
ตามอ่านตอนแรกได้ที่นี่นะคะ
https://alongthewaymoment.wordpress.com/2017/04/29/รีวิวทัวร์การเดินกลาเซ/
หรือของพันทิพเองที่นี่ค่ะ
https://pantip.com/topic/36445533
หนก่อนเราตัดจบไปที่ตอนใส่รองเท้าหนามก่อนขึ้นเดินกลาเซียร์นะคะ มาต่อกันกับการปีนธารน้ำแข็งอายุหมื่นปีกว่ากันค่ะ ดูวิดีโอก่อนอ่านหรือหลังอ่านก็จะได้ฟีลยิ่งขึ้นนะคะ

อะ ทีนี้ครบเครื่องรองเท้าพร้อมเค้าก็ให้เดินเรียงเดี่ยวขึ้นกลาเซียร์ ขู่ว่าห้ามแตกแถวนะ มันอันตราย ให้เดินตามคนข้างหน้าเพราะอาจจะมีจุดน้ำแข็งเปราะหรือเป็นหลุมได้ ทุกคนก็ดูตื่นเต้นกันใหญ่ รวมถึงพวกเราด้วย เพราะการเดินด้วยรองเท้าหนามนี่ก็ไม่เคยกันอ่ะนะ พอได้เดินจริงๆก็ไม่ยากมาก คือหนามมันแหลมมาก ไม่มีคำว่าลื่นแน่นอนค่ะ แค่เน้นว่าเวาลาเดินต้องยกเท้าเพื่อเพิ่มแรงกดให้หนามมันเจาะเข้าน้ำแข็งหน่อย เดินสักแปปก็ชินละ
ในการเดินขึ้นกลาเซียร์เราแบ่งเองเป็นสามช่วงก่อนไปถึงถ้ำน้ำแข็งนะคะ
1.ช่วงแรกคือเดินขึ้นเนินส่วนต้นของกลาเซียร์เหมือนเดินขึ้นดอยสุเทพแบบไม่มีบันไดอ่ะก็ถือว่าชันอยู่ แต่ไม่ลื่นเลยเพราะรองเท้าหนาม ช่วงนี้จะะกลัวๆนิดนึงเพราะเป็นประสบการณ์ใหม่ เดินประมาณ 20นาทีได้ บอกเลยว่าเหนื่อย พ่อแม่เราหมดแรงตรงนี้แหละ อย่าลืมฟิตร่างกายก่อนมา จะได้มีแรงชื่นชมวิวตรงหน้า มันดีมากจริงๆ ธารน้ำแข็งเก่าแก่รอบๆไม่มีคนอื่นนอกจากคณะเราแล้วเราก็กำลังปีนกลาเซียร์กันจริงๆ!

2.ช่วงสองคือเดินทางราบ มันจะมีช่วงที่ราบๆระหว่างเนินอ่ะค่ะ คือด้านซ้ายขวาก็ยังเป็นเนินแต่มีเส้นทางราบยาวให้เดินเลาะไปได้ อารมณ์เหมือนถนนที่ตัดบนเขาน่ะค่ะ จากตรงนี้เดินอีกสัก30นาที เพื่อไปช่วงที่สาม แถวนี้วิวสวยมาก มองลงไปด้านเนินที่เราเดันขึ้นมา ยิ่งมหัศจรรย์กว่าเดิมอีก เดินไปก็เสียวๆหน่อยถ้ากลิ้งตกไปคงแย่ ได้แต่มองขอเหล็กในมือว่า ถ้าลื่นต้องเอามันเฉาะแล้วเกี่ยวไว้แบบในหนังสินะ 55 ถึงตรงนี้ พ่อแม่ที่หมดแรงจากการเดินขึ้นเนินก้อเริ่มเดินช้าลง เราเดินไปสักพักก้อปวดข้อเท้าขวาเหมือนกัน ถึงทางจะเรียกว่าราบแต่จริงๆมันแอบเอียงนิดๆข้อเท้าขวาต้องบิดตลอด(เป็นคนข้อเท้าไม่แข็งแรงพลิกบ่อย) ใครข้อเท้า เข่า ไม่แข็งแรงโปรดระวัง อันนี้คำเตือนสำหรับคนที่คิดจะพาพ่อแม่มานะคะ

3.ช่วงที่สามคือการเดินลงเนินไปถ้ำน้ำแข็ง ค่ะเดินลงไปบนเนินกลมๆนั่นแหละค่ะ คือเนินกลาเซียร์มันไม่ได้เป็น 45องศาแบบทางชันนะคะ มันจะกลมๆมนๆตรงด้านบนเหมือนชามคว่ำ คือเวลาเรายืนแล้วมองลงไป เราจะไม่เห็นฐานที่เดินขึ้นมา จะเห็นว่าโค้งแล้วเป็นเหวไปเลย ฟังตอนเค้าบอกว่าจะเดินลงแล้วก็แบ่บ เอ๊ะ จะลงไงหว่า ปรากฏว่าทีมงานเค้าทำขั้นบันไดให้แล้วจ้า คือขุดน้ำแข็งไว้ให้เป็นขั้นๆ ดีเลิศมากอันนี้ เดินลงบันไดตามไกด์ไป ไกด์บอกห้ามเดินเอาด้านข้างเท้าลงเด็ดขาด(เดินแบบปู)มีโอกาสลื่น ให้เดินตรงๆแล้วกระแทกเท้าแรงๆหนามจะได้เจาะน้ำแข็งแน่นๆ เดินๆไปไกด์ก็หยุด แล้วหยิบขอเหมืองออกมาจากหลังแบบในหนัง แล้วก้อเฉาะบันไดจ้า เฉาะซะเต็มแรงน้ำแข็งนี่กระจาย ตกใจนิดนึง ชีตัวเล็กๆแต่แรงดีมาก คือเค้าจะคอยเฉาะบันไดที่ดูเหมือนลื่นหรือไม่ค่อยตั้งฉากให้พวกเราเดินแหละ รู้สึกขอบใจแกมาก ณ จุดนั้น ตรงนี้ระยะทางพอๆกันที่เดินช่วงที่1แต่ไม่รู้สึกเหนื่อยเท่า
ทีนี้ก็ใกล้จะถึงถ้ำน้ำแข็งละ มาถึงตรงนี้เค้าจะให้ทุกคนสับขอเหล็กทิ้งไว้ที่น้ำแข็งแถวๆนั้น คิดว่าคงกลัวคนเอาขอเข้าไปเฉาะถ้ำให้เสียหาย แล้วไกด์ก็จะพาเดินลงบันไดน้ำแข็งเข้าไปในถ้ำ ทางเข้าถ้ำหัวชนทุกคน จริงๆมาใส่หมวกแค่ตรงนี้ก็ได้นะ พอลอดเข้าไปก็ถึงถ้ำแล้วค่ะ

ถ้ำน้ำแข็งที่เราไปค่อนข้างเล็ก คนเข้าไปสิบคนก็แน่นมากเลย มันก็สวยดีนะ แต่ไม่สวยเหมือนรูปตามในเนต ไม่รู้ว่ามาคนละช่วงหรือคนละถ้ำกัน แต่สีมันก็จะฟ้าๆเขียวๆสไตล์ธารน้ำแข็งสวยงามดี ทีนี้ไกด์ก็จะแบ่งกลุ่มเป็นสองกลุ่มเล็กๆ ให้พวกนึงอยู่ถ่ายรูป ให้พวกนึงลงไปดูแม่น้ำภายในถ้ำซึ่งจริงๆก็คือน้ำแข็งที่ละลายตามฤดูของมันนั่นเอง เดินลงบันไดน้ำแข็งไป ตรงนี้มืดมากแล้วก็ลื่นๆด้วย ถ้าพกไฟฉายเล็กมาจะดีมาก อันนี้หกคนมีไฟฉายเล็กๆของไกด์คนเดียว เลยทำให้มองอะไรแทบไม่เห็นเลย ไม่เห็นน้ำที่ไหลด้วยซ้ำ แต่ว่าได้ยินเสียง จากตรงนี้ถ้ามองย้อนขึ้นไปสีจะสวยมาก เพดานถ้ำมันโดนแสงแล้วสะท้อนมันๆเป็นสีเขียวๆฟ้าๆ


เดินกลับขึ้นมาถ่ายรูปเล่นกับถ้ำระหว่างที่รออีกกรุ๊ปลงไปดูแม่น้ำ มีแต่กล้องมือถือตามที่บอกไป เสียดายไม่มีกล้องดีๆเลนส์กว้างๆหน่อย แต่ก็นะได้ประมาณนี้เราก็ถือว่าดีแล้ว กลับขึ้นมารวมกันแล้วไกด์ก็ให้ความรู้กับให้ถามโน่นนี่ได้ แล้วก็ออกจากถ้ำ

ขึ้นไปปากถ้ำก็เจออีกกรุ๊ปนึงมาจ่อรออยู่ นึกว่าไกด์จะพากลับทางเดิม แต่แกบอกว่ามีเวลาอยู่มีแถมให้พิเศษๆ ว่าแล้วก็พาเดินขึ้นเขาไปอีกทาง!! (เหนื่อย!) ระหว่างเดินไปมีเรื่องที่ดูน่าตื่นเต้นนิดนึง คือเราเดินตามไกด์ไปเป็นคนแรกอยู่ๆไกด์ก็หยุด มองทางไปๆมาๆ แล้วก็บอกว่า ฉันว่าเราเปลี่ยนทางดีกว่าไปทางนี้ดีกว่า… แล้วก็พาแถวเดินเบี่ยง 90 องศาไปอีกทางเลย โห มันเหมือนในหนังอ่ะ อารมณ์แบ่บถ้าเดินๆไปมันจะถล่มไรงี้ป่าวนี้ชีอ่านทางกับสภาพน้ำแข็งได้ รู้สึกว่าเท่ดี 555 คือถ้าไม่มากับชีแล้วเราเดินกันเองแล้วน้ำแข็งเปราะทำไงว้าาา มันจะเหมือนในหนังเลยนะ (ไม่มีสาระนะตรงนี้แต่คิดว่าดีเลยเล่าให้ฟัง)
พอไปถึงจุดที่เค้าพามา อันนี้เจ๋งจริง คือบนกลาเซียร์มันก็จะมีหิมะตกตลอดเวลา มีหินภูเขาไฟเดิมที่อยู่ใต้มันงอกเลยมาบ้างก็เลยทำให้เหมือนมีภูเขาเล็กๆอยู่บนกลาเซียร์อีกที แล้วตรงที่เราไปดูมันเป็นเหมือนบ่อน้ำเล็กๆที่เกิดจากการละลายของกลาเซียร์ที่อยู่ระหว่างภูเขาพวกนี้อีกที น้องสาวถึงกับให้นิยามว่านี่คือบ้านเอลซ่าชัดๆ เออ ก็ได้อารมณ์อย่างมันว่านะ สวยมาก ชอบ ก็ถ่ายรูปกันไปอะไรไป มองไปไม่เห็นอะไรเลยรอบๆฝนมันตกปรอยๆแล้วพอหนาวๆมันก็เหมือนเป็นหมอกเป็นหิมะ บังทุกอย่าง ไม่งั้นคงได้เห็นวิวข้างล่างสวยๆอยู่



ทีนี้ก็ได้เวลาเดินลงก็เดินย้อนกลับลงไป ขาลงมักจะรู้สึกเร็วกว่าขาขึ้น แถมทุกคนก็ใช้รองเท้าได้คล่องแคล่แล้วด้วย ก็เดินกันเอื่อยๆลงมาตามแรงที่เหลือ สงสารไกด์นิดหน่อยเค้าคงต้องทำเวลาเพราะจะมีอีกคณะมาต่อ แต่พ่อแม่เราไม่ค่อยไหวแล้วคือหมดแรงแล้ว ก็เดินช้าลงเรื่อยๆ แต่ทำอะไรไม่ได้จะให้เร่งก็น่าจะอันตรายเกินไปก็ให้เค้าเดินเท่าที่ไหวเอา จนออกจากเขตน้ำแข็งมาที่ดินภูเขาไฟ

ถึงตรงนี้คณะเราทิ้งช่วงกับกรุ๊ปอย่างไกล คือพ่อแม่หมดแรงแล้วจริงๆ คาดว่าไกด์คงคุยว็อกกี้ท็อกกี้กับไกด์คณะหลังเราที่ตามมาว่าฝากเอาพวกนี้มาด้วยฉันล่วงหน้าไปรับคณะต่อไปก่อนเดี๋ยวไม่ทัน เกรงใจแกจัง คณะหลังเราก็ช้าเพราะเหมือนจะมีสาวๆชาวจีนสองสามคนที่มาแบ่บไม่ได้เตรียมร่างกายมาเช่นกัน คือตอนอยู่ในทัวร์เค้าจัดเต็มตลอด แต่งสวย หน้าเต็ม เป็นแนวแต่งตัวไม่ใช่แนว trekking แน่นอน พอมาเจอเดินสี่ชม.เข้าไปหน้าซีดกว่าพ่อแม่เราอีก ก็เตือนเพื่อนๆที่ทำงานออฟฟิศแล้วไม่ค่อยได้ลุกเดินนะคะ ว่าถ้าจะมาอย่าลืมฟิตร่างกายมา คือถ้าอายุไม่เยอะยังไงมันก็เดินไหวแหละ แต่มันจะไม่สนุกไงแทนที่จะได้ดูวิวสวยๆ จะกลายเป็นแบ่บเมื่อไหร่จะถึง จะตายกลางทางไหม ไรงี้แทน

สุดท้ายไกด์ก็พามาส่งขึ้นรถสะเทิ้นบกกลับไปศูนย์ค่ะ สงสารแกเห็นแกแอบกินแซนวิสแล้วก็รับลูกค้าคณะใหม่ไปต่อเลย คณะใหม่มีสามคนนี่อุปกรณ์ครบดูอลังการมาก ท่าทางจะมา Glacier hike ไม่ใช่ Glacier walk แบบเราๆ ต้องๆฟิตขนาดไหนปีนเขาท่ามกลางความหนาวเย็นทั้งวัน
ค่ะ จบการรีวิวในเรื่องการเดินธารน้ำแข็ง และ ถ้ำน้ำแข็งแต่เพียงเท่านี้ ตอนเราหาข้อมูลเองคือไม่มีเลย ก็เลยไม่ค่อยพร้อมเท่าไหร่ หวังว่าที่รีวิวจะทำให้ทุกคนเห็นภาพว่าจะต้องเจออะไร และต้องเตรียมความพร้อมด้านไหนมาบ้างนะคะ แปะวิดิโอไว้อีกทีจะได้เห็นภาพตามที่เล่ามานะคะ

Along the way บันทึกทริปไอซ์แลนด์ เมษายน 2560
อ่านการเตรียมรองเท้าไป Glacier walk ได้ที่นี่
https://alongthewaymoment.wordpress.com/2017/04/22/รีวิวรองเท้าที่ใช้ในไอ/
อ่านตอนแรกเรื่องการล่าแสงเหนือได้ที่นี่
https://alongthewaymoment.wordpress.com/2017/04/16/aurora-hunting-tips/
สามารถติดตามเกร็ดความรู้การท่องเที่ยวโดย Along the way ได้ที่
Facebook:
https://www.facebook.com/alongthewaymoment/
Youtube:
https://www.youtube.com/channel/UCxR8FI0QwT-gL8RikAvyjKw
WordPress:
https://alongthewaymoment.wordpress.com
รีวิวทัวร์การเดินกลาเซียร์ เข้าถ้ำน้ำแข็ง (Glacier walk and Ice cave tour) ตอน2
หรือของพันทิพเองที่นี่ค่ะ https://pantip.com/topic/36445533
หนก่อนเราตัดจบไปที่ตอนใส่รองเท้าหนามก่อนขึ้นเดินกลาเซียร์นะคะ มาต่อกันกับการปีนธารน้ำแข็งอายุหมื่นปีกว่ากันค่ะ ดูวิดีโอก่อนอ่านหรือหลังอ่านก็จะได้ฟีลยิ่งขึ้นนะคะ
อะ ทีนี้ครบเครื่องรองเท้าพร้อมเค้าก็ให้เดินเรียงเดี่ยวขึ้นกลาเซียร์ ขู่ว่าห้ามแตกแถวนะ มันอันตราย ให้เดินตามคนข้างหน้าเพราะอาจจะมีจุดน้ำแข็งเปราะหรือเป็นหลุมได้ ทุกคนก็ดูตื่นเต้นกันใหญ่ รวมถึงพวกเราด้วย เพราะการเดินด้วยรองเท้าหนามนี่ก็ไม่เคยกันอ่ะนะ พอได้เดินจริงๆก็ไม่ยากมาก คือหนามมันแหลมมาก ไม่มีคำว่าลื่นแน่นอนค่ะ แค่เน้นว่าเวาลาเดินต้องยกเท้าเพื่อเพิ่มแรงกดให้หนามมันเจาะเข้าน้ำแข็งหน่อย เดินสักแปปก็ชินละ
ในการเดินขึ้นกลาเซียร์เราแบ่งเองเป็นสามช่วงก่อนไปถึงถ้ำน้ำแข็งนะคะ
1.ช่วงแรกคือเดินขึ้นเนินส่วนต้นของกลาเซียร์เหมือนเดินขึ้นดอยสุเทพแบบไม่มีบันไดอ่ะก็ถือว่าชันอยู่ แต่ไม่ลื่นเลยเพราะรองเท้าหนาม ช่วงนี้จะะกลัวๆนิดนึงเพราะเป็นประสบการณ์ใหม่ เดินประมาณ 20นาทีได้ บอกเลยว่าเหนื่อย พ่อแม่เราหมดแรงตรงนี้แหละ อย่าลืมฟิตร่างกายก่อนมา จะได้มีแรงชื่นชมวิวตรงหน้า มันดีมากจริงๆ ธารน้ำแข็งเก่าแก่รอบๆไม่มีคนอื่นนอกจากคณะเราแล้วเราก็กำลังปีนกลาเซียร์กันจริงๆ!
2.ช่วงสองคือเดินทางราบ มันจะมีช่วงที่ราบๆระหว่างเนินอ่ะค่ะ คือด้านซ้ายขวาก็ยังเป็นเนินแต่มีเส้นทางราบยาวให้เดินเลาะไปได้ อารมณ์เหมือนถนนที่ตัดบนเขาน่ะค่ะ จากตรงนี้เดินอีกสัก30นาที เพื่อไปช่วงที่สาม แถวนี้วิวสวยมาก มองลงไปด้านเนินที่เราเดันขึ้นมา ยิ่งมหัศจรรย์กว่าเดิมอีก เดินไปก็เสียวๆหน่อยถ้ากลิ้งตกไปคงแย่ ได้แต่มองขอเหล็กในมือว่า ถ้าลื่นต้องเอามันเฉาะแล้วเกี่ยวไว้แบบในหนังสินะ 55 ถึงตรงนี้ พ่อแม่ที่หมดแรงจากการเดินขึ้นเนินก้อเริ่มเดินช้าลง เราเดินไปสักพักก้อปวดข้อเท้าขวาเหมือนกัน ถึงทางจะเรียกว่าราบแต่จริงๆมันแอบเอียงนิดๆข้อเท้าขวาต้องบิดตลอด(เป็นคนข้อเท้าไม่แข็งแรงพลิกบ่อย) ใครข้อเท้า เข่า ไม่แข็งแรงโปรดระวัง อันนี้คำเตือนสำหรับคนที่คิดจะพาพ่อแม่มานะคะ
3.ช่วงที่สามคือการเดินลงเนินไปถ้ำน้ำแข็ง ค่ะเดินลงไปบนเนินกลมๆนั่นแหละค่ะ คือเนินกลาเซียร์มันไม่ได้เป็น 45องศาแบบทางชันนะคะ มันจะกลมๆมนๆตรงด้านบนเหมือนชามคว่ำ คือเวลาเรายืนแล้วมองลงไป เราจะไม่เห็นฐานที่เดินขึ้นมา จะเห็นว่าโค้งแล้วเป็นเหวไปเลย ฟังตอนเค้าบอกว่าจะเดินลงแล้วก็แบ่บ เอ๊ะ จะลงไงหว่า ปรากฏว่าทีมงานเค้าทำขั้นบันไดให้แล้วจ้า คือขุดน้ำแข็งไว้ให้เป็นขั้นๆ ดีเลิศมากอันนี้ เดินลงบันไดตามไกด์ไป ไกด์บอกห้ามเดินเอาด้านข้างเท้าลงเด็ดขาด(เดินแบบปู)มีโอกาสลื่น ให้เดินตรงๆแล้วกระแทกเท้าแรงๆหนามจะได้เจาะน้ำแข็งแน่นๆ เดินๆไปไกด์ก็หยุด แล้วหยิบขอเหมืองออกมาจากหลังแบบในหนัง แล้วก้อเฉาะบันไดจ้า เฉาะซะเต็มแรงน้ำแข็งนี่กระจาย ตกใจนิดนึง ชีตัวเล็กๆแต่แรงดีมาก คือเค้าจะคอยเฉาะบันไดที่ดูเหมือนลื่นหรือไม่ค่อยตั้งฉากให้พวกเราเดินแหละ รู้สึกขอบใจแกมาก ณ จุดนั้น ตรงนี้ระยะทางพอๆกันที่เดินช่วงที่1แต่ไม่รู้สึกเหนื่อยเท่า
ทีนี้ก็ใกล้จะถึงถ้ำน้ำแข็งละ มาถึงตรงนี้เค้าจะให้ทุกคนสับขอเหล็กทิ้งไว้ที่น้ำแข็งแถวๆนั้น คิดว่าคงกลัวคนเอาขอเข้าไปเฉาะถ้ำให้เสียหาย แล้วไกด์ก็จะพาเดินลงบันไดน้ำแข็งเข้าไปในถ้ำ ทางเข้าถ้ำหัวชนทุกคน จริงๆมาใส่หมวกแค่ตรงนี้ก็ได้นะ พอลอดเข้าไปก็ถึงถ้ำแล้วค่ะ
ถ้ำน้ำแข็งที่เราไปค่อนข้างเล็ก คนเข้าไปสิบคนก็แน่นมากเลย มันก็สวยดีนะ แต่ไม่สวยเหมือนรูปตามในเนต ไม่รู้ว่ามาคนละช่วงหรือคนละถ้ำกัน แต่สีมันก็จะฟ้าๆเขียวๆสไตล์ธารน้ำแข็งสวยงามดี ทีนี้ไกด์ก็จะแบ่งกลุ่มเป็นสองกลุ่มเล็กๆ ให้พวกนึงอยู่ถ่ายรูป ให้พวกนึงลงไปดูแม่น้ำภายในถ้ำซึ่งจริงๆก็คือน้ำแข็งที่ละลายตามฤดูของมันนั่นเอง เดินลงบันไดน้ำแข็งไป ตรงนี้มืดมากแล้วก็ลื่นๆด้วย ถ้าพกไฟฉายเล็กมาจะดีมาก อันนี้หกคนมีไฟฉายเล็กๆของไกด์คนเดียว เลยทำให้มองอะไรแทบไม่เห็นเลย ไม่เห็นน้ำที่ไหลด้วยซ้ำ แต่ว่าได้ยินเสียง จากตรงนี้ถ้ามองย้อนขึ้นไปสีจะสวยมาก เพดานถ้ำมันโดนแสงแล้วสะท้อนมันๆเป็นสีเขียวๆฟ้าๆ
เดินกลับขึ้นมาถ่ายรูปเล่นกับถ้ำระหว่างที่รออีกกรุ๊ปลงไปดูแม่น้ำ มีแต่กล้องมือถือตามที่บอกไป เสียดายไม่มีกล้องดีๆเลนส์กว้างๆหน่อย แต่ก็นะได้ประมาณนี้เราก็ถือว่าดีแล้ว กลับขึ้นมารวมกันแล้วไกด์ก็ให้ความรู้กับให้ถามโน่นนี่ได้ แล้วก็ออกจากถ้ำ
ขึ้นไปปากถ้ำก็เจออีกกรุ๊ปนึงมาจ่อรออยู่ นึกว่าไกด์จะพากลับทางเดิม แต่แกบอกว่ามีเวลาอยู่มีแถมให้พิเศษๆ ว่าแล้วก็พาเดินขึ้นเขาไปอีกทาง!! (เหนื่อย!) ระหว่างเดินไปมีเรื่องที่ดูน่าตื่นเต้นนิดนึง คือเราเดินตามไกด์ไปเป็นคนแรกอยู่ๆไกด์ก็หยุด มองทางไปๆมาๆ แล้วก็บอกว่า ฉันว่าเราเปลี่ยนทางดีกว่าไปทางนี้ดีกว่า… แล้วก็พาแถวเดินเบี่ยง 90 องศาไปอีกทางเลย โห มันเหมือนในหนังอ่ะ อารมณ์แบ่บถ้าเดินๆไปมันจะถล่มไรงี้ป่าวนี้ชีอ่านทางกับสภาพน้ำแข็งได้ รู้สึกว่าเท่ดี 555 คือถ้าไม่มากับชีแล้วเราเดินกันเองแล้วน้ำแข็งเปราะทำไงว้าาา มันจะเหมือนในหนังเลยนะ (ไม่มีสาระนะตรงนี้แต่คิดว่าดีเลยเล่าให้ฟัง)
พอไปถึงจุดที่เค้าพามา อันนี้เจ๋งจริง คือบนกลาเซียร์มันก็จะมีหิมะตกตลอดเวลา มีหินภูเขาไฟเดิมที่อยู่ใต้มันงอกเลยมาบ้างก็เลยทำให้เหมือนมีภูเขาเล็กๆอยู่บนกลาเซียร์อีกที แล้วตรงที่เราไปดูมันเป็นเหมือนบ่อน้ำเล็กๆที่เกิดจากการละลายของกลาเซียร์ที่อยู่ระหว่างภูเขาพวกนี้อีกที น้องสาวถึงกับให้นิยามว่านี่คือบ้านเอลซ่าชัดๆ เออ ก็ได้อารมณ์อย่างมันว่านะ สวยมาก ชอบ ก็ถ่ายรูปกันไปอะไรไป มองไปไม่เห็นอะไรเลยรอบๆฝนมันตกปรอยๆแล้วพอหนาวๆมันก็เหมือนเป็นหมอกเป็นหิมะ บังทุกอย่าง ไม่งั้นคงได้เห็นวิวข้างล่างสวยๆอยู่
ทีนี้ก็ได้เวลาเดินลงก็เดินย้อนกลับลงไป ขาลงมักจะรู้สึกเร็วกว่าขาขึ้น แถมทุกคนก็ใช้รองเท้าได้คล่องแคล่แล้วด้วย ก็เดินกันเอื่อยๆลงมาตามแรงที่เหลือ สงสารไกด์นิดหน่อยเค้าคงต้องทำเวลาเพราะจะมีอีกคณะมาต่อ แต่พ่อแม่เราไม่ค่อยไหวแล้วคือหมดแรงแล้ว ก็เดินช้าลงเรื่อยๆ แต่ทำอะไรไม่ได้จะให้เร่งก็น่าจะอันตรายเกินไปก็ให้เค้าเดินเท่าที่ไหวเอา จนออกจากเขตน้ำแข็งมาที่ดินภูเขาไฟ
ถึงตรงนี้คณะเราทิ้งช่วงกับกรุ๊ปอย่างไกล คือพ่อแม่หมดแรงแล้วจริงๆ คาดว่าไกด์คงคุยว็อกกี้ท็อกกี้กับไกด์คณะหลังเราที่ตามมาว่าฝากเอาพวกนี้มาด้วยฉันล่วงหน้าไปรับคณะต่อไปก่อนเดี๋ยวไม่ทัน เกรงใจแกจัง คณะหลังเราก็ช้าเพราะเหมือนจะมีสาวๆชาวจีนสองสามคนที่มาแบ่บไม่ได้เตรียมร่างกายมาเช่นกัน คือตอนอยู่ในทัวร์เค้าจัดเต็มตลอด แต่งสวย หน้าเต็ม เป็นแนวแต่งตัวไม่ใช่แนว trekking แน่นอน พอมาเจอเดินสี่ชม.เข้าไปหน้าซีดกว่าพ่อแม่เราอีก ก็เตือนเพื่อนๆที่ทำงานออฟฟิศแล้วไม่ค่อยได้ลุกเดินนะคะ ว่าถ้าจะมาอย่าลืมฟิตร่างกายมา คือถ้าอายุไม่เยอะยังไงมันก็เดินไหวแหละ แต่มันจะไม่สนุกไงแทนที่จะได้ดูวิวสวยๆ จะกลายเป็นแบ่บเมื่อไหร่จะถึง จะตายกลางทางไหม ไรงี้แทน
สุดท้ายไกด์ก็พามาส่งขึ้นรถสะเทิ้นบกกลับไปศูนย์ค่ะ สงสารแกเห็นแกแอบกินแซนวิสแล้วก็รับลูกค้าคณะใหม่ไปต่อเลย คณะใหม่มีสามคนนี่อุปกรณ์ครบดูอลังการมาก ท่าทางจะมา Glacier hike ไม่ใช่ Glacier walk แบบเราๆ ต้องๆฟิตขนาดไหนปีนเขาท่ามกลางความหนาวเย็นทั้งวัน
ค่ะ จบการรีวิวในเรื่องการเดินธารน้ำแข็ง และ ถ้ำน้ำแข็งแต่เพียงเท่านี้ ตอนเราหาข้อมูลเองคือไม่มีเลย ก็เลยไม่ค่อยพร้อมเท่าไหร่ หวังว่าที่รีวิวจะทำให้ทุกคนเห็นภาพว่าจะต้องเจออะไร และต้องเตรียมความพร้อมด้านไหนมาบ้างนะคะ แปะวิดิโอไว้อีกทีจะได้เห็นภาพตามที่เล่ามานะคะ
Along the way บันทึกทริปไอซ์แลนด์ เมษายน 2560
อ่านการเตรียมรองเท้าไป Glacier walk ได้ที่นี่ https://alongthewaymoment.wordpress.com/2017/04/22/รีวิวรองเท้าที่ใช้ในไอ/
อ่านตอนแรกเรื่องการล่าแสงเหนือได้ที่นี่ https://alongthewaymoment.wordpress.com/2017/04/16/aurora-hunting-tips/
สามารถติดตามเกร็ดความรู้การท่องเที่ยวโดย Along the way ได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/alongthewaymoment/
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCxR8FI0QwT-gL8RikAvyjKw
WordPress: https://alongthewaymoment.wordpress.com