็ดราม่าเหมือนกัน
เอาตรงๆ สมัยเรียน ผมมีออกค่ายตามต่างจังหวัดเป็นประจำ และก็ยังทำกิจกรรมนี้อยู่จนถึงตอนที่ทำงาน ก็ค่อนข้างเข้าใจเป็นอย่างดีว่า คนไทยในต่างจังหวัดที่ไม่ได้อยู่ในเขตเมือง เค้าขาดโอกาสจริงๆ ครับ พ่อแม่มีหนี้สิน ลูกเลยไม่ได้เรียน พอไม่ได้เรียน ก็ไม่มีรายได้เป็นหลักเป็นแหล่ง ขายนาเพื่อได้เงินมาก้อนนึง ไม่พอใช้ ก็ไปกู้หนี้ พอคุณภาพชีวิตไม่ดี ก็มีปัญหาเรื่องสุขภาพ การรักษาโรคถ้าง่ายๆ ก็ยังใช้ 30 บาทได้ ถ้าโรคซับซ้อนปั๊บ ลำบากเลย ไม่มีเงินรักษา ต้องฝืนทนไป หรือไม่ก็กู้หนี้อีกรอบ เป็นวัฏจักรแบบนี้ไปเรื่อยๆ พอมีลูกก็เข้าลูปเดิม (กลับไปที่พ่อแม่มีหนี้สิน)
กลับมาที่รายการ คือมันเป็นเรื่องบังเอิญจริงเหรอครับที่ทุกคนต้องมีดราม่า ไม่สามารถขึ้นมาร้องเพลงเฉยๆ แล้วลงจากเวทีไปได้ หรือทาง Workpoint วางไว้อยู่แล้วว่า ต้องคัดคนที่ดราม่าเข้ามาเพื่อเป็นจุดขายของรายการ แล้ววิธีการตัดสินมันคือยังไงครับ (ยอมรับว่ายังไม่เคยดูจนถึงตอนที่ต้องชิงแชมป์อะไร เพราะทุกสัปดาห์ก็จะมีแต่มาร้องคัดตัวแล้วกรรมการให้สามผ่านรัวๆ บางทีมีตำหนิการร้องยังไม่ดี กังวลเทคนิคมากไป บลาๆๆ แต่ผ่านเฉยเลย คือมันผ่านทุกคนแล้วจะไปชิงยังไงครับ ใครทราบกติการมาอธิบายหน่อยครับ อยากเข้าใจเหมือนกัน)
แล้วรอบชิงมันจะคัดเลือกจากอะไรครับ ชีวิตใครดราม่าที่สุด? ก็ไม่น่าจะใช่
แต่ข้อคิดที่สะท้อนผ่านรายการนี้ได้ชัดเจนเลยคือ คนไทยอีกเป็นจำนวนมากเลยครับ ที่ขาดโอกาสทั้งการศึกษา การสาธารณสุข การเข้าถึงแหล่งการเงิน การเข้าถึงแหล่งงาน ฯลฯ จนหลายๆ คนต้องใช้โอกาสของรายการทีวี เป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของตนเอง ซึ่งจากบรรดาหลายสิบหลายร้อยคนที่มาขึ้นเวที จะมีสักกี่คนครับ ที่ได้โอกาสในการเปลี่ยนชีวิตของตนเอง
ไปๆ มาๆ เป็นกระทู้ชวนคุยมากกว่าละครับ
ไมค์ทองคำ กับดราม่าของชีวิตคนไทย
ยอมรับว่าไม่ค่อยรู้กติกาอะไรเท่าไหร่ เพราะเห็นขึ้นมากี่คน ร้องดีไม่ดีก็ผ่านหมด เอาจริงๆ นะ ผมดูแบบไม่ค่อยสนใจอะไรเท่าไหร่ แต่ที่สำคัญคือ ยังไม่เคยเห็นใคร "ไม่ผ่าน" เลยสักคน (แต่ก็อย่างที่บอกนะครับ ดูผ่านๆ เฉยๆ)
แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นมาตลอดเลย คือ คนที่มาออกรายการนี่แหละ คือ ทุกคนมีดราม่า ไอ้เรื่องสูญเสียคนในครอบครัว มันเป็นเรื่องปกตินะครับ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ทุกครอบครัวมีเหมือนกันหมด แต่ที่พ่วงเข้าไปด้วยคือ เรื่องหนี้สิน เรื่องโรคร้าย เรื่องขาดโอกาส ฯลฯ อย่างบางคนขึ้นมาก็ปกติดี ดูไม่มีอะไร พอสัมภาษณ์ไป ช้าก่อน...ชีวิตผมก็ดราม่าเหมือนกัน
เอาตรงๆ สมัยเรียน ผมมีออกค่ายตามต่างจังหวัดเป็นประจำ และก็ยังทำกิจกรรมนี้อยู่จนถึงตอนที่ทำงาน ก็ค่อนข้างเข้าใจเป็นอย่างดีว่า คนไทยในต่างจังหวัดที่ไม่ได้อยู่ในเขตเมือง เค้าขาดโอกาสจริงๆ ครับ พ่อแม่มีหนี้สิน ลูกเลยไม่ได้เรียน พอไม่ได้เรียน ก็ไม่มีรายได้เป็นหลักเป็นแหล่ง ขายนาเพื่อได้เงินมาก้อนนึง ไม่พอใช้ ก็ไปกู้หนี้ พอคุณภาพชีวิตไม่ดี ก็มีปัญหาเรื่องสุขภาพ การรักษาโรคถ้าง่ายๆ ก็ยังใช้ 30 บาทได้ ถ้าโรคซับซ้อนปั๊บ ลำบากเลย ไม่มีเงินรักษา ต้องฝืนทนไป หรือไม่ก็กู้หนี้อีกรอบ เป็นวัฏจักรแบบนี้ไปเรื่อยๆ พอมีลูกก็เข้าลูปเดิม (กลับไปที่พ่อแม่มีหนี้สิน)
กลับมาที่รายการ คือมันเป็นเรื่องบังเอิญจริงเหรอครับที่ทุกคนต้องมีดราม่า ไม่สามารถขึ้นมาร้องเพลงเฉยๆ แล้วลงจากเวทีไปได้ หรือทาง Workpoint วางไว้อยู่แล้วว่า ต้องคัดคนที่ดราม่าเข้ามาเพื่อเป็นจุดขายของรายการ แล้ววิธีการตัดสินมันคือยังไงครับ (ยอมรับว่ายังไม่เคยดูจนถึงตอนที่ต้องชิงแชมป์อะไร เพราะทุกสัปดาห์ก็จะมีแต่มาร้องคัดตัวแล้วกรรมการให้สามผ่านรัวๆ บางทีมีตำหนิการร้องยังไม่ดี กังวลเทคนิคมากไป บลาๆๆ แต่ผ่านเฉยเลย คือมันผ่านทุกคนแล้วจะไปชิงยังไงครับ ใครทราบกติการมาอธิบายหน่อยครับ อยากเข้าใจเหมือนกัน)
แล้วรอบชิงมันจะคัดเลือกจากอะไรครับ ชีวิตใครดราม่าที่สุด? ก็ไม่น่าจะใช่
แต่ข้อคิดที่สะท้อนผ่านรายการนี้ได้ชัดเจนเลยคือ คนไทยอีกเป็นจำนวนมากเลยครับ ที่ขาดโอกาสทั้งการศึกษา การสาธารณสุข การเข้าถึงแหล่งการเงิน การเข้าถึงแหล่งงาน ฯลฯ จนหลายๆ คนต้องใช้โอกาสของรายการทีวี เป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของตนเอง ซึ่งจากบรรดาหลายสิบหลายร้อยคนที่มาขึ้นเวที จะมีสักกี่คนครับ ที่ได้โอกาสในการเปลี่ยนชีวิตของตนเอง
ไปๆ มาๆ เป็นกระทู้ชวนคุยมากกว่าละครับ