......ต่อ......
ฟลุ๊คตกลงคบกับแย็ปได้ไม่นาน นาง ก็พาไปหาพี่ชายของนาง แย็ปชอบเล่นเครื่องบิน นางมีกลุ่มมีแก๊งของนาง วันนั้นวันที่พานางไป ประกอบเครื่องบินเพื่อที่จะเอาไปบิน ตอนเย็น วันนั้น เป็นวันมาฆบูชา (วันพระใหญ่) ฟลุ๊คไม่รู้จักชิ้นส่วนอะไรสักอย่าง ฟลุ๊คจึงขอนางไปนอนที่โซฟาในบ้าน ฟลุ๊คหลับได้พักนึง ฟลุ๊คก็ได้ยินเสียง แย็ปเรียก "อ้วนตื่น อ้วนตื่น อ้วนตื่น" ฟลุ๊คได้ยินก็เลยลืมตาขึ้น สิ่งที่ลืมตามาเห็นคือ แขนของ ผช. คนนึง ไม่เหนน่า ในข้อมือมีสายริสแบนสีเขียว ซึ่งไม่ใช่แขนของแย็ป หรือของพี่แย็ปแน่นอน ทั้งบ้านไม่มีใครเลย นอกจากเรา 3 คน ฟลุ๊คเลยหลับตาแล้วพูดในใจว่า
"ต่างคนต่างอยู่ ถ้าต้องการส่วนบุญ ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลผลบุญที่ตัวข้าพเจ้ามีอยู่ ให้แก่วิญญาณที่อยู่รอบตัวข้าพเจ้า ขอให้บุญกุศลนี้ช่วยนำพาวิญญาณเล่านี้ไปสู่ภพภูมิที่ดีด้วยเทอญ" (สันติบอกไว้) จากนั้นฟลุ๊คค่อย ๆ ลืมตาขึ้นก็ไม่เจอแล้ว ฟลุ๊ครีบลุกและเดินไปหาแย็ปแล้วเล่าให้ฟัง และขอว่าอย่าเล่าให้เจ้าของบ้านฟัง เพราะกลัวว่าเขาจะกลัว ตั้งแต่เรื่องนี้เกิดขึ้นมันก็มีเรื่องราวต่าง ๆ แปลกเกิดกับฟลุ๊คมาเรื่อย ๆ แต่มาแบบ ให้รู้สึกบ้าง สัมผัสได้บ้าง ฟลุ๊คก็เลยกลายเป็นคนใส่บาตร ทำบุญตลอด จนมีเหตุการณ์ ที่ มาทุกอย่างทั้งเสียง ทั้งภาพ ทั้งกลิ่น คือ ฟลุ๊คได้ทำงานเป็น PC ขายสินค้าพลาสติกในระยองแห่งหนึ่ง และร้านที่ฟลุ๊คไปอยู่เขามีคลังเก็บสินค้า และฟลุ๊คต้องเข้าไปเช็คของ ทำความสะอาดสินค้าแทบทุกวัน วันแรกที่ไปทำงานเลย เดินเข้าไป รู้สึกเลยว่าไม่ได้อยู่กันแค่ 2 คน แต่ไม่ได้คิดอะไรปล่อยคะ แต่มันหนักคือ วันนึงฟลุ๊คเข้าไปทำความสะอาดสินค้าคนเดียว ใกล้ ๆ กับทางเข้าออก (เข้าออกทางเดียว) แต่ฟลุ๊คได้ยินเหมือนเสียงคนลากถัง ครื้นนนนนนน !!!!! ฟลุ๊คลืมตัวว่าอยู่คนเดียวตะโกนไปว่า "พี่เข้ามาเอาอะไรหรอก บอกฟลุ๊คก็ได้" แต่ไม่มีเสียงใด ๆ ขานรับกลับมา ฟลุ๊คเลยหันไป ที่ ๆ มีเสียงนั้น มันมีแค่ความว่างป่าว ใจไม่ดีแล้ว แต่ฝืนทำต่อไปจนเสร็จ และย้ายที่ คราวนี้ไปทำตรง ๆ ที่มีเสียง ทำไปแล้วมันเพลินไม่ได้คิดอะไร จนได้ยินเสียงเหมือนคนลาก บันได แก็กกกกกก !! แก็กกกกกก!! คราวนี้แทบวิ่ง มันจะเป็นเสียงคนลากได้ยังงัยในเมื่อฟลุ๊คนั่งอยู่บน บันได แล้วทางร้านมีบันได้แค่อันเดียว ฟลุ๊คกลัวมากตอนนั้น อยากจะวิ่งแต่ยังงัยก็ต้องกลับมาทำงานตัวเองอยู่ดี เลยฝืนทำไป จนเสร็จ ก็ไม่มีอะเกิดขึ้น แล้วตอนที่ฟลุ๊คกำลังเดินออกจากคลังสินค้า ฟลุ๊คได้ยินเสียงเหมือนคนเดินเดินตาม เดินแบบคนลากเท้า ฟลุ๊คกลัวมาก น้ำตาไหลเลยคะ ได้แต่พูดในใจเหมือนที่ สันติเคยบอกไว้ และเสียงนั้นก็หายไป ทุกครั้งที่ฟลุ๊คเจอเรื่องแบบนี้ฟลุ๊คจะคิดถึงสันติขึ้นมาทันที ไม่รู้ว่าทำไม ต่อให้เรามีใคร ต่อให้เรารู้สึกว่าเรารักแย็ปมากแค่ไหน สันติ ก็จะอยู่ทั้งในใจและในความคิดของเราเสมอ อย่างนี้ใช่ไหมที่เขาเรียกว่า ความรักที่เป็นอมตะและนิจนิรันดร์
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านคะ (เรื่องราวจากชีวิตจริง)
ความรักที่เป็นอมตะ กับความรักที่เป็น นิรันดร์ EP.2
ฟลุ๊คตกลงคบกับแย็ปได้ไม่นาน นาง ก็พาไปหาพี่ชายของนาง แย็ปชอบเล่นเครื่องบิน นางมีกลุ่มมีแก๊งของนาง วันนั้นวันที่พานางไป ประกอบเครื่องบินเพื่อที่จะเอาไปบิน ตอนเย็น วันนั้น เป็นวันมาฆบูชา (วันพระใหญ่) ฟลุ๊คไม่รู้จักชิ้นส่วนอะไรสักอย่าง ฟลุ๊คจึงขอนางไปนอนที่โซฟาในบ้าน ฟลุ๊คหลับได้พักนึง ฟลุ๊คก็ได้ยินเสียง แย็ปเรียก "อ้วนตื่น อ้วนตื่น อ้วนตื่น" ฟลุ๊คได้ยินก็เลยลืมตาขึ้น สิ่งที่ลืมตามาเห็นคือ แขนของ ผช. คนนึง ไม่เหนน่า ในข้อมือมีสายริสแบนสีเขียว ซึ่งไม่ใช่แขนของแย็ป หรือของพี่แย็ปแน่นอน ทั้งบ้านไม่มีใครเลย นอกจากเรา 3 คน ฟลุ๊คเลยหลับตาแล้วพูดในใจว่า "ต่างคนต่างอยู่ ถ้าต้องการส่วนบุญ ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลผลบุญที่ตัวข้าพเจ้ามีอยู่ ให้แก่วิญญาณที่อยู่รอบตัวข้าพเจ้า ขอให้บุญกุศลนี้ช่วยนำพาวิญญาณเล่านี้ไปสู่ภพภูมิที่ดีด้วยเทอญ" (สันติบอกไว้) จากนั้นฟลุ๊คค่อย ๆ ลืมตาขึ้นก็ไม่เจอแล้ว ฟลุ๊ครีบลุกและเดินไปหาแย็ปแล้วเล่าให้ฟัง และขอว่าอย่าเล่าให้เจ้าของบ้านฟัง เพราะกลัวว่าเขาจะกลัว ตั้งแต่เรื่องนี้เกิดขึ้นมันก็มีเรื่องราวต่าง ๆ แปลกเกิดกับฟลุ๊คมาเรื่อย ๆ แต่มาแบบ ให้รู้สึกบ้าง สัมผัสได้บ้าง ฟลุ๊คก็เลยกลายเป็นคนใส่บาตร ทำบุญตลอด จนมีเหตุการณ์ ที่ มาทุกอย่างทั้งเสียง ทั้งภาพ ทั้งกลิ่น คือ ฟลุ๊คได้ทำงานเป็น PC ขายสินค้าพลาสติกในระยองแห่งหนึ่ง และร้านที่ฟลุ๊คไปอยู่เขามีคลังเก็บสินค้า และฟลุ๊คต้องเข้าไปเช็คของ ทำความสะอาดสินค้าแทบทุกวัน วันแรกที่ไปทำงานเลย เดินเข้าไป รู้สึกเลยว่าไม่ได้อยู่กันแค่ 2 คน แต่ไม่ได้คิดอะไรปล่อยคะ แต่มันหนักคือ วันนึงฟลุ๊คเข้าไปทำความสะอาดสินค้าคนเดียว ใกล้ ๆ กับทางเข้าออก (เข้าออกทางเดียว) แต่ฟลุ๊คได้ยินเหมือนเสียงคนลากถัง ครื้นนนนนนน !!!!! ฟลุ๊คลืมตัวว่าอยู่คนเดียวตะโกนไปว่า "พี่เข้ามาเอาอะไรหรอก บอกฟลุ๊คก็ได้" แต่ไม่มีเสียงใด ๆ ขานรับกลับมา ฟลุ๊คเลยหันไป ที่ ๆ มีเสียงนั้น มันมีแค่ความว่างป่าว ใจไม่ดีแล้ว แต่ฝืนทำต่อไปจนเสร็จ และย้ายที่ คราวนี้ไปทำตรง ๆ ที่มีเสียง ทำไปแล้วมันเพลินไม่ได้คิดอะไร จนได้ยินเสียงเหมือนคนลาก บันได แก็กกกกกก !! แก็กกกกกก!! คราวนี้แทบวิ่ง มันจะเป็นเสียงคนลากได้ยังงัยในเมื่อฟลุ๊คนั่งอยู่บน บันได แล้วทางร้านมีบันได้แค่อันเดียว ฟลุ๊คกลัวมากตอนนั้น อยากจะวิ่งแต่ยังงัยก็ต้องกลับมาทำงานตัวเองอยู่ดี เลยฝืนทำไป จนเสร็จ ก็ไม่มีอะเกิดขึ้น แล้วตอนที่ฟลุ๊คกำลังเดินออกจากคลังสินค้า ฟลุ๊คได้ยินเสียงเหมือนคนเดินเดินตาม เดินแบบคนลากเท้า ฟลุ๊คกลัวมาก น้ำตาไหลเลยคะ ได้แต่พูดในใจเหมือนที่ สันติเคยบอกไว้ และเสียงนั้นก็หายไป ทุกครั้งที่ฟลุ๊คเจอเรื่องแบบนี้ฟลุ๊คจะคิดถึงสันติขึ้นมาทันที ไม่รู้ว่าทำไม ต่อให้เรามีใคร ต่อให้เรารู้สึกว่าเรารักแย็ปมากแค่ไหน สันติ ก็จะอยู่ทั้งในใจและในความคิดของเราเสมอ อย่างนี้ใช่ไหมที่เขาเรียกว่า ความรักที่เป็นอมตะและนิจนิรันดร์
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านคะ (เรื่องราวจากชีวิตจริง)