[CR] เดินเขาคนเดียวไม่เปลี่ยวสักนิด ที่ยูฟุดาเกะ

คิวชูน่าจะเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่นักท่องเที่ยวไทยหลายคนรู้จัก ยิ่งเมืองยูฟุอินแล้วคงยิ่งน้อยคนจะไม่เคยได้ยิน แต่คราวนี้เราขอนำเสนออีกสถานที่ท่องเที่ยวที่เชื่อว่ายังไม่ค่อยมีคนไทยที่ไปถึงยูฟุอินแล้ว จะรู้ว่าเขยิบออกนอกเมืองอีกนิดก็ไปถึงสถานที่แห่งนี้ได้...ภูเขายูฟุดาเกะนั่นเอง

วิวสุดฮิต คือเมื่อเดินออกจากสถานียูฟุอินแล้วภาพแรกที่ต้อนรับทุกคนก็คือถนนสายหลักและภูเขายูฟุดาเกะเป็นฉากหลัง

ขอออกตัวก่อนว่าเราไปเที่ยวญี่ปุ่นบ่อยพอควร แต่ตั้งแต่ได้ไปแถบคิวชูก็ชอบมาก เพราะการเดินทางจากสนามบินเข้าตัวเมืองฟุกุโอกะใช้เวลาแป๊บเดียว ตัวเมืองก็เที่ยวง่าย อาหารอร่อยและเรารู้สึกว่าค่าใช้จ่ายถูกกว่าแถบโตเกียวหรือโอซาก้า ยิ่งยูฟุอินเรายิ่งติดใจการไปนอนเรียวกัง แช่ออนเซน กินอาหารไคเซกิ แต่ตอนที่เราจองตั๋วไปฟุกุโอกะสำหรับช่วง 10-14 พค.ที่ผ่านมา ก็คิดว่าอยากไปยูฟุอินอีกนะ แต่ไม่อยากเดินถนนคนเดินแล้ว วิวเลียบแม่น้ำก็เคยเดินหลายหนแล้ว (ครั้งนี้เรามายูฟุอินครั้งที่สี่หรือห้าแล้วค่ะ มาบ่อยจนลืมนับ) ก็เลยคิดว่าจะทำอะไรดี แล้วก็นึกได้ว่า...เพจ JNTO กับ Japan Guide เคยแนะนำว่าเขายูฟุดาเกะสามารถไปเป็น Day trip ได้นี่นา!

หลังจากนั้นก็เริ่มเสิร์ชเลยว่าเคยมีคนต่างชาติไปไหม ซึ่งทางฝั่ง นทท.ตะวันตกก็มีเคยไปและเขียนถึงอยู่บ้าง (ไม่ถึงสิบบล็อก อาจเพราะไม่ใช่เส้นป๊อปปูล่าร์เหมือนภูเขาไฟฟูจิ) ส่วนของคนไทย มีแค่สองบล็อกเท่านั้น! (off the beaten track มาก) คือ A Day Trip Diary กับเพจแบกเป้พาลูกเที่ยว เราก็...เอาล่ะสิ แล้วถ้าเราไปคนเดียวจะโอเคไหม แต่เพราะในเพจ A Day Trip Diary เขียนไว้ว่าเจอผู้หญิงมาเดินเขาลูกนี้คนเดียวก็เยอะ พอหลังไมค์ถามเพจแบกเป้พาลูกเที่ยวว่าเส้นทางเดินบนเขาจะหลงได้ไหม ก็ได้คำตอบว่าไม่หลงแน่นอน คราวนี้เลยหมายมั่นปั้นมือ ทริปนี้ฉันจะไปเดินเขา! อมยิ้ม05

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ออกตัวก่อนว่าเราไม่ใช่นักเดินเขามืออาชีพ เคยมีประสบการณ์ขึ้นภูกระดึงสมัย 7-8 ปีก่อนตอนยังสาวสะพรั่งกว่านี้(?) แล้วก็สมัยเรียนเนตรนารีตอน ม.ต้นนู่นนน เคยโดดหอ โรยตัว ปีนหน้าผาหรือทำกิจกรรมเสียวๆ อยู่บ้าง เลยรู้ว่าตัวเองไม่กลัวความสูงหรือการปีนป่าย จากการอ่านข้อมูลของบล็อกเกอร์ไทยกับบล็อกเกอร์ต่างชาติ ทำให้รู้ว่ายูฟุดาเกะมีสองยอด คือตะวันออก (ฮิงาชิมิเนะ-ขึ้นง่าย) กับยอดตะวันตก (นิชิมิเนะ-ขึ้นยากกว่า) ซึ่งบล็อกเกอร์ไทยสองท่านขึ้นยอดตะวันออก แต่บล็อกเกอร์ชาวตะวันตกที่มีประสบการณ์ปีนเขาเชี่ยวๆ หน่อยจะชอบขึ้นยอดตะวันตกเพราะต้องปีนก้อนหินและใช้โซ่ด้วย เราก็อ่านและดูรูปไว้ คิดในใจว่าไปถึงตรงนั้นค่อยตัดสินใจแล้วกันว่าขึ้นยอดไหนดี

ข้อมูลภูเขายูฟุดาเกะคร่าวๆ จากวิกิพีเดีย:
ยูฟุดาเกะเป็นภูเขาไฟขนาด 1,583.3 เมตร (5,195 ฟุต) ตั้งอยู่ที่ชายแดนของเมืองยูฟุอินและเบปปุ ประเทศญี่ปุ่น ยูฟุดาเกะป็นกรวยภูเขาไฟสลับชั้น (stratovolcano) มียอดเขาสองยอดเรียกว่า 'Higashi-mine' (East Peak) และ 'Nishi-mine' (West Peak) โดยยอดตะวันตกสูงกว่ายอดตะวันออกประมาณ 1 เมตร


ทางขึ้นนยอดเขามีสามเส้นทาง แต่เส้นทางตะวันตก (สีส้ม) กับตะวันออกจากเบปปุ (สีน้ำเงิน) ไม่ปลอดภัยเนื่องจากผลกระทบของแผ่นดินไหวปี 2016 มีเส้นแดงก็คือเส้นหลักเส้นเดียวที่ขึ้นได้ เราจะไปขึ้นเขาจากตรงนี้ค่ะ


ทางขึ้นเขาต้องนั่งรถเมล์ออกไปจาก Yufuin bus station ซึ่งอยู่ใกล้ๆ สถานีรถไฟ 15 นาที 360 เยน ลงป้ายที่ชื่อ "ยูฟุโทซังงุจิ" รถจะวิ่งทุกๆ สี่สิบนาที มีบริษัทรถที่วิ่งสองบริษัทคือคาเมโนอิบัสจากฝั่งเบปปุ กับยูฟุรินจากฝั่งยูฟุอิน จะให้ดีแนะนำให้ขอตารางรถบัสไว้เลยจะได้กะเวลาขึ้นและลงให้พอดีกับเวลารถเมล์ เว้นว่าเช่ารถขับก็ข้ามขั้นตอนนี้ไปเลยค่ะ


เส้นทางที่รถเมล์วิ่งออกจากยูอินจะเป็นทางไปเบปปุ จะคดเคี้ยวขึ้นเนินชัน เห็นเนินเขาเรียงรายและป่าสลับกัน โดยที่ยูฟุดาเกะสูงสุดและเด่นสุด (ที่จริงแล้วอยู่ไหนในยูฟุอินก็จะเห็นภูเขาลูกนี้) แล้วสิบห้านาทีผ่านไป ก็มาถึงป้ายรถเมล์ ซึ่งเป็นจุดจอดรถสำหรับคนที่นำรถมาเอง และมีห้องน้ำบริการด้วยค่ะ แนะนำให้เข้าไว้เลยเพื่อความพร้อม อ้อ จุดนี้ไม่มีน้ำดื่มหรือร้านขายอะไรเลย พวกเสบียงต้องเตรียมมาเองจากในเมือง เราก็แบกน้ำไปเองเป็นขวดสองลิตรกับของว่างนิดหน่อย แต่มื้อเช้าเติมพลังจากที่พักมาแล้วเต็มที่


ป้ายทางเข้าไปยังเขายูฟุดาเกะ


มีบริการหมวกกันน็อกกับไม้เท้าให้ยืมใช้ได้แต่ต้องเอามาคืน เรายืมแค่ไม้เท้าค่ะ ที่จริงมีของตัวเองนะ แต่สองสามวันก่อนฝนตก เราคิดว่าดินในป่าต้องแฉะแหงๆ เลยขอยืมไม้เท้าที่นี่แล้วกัน แหะๆ แต่วันนี้แดดแรงมากก แรงแค่ไหนดูได้จากเงาของถังบนพื้นตอนเวลา 9.20 น... พระอาทิตย์



ทางเดินจากป้ายอุทยานไปตีนเขาเป็นเนินพอเรียกเหงื่อได้นิดๆ ตรงชายป่ามีห้องน้ำอีกจุด แต่วันที่เราไปนั้นมีทีมคุณลุงกำลังมาซ่อมบำรุงพอดี ที่จริงตรงจุดนี้ก็มีป้ายชี้บอกว่าทางไหนคือทางขึ้นเขายูฟุดาเกะ (เนื่องจากมีเขาอีกลูกที่อยู่ติดกันแต่เตี้ยกว่าและคนขึ้นน้อยกว่า เลยต้องมีป้ายแบ่งให้ชัดเจน) แต่เราอยากให้ชัวร์ + อยากสื่อสารกับคนอื่นมั่งเพราะมาเดินขึ้นเขาคนเดียวต่างบ้านต่างเมือง เลยส่งเสียงถามไป "อาโน สุมิมาเซง ยูฟุดาเกะวะ อาโซะโกะเดสก้ะ?" (เคยเรียนภาษาญี่ปุ่นที่สมาคมศิษย์เก่าญี่ปุ่นปีนึงค่ะ แต่ก็ยังงูๆ ปลาๆ ถ้าใครรู้ภาษาญี่ปุ่นแล้วเห็นรูปประโยคเพี้ยนๆ ของเราก็ขอให้เข้าใจว่าเพราะอะไรเนอะ 555) คุณลุงคนนึงก็หันมายิ้มตอบเราแล้วชี้ว่าใช่ ทางนั้นแหละ แล้วก็บอกว่า "คิโอะซึเกะเตะ" ซึ่งหมายความว่าขอให้เดินทางโดยปลอดภัย เรานี่ใจชื้นขึ้น รู้สึกดีขึ้นเยอะเลยค่ะเพราะเหมือนมีผู้หลักผู้ใหญ่ให้พรอะไรทำนองนั้น อมยิ้ม02


ด้านบนคือป้ายว่านี่เข้าเขตทางขึ้นภูเขาของจริง จากริมถนนมาถึงตรงนี้ 780 เมตรแค่น้ำจิ้ม


ป้ายตรงตีนเขา บอกว่าจากจุดนี้ถึงยอดคือ 3,000 เมตร และเราจะได้ altitude เพิ่มขึ้น 1,011 เมตร ซึ่งไม่ใช่ระยะที่ต้องกังวลเรื่อง high altitude sickness ค่ะ นั่นต้อง 2,500 เมตรขึ้นไป เราเคยอ่านเรื่องนี้มาก่อนเพราะช่วงสงกรานต์ไปทิเบตมา แต่ทริปนั้นหนักไปทางนั่งรถ ไม่ได้เทรกกิ้งแบบนี้

ภูเขายูฟุดาเกะเคยเป็นภูเขาไฟแต่ปัจจุบันสงบแล้ว  เท่าที่เราอ่านข้อมูลก่อนมา บล็อกเกอร์ส่วนใหญ่จะประมาณเวลาเดินขึ้นยอดเขาไว้ที่ 2.30-3 ชั่วโมงเหมือนกัน โชคดีว่าเราออกกำลังประจำ ก็เลยเริ่มเดินจากตีนเขาค่อนข้างเร็วเพราะกลัวตัวเองใช้เวลานานกว่านั้น แต่ไม่ใช่ว่าไม่ได้ชื่นชมทิวทัศน์หรือธรรมชาติเลยนะคะ แวะหยุดถ่ายรูปบ้าง ดื่มน้ำบ้าง แกะลูกอมมาเติมพลังงานบ้าง หลีกทางให้คนที่ตามมาแซงบ้าง เรียกว่ามาคนเดียว ก็กำหนดจังหวะเดินของตัวเองคนเดียวเลย


แหงนมองท้องฟ้าบ้าง วันนี้ฟ้าใส แดดเปรี้ยงจนเหมือนเมฆฝนที่เทลงมาสองวันก่อนเป็นเรื่องโกหก อมยิ้ม15

เข้าใจว่าภูเขายูฟุดาเกะไม่มีเวลาเปิดปิดชัดเจน ดังนั้นพอเราเดินขึ้นไม่นานก็มีคนเดินสวนลงมาแล้ว คงจะขึ้นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกันตั้งแต่เช้า สิ่งที่เราชอบมากก็คือ ทุกครั้งที่เดินสวนกัน คนญี่ปุ่นจะพยักหน้าให้ แล้วก็ทักทาย "คอนนิจิวะ (สวัสดี)" บ้าง "โอทสึคาเระซัง (เหนื่อยหน่อยนะ)" บ้าง "กัมบัตเตะ (พยายามเข้า)" บ้าง เหมือนทุกคนรู้ว่าคนอื่นที่มาก็ชื่นชอบธรรมชาติและอยากขึ้นไปชมวิวเหมือนกัน เป็นมิตรภาพที่แม้จะเพียงเสี้ยววินาที แต่ทำให้เราไม่รู้สึกเหงาเลยตลอดการเดินขึ้นเขาลูกนี้


หลังเดินป่าพอประมาณจะมาถึงลานพักจุดแรก เรียกว่า "โกยะโกเอะ (Goyagoe)" ตรงนี้มีเก้าอี้ให้นั่งและป้ายชี้บอกทางขึ้นเขาและทางลง กลุ่มคนที่เห็นเป็นนักท่องเที่ยวชาวตะวันตกที่มากับไกด์ชาวญี่ปุ่น สังเกตว่าการแต่งกายจะต่างกับคนญี่ปุ่นที่มาเดินเขา ส่วนมากคนญี่ปุ่นจะจัดเต็ม ทั้งหมวก เสื้อวินด์เบรกเกอร์ รองเท้าเดินเขา ที่หุ้มรองเท้าพร้อมสายคาด ไม้เท้า กระเป๋าเป้อย่างดี ของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้แต่งง่ายๆ เลย กางเกงขาสั้น เสื้อยืด+เสื้อเชิ้ต ตอนขาลงช่วงบ่ายเราเจอฝรั่งใส่แตะคาดกับกางเกงขาสั้นมาเดินด้วยซ้ำ (แต่ไม่รู้เขาขึ้นไปถึงยอดไหมนะ)


พอพ้นช่วงป่า ทางเดินจะเริ่มตัดซิกแซกไปมา ลองเลื่อนขึ้นไปดูรูปแผนที่ด้านบนได้นะคะ พวกบล็อกเกอร์ตะวันตกเรียกส่วนนี้ว่า switchback ช่วยให้เราเดินขึ้นยอดได้ง่ายขึ้นโดยไม่หงายหลังลงมานั่นเอง ทางเดินบางช่วงมีต้นไม้คลุมให้ร่มเงาบ้าง บางช่วงก็เปิดโล่ง มองลงไปเห็นวิวเมืองด้วย มีลมพัด มีเสียงนกและแมลงร้อง บรรยากาศดีสุดๆ เลย


บรรยากาศดีมาก... เป็นใจมาก... //เดี๋ยวนะ

จากทางดินชื้นๆ ในป่าตรงทางเข้า จนมาเป็นดินแห้งบนเส้นทาง switchback ต่อมาก็เจอหินค่ะ หินล้วนๆ ไม่มีอะไรปน ก็ต้องหาที่วางเท้าแล้วไต่กันขึ้นไป


หันกลับไปมองวิวด้านล่างเป็นระยะ โอ๊ยยยย งามมมม


หลังเดินเหงื่อแตกไปพลาง คิดไปพลางว่าเหลือระยะทางอีกแค่ไหน เห็นป้ายพวกนี้แล้วใจชื้น


ในที่สุดก็ถึงจุดสำคัญ แยกวัดใจ...ตรงนี้คือหลังอูฐ จุดที่จะเลือกว่าเราจะไปขึ้นยอดตะวันตกหรือตะวันออก ใกล้จะถึงเป้าหมายแล้ว เฮ้! เม่าบัลเล่ต์


ด้านบนเป็นป้ายบอกว่าทางซ้ายคือยอดตะวันตก ขวายอดตะวันออก จะไปยอดไหนก็ 15 นาที คือเราไม่ได้มีตาทิพย์นะคะ แต่เคยเห็นจากในบล็อกของฝรั่งที่เคยมาปีนเมื่อปี 2011 น่ะ 55555

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

เดี๋ยวมาต่อนะคะ
ชื่อสินค้า:   คิวชู ฟุกุโอกะ ยูฟูอิน คุมาโมโต้ เบปปุ Aso ญี่ปุ่น รถไฟ
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่