หลักฐานใหม่ ตอนที่ 1 พระแก้วมรกต เคยประดิษฐานที่นครเชียงตุง,นครเชียงรุ่ง ,นครต้าลี่

#พระแก้วมรกต เคยประดิษฐานที่ #นครเชียงตุง #นครเชียงรุ่ง #นครต้าลี่
..นักโบราณคดีจีนมีหลักฐานว่าพระแก้วมรกตสร้างขึ้นที่เมืองต้าลี่ สมัยน่านเจ้า1,500 ปีมาแล้ว แต่ด้วยปัญหาความมั่นคงจึงต้องปกปิดเรื่องนี้ไว้ไม่ให้รู้ถึงจักรพรรดิจีนในสมัยราชวงศ์ถัง
..ต่อมาเมื่อความลับรั่วไหล มีข่าวว่าเมืองต้าลี่มีสมบัติล้ำค่า จักรพรรดิจึงดำริเรื่องยกทัพ ชาวน่านเจ้าจึงแอบอัญเชิญพระแก้วมรกตลงมาทางใต้ ประดิษฐานไว้ที่วัดพระแก้วในสิบสองปันนา โดยมีหลักฐานคือวัดพระแก้วอยู่ที่เชียงรุ่งมีอายุกว่า1,300 ปี
..เมื่ออิทธิพลของกองทัพจีนมารุกรานถึงเชียงรุ่ง พระแก้วมรกตก็ถูกอัญเชิญเคลื่อนย้ายมาอยู่ที่เมืองเชียงตุง คาดว่าจะประดิษฐานอยู่ที่วัดพระแก้วในเมืองเชียงตุงเป็นเวลาเกือบ 300 ปี และมีการปกปิดไว้ไม่ให้รู้ว่าเป็นองค์พระที่มีความล้ำค่า
..ต่อมาเมื่อราว 600 ปีมานี้ มีการค้นพบพระแก้วมรกตหุ้มด้วยปูนซ่อนอยู่ในเจดีย์ที่เมืองเชียงราย ด้วยความที่ไกลพ้นจากอิทธิพลของกองทัพจีนและมองโกล พระแก้วมรกตจึงถูกเปิดเผยออกมาสู่ประวัติศาสตร์ของสยามโดยไม่ต้องซุกซ่อนอีกต่อไป
..มีร่อยรอยหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่าพระแก้วมรกตเคยประดิษฐานอยู่ในวัดพระแก้ว 9 วัดและแต่ละวัดสามารถระบุช่วงเวลาที่ชัดเจนได้ โดยมีพระแท่นหรือจุดที่วางพระแก้วมรกตไว้แน่ชัด คือ
1. วัดพระแก้ว ในเมืองเชียงรุ่ง สิบสองปันนา
..ราว พ.ศ. 1200 – 1500 ช่วงก่อนหน้านั้นอาจจะประดิษฐานอยู่ในพระราชวังโบราณของอาณาจักรน่านเจ้า ปัจจุบันไม่มีร่องรอยเกี่ยวกับพระแก้วมรกตเหลืออยู่แล้วในเมืองต้าลี่ แต่เราสามารถพบเห็นแหล่งหินธรรมชาติชนิดเดียวกันกับพระแก้วมรกตได้ทั่วไปในเมืองต้าลี่ ส่วนวัดพระแก้วอันเก่าแก่ของเมืองเชียงรุ่งมรดกของชาวลื้อนั้น ถูกรัฐบาลจีนรื้อถอนออกไปเมื่อประมาณ พ.ศ. 2546 เพื่อปรับปรุงเมืองให้ทันสมัย

2. วัดพระแก้ว ในเมืองเชียงตุง รัฐฉาน
..ราว พ.ศ. 1500 – 1900 ในช่วงแรกนั้นพระแก้วอาจจะมิได้หุ้มด้วยปูนลงรักเพื่อพลางเนื้อใน ชาวลื้อสามารถสัมผัสและสรงน้ำองค์พระแก้วได้ในวันขึ้นปีใหม่ โดยดูได้จากการถอดความบันทึกโบราณภาษาลื้อในเชียงตุงซึ่งมีอายุกว่า 1,000 ปี เมื่อกองทัพแห่งมองโกลรุกรานมาถึงดินแดนแถบนี้ก็ไม่ปรากฏหลักฐานว่ามีการสรงน้ำองค์พระแก้วในวันขึ้นปีใหม่อีกเลย อาจเป็นไปได้ว่ามีการหุ้มองค์พระด้วยปูนแล้วลงรักองค์พระแก้วมรกตไว้ในช่วงสมัยนี้นี่เอง จนเวลาล่วงไปทำให้ผู้คนก็ลืมไปแล้วว่ามีพระแก้วที่สลักจากหินมรกตอยู่ที่นครเชียงตุง
3. วัดพระแก้ว ในเมืองเชียงราย ถูกพบว่าเป็นองค์พระแก้วมรกตจากพระที่มีปูนหุ้มไว้ในเจดีย์ที่ถูกฟ้าผ่า
..ราว พ.ศ. 1979 ขณะนั้นเชียงรายอยู่ในอิทธิพลของนครเชียงแสนและเมืองเชียงแสนเป็นถิ่นฐานที่สามารถติดต่อกับชาวลื้อในดินแดนอื่นๆและน่านเจ้าได้โดยการเดินทางผ่านแม่น้ำล้านช้างหรือแม่น้ำโขง เป็นไปได้ว่าองค์พระแก้วที่หุ้มด้วยปูนแล้วลงรักอาจจะถูกชาวลื้ออัญเชิญมาอยู่ที่เชียงรายในช่วงปลายพุทธศตวรรษที่ 18 หรือประมาณ พ.ศ. 1900 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ชาวมอญแพ้สงครามกับพม่า เป็นช่วงที่อาณาจักรพุกามกำลังเรืองอำนาจ เป็นเวลาเดียวกับการเริ่มสถาปนาอาณาจักรล้านนา เมื่อชาวลื้อเพิ่มจำนวนและเข้ามาตั้งถิ่นฐานในภาคเหนือของไทย
4. วัดพระแก้ว ในเมืองลำปาง หรือเมืองเขลางค์นคร ปัจจุบันคือวัดสุชาดาราม หรือ พระแก้วดอนเต้า
..ราว พ.ศ. 1979 – 2011 ในฐานะเป็นเมืองลูกหลวงของนครเชียงใหม่ วัดพระแก้วดอนเต้า หรือสุชาดารามนี้ ตั้งอยู่ที่ ถนนสุชาดา ภายในเมืองลำปาง เป็นวัดเก่าแก่สวยงาม มีอายุเกือบพันปี มีปูชนียสถานที่สำคัญของวัดทดแทนพระแก้วมรกต คือ พระบรมธาตุดอนเต้า พระเจดีย์องค์ใหญ่ซึ่งเชื่อว่าบรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า

อ่านต่อตอนที่ 2

เรียบเรียงโดย:ใหม่สูงค่า เชียงตุง
Cr.ขอบพระคุณภาพจาก คุณ Kyaw Ye Myint Aung
1.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่