สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวพันทิปทุกคน นี่เป็นครั้งแรกที่ตั้งกระทู้ขึ้นมาเพื่อจะมาระบายความในใจ อาจจะมีติดๆขัดๆไปบ้างยังไงต้องขออภัยด้วยนะค่ะ
...เรื่องราวมีอยู่ว่า แฟนจับได้ใบแดงพลัด 1/60 ติดที่เชียงใหม่ วันที่จับก็ไม่ได้ไปด้วยได้แต่รอลุ้นอยู่ที่บ้าน แต่พอเสร็จจากเกณฑ์ทหารแล้วแฟนก็รีบขับรถกว่า 70 กว่ากิโลเพื่อรีบมาหาและมากินข้าวเย็นด้วยกัน มาถึงก็ประมานทุ่มกว่าๆ แรกๆที่ถามแฟนก็ไม่ยอมบอกว่าติดไม่ติด ถามก็ไม่ยอมบอกได้แต่ตอบว่ารอสิ้นเดือนก่อนแล้วจะบอก แต่แล้วพาผ่านไปสักพักแม่แฟนก็โทรมาถามแฟนว่าถึงรึยัง ทำไรอยู่ แล้วได้บอก...รึยัง แล้วแฟนก็คุยอยู่กับแม่สักพักนึงยาวๆ
ส่วนฉัน จากความรู้สึกอยากรู้ในตอนแรกกับกลายเป็นเศร้าและไม่อยากจะรู้คำตอบแล้ว (เพราะได้ยินที่แฟนคุยกับแม่หมดแล้ว) จากนั้นพอแฟนคุยเสร็จแฟนก็ชวนออกไปหาอะไรกิน ตอนที่รอแฟนมาก็หิวมากนะแต่ตอนนี้แทบไม่อยากจะกินอะไร แฟนก็ถามว่าเป็นอะไร ก็ได้แต่ตอบว่าไม่เป็นไรนิ...แต่น้ำตาฉันมันดันไหลออกมาไม่ยอมหยุดและเป็นแบบนั้นอยู่สักพักยาวๆทั้งๆที่พยายามกลั้นเอาไว้แต่มันยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ หลังจากนั้นมาก็กินไม่ได้นอนก็ไม่ค่อยหลับ แล้วไหนจะติดที่ต้องอ่านหนังสือสอบกันอีก เวลามันก็เลยเหลือน้อยลงไปทุกวัน แต่จากวันนั้นมาแฟนก็ดูแลใกล้ชิดมากขึ้นเรื่อยๆจนมันมากเกินไป จนทำให้ฉันเหนื่อยและก็โมโหใส่ เพราะช่วงนั้นเราต่างคนต่างต้องอ่านหนังสือสอบกว่าจะได้นอนก็ ตี 3 - 4 พอ 8 โมงเช้าก็ต้องตื่นไปเรียน เลิกเรียนก็ 3 โมงกว่า แล้วแฟนก็พาไปนู้นนี้นั้น แรกๆก็โอเคนะแต่พอไปทุกวันๆเริ่มจะไม่ไอเคเริ่มหงุดหงิดใส่ เพราะหนึ่งอ่านหนังสือหนักและนอนน้อยแทบจะไม่มีเวลาได้พักผ่อนเลย แต่ก็เข้าใจความรู้สึกของแฟนนะว่าอยากจะดูแลเราอยากจะใช้เวลากับเราให้มากที่สุดก่อนที่จะไป ฉันเลยบอกแฟนไปตรงๆเลยว่าเหนื่อยและก็อธิบายเหตุผลให้ฟัง แล้วก็บอกว่าไปแค่2ปีเองก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ได้คุยกันจะไม่ได้เจอกันสักหน่อย เรายังมีเวลาด้วยกันอีกเยอะมีเวลาให้ดูแลอีกเยอะถ้าไม่เปลี่ยนใจไปก่อน(ลืมบอกไปว่าแฟนอยู่ปี4 เทอมสุดท้ายพอดีและสอบเสร็จก็ไปเลย ส่วนฉันอยู่ปี3)
............และแล้วเวลามันชั่งผ่านไปเร็วเหลือเกิน แฟนก็สอบเสร็จไปทีละวันทีละวันจนสอบเสร็จและนั้นหมายถึงเวลาที่แฟนจะต้องไปในขนาดที่ฉันเองยังสอบไม่เสร็จมันก็ยิ่งทำให้เครียดคูณสอง เพราะตลอดเวลาที่เราคบกันมา 3 ปี เรามีกันและกันตลอด ไม่เคยให้ไปไหนคนเดียวจะคอยไปรับไปส่งทุกที่ ไม่เคยที่จะบ่นจะรำคานใส่ ฉันอยากไปไหนก็แค่บอกเขาพร้อมที่จะไปส่งฉันทุกทีที่ฉันอยากจะไป เวลาไปเรียน เที่ยว ทำกิจกรรมมหาลัย หาหมอ หาร้านอาหารอร่อยๆเราก็ไปด้วยกัน แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเราต้องไปด้วยกันเสมอนะ บางครั้งถ้าอยากไปกับเพื่อนก็ไปไม่ได้บังคับใจว่าต้องไปด้วย และเราจะมีกิจกรรมของคู่เราที่ถนัดที่สุดคือ(เป็นนักชิมของอร่อยๆไปเรื่อยๆ ว่างเป็นกินๆอย่างเดียว) 3 ปีสำหรับเรามันก็เหมือนจะไม่นานนะ ชอบทำเหมือนพึ่งคบกันใหม่ๆตลอด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะดีกันตลอดทุกวันนะ เราก็เหมือนคู่อื่นทั่วๆไป มีทะเลาะมีเลิกเกือบทุกวันเหมือนกันแต่พอดีกันมันก็เหมือนกับไม่มีไรเกิดขึ้น วิธีง้อคือการพาไปกินอะไรอร่อยๆ พาไปขับรถเล่น แล้วก็ดีกัน
และมันก็ถึงเวลาแล้วสินะ ก่อนถึงวันที่ 1 แฟนต้องกลับบ้านไปเตรียมตัวเตรียมเอกสารและพอเช้าวันที่ 1 ก็ต้องไปรายงานตัว 6 โมงเช้า และนั้นซึ่งเป็นวันที่ฉันเองก็ติดสอบ พูดง่ายๆคือไม่ว่างเลยทั้งวันและฉันก็ต้องปิดเครื่องและเข้าห้องสอบ เราไม่ได้คุยกันไม่ได้บอกอะไรกันเลยสักอย่าง ไม่รู้อะไรเลยว่าแฟนไปฝึกที่ไหนค่ายไหน พอเปิดโทรศัพท์ดูก็มีเพียงข้อความ 2 ข้อความที่ส่งเข้ามาก่อนจะไป...ความรู้สึกตอนเปิดอ่านมันทำให้น้ำตาไหลออกมา ได้แต่บอกกับตัวเองว่า อีก 3 เดือนก็ได้เจอกันแป็บเดียวเอง..............................และหลังจากนั้นมาแต่ละคืนนอนไม่ค่อยหลับทั้งๆที่เป็นคนไม่ชอบนอนดึก ไปไหนก็ต้องไปคนเดียวซึ่งมันไม่ชินเอาซะเลย แรกๆก็เฉยๆแต่พอเวลาผ่านไปทีละวันๆมันยิ่งทำให้คิดถึงให้อยากรู้ว่าเป็นยังไง



...เวลาผ่านไป 3 วัน เพื่อนที่แฟนก็ติดพลัด1เหมือนกันส่งเพจเพจหนึ่งมาให้ ซึ่งเป็นเพจหน่วยฝึกทหารใหม่ ก็เข้าไปเปิดดูและเห็นรูปภาพกิจกรรมต่างๆของพลทหารใหม่ จากวินาทีนั้นก็ได้แต่ตั้งหน้าตั้งตาหารูปหาชื่อว่าอยู่ค่ายไหนกองไหน ไปถามแอดมินเพจต่างๆจนแล้วจนเล่าก็ไม่เจอไม่มีชื่อ เปิดเพจดูหน่วยต่างๆก็เปิดให้เยี่ยมญาติไปแล้วเมื่อวันที่ 14 ที่ผ่านมาบางเพจก็จะเปิดให้เยี่ยมญาติวันที่ 21 พ.ค. 60 นี้ แต่เรายังไม่รู้เลยว่าแฟนเราไปอยู่ที่ไหน เมื่อไหร่จะติดต่อกลับมา ได้แต่หาว่าอยู่ไหนและรอวันที่แฟนจะโทรมา แต่พอวันเวลาผ่านไปถึงวันที่ 15 พ.ค 60 ตอนเย็นๆแม่แฟนก็โทรมาบอกว่าจดหมายจากค่ายมาถึงแล้ว ในจดหมายได้ระบุวันเยี่ยมและสถานที่อยู่ของค่ายกับจดหมายจากพลทหารที่เขียนมา 1 แผ่น จึงทำให้รู้ว่าอยู่ไหนเป็นยังไงบ้างในตอนนี้และพอผ่านไป 3 วัน ในวันที่ 18 พ.ค 60 ก็ติดต่อกลับไปบ้านคุยได้ไม่ถึง 1 นาทีก็ต้องวาง ส่วนฉันก็ได้รู้ทุกอย่างจากแม่แฟนทั้งนั้นเพราะมีโอกาสติดต่อได้แค่ที่เดียว ดีที่แม่แฟนค่อยโทรมาบอกทุกครั้งไม่งั้นคงไม่รู้อะไรเลย...แต่ยังไงก็คงได้รู้เมื่อถึงวันที่ไปเยี่ยมว่าจะเป็นยังไงบ้าง
เลยอยากขอเป็นกำลังใจให้คนที่รอและคนที่ต้องไปรับใช้ชาติ...สู้ๆต่อไปนะค่ะ

******* นี้สินะที่เขาบอกว่า มีแฟนเป็นทหารต้องอดทน อดใจรอและรอ รอ รอต่อไปเรื่อยๆๆ


*******
ถ้ามีจะไรเพิ่มเติมจะมาเล่าให้ฟังใหม่ค่ะถ้าแฟนติดต่อกลับมา...ขอบคุณนะค่ะที่เปิดอ่าน ไม่ดียังไงติ ชม มาได้เลยค่ะ
เมื่อถึงวันหนึ่งที่เราต้องห่างกันเพราะหน้าที่ ( รับใช้ชาติ )
...เรื่องราวมีอยู่ว่า แฟนจับได้ใบแดงพลัด 1/60 ติดที่เชียงใหม่ วันที่จับก็ไม่ได้ไปด้วยได้แต่รอลุ้นอยู่ที่บ้าน แต่พอเสร็จจากเกณฑ์ทหารแล้วแฟนก็รีบขับรถกว่า 70 กว่ากิโลเพื่อรีบมาหาและมากินข้าวเย็นด้วยกัน มาถึงก็ประมานทุ่มกว่าๆ แรกๆที่ถามแฟนก็ไม่ยอมบอกว่าติดไม่ติด ถามก็ไม่ยอมบอกได้แต่ตอบว่ารอสิ้นเดือนก่อนแล้วจะบอก แต่แล้วพาผ่านไปสักพักแม่แฟนก็โทรมาถามแฟนว่าถึงรึยัง ทำไรอยู่ แล้วได้บอก...รึยัง แล้วแฟนก็คุยอยู่กับแม่สักพักนึงยาวๆ
ส่วนฉัน จากความรู้สึกอยากรู้ในตอนแรกกับกลายเป็นเศร้าและไม่อยากจะรู้คำตอบแล้ว (เพราะได้ยินที่แฟนคุยกับแม่หมดแล้ว) จากนั้นพอแฟนคุยเสร็จแฟนก็ชวนออกไปหาอะไรกิน ตอนที่รอแฟนมาก็หิวมากนะแต่ตอนนี้แทบไม่อยากจะกินอะไร แฟนก็ถามว่าเป็นอะไร ก็ได้แต่ตอบว่าไม่เป็นไรนิ...แต่น้ำตาฉันมันดันไหลออกมาไม่ยอมหยุดและเป็นแบบนั้นอยู่สักพักยาวๆทั้งๆที่พยายามกลั้นเอาไว้แต่มันยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ หลังจากนั้นมาก็กินไม่ได้นอนก็ไม่ค่อยหลับ แล้วไหนจะติดที่ต้องอ่านหนังสือสอบกันอีก เวลามันก็เลยเหลือน้อยลงไปทุกวัน แต่จากวันนั้นมาแฟนก็ดูแลใกล้ชิดมากขึ้นเรื่อยๆจนมันมากเกินไป จนทำให้ฉันเหนื่อยและก็โมโหใส่ เพราะช่วงนั้นเราต่างคนต่างต้องอ่านหนังสือสอบกว่าจะได้นอนก็ ตี 3 - 4 พอ 8 โมงเช้าก็ต้องตื่นไปเรียน เลิกเรียนก็ 3 โมงกว่า แล้วแฟนก็พาไปนู้นนี้นั้น แรกๆก็โอเคนะแต่พอไปทุกวันๆเริ่มจะไม่ไอเคเริ่มหงุดหงิดใส่ เพราะหนึ่งอ่านหนังสือหนักและนอนน้อยแทบจะไม่มีเวลาได้พักผ่อนเลย แต่ก็เข้าใจความรู้สึกของแฟนนะว่าอยากจะดูแลเราอยากจะใช้เวลากับเราให้มากที่สุดก่อนที่จะไป ฉันเลยบอกแฟนไปตรงๆเลยว่าเหนื่อยและก็อธิบายเหตุผลให้ฟัง แล้วก็บอกว่าไปแค่2ปีเองก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ได้คุยกันจะไม่ได้เจอกันสักหน่อย เรายังมีเวลาด้วยกันอีกเยอะมีเวลาให้ดูแลอีกเยอะถ้าไม่เปลี่ยนใจไปก่อน(ลืมบอกไปว่าแฟนอยู่ปี4 เทอมสุดท้ายพอดีและสอบเสร็จก็ไปเลย ส่วนฉันอยู่ปี3)
............และแล้วเวลามันชั่งผ่านไปเร็วเหลือเกิน แฟนก็สอบเสร็จไปทีละวันทีละวันจนสอบเสร็จและนั้นหมายถึงเวลาที่แฟนจะต้องไปในขนาดที่ฉันเองยังสอบไม่เสร็จมันก็ยิ่งทำให้เครียดคูณสอง เพราะตลอดเวลาที่เราคบกันมา 3 ปี เรามีกันและกันตลอด ไม่เคยให้ไปไหนคนเดียวจะคอยไปรับไปส่งทุกที่ ไม่เคยที่จะบ่นจะรำคานใส่ ฉันอยากไปไหนก็แค่บอกเขาพร้อมที่จะไปส่งฉันทุกทีที่ฉันอยากจะไป เวลาไปเรียน เที่ยว ทำกิจกรรมมหาลัย หาหมอ หาร้านอาหารอร่อยๆเราก็ไปด้วยกัน แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเราต้องไปด้วยกันเสมอนะ บางครั้งถ้าอยากไปกับเพื่อนก็ไปไม่ได้บังคับใจว่าต้องไปด้วย และเราจะมีกิจกรรมของคู่เราที่ถนัดที่สุดคือ(เป็นนักชิมของอร่อยๆไปเรื่อยๆ ว่างเป็นกินๆอย่างเดียว) 3 ปีสำหรับเรามันก็เหมือนจะไม่นานนะ ชอบทำเหมือนพึ่งคบกันใหม่ๆตลอด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะดีกันตลอดทุกวันนะ เราก็เหมือนคู่อื่นทั่วๆไป มีทะเลาะมีเลิกเกือบทุกวันเหมือนกันแต่พอดีกันมันก็เหมือนกับไม่มีไรเกิดขึ้น วิธีง้อคือการพาไปกินอะไรอร่อยๆ พาไปขับรถเล่น แล้วก็ดีกัน
และมันก็ถึงเวลาแล้วสินะ ก่อนถึงวันที่ 1 แฟนต้องกลับบ้านไปเตรียมตัวเตรียมเอกสารและพอเช้าวันที่ 1 ก็ต้องไปรายงานตัว 6 โมงเช้า และนั้นซึ่งเป็นวันที่ฉันเองก็ติดสอบ พูดง่ายๆคือไม่ว่างเลยทั้งวันและฉันก็ต้องปิดเครื่องและเข้าห้องสอบ เราไม่ได้คุยกันไม่ได้บอกอะไรกันเลยสักอย่าง ไม่รู้อะไรเลยว่าแฟนไปฝึกที่ไหนค่ายไหน พอเปิดโทรศัพท์ดูก็มีเพียงข้อความ 2 ข้อความที่ส่งเข้ามาก่อนจะไป...ความรู้สึกตอนเปิดอ่านมันทำให้น้ำตาไหลออกมา ได้แต่บอกกับตัวเองว่า อีก 3 เดือนก็ได้เจอกันแป็บเดียวเอง..............................และหลังจากนั้นมาแต่ละคืนนอนไม่ค่อยหลับทั้งๆที่เป็นคนไม่ชอบนอนดึก ไปไหนก็ต้องไปคนเดียวซึ่งมันไม่ชินเอาซะเลย แรกๆก็เฉยๆแต่พอเวลาผ่านไปทีละวันๆมันยิ่งทำให้คิดถึงให้อยากรู้ว่าเป็นยังไง
เลยอยากขอเป็นกำลังใจให้คนที่รอและคนที่ต้องไปรับใช้ชาติ...สู้ๆต่อไปนะค่ะ
******* นี้สินะที่เขาบอกว่า มีแฟนเป็นทหารต้องอดทน อดใจรอและรอ รอ รอต่อไปเรื่อยๆๆ
ถ้ามีจะไรเพิ่มเติมจะมาเล่าให้ฟังใหม่ค่ะถ้าแฟนติดต่อกลับมา...ขอบคุณนะค่ะที่เปิดอ่าน ไม่ดียังไงติ ชม มาได้เลยค่ะ