สวัสดีค่ะทุกๆคน ตอนนี้มีสิ่งหนึ่งที่จขก.สงสัยและกำลังอยู่ในช่วงตัดสินใจอยู่ ก็ตามหัวข้อเลยค่ะ ต้องเกริ่นก่อนว่าดิฉันเป็นผู้หญิงอายุ20ต้นๆ กำลังเรียนอยู่ในคณะวิทยาศาสตร์สายสุขภาพคณะหนึ่งของมหาวิทยาลัยชื่อดังของประเทศไทย สูง160กว่าๆ หนักประมาณ 45 ส่วนหน้าตา...คล้ายๆ หลินอี้เฉิน(นางเอกแกล้งจุ๊บใต้หวันน่ะค่ะ แบบว่าปากนิด จมูกหน่อย ตากลมๆ แล้วก็ไม่ได้มโนเองนะคะมีคนทักหลายคนแล้ว) ประโยคก่อนหน้านี้อาจจะทำให้ใครหลายๆคนหมั่นไส้ว่า นี่หล่อนเข้ามาอวยตัวเองอ่ะป่าว? ต้องขอโทษด้วยนะคะถ้าทำให้คิดอย่างนั้น แต่สิ่งที่ดิฉันต้องการจะสื่อก็คือรูปร่าง หน้าตา ไม่ได้เป็นอุปสรรคใดๆในการหาแฟนเลยตรงกันข้ามกลับมีคนเข้ามาจีบเยอะด้วยซ้ำ แต่ดิฉันก็ยังคงโสดมาจนถึงตอนนี้
ฮะ!ยังไม่เคยมีแฟน โกหกป่าว หน้าตาอย่างงี้ไม่เคยมีแฟนได้ไง?......นี่คือสิ่งที่ใครหลายๆคนบอกกับดิฉันเมื่อรู้ว่ายังไม่เคยมีแฟน ในใจก็คิดว่า เอิ่ม(=..=)เกี่ยวอะไรกับหน้าตาอ่ะ หน้าอ่ะมันแค่ดึงให้คนมาจีบแรกๆไม่ใช่หรอ แต่คนที่เป็นแฟนกันมันต้องอยู่ด้วยกันที่นิสัย ไลฟ์สไตล์ที่ตรงกันไม่ใช่ไง...แล้วเราก็ยังไม่เคยเจอคนแบบนั้นเท่านั้นเอง แล้วนิสัยไลฟ์สไตล์ของดิฉันเป็นแบบไหน? ถ้าคนไม่รู้จักมองภายนอกก็จะคิดว่าเป็นผู้หญิงพูดน้อย เรียบร้อย น่ารัก.......คุณคิดผิดแล้วค่ะ!! ดิฉันเป็นผู้หญิงแกร่ง สนุกสนานเฮฮาปาตี้ สิ่งที่ชอบทำยามว่างคือเล่นกีฬา ตีกอล์ฟ ตีเทนนิส ว่ายน้ำ วอลเลย์บอล ต่อยมวย ฟิตเนส....โอ้ย เยอะค่ะ(ออกกำลังกายบ่อยจนมีกล้ามท้องอ่ะคิดดู) แต่ก็ไม่ได้ไม่รักสวยรักงามนะ เราเองก็มีมุมที่เป็นผู้หญิงอยู่เหมือนกันไม่ว่าจะมาร์คหน้า แต่งหน้า ขัดผิว ทำหมดค่ะ อาหารการกินก็ค่อนข้างเฮลท์ตี้นะแบบว่าไม่กินขนมจุกจิก ไม่ดื่มน้ำอัดลม(ถ้าเลือกได้ไม่ดื่มดีกว่า) เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ ก็คือดิฉันเป็นผู้หญิงที่ดูแลตัวเองดีค่ะ และอีกอย่างที่ดิฉันชอบก็คือ ดูหนังและการ์ตูนค่ะ ไม่ใช่เซเลอมูน โดเรมี อะไรแบบนี้นะ แต่เป็นพวกนารูโตะ วันพีช ไททัน พวกการ์ตูนต่อสู้บู๊ๆค่ะ สไตล์หนังก็เช่นเดียวกัน
บอกได้เลยว่าไลฟ์สไตล์แมนมากๆ ทำไมเป็นแบบนี้? คิดว่าน่าจะเป็นเป็นเพราะการเลี้ยงดูของครอบครัวค่ะ รวมกับตอนเด็กๆแถวบ้านมีแต่เด็กผู้ชาย มีแค่ดิฉันกับพี่สาวที่เป็นผู้หญิงแล้วพวกเราก็ไปเล่นด้วยบ่อยๆไงก็เลยติดความชอบแบบนี้มามั้ง? คุณพ่อเองก็ชอบออกกำลังกายแล้วก็หิ้วพวกเราไปด้วย ก็เลยเป็นสาเหตุที่ทำให้ดิฉันเล่นกีฬาได้หลายอย่างมากๆค่ะ ครอบครัวก็ฐานะดีค่ะทำให้เราค่อนข้างที่จะได้ทุกอย่างที่เราอยากได้ แต่ดิฉันไม่ใช่คนที่ไม่รู้คุณค่าของเงินนะคะ รู้ดีค่ะว่าคุณพ่อคุณแม่ท่านเหนื่อยกว่าที่จะหาเงินมาได้ ดังนั้นจะไม่ขออะไรฟุ่มเฟือยแต่จะขออะไรที่จำเป็นมากกว่าเช่นพวกอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการเรียนอะไรแบบนี้ ส่วนพวกเสื้อผ้า เครื่องสำอางค์ต่างๆของจิปาถะที่อยากได้จะทำงานเก็บเงินซื้อเองค่ะ(งานสอนพิเศษ ถ่ายแบบไรงี้)
ที่เล่ามาทั้งหมดสรุปสั้นๆเลยก็คือว่า ดิฉันเป็นผู้หญิงที่ช่วยเหลือตัวเองได้และมีครอบครัวที่ดูแลเราดีมาก เลยไม่ได้ต้องการใครมาดูแลเพิ่มอีก กินข้าว ดูหนังคนเดียวผ่านมาแล้วแบบชิวส์ๆค่ะ แบบว่าไม่ได้ว้อนท์ ว่าฉัน20กว่าแล้วนะต้องมีแฟน ต้องมีคนมาดูแล บลาๆๆๆ เปล่าเลยค่ะ คิดว่าของแบบนี้ถ้ามันจะมาเดี๋ยวมันมาเองไม่ต้องไขว่คว้าค่ะ เพราะเป็นแบบนี้ละมั้งทำให้เราไม่มีแฟนซักที
มาเข้าเรื่องกันเถอะค่ะ55 แล้วดิฉันก็ได้ไปเจอกับผู้ชายคนหนึ่งที่อายุพอๆกัน นิสัยขี้เล่นน่ารัก และที่สำคัญคือไลฟ์สไตล์เข้ากันได้!!(เย่ในที่สุดก็เจอหลังจากผ่านมา20กว่าปี) แล้วเค้าเองก็จีบดิฉันด้วยและสิ่งสำคัญอีกอย่างที่ดิฉันตัดสินใจยอมลองคุยดูเพราะเราอยู่มหาลัยเดียวกันด้วยค่ะ ถ้าเรียนจบก็จะจบพร้อมกันด้วย อยู่ใกล้กัน จบพร้อมกัน นี่มองอนาคตยาวๆเลยนะเนี่ยว่าจบแล้วพร้อมสร้างครอบครัวได้เลย เนื่องจากว่าโดนเลี้ยงมาแบบผู้หญิงไทยค่ะแบบว่าให้รักนวลสงวนตัว(ซึ่งดิฉันก็เป็นแต่ไม่ได้ซีเรียสมากอ่ะนะ)และคุณแม่มีแฟนคนเดียวคือคุณพ่อแล้วก็แต่งงานเลยมันเลยเป็นความคิดฝังหัวมาตั้งแต่เด็กๆแล้วว่าอยากเป็นแบบนี้บ้างเวลาจะคบใครก็เลยค่อนข้างคิดเยอะค่ะ เรื่องระหว่างเราไปได้สวยมากๆเขาดูแลดี ทำเหมือนดิฉันเป็นแฟนเขาทุกอย่างเลยเพียงแต่เขายังไม่ขอเป็นแฟนเท่านั้นเองแต่เขาไม่ได้ปิดนะคะว่าเขาคุยกับดิฉันอยู่เพราะเวลาไปเที่ยว ไปกินข้าวกันกัน เขาก็ถ่ายรูปเราลง face ลงigนะว่าฉันคุยกับผู้หญิงคนนี้อยู่ไรงี้ ดิฉันเองก็มีความสุขนะเวลาได้อยู่ด้วยกัน
และแล้วก็ช่วงเวลาหนึ่งก็มาถึง เป็นช่วงเวลาที่เราไม่ได้เจอกันเลยประมาณ1เดือนกว่าๆค่ะ ก็คือช่วงเวลาสอบของดิฉันนั่นเองงง!! มันคือนรกมากค่ะเด็กมหาลัยทุกๆคนรู้ดี ยิ่งเป็น1ใน3ของคณะสายวิทยาศาสตร์ยอดนิยม ที่เรียหนักมากๆๆๆ บอกเลยว่าเกินบรรยายค่ะ(คณะบ้าอะไรใช้เวลาสอบเกือบเดือน คณะอื่นเค้าปิดกันไปหมดแล้วโว้ย!) รวมกับช่วงเวลาเตรียมตัวสอบแล้วก็เลยไม่ได้เจอหน้ากันเลย แต่ก็ยังคุยกันทุกวันนะคะทางfaceนะคะ แล้วคราวนี้พอได้อยู่คนเดียวบ่อยๆก็มีความรู้สึกหนึ่งเกิดขึ้นมาในช่วงที่ไม่ได้เจอกัน คือดิฉันคิดถึงช่วงเก่าๆค่ะ ช่วงที่เราอยู่คนเดียว ไปไหนมาไหนคนเดียวแบบว่าดิฉันชอบแบบนั้นมากเลยนะ ทำอะไรก็ได้ กินอะไรก็ได้ กรี๊ดผู้ชายคนไหนก็ได้55และอีกหลายๆอย่างค่ะ แบบว่ามันไม่ต้องคอยห่วงคอยกังวลว่าเขาทำอะไรอยู่ ถ้าเราทำแบบนี้เขาจะคิดยังไง อันนี้เขาจะชอบมั้ย อย่าเข้าใจผิดนะคะคือไม่ได้คิดมากตลอดเวลาขนาดนั้นแต่โดยส่วนตัวแล้วเป็นคนที่ใส่ใจคนรอบข้างมากๆค่ะแบบว่าไม่อยากให้ใครรู้สึกไม่ดีเวลาอยู่กับดิฉัน
ดังนั้นเวลาอยู่กับเขาก็มีความสุขดีค่ะ แต่เปรียบเทียบเวลาอยู่คนเดียวแล้ว...รู้สึกว่ามีความสุขมากกว่าค่ะ ตอนนี้ก็เลยคิดหนักมากๆค่ะว่าจะเอายังไงดี ใจดิฉันตอนนี้เริ่มมีความรู้สึกว่าไม่อยากมีแฟน ยังอยากใช้ชีวิตอยู่คนเดียวแบบนี้มากกว่า ดิฉันควรจะบอกเขาไปตรงๆว่าตอนนี้เราเป็นเพื่อนกันดีกว่ามั้ย ถ้าปล่อยให้เวลาผ่านไปเรื่อยๆแล้วความรู้สึกของเขามันมากกว่าเดิม มันจะไม่ยิ่งแย่ไปกว่านี้หรอคะ?
จะมีแฟนไปทำไม ในเมื่ออยู่คนเดียวแล้วมีความสุขกว่า?
ฮะ!ยังไม่เคยมีแฟน โกหกป่าว หน้าตาอย่างงี้ไม่เคยมีแฟนได้ไง?......นี่คือสิ่งที่ใครหลายๆคนบอกกับดิฉันเมื่อรู้ว่ายังไม่เคยมีแฟน ในใจก็คิดว่า เอิ่ม(=..=)เกี่ยวอะไรกับหน้าตาอ่ะ หน้าอ่ะมันแค่ดึงให้คนมาจีบแรกๆไม่ใช่หรอ แต่คนที่เป็นแฟนกันมันต้องอยู่ด้วยกันที่นิสัย ไลฟ์สไตล์ที่ตรงกันไม่ใช่ไง...แล้วเราก็ยังไม่เคยเจอคนแบบนั้นเท่านั้นเอง แล้วนิสัยไลฟ์สไตล์ของดิฉันเป็นแบบไหน? ถ้าคนไม่รู้จักมองภายนอกก็จะคิดว่าเป็นผู้หญิงพูดน้อย เรียบร้อย น่ารัก.......คุณคิดผิดแล้วค่ะ!! ดิฉันเป็นผู้หญิงแกร่ง สนุกสนานเฮฮาปาตี้ สิ่งที่ชอบทำยามว่างคือเล่นกีฬา ตีกอล์ฟ ตีเทนนิส ว่ายน้ำ วอลเลย์บอล ต่อยมวย ฟิตเนส....โอ้ย เยอะค่ะ(ออกกำลังกายบ่อยจนมีกล้ามท้องอ่ะคิดดู) แต่ก็ไม่ได้ไม่รักสวยรักงามนะ เราเองก็มีมุมที่เป็นผู้หญิงอยู่เหมือนกันไม่ว่าจะมาร์คหน้า แต่งหน้า ขัดผิว ทำหมดค่ะ อาหารการกินก็ค่อนข้างเฮลท์ตี้นะแบบว่าไม่กินขนมจุกจิก ไม่ดื่มน้ำอัดลม(ถ้าเลือกได้ไม่ดื่มดีกว่า) เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ ก็คือดิฉันเป็นผู้หญิงที่ดูแลตัวเองดีค่ะ และอีกอย่างที่ดิฉันชอบก็คือ ดูหนังและการ์ตูนค่ะ ไม่ใช่เซเลอมูน โดเรมี อะไรแบบนี้นะ แต่เป็นพวกนารูโตะ วันพีช ไททัน พวกการ์ตูนต่อสู้บู๊ๆค่ะ สไตล์หนังก็เช่นเดียวกัน
บอกได้เลยว่าไลฟ์สไตล์แมนมากๆ ทำไมเป็นแบบนี้? คิดว่าน่าจะเป็นเป็นเพราะการเลี้ยงดูของครอบครัวค่ะ รวมกับตอนเด็กๆแถวบ้านมีแต่เด็กผู้ชาย มีแค่ดิฉันกับพี่สาวที่เป็นผู้หญิงแล้วพวกเราก็ไปเล่นด้วยบ่อยๆไงก็เลยติดความชอบแบบนี้มามั้ง? คุณพ่อเองก็ชอบออกกำลังกายแล้วก็หิ้วพวกเราไปด้วย ก็เลยเป็นสาเหตุที่ทำให้ดิฉันเล่นกีฬาได้หลายอย่างมากๆค่ะ ครอบครัวก็ฐานะดีค่ะทำให้เราค่อนข้างที่จะได้ทุกอย่างที่เราอยากได้ แต่ดิฉันไม่ใช่คนที่ไม่รู้คุณค่าของเงินนะคะ รู้ดีค่ะว่าคุณพ่อคุณแม่ท่านเหนื่อยกว่าที่จะหาเงินมาได้ ดังนั้นจะไม่ขออะไรฟุ่มเฟือยแต่จะขออะไรที่จำเป็นมากกว่าเช่นพวกอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการเรียนอะไรแบบนี้ ส่วนพวกเสื้อผ้า เครื่องสำอางค์ต่างๆของจิปาถะที่อยากได้จะทำงานเก็บเงินซื้อเองค่ะ(งานสอนพิเศษ ถ่ายแบบไรงี้)
ที่เล่ามาทั้งหมดสรุปสั้นๆเลยก็คือว่า ดิฉันเป็นผู้หญิงที่ช่วยเหลือตัวเองได้และมีครอบครัวที่ดูแลเราดีมาก เลยไม่ได้ต้องการใครมาดูแลเพิ่มอีก กินข้าว ดูหนังคนเดียวผ่านมาแล้วแบบชิวส์ๆค่ะ แบบว่าไม่ได้ว้อนท์ ว่าฉัน20กว่าแล้วนะต้องมีแฟน ต้องมีคนมาดูแล บลาๆๆๆ เปล่าเลยค่ะ คิดว่าของแบบนี้ถ้ามันจะมาเดี๋ยวมันมาเองไม่ต้องไขว่คว้าค่ะ เพราะเป็นแบบนี้ละมั้งทำให้เราไม่มีแฟนซักที
มาเข้าเรื่องกันเถอะค่ะ55 แล้วดิฉันก็ได้ไปเจอกับผู้ชายคนหนึ่งที่อายุพอๆกัน นิสัยขี้เล่นน่ารัก และที่สำคัญคือไลฟ์สไตล์เข้ากันได้!!(เย่ในที่สุดก็เจอหลังจากผ่านมา20กว่าปี) แล้วเค้าเองก็จีบดิฉันด้วยและสิ่งสำคัญอีกอย่างที่ดิฉันตัดสินใจยอมลองคุยดูเพราะเราอยู่มหาลัยเดียวกันด้วยค่ะ ถ้าเรียนจบก็จะจบพร้อมกันด้วย อยู่ใกล้กัน จบพร้อมกัน นี่มองอนาคตยาวๆเลยนะเนี่ยว่าจบแล้วพร้อมสร้างครอบครัวได้เลย เนื่องจากว่าโดนเลี้ยงมาแบบผู้หญิงไทยค่ะแบบว่าให้รักนวลสงวนตัว(ซึ่งดิฉันก็เป็นแต่ไม่ได้ซีเรียสมากอ่ะนะ)และคุณแม่มีแฟนคนเดียวคือคุณพ่อแล้วก็แต่งงานเลยมันเลยเป็นความคิดฝังหัวมาตั้งแต่เด็กๆแล้วว่าอยากเป็นแบบนี้บ้างเวลาจะคบใครก็เลยค่อนข้างคิดเยอะค่ะ เรื่องระหว่างเราไปได้สวยมากๆเขาดูแลดี ทำเหมือนดิฉันเป็นแฟนเขาทุกอย่างเลยเพียงแต่เขายังไม่ขอเป็นแฟนเท่านั้นเองแต่เขาไม่ได้ปิดนะคะว่าเขาคุยกับดิฉันอยู่เพราะเวลาไปเที่ยว ไปกินข้าวกันกัน เขาก็ถ่ายรูปเราลง face ลงigนะว่าฉันคุยกับผู้หญิงคนนี้อยู่ไรงี้ ดิฉันเองก็มีความสุขนะเวลาได้อยู่ด้วยกัน
และแล้วก็ช่วงเวลาหนึ่งก็มาถึง เป็นช่วงเวลาที่เราไม่ได้เจอกันเลยประมาณ1เดือนกว่าๆค่ะ ก็คือช่วงเวลาสอบของดิฉันนั่นเองงง!! มันคือนรกมากค่ะเด็กมหาลัยทุกๆคนรู้ดี ยิ่งเป็น1ใน3ของคณะสายวิทยาศาสตร์ยอดนิยม ที่เรียหนักมากๆๆๆ บอกเลยว่าเกินบรรยายค่ะ(คณะบ้าอะไรใช้เวลาสอบเกือบเดือน คณะอื่นเค้าปิดกันไปหมดแล้วโว้ย!) รวมกับช่วงเวลาเตรียมตัวสอบแล้วก็เลยไม่ได้เจอหน้ากันเลย แต่ก็ยังคุยกันทุกวันนะคะทางfaceนะคะ แล้วคราวนี้พอได้อยู่คนเดียวบ่อยๆก็มีความรู้สึกหนึ่งเกิดขึ้นมาในช่วงที่ไม่ได้เจอกัน คือดิฉันคิดถึงช่วงเก่าๆค่ะ ช่วงที่เราอยู่คนเดียว ไปไหนมาไหนคนเดียวแบบว่าดิฉันชอบแบบนั้นมากเลยนะ ทำอะไรก็ได้ กินอะไรก็ได้ กรี๊ดผู้ชายคนไหนก็ได้55และอีกหลายๆอย่างค่ะ แบบว่ามันไม่ต้องคอยห่วงคอยกังวลว่าเขาทำอะไรอยู่ ถ้าเราทำแบบนี้เขาจะคิดยังไง อันนี้เขาจะชอบมั้ย อย่าเข้าใจผิดนะคะคือไม่ได้คิดมากตลอดเวลาขนาดนั้นแต่โดยส่วนตัวแล้วเป็นคนที่ใส่ใจคนรอบข้างมากๆค่ะแบบว่าไม่อยากให้ใครรู้สึกไม่ดีเวลาอยู่กับดิฉัน
ดังนั้นเวลาอยู่กับเขาก็มีความสุขดีค่ะ แต่เปรียบเทียบเวลาอยู่คนเดียวแล้ว...รู้สึกว่ามีความสุขมากกว่าค่ะ ตอนนี้ก็เลยคิดหนักมากๆค่ะว่าจะเอายังไงดี ใจดิฉันตอนนี้เริ่มมีความรู้สึกว่าไม่อยากมีแฟน ยังอยากใช้ชีวิตอยู่คนเดียวแบบนี้มากกว่า ดิฉันควรจะบอกเขาไปตรงๆว่าตอนนี้เราเป็นเพื่อนกันดีกว่ามั้ย ถ้าปล่อยให้เวลาผ่านไปเรื่อยๆแล้วความรู้สึกของเขามันมากกว่าเดิม มันจะไม่ยิ่งแย่ไปกว่านี้หรอคะ?