อยากเลิกกับแฟนต้องทำยังไงครับ ?

ผมคบกับแฟนมาได้ 3 ปีแล้วครับ เราเจอกันในที่ทำงาน อายุผมมากกว่าแฟน 2 ปีครับ ฐานะทางบ้านของผมไม่ได้ร่ำรวยนัก เรียกว่าฐานะปาน

กลางค่อนไปทางยากจน 5555 แถมหน้าตาก็ไม่ได้ดีอะไร ตอนนี้ผมกำลังเรียนอยู่ชั้นปีที่ 5 เป็นครูฝึกสอนครับ ส่วนแฟนผมก็กำลังจะขึ้นชั้น

ปีที่ 3 ของสถาบันเดียวกัน ตอนที่เราคบกันแรกๆนะครับ มันก็คงจะเหมือนกับหลายๆคู่ ผมเองก็ยอมรับว่าช่วงนั้นผมโปรโมชั่นแรงมาก สายเป

ย์สุดๆ ชนิดที่ว่า ทำงาน(ช่วงปิดเทอม) ได้เงินเดินมา9,000บาท ก็พาแฟนไปช็อปปิ้งตลาดนัดกลางคืนชื่อดังในจังหวัดชลบุรี หมดไป 3,000

บาทได้ในวันเดียว แล้วมันก็เป็นแบบนี้มาเรื่อยๆจนถึงช่วงครึ่งเดือนแรกที่เราคบกัน มันก็เป็นช่วงเปิดเทอม แฟนผมก็ต้องกลับบ้านที่

ต่างจังหวัดเพื่อไปเรียนต่อให้จบ ม.6 ผมเองก็ต้องกลับเข้ามาในกรุงเทพ มาเรียนต่อชั้นปีที่ 2 แล้วเราก็คุยกันผ่านโทรศัพท์ ไลน์ facebook

วีดิโอคอล ตามประสาคู่รักที่มีอุปสรรค์ด้านระยะทาง ตอนนั้นเราคุยกันทุกวัน ว่างตอนไหนก็โทรหา วีดิโอคอลหาตลอด มันก็เป็นแบบนี้

มาเรื่อยๆ   จนกระทั่งเข้าเดือนที่ 2 ที่เราคบกัน วันหนึ่งครับ แฟนผมก็ของเงินจากผม 500 บาท ตอนนั้นผมเองก็ไม่ได้ถามเหตุผล ก็ให้ไป

แล้วอาทิตย์ถัดมา เธอก็ขอผมอีก 500 บาท ผมก็เริ่มสงสัยแหละครับว่าทำไมต้องขอ แต่ก้ยังไม่ได้ถาม จนอาทิตย์ถัดมา ก็เหมือนเดิมครับ

เธอก็ขอผมอีก 500 บาท ผมก็เลยถามเธอว่า เอาเงินไปทำอะไร แฟนผมเธอก็ตอบผมว่าเธอเอาเงินที่ผมให้ไปใช้จ่ายตอนไปโรงเรียน

ตอนนั้นในหัวผมมีแต่คำถามเลยครับ ก็เลยเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาแม่ แม่ก็ให้เลิก เพราะแม่ผมเค้าไม่ชอบผู้หญิงที่ไถเงินผู้ชาย อีกอย่าง

ฐานะทางบ้านของผมก็ไม่ได้ดีนัก ผมก็คิดจะเลิก แต่ผมก็ได้รู้ความจริงจากปากของแฟนผมครับ ว่าที่เค้าต้องขอเงินผมใช้เพราะว่าที่บ้านเค้า

ไม่มีเงินส่งให้เรียนครับ เธอเป็นผู้หญิงที่น่าสงสารคนหนึ่ง พ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่ยังเล็ก แม่ก็มีอาการทางจิตเวชไม่สามารถทำงานหาเงินได้

ต้องอาศัยเงินจากลุง(ซึ่งเธอเรียกว่าพ่อ) แล้วลุงของเธอเองก็ไม่ได้รวย มีลูกหลายคน มีอาชีพทำไร่ทำนา จึงส่งเสสียไม่ได้มาก เธอเลยต้อง

ทำงานเลี้ยงตัวเอง ในความรู้สึกผมตอนนั้น ผมทิ้งเธอไม่ได้ ก็เลยไม่ได้บอกเลิกไป ก็คบกันมาเรื่อยๆ จนครึ่งปีเห็นจะได้ มหาวิทยาลัยกับ

โรงเรียนมัธยมจะปิดเปิดเทอมไม่พร้อมกัน ช่วงนั้นแฟนผมปิดเทอมเล็ก (จบภาคเรียนที่1) เธอก็บอกว่าอยากมาเที่ยวกรุงเทพ

อยากมาหาผม (ซึ่งผมก็เป็นคนออกค่ารถให้ทั้งขามาและขากลับ) แล้วเธอก็มาอยู่กับผมที่หอของผมครับ(เรื่องนี้แม่ผมก็ไม่รู้)

แล้วเราก็มีอะไรกันครับ นั่นทำให้ผมยิ่งรู้สึกว่า ผมทิ้งเธอไม่ได้ มันคือความรับผิดชอบของผม มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกรัก

แล้วก็เป็นห่วงเธอมากขึ้น เธอมาอยู่กับผม 1 สัปดาห์ครับ แล้วเธอกลับบ้าน แยกย้ายกันไป จนเธอเรียนจบม.6

(ในระหว่างนั้นเธอก็มาหาผมอีกประมาณ 1 ครั้งหรือ 2 ครั้งนี่แหละครับ) เธอตัดสินใจที่จะเข้าเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกับผม เพื่อที่จะได้

ย้ายเข้ามาอยู๋ด้วยกัน แล้วมันก็เป็นแบบนั้นครับ เธอติดมหาวิทยาลัยเดียวกับผม ในช่วงปิดเทอม 6 เดือนของเด็กม.6 ที่กำลังรอมหาลัยเปิด

เทอม แฟนผมก็ไปสมัครงานในร้านขนมแห่งหนึ่ง ได้เงินเดือน เดือนละประมาณ 8,000-9,000บาท เธอก็เก้บเงินของเธอไว้ใช้จ่าย ซื้อโทรศัพท์

ใหม่ ซื้อเสื้อผ้า เครื่องสำอางค์ นั่นนี่ ตามประสาผู้หญิง ผมเองก็ไม่ติดอะไร เธอบอกว่าค่าเทอมเทอมแรกมันต้องสำรองจ่ายเองก่อน ผมก็ให้เธอ

เก็บเงินเอาไว้จ่า (ค่าเทอม 18,000 บาทครับ) พอผมปิดเทอม ผมก้ไปทำงานที่เดียวกับเธอ จังหวะเดียวกัน ช่วงอีก 3 เดือนจะเปิดเทอมเนี่ย

ทางมหาวิทยาลัยก็เริ่มมีกิจกรรมนั่นนี่ รับน้องบลาๆ เธอเลยยขอลาออก ผมก็ถามเธอว่า แล้วเงินเก็บได้ครบแล้วหรือ? แฟนผมเธอก็บอกว่ามัน

ยังขาดอีก 10,000 บาท จะขอยืมผมก่อน คือต้องขอย้ำอีกครั้งว่า ฐานะทางบ้านผมไม่ค่อยดีนัก การที่ลูกชายโทรไปขอเงินแม่ 10,000บาทเนี่ย

ต้องโดนตัดแม่ตัดลูกแน่ๆ ผมก็เลยไปขอยืมเงินจากพี่ในที่ทำงานนั่นแหละครับ(งานหลักพี่แกคือปล่อยเงินกู้ครับ ที่มาทำงานร้านขนมนี่คือ

อาชีพเสริม) ยืมมา10,000บาท ในช่วงปิดเทอมนะครับ ผมจะไม่ขอเงินพ่อแม่เลยสักบาทเดียว เพราะฉนั้น เงินเดือน 9,000 บาทต่อเดือนเนี่ย

ผมต้องจัดสรรค์เป็นค่าหอ เดือนละประมาณ 4,500บาท ค่ากกินใช้สำหรับ 2 คน แล้วก็ต้องใช้หนี้เดือนด้วย ทุลักทุเลมากครับ เรียกได้ว่า มาม่า

แทบทุกมื้อ เกลียดมาม่ากันเลยทีเดียวครับ พอ 3 เดือนผ่านไป มันก็เปิดเทอม ผมใช้หนี้พี่แกหมดพอดี ผมก็ลาออกจากงาน มาเรียนตามปกติ

ทีนี้ผมก็ทวงแฟนผมว่า เงิน10,000บาทนั่นน่ะ คืนด้วยนะ (ในความรู้สึกคือผมเป้นคนแบกหนี้ทั้งหมดด้วยความยากลำบากจริงๆ) เธอก็ตบปาก

รับคำ พอเงินกยศ.เธอออก พอดีช่วงที่ทำงานอยู่ โทรศัพท์ผมเสียครับ เธอก็เลยเอาเงินชดเชยตรงนี้ ซื้อใหม่ให้ผม ราคาประมาณ 4,000-

5,000บาท (ใจจริงก็อยากได้ appleนะ แต่ช่างเถอะ) แล้วผมก็ถามว่า แล้วเงินที่เหลือล่ะ เธอก็ว่า เอาไว้ใช้จ่ายด้วยกันนี่ไง ผมก็โอเค (อ่อ พอ

ถึงช่วงนี้ก็ครบรอบ 1 ปีแล้วครับ) พอเงินก้อนนี้หมดครับทุกอย่างก็พินาศครับ เงินที่แม่ผมให้มากินใช้สำหรับ1คน (ผมได้เงินเป็นอาทิตย์ครับ

อาทิตย์ละ1,500บาท) ก็ต้องใช้ 2 คน มันจะมีเงินจากกยศ. ของเธอครับ เดือนละ 2,200บาท (ผมไม่ได้กู้เพราะแม่ไม่ให้กู้ เค้าบอกนี่คือของ

ขวัญอย่างเดียวที่ให้ได้ คือการไม่เป็นหนี้) แต่นั่นก็ไม่พอหรอกครับ ผมก็เรียนหนักมากครับ ช่วงปี3 เลิกค่ำทุกวันเลย เลยไม่มีเวลาไปสอน

พิเศษ หรือว่าหางานpart timeทำ ผมก็เลยบอกให้แฟนผมไปหางานทำ จะได้ช่วยกันเรื่องค่าใช้จ่าย แต่เธอก็บอกผมว่า ปี1 กิจกรรมมันเยอะนู่น

นี่ อ่ะไม่เป็นไร ผมก็ทนกินมาม่าไป จนบางครั้ง ไม่มีเงินไปเรียน ก็ต้องขาดเรียน ตอนนั้นผมก็ยังไม่ได้รู้สึกท้อหรือว่าอยากเลิกอะไรนะ ก็ยังรักยัง

เป้นห่วงแฟนผมเหมือนเดิม จนหนักๆเข้า ไม่มีเงินเลย แฟนผมก็ขอที่บ้าน ขอพี่ขอพ่อได้มาครั้งละ 1,000 บาทแบบนานๆครั้ง สักเดือนละครั้ง

เห็นจะได้ ผมเริ่มต้องโกหกแม่เพื่อเอาเงินมาใช้ ในขณะที่ปี3เองก็ใช้เงินในการเรียนค่อนข้างมาก งานมากมายมหาศาล ตอนช่วงๆปลายปีแรก

เราทะเลาะกันบ่อยมากครับ เรื่องเงินบ้าง เรื่องต่างๆขี้หมูขี้หมาบ้าง จนเกือบเลิกกันก็มี แต่ทุกครั้งผมก็จะคิดได้ว่าผมทิ้งเธอไม่ได้ ยิ่งตอนนี้ยิ่งไม่

ได้ เธอจะไปอยู่ที่ไหน จะอยู่ยังไง คำถามพวกนี้มันจะวนขึ้นมาจนผมรู้สึกผิด มันกลายเป้นความรับผิดชอบ จนกระทั่งผมรู้สึกว่า เหตุผลที่ผมทิ้ง

เธอไม่ได้มันคือความรับผิดชอบ ไม่ใช่ความรักหรือความห่วงใยอะไร เราก็ใช้ชีวิตแบบนี้มาเรื่อยๆ ผมขาดเรียนบ่อยเลยเรียนไม่ค่อยร็เรื่อง เกรดก็

ตก จากที่ไม่เคยได้Dตอนนี้ก็ได้ทั้งDและD+ พอผมจบปี3เราก็คบกันได้ 2 ปี ช่วงปิดเทอมก็เหมือนเดิมครับ แยกย้ายกันไปทำงาน ผมทำงาน

ร้านสะดวกซื้อชื่อดังแห่งหนึ่งครับ ส่วนแฟนผมก็ทำงานร้านเครื่องสำอางค์ แล้วก็เหมือนเดิมครับ ผมรับผิดชอบค่าหอ แล้วก็ของใช้ในบ้าน ส่วน

แฟนผมไม่ได้รับบผิดชอบอะไร แต่ผมก็สงสัยว่าเงินมันไปไหนหมด (ทุกวันนี้ก็ยังไม่รู้) พอเปิดเทอมขึ้นปี4 ผมก็ลาออกจากงาน เพราะว่าตาราง

เรียนผมแน่นมาก ทั้งวิชาเฉพาะ วิชาทางการศึกษา สัมมนา ดครงงาน ต่างๆนานา เรียนเช้าบ่าย5วันเป็นเด็กมัธยมเลยครับ ช่วงนี้ก็ยังโกหกขอ

เงินแม่เหมือนเดิม และถี่ขึ้นจนแม่จะไม่มีเงินให้อยู่แล้ว ยายก็มาเสียอีก คือยายผมเค้าจะเป้นคนออกค่าเทอมให้ พอยายผมเสีย แม่ผมเค้าก็แบก

ทุกอย่างคนเดียว(ที่ไม่พูดถึงพ่อเลยคือพ่อผมยังอยู่นะครับ แค่ผมสนิทกับแม่มากกว่า) เราก็ทู่ซี้คบกันมาเรื่อยๆครับ มันก็อดบ้าง บางวันก็เดิน

ไป-กลับมหาลัย คือเหนื่อยมากครับ จนตอนนี้ขึ้นปี5แล้ว ผมก็เริ่มตระหนักได้ว่า ผมไม่ไหวอีกต่อไปแล้วครับ วันนี้เป็นวันครบรอบ3ปีของเราครับ

แต่ผมร็สึกเหนื่อยแล้วกับความสัมพันธ์ของเรา ผมรู้สึกว่าผมต้องรับผิดชอบต่อบทบาทของผมมากขึ้น ตอนเป้นนิสิตอาจจะไม่ไปเรียน ไปสาย

หรืออะไรได้ แต่ตอนนี้ผมเป็นครู ผมไม่ไปสอนไม่ได้ ไปสายก็ไม่ได้ มันก็คือ ความรับผิดชอบเหมือนกัน  ผมเหนื่อยที่ต้องคบกับแฟนผม ไม่

อยากโกหกแม่เพื่อขอเงิน ผมไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร ต้องทำแบบไหน คิดว่าผมต้องทำยังไงดีครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่