หลังจากสงครามกลางเมืองอเมริกาแล้ว มีสงครามครั้งไหนที่อเมริการบในบ้านตัวเองอีกไหมครับ

หลังจากยุคสงครามกลางเมือง ช่วง 1860 หลังจากนี้อเมริกามีรบบนทวีปตัวเองไหมครับแบบส่งกองทหารไปชายแดนไรงี้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
ผมขอแจกแจง ดังนี้ครับ

สงครามที่เกิดขึ้นในประเทศเมกา หลังสงครามกลางเมือง

หลังจากที่ ฝ่ายเหนือเอาชนะฝ่ายใต้ได้ในสงครามกลางเมืองเมกา ราวปี 1865 ชาวเมกาผิวขาวก็ยังต้องรบกับเผ่าอินเดียนแดงอยู่หลายเผ่าครับ ผมขอยกตัวอย่างสามเผ่าดังนี้

1) เผ่าเนซเพิร์ซ
ค ศ 1865 มีชาวผิวขาวจำนวนมากหลั่งไหลเข้าไปในดินแดนของชาวเผ่าเนซเพิร์ซ เพื่อหวังจะเข้ายึดครองเขตล่าสัตว์ของชาวเผ่านี้ในโอเรกอน การรุกล้ำมีอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งปี 1877 จึงเกิดสงครามเพื่อขับไล่ชาวผิวขาวออกไป จากนั้นรัฐบาลเมกาส่งทหารจำนวนมากเข้าปราบปรามพวกชาวเผ่า ชาวเผ่าเนซเพิร์ซสู้ไม่ได้ พากันหนี มุ่งหน้าไปแคนาดา กองทหารเมกาไล่ตามมาทันที่บริเวณรัฐมอนแทนา และเกิดการปะทะกันที่นั่น การสู้รบดำเนินอยู่ 5 วัน ผลปรากฎว่า ชาวเผ่าแพ้ ต้องถูกรัฐบาลเมกาจับเข้าไปอยู่ในเขตสงวน โอกลาโฮมา

2) เผ่าอาปาเช่
สงครามครั้งนี้เกิดขึ้นใน นิวเม็กซิโก และแอริโซน่าครับ สาเหตุของสงครามเกิดขึ้นเพราะแกะของชาวอินเดียนแดง เผ่านาวาโฮ ซึ่งเป็นเผ่าเครือญาติของเผ่าอาปาเช่ มักถูกคนขาวขโมยอยู่บ่อยครั้ง จนชาวเผ่าทนไม่ไหว เลยต้องก่อเกิดสงครามขึ้น สงครามดำเนินอยู่ราว 10 ปี สิ้นสุดในปี 1872 ผลคือ ชาวเผ่าแพ้ ทำให้ถูกรัฐบาลเมกาจับเข้าไปอยู่ในเขตสงวน

3) เผ่าซู
ชาวเผ่าซูกับทหารของรัฐบาลกลางมีความขัดแย้งกัน เกี่ยวกับพิธีกรรมของชาวเผ่าซู โดยรัฐบาลกลางห้ามเผ่าซูทำพิธีกรรม "เต้นผี" แต่ชาวเผ่าซูขัดขืน ทำให้เกิดการปะทะกัน ชาวเผ่าสู้ทหารเมกาไม่ได้พากันหลบหนี แต่ทหารตามทัน และเกิดการต่อสู้กันอีกครั้ง นักรบเผ่าซู ทั้งผู้หญิง ผู้ชาย เด็ก ถูกสังหารหมู่กว่า 300 คน

ความพ่ายแพ้ของชาวเผ่าอินเดียนแดงในครั้งนี้ ถือเป็นการสิ้นสุดการก่อจลาจลของพวกอินเดียนแดง ที่ดินของพวกอินเดียนแดงตกไปเป็นของรัฐบาลกลางทั้งหมด นอกจากนี้ ชีวิตความเป็นอยู่ก็ถูกควบคุมโดยคนขาวอย่างเข้มงวด ชาวอินเดียนเพิ่งมีสถานะพลเมืองเมการาวปี 1924 ครับ

สงครามที่เมกาก่อในทวีปอเมริกา หลังสงครามกลางเมือง

ช่วงปี 1865-1900 ถือเป็นยุคทองของอุตสาหกรรมเมกาครับ มูลค่าของผลผลิตอุตสาหกรรมมีมากกว่าเกษตรกรรมถึง 5 เท่า ช่วงเวลานี้เมกาเริ่มได้รับการยอมรับว่าเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจประเทศหนึ่งของโลก มีนวัตกรรมหลายอย่างที่ชาวเมกาประดิษฐ์ขึ้นในช่วงนี้ เช่น เครื่องพิมพ์ดีด โทรศัพท์ เครื่องเล่นแผ่นเสียง หลอดไฟ ปากกาหมึกซึม ฯลฯ และเมกาเริ่มกลายร่างเป็นนักล่าอาณานิคม ก็ในช่วงนี้แหละครับ

อันที่จริง ก่อนยุคล่าอาณานิคมของเมกา เมกาดำเนินนโยบายไม่แทรกแซงกิจการของประเทศอื่นครับ โดยยึดปฏิบัติตามนโยบายที่ จอร์จ วอชิงตันเคยทำไว้

ในคำกล่าวอำลาตำแหน่งของ จอร์จ วอชิงตัน ปธน คนแรกของเมกา ในปี 1779 แกเน้นย้ำให้เมกาเลิกเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยุโรป เพราะแกมองว่า ยุโรปเป็นดินแดนแห่งสงครามที่ไม่รู้จบสิ้น แกให้ยุ่งเกี่ยวได้เฉพาะด้านการค้า นี่เป็นเหตุผลที่เมกาดำเนินนโยบาย Non-Interventionism มายาวนานมากกว่า 100 ปี

นี่เป็นโปสสเตอร์ที่ ปธน เมกาใช้รณรงค์เพื่อให้ประชาชนสนับสนุนนโยบายล่าอาณานิคม ราวปี 1900 ตรงกับสมัย ปธน William McKinley และเป็นโปสเตอร์ที่ยืนยันได้อย่างชัดเจนว่า จากนี้นโยบายต่างประเทศของเมกาจะไม่เปลี่ยนไป ด้านซ้ายมือคือสภาพสังคมก่อนที่ McKinley จะเข้ามาเป็น ปธน ส่วนขวามือเป็นสภาพสังคมหลังแกบริหารประเทศได้ 4 ปี Quote ที่อยู่ตรงกลาง เป็น Quote หนึ่งที่โด่งดังที่สุดจากนักการเมืองเมกา ทุกวันนี้เมกาก็ยังใช้ Quote นี้ เป็นเหตุผลในการแทรกแซงกิจการภายในของหลายประเทศ

ในส่วนสงครามที่เมกาก่อกับประเทศอื่นในทวีปอเมริกา หลังสงครามกลางเมืองเมกา ผมขอยกตัวอย่าง สงครามสเปน-เมกาครับ ราวปี 1898 มีสองประเทศในทวีปอเมริกาที่เป็นสมรภูมิของสงครามนี้ นั่นคือ คิวบาและเปอร์โตริโก

คิวบาเป็นเมืองขึ้นของสเปนมาตั้งแต่ราวคริสต์ศตวรรษที่ 15 แล้วครับ คิวบามีอ้อยเป็นพืชเศรษฐกิจ เจ้าของไร่ส่วนใหญ่ในคิวบาเป็นคนเมกาที่ไปลงทุนที่นั่น ตลาดส่งออกอ้อยอันดับหนึ่งของคิวบาคือเมกา

ปี 1890 รัฐบาลเมกาออกกฎหมายขึ้นภาษีอ้อย ทำให้ราคาอ้อยจากคิวบาเพิ่มขึ้นกว่า 50% ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจคิวบา และนักลงทุนเมกาในคิวบา เนื่องจาก อ้อยส่งออกได้ยากขึ้น

ชาวคิวบาไม่พอใจที่สเปนไม่เหลียวแลคิวบา ทั้งที่คิวบากำลังเดือดร้อน จึงก่อกบฎขึ้น หลังจากชาวคิวบาก่อกบฎ สเปนได้ส่งกองทัพเข้าปราบปรามอย่างรุนแรง เมกาซึ่งกำลังหมายตาคิวบาอยู่ เกิดไม่พอใจ ราวปี 1896 แมคคินเลย์ได้เป็น ปธน เมกา ภายใต้นโยบายที่แข็งกร้าวต่อสเปน และประณามความโหดเหี้ยมของสเปน

สเปนตอนนั้นมีอิทธิพลอยู่ในหลายประเทศในอเมริกาใต้ครับ ถ้าเมกาต้องการแผ่อิทธิพลเข้าไปในอเมริกาใต้ ก็ต้องผ่านด่านสเปนให้ได้ ประกอบกับกองทัพสเปนจมเรือรบเมนของเมกา ซึ่งเป็นเรือรบที่รัฐบาลเมกาส่งเข้าไปปกป้องชาวเมกาและผลประโยชน์ของเมกาในคิวบา ส่งผลให้เมกาเตัดสินใจประสงครามต่อสเปน

หลังเรือรบเมนถูกจม คองเกรสอนุมัติเงินทันที 50 ล้านดอลลาร์เพื่อให้รัฐบาลใช้ทำสงครามกับสเปน จากนั้น 20 เมษายน 1898 คองเกรสได้ผ่านมติเทลเลอร์ เพื่อให้อำนาจ ปธน ในการทำสงครามกับสเปน

ทันทีที่ประกาศสงคราม เมกาไม่ส่งทหารไปที่คิวบาครับ แต่กลับส่งไปที่ฟิลิปปินส์ เช้าวันที่ 1 พฤษภา เรือเมการะดมยิงเรือสเปน ทำให้เรือสเปนทั้งหมดได้รับความเสียหาย ชาวสเปนเสียชีวิตไปหลายร้อยคน เมกาสามารถยึดบางส่วนของฟิลิปปินส์ได้ โดยเสียทหารไปแค่ 1 นาย จากนั้นรัฐบาลเมกาก็คอยสนับสนุนอาวุธให้ชาวฟิลิปปินส์ที่ต้องการกำจัดอิทธิพลของสเปนในฟิลิปปินส์ ในที่สุดสเปนก็ยอมแพ้ในสงครามที่ฟิลิปปินส์ครับ

กลับมาที่คิวบา สงครามทางทะเล เริ่มขึ้นวันที่ 3 กรกฎาคม รบกันอยู่ 4 ชั่วโมง การรบครั้งนี้ เมกาชนะ ทหารสเปนเสียชีวิตไปราว 500 คน เมกาเสียชีวิต 1 คน

ส่วนการรบทางบก เริ่มขึ้นในวันที่ 24 มิถุนายน 1898 รบกันอยู่ราว 1 เดือน สเปนก็ยอมแพ้เช่นกัน

ขณะเดียวกันที่เปอร์โตริโก ซึ่งเป็นอีกอาณานิคมหนึ่งของสเปนและอยู่ใกล้คิวบา เมกายกพลขึ้นบก โดยไม่มีการต่อต้าน

หลังสงครามครั้งนี้ คิวบาได้อิสรภาพ ฟิลิปปินส์ เปอร์โตริโก กวม เป็นของเมกาครับ

อันที่จริง มีสงครามอื่นในอเมริกาใต้อีกครับ ที่เมกามีส่วนร่วม เช่น สงครามกล้วย เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 1898-1934 มีสมรภูมิอยู่ในหลายประเทศ เช่น เม็กซิโก นิคารากัว ไฮติ ฯลฯ และอีกเหตุการณ์หนึ่ง คือ วิกฤตการณ์คิวบา ราวทศวรรษ 1960
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่