[CR] รีวิว โรงเรียนไผทอุดมศึกษา ชั้นอนุบาลและประถมค่ะ

ออกตัวว่าเพิ่งเคยเขียนรีวิวครั้งแรกนะคะ

มีลูกเรียนอยู่ที่นี่ 2 คนค่ะ เรียนมาหลายปีแล้วเลยมาขอ review ซักหน่อย เผื่อจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ปกครองที่หาข้อมูลให้ลูกนะคะ อมยิ้ม02

มาดูพื้อฐานกันก่อนค่ะ เหตุผลที่เลือกเรียนที่นี่เพราะไกล้บ้าน ไกล้ออฟฟิศคุณแม่ และมีครูฝรั่งเยอะค่ะ คุณแม่ไม่ได้เน้นว่าลูกจะต้องมาสายวิชาการ (เข้าใจว่าในย่านนี้โรงเรียนไผทฯ มีชื่อในสายนี้) บางคนถามว่าจะให้ลูกเรียนสายวิชาการหรือโรงเรียนทางเลือกดี? ประเด็นนี้แล้วแต่บ้านเลยค่ะ อยากส่งเรียน Inter แต่งบไม่ถึงค่ะ 55555555 ร้องไห้

เป้าประสงค์ของบ้านเรา คืออยากให้ลูกมีความสุขในการเรียนและได้ภาษาอังกฤษ โดยไม่ต้องไปหาเรียนพิเศษภาษาอังกฤษข้างนอก เรียนต่อ(ถ้าสอบเข้าได้)ในโรงเรียนมัธยมของรัฐบาลได้ ปกติดูหนังจะให้ลูกดูเป็น soundtrack ตลอด และดู sub อังกฤษ (อ่านออกมั๊ยไม่รู้ แต่ถ้าลูกสามารถถามว่าศัพท์คำนี้แปลว่าอะไร คุณแม่ก็ happy แล้วค่ะ) คุณแม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ แต่ไม่เก่ง grammar  คุณพ่อมีเวลาให้ลูก แต่ไม่ได้ภาษาอังกฤษ ที่บ้านเป็นครอบครัวเล็ก อยู่กันแค่ 4 คนพ่อแม่ลูกค่ะ สาเหตุที่ต้องเน้นภาษาอังกฤษเพราะที่บ้านเห็นว่าสำคัญมาก ภาษาอังกฤษลูกต้องแข็งแรง และถ้าทำได้ ลูกควรได้ภาษาที่ 3 ด้วยค่ะ

ออกตัวก่อนว่าปกติทั้งคุณพ่อคุณแม่ไม่ได้เข้าสมาคมของกลุ่มผู้ปกครองเท่าไหร่ ส่งลูกแล้วกลับเลย ลูกเรียนเสร็จรับกลับบ้านเลย โดยไม่ได้เรียนพิเศษของโรงเรียนเพิ่มเติม ข้อมูลและความเห็นต่อไปนี้ส่วนตัวล้วนๆนะคะ

หลักสูตร ILP ของอนุบาล:
ค่าเทอมประมาณ 3 หมื่นกว่าบาท (ต่อเทอม) ห้องเรียนส่วนใหญ่เป็น ILP
ในตอนเช้าก่อนเข้าแถว จะมีกิจกรรมนอกห้องเรียนให้เด็กๆคือระบายสี หรือบางวันจะมีการประดิฐของเล่นง่ายๆ ทุกวันพุธจะมี teacher มานั่งเล่นเกมส์กับเด็กๆและแจกลูกโป่ง

ในคาบเรียน เด็กจะได้เจอ teacher ทุกวัน วันละคาบค่ะ ถ้าผู้ปกครองคาดหวังให้เด็กพูดฟังภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่ว โดยที่บ้านไม่ได้จัดสภาพแวดล้อมให้เด็กได้คุ้นชินกับภาษาอังกฤษ ขอร้องว่าอย่าคาดหวังจากโรงเรียนมากค่ะ ผู้ปกครองบางท่านมีความคาดหวังสูง ลูกชั้นต้องสำเนียงดี ต้องรู้ศัพท์เยอะๆ ตรงนี้ต้องสอนเองนะคะ เพราะการเรียนในระดับอนุบาล เราอยากให้เด็กมีความคุ้นชินกับฝรั่ง เจอแล้วไม่กลัว สามารถสื่อสารกันรู้เรื่อง ทำตาม basic instruction ได้ แค่นี้โอเคแล้วค่ะ ที่นี่หลังเลิกเรียน 15.30 มีกิจกรรมให้เลือก เรียนบัลเล่ เทควันโด สอนการบ้าน ฯลฯ เลือกเรียนได้ตามสะดวกค่ะ

พอจบอนุบาล 3 ถึงเวลาที่ผู้ปกครองต้องตัดสินใจว่าจะให้ลูกไปสายไหนค่ะ สมัยลูกคนโต มีให้เลือก 6 สายค่ะ เมื่อก่อนมี ILP 4 ด้วย (คือเรียนวิทยาศาสตร์เป็นภาษาอังกษ)
•    Gifted – อันนี้ลูกไม่ได้มาสอบ แต่ถึงสอบก็ไม่รู้จะติดมั๊ย 😊 ใครชื่นชอบสายวิชาการ ต้องมาทางนี้เลยค่ะ มี 4 ห้อง ห้องละ 30 คน
•    สามัญ – มีห้องเดียว
•    ILP 1 – เรียนอังกฤษกับ Teacher
•    ILP 2 – เรียนอังกฤษ และ ภาษาจีน กับ Teacher/เหล่าซือ(บางท่านพูดไทยได้)
•    ILP 3 – เรียนอังกฤษ จีน และเลขกับ Teacher/เหล่าซือ
•    IP – จริงๆคือ EP ค่ะ

ค่าเทอม (ต่อเทอม) IP ประมาณเจ็ดหมื่นนิดๆ, ILP 3 ประมาณสี่หมื่นกว่า, รองลงมาก็ Gifted กับ ILP 2 ซึ่งราคาพอๆกัน, และลดหลั่นกันไปประมาณ 5 พันบาทค่ะ หลักสูตร Gifted นี่เป็นอะไรที่น่าสนใจ ควรรับฟังจากผู้ปกครองที่ลูกเรียนสายนี้เองค่ะ ก่อนเปิดเรียน เด็กๆที่จะเรียนสาย ILP และ IP ต้องมาเรียนปรับพื้นฐานก่อนประมาณ 3 สัปดาห์ ค่าเรียน Intensive Course ประมาณ 7 พันค่ะ (เรียนตามเวลาปกติ) ที่นี่ไม่มีกิจกรรมที่ต้องเก็บเงินจุกจิกหรือการเลี้ยงโต๊ะจีนเพื่อหาเงินเข้าโรงเรียนค่ะ

ป.1 ให้ลูกเรียน ILP 3 ค่ะ: หลักสูตรนี้ ลูกจะได้เรียน Eng และ Math กับ Teacher ทุกวัน วันละคาบ โดยวิธีการเรียนการสอนคือ Teacher สอนเป็นภาษาอังกฤษและมีครูผู้ช่วยแปลเป็นภาษาไทยให้ในท้ายคาบค่ะ มีหนังสือเรียนเป็นภาษาอังกฤษ เนื้อหาไม่หนักเท่าทางสามัญ แต่การบ้านเป็นของสายสามัญ และเด็กจะมีคาบเรียนของสายสามัญด้วย เพื่อความรู้ที่เท่าเทียมกัน เรียนภาษาจีนสัปดาห์ละ 2 คาบ มีครูประจำชั้น 2 ท่าน เลิกเรียน 15.45 ลูกเรียนมีความสุขดีค่ะ เปิดมามีเพื่อนประมาณ 36 คน (ถ้าจำไม่ผิด) teacher มีการ turn over ค่อนข้างบ่อย(ในสายตาคุณแม่) เด็กๆในห้องนี้ต้องยอมรับส่วนนึงว่าแก่นเซี้ยวกว่าเด็กๆห้อง Gifted ที่เน้นวิชาการเยอะ เดินผ่านห้อง Gifted นี่เด็กๆนั่งกันเรียบร้อย ห้องเราเหรอวิ่งกันเป็นลิงทุกวัน คุณแม่เป็นเดลิง็ ลูกค่อนข้างเรียบร้อยค่ะ มีบ่นบ้างเรื่องโดนเพื่อนแกล้ง เพื่อนสนิทเค้าเรียนอยู่ Gifted เป็นส่วนใหญ่ค่ะ การบ้านถือว่าเยอะพอสมควร (ในความคิดเห็นส่วนตัว) เด็กต้องท่องศัพท์ 7 คำทุกวัน (ศัพท์วิชา math และ eng) แต่ไม่เคย test ท่องศัพท์ การบ้านส่วนใหญ่มาจากครูไทย ซึ่งคุณแม่เข้าใจเองว่า Teacher จะไม่เน้นการบ้านให้เป็นภาระผู้ปกครอง ภาษาจีนก็ไม่มีการบ้าน จะมีบ้างเรื่องคัดจีนถ้าทำในคาบไม่เสร็จ มี Family Project (ซึ่งหลักๆเหมือนการบ้านผู้ปกครองมากกว่า) การบ้านลูกต้องกวนผู้ปกครองพอสมควรในการหารูปและข้อมูลต่างๆตามแต่วิชาที่เรียน (อันนี้เป็นประเด็นเพราะชอบสั่งมาด่วนๆ และที่บ้านไม่มีปริ๊นเตอร์ค่ะ) คุณแม่ไม่ได้ให้ลูกเรียนพิเศษวิชาการใดๆทั้งในโรงเรียนและนอกโรงเรียน ลูกจบมาเกรด 4 หมด

ป.2 เด็กหายไปเกือบครึ่งนึงค่ะ  ร้องไห้ เหลืออยู่ประมาณ 20 คน ย้ายโรงเรียนบ้าง ย้ายสายบ้าง แต่เราก็ยังมั่นคงเรียนต่อไป อย่างที่บอกตอนต้น คุณแม่ไม่ค่อยได้เข้าสมาคมผู้ปกครอง เลยไม่ทราบว่าเค้ามีปัญหาอะไรกัน ลูกเราก็เรียนได้นิ แต่คุณแม่เริ่มสังเกตว่าการตรวจงานของ Teacher นั้น ตรวจผิดและบางทีไม่ได้ตรวจ! พอเอาหนังสือของเพื่อนมาเทียบกัน ตรวจไม่เหมือนกันเลย ตอบเหมือนกัน คนนึงผิดคนนึงถูก ทั้งๆที่เด็กในห้องก็เหลืออยู่ไม่เยอะ จุดนี้คุณแม่เริ่มไม่สบายใจ รวมทั้งการเรียนการสอนเริ่มยากขึ้นตามชั้นปีที่สูงขึ้น จุดนี้ขอยกตัวอย่างค่ะ เรียน Math สายสามัญเด็กๆจะเริ่มท่องสูตรคูณแล้ว แต่ทางนี้ไม่ได้ท่องค่ะ ซึ่งคุณแม่ก็ไม่ได้ซีเรียส(และไม่ได้จับลูกท่อง) ฝั่ง Math เด็กเรียนรู้เพียงนับเลขขึ้นทีละ 5, 10 คูณหารยังไม่มี แต่การบ้านที่สั่งมาทุกวันเป็นการบ้านของสายสามัญซึ่งยากกว่า คุณพ่อซึ่งเป็นคนสอนการบ้านลูกนี่ออกงิ้วกันทุกวันค่ะ ลูกทำการบ้านเองไม่ได้ ต้องสอนก่อน พอถามว่าที่โรงเรียนไม่ได้สอนเหรอ ลูกบอกไม่ได้สอน (แต่สั่งการบ้าน! และออกสอบ!!) คุณแม่เริ่มเครียดแล้วค่ะ  มีการเข้าไปคุยกับครูบ้าง แต่ก็ไม่ได้ดีขึ้น มันเป็นเรื่องการจัดการภายใน!! จบป.2 ลูกยังได้เกรด 4 ทุกวิชาอยู่ แต่คุณแม่ทราบข่าวว่า ป.3 จะเหลือเด็กผู้หญิงในห้องแค่ 2 คน ซึ่งคุณแม่ไม่โอเค เรื่องเรียนถึงจะสำคัญ แต่เรื่องเพื่อนก็สำคัญไม่น้อยไปกว่ากันค่ะ ดังนั้นคุณแม่ตัดสินใจ ย้ายสายค่ะ!

ทำไมย้ายไป IP? ก็เพราะเราอยากเน้นภาษาเป็นหลักค่ะ การจัดการของที่นี่เหมือนโรงเรียนเล็กๆในโรงเรียนใหญ่ แต่ละสายแยกการบริหารจัดการออกจากกัน (นี่คือชุดข้อมูลที่คุณแม่รับทราบ ถ้าไม่ใช่ก็ขออภัยนะคะ) ดังนั้นการย้ายไป ILP 2 หรือ 1 จึงไม่ตอบโจทย์ของคุณแม่ค่ะ ก่อนจะเปลี่ยนสาย เด็กต้องลงเรียน Intensive Course ก่อนนะคะ

IP ที่นี่จริงๆคือ EP (English Program) ค่ะ วิชาส่วนใหญ่ที่เรียนเป็นภาษาอังกฤษ มีครูประจำชั้นเป็นฝรั่งคู่กับครูไทย เรียนวิชาภาษาไทยวันละคาบทุกวัน สังคม ศาสนา ประวัติศาสตร์ Tutor Science, Tutor Math เป็นภาษาไทย นอกนั้นเป็นภาษาอังกฤษค่ะ ก่อนย้ายมาคุณแม่ก็กังวลว่าลูกจะไหวมั๊ย เพราะไม่เคยเรียน Science เป็นภาษาอังกฤษและศัพท์ค่อนข้างยาก แม่ก็ไม่มีปัญญาจะติวให้ เอาวะ เรียนพิเศษละกัน (science และ math) เรียนวันอาทิตย์ครึ่งวัน และเป็นการเรียนแบบกลุ่ม 2 คนกับเพื่อนห้องเดียวกัน เท่าที่เรียน ลูกมีความสุขดีนะคะ ระหว่างปีก็มีปัญหาเรื่องการบริหารจัดการภายใน ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับทางด้านวิชาการเท่าไหร่ ก็คงเหมือนปกติทั่วไป(มั้ง) การบ้านไม่เยอะเท่า ILP มีศัพท์ท่องสัปดาห์ละ 10 คำ ไม่มี family project และการบ้านของผู้ปกครอง ลูกสามารถทำการบ้านด้วยตัวเองได้ และยังได้เกรด 4 เกือบหมด เด็กๆส่วนใหญ่เรียนพิเศษ Homework Club หลังเลิกเรียนค่ะ (งานของคุณแม่ค่อนข้าง flexible จึงมีเวลารับส่งลูก คนเล็กที่เรียนอนุบาลก็เลิกเรียนเวลาเดียวกัน รับกลับพร้อมๆกันเลย ไม่ต้องรอ)

คนน้องพบจบอนุบาลก็คงให้เรียนต่อ IP เหมือนพี่สาวแหละค่ะ เม่าออม

เขียนมาซะยาวก็หวังว่าข้อมูลคงจะมีประโยชน์สำหรับผู้ปกครองที่หาที่เรียนหรือเรียนที่นี่อยู่แล้วนะคะ ดังที่บอกตอนต้น บ้านนี้ไม่ได้เน้นสายวิชาการเท่าไหร่ ในส่วนนี้ขอขยายความผู้ปกครองสายวิชาการ คือ ผู้ปกครองที่เอาใจใส่การเรียนของบุตรหลานมาก เข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมของลูกอย่างสม่ำเสมอ เตรียม highlight และทำสรุปวิชาการให้ลูกเมื่อไกล้สอบ ประมาณนี้ค่ะ ลูกของคุณแม่เป็นเด็กชอบอ่านหนังสือเพราะเราจัดสภาพแวดล้อมเค้าไว้แบบนั้นตั้งแต่เด็ก หนังสือที่ไม่ใช่หนังสือเรียนมีอยู่ทุกมุมบ้าน ลูกชอบศิลปะ แต่ก็ไม่ได้ให้เรียนพิเศษ คุณพ่อบังคับเรียนพิเศษว่ายน้ำเท่านั้นค่ะ (เวลาเห็นผู้ปกครองสายวิชาการคุยกันคุณแม่จะเครียดทุกครั้ง เพราะรู้สึกว่าเราบกพร่อง ไม่เอาใจใส่ลูกได้เท่าครอบครัวสายวิชาการค่ะ)
ชื่อสินค้า:   โรงเรียนไผทอุดมศึกษา
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่