สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกของเราความจริงอยากจะเขียนมาตั้งนานแล้ว
เข้าเรื่องเลย ก็คือ เราเป็นเด็กม.ต้นค่ะ ใกล้เปิดเทอมแล้ว นี่ก็คิดมากเรื่องชีวิต ตอนเปิดเทอม เพราะปิดเทอมมาเกือบสองเดือนนี่คิดอะไรได้หลายอย่างเลยค่ะว่าที่ผ่านมา เคยทำอะไรผิดๆไว้บ้าง แต่หลายคนก็บอกแค่ว่าเราคิดมากเฉยๆ ไม่ได้ผิดอะไร แต่เพราะได้อยู่คนเดียวก็ทำให้เราได้คิดอะไรได้หลายๆอย่างค่ะปิดเทอมนี้เอาแต่คิดฟุ้งซ่าน อย่างตอนนี้ ในแชทกลุ่มเพื่อนก็รู้สึกเหมือนกับเพื่อนๆเมินเรา แต่ความจริงมันก็เป็นเรื่องปกติ และอยากจะคุยกับใครสักคนที่เราคุยแล้วสบายใจ ซึ่งเราก็คุยกับครอบครัวซึ่งเป็นทางที่ดีที่สุด ครอบก็สอนเราชี้แนะให้หลายๆอย่าง เราก็รู้ว่า ถ้าไม่อยากคิดมากก็แค่ไม่คิดปล่อยๆไป ถึงจะรู้แต่ก็ทำไม่ได้
และในความคิดส่วนตัวของเรา มีความรู้สึกว่าชีวิต มัธยมนี่ต้องแกร่งอย่างเดียวเลยจริงๆค่ะ เหมือนกับว่าคนอ่อนแอก็ไม่มีที่ยืนในสังคม หรือง่ายๆไม่มีคนเอา เพื่อนผู้ชายในห้องเราก็ดูเหมือนจะไม่ชอบเราสักเท่าไหร่ ด้วยความที่ภาพลักษณ์ของเราตอนม.1ที่เราเป็นคนที่ร้องไห้ง่าย เคยสอบได้คะแนนแค่พอผ่านทาบเส้นเราก็ร้องไห้เพื่อนก็มาถามว่าเป็นอะไร ร้องไห้ทำไมก็ผ่านแล้ว ดีจะตาย ไม่ใช่อะไรค่ะ ที่เราร้องไห้เพราะเรากลัวโดนพ่อด่า นี่เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เราร้องไห้เพราะมันเกี่ยวกับพ่อแม่เคยมีประสบการฝั่งใจตรงที่ว่าตอนเด็ก ไม่เก่งคณิตศาสตร์เลย ทำให้แม่เสียใจ จนเราติดตา ก็เลยอยากจะได้คะแนนดีๆพอคะแนนออกมาเป็นแบบนั้นเราก็เลยเสียใจ จนร้องไห้ นี่ก็เป็นเหตุที่ทำให้เพื่อนผู้ชายมองว่าเราอ่อนแอ แต่มาม.2เราเปลี่ยนไปแล้ว ไม่ร้องไห้ง่ายๆอีก แน่นอนว่าคงไม่มีใครอยากจะแสดงด้านที่อ่อนแอให้คนอื่นเห็น แต่เราก็ต้องมาร้องไห้อีกครั้งจนได้ เพราะอุบัติเหตุคือเราใส่หน้านิฬิกาแบบจอสัมผัส แล้วบังเอิญเดินเล่นๆอยู่กับเพื่อนแล้วนาฬิกาดันไปกระแทกกับเสา นั้นก็เป็นเหตุให้เราร้องไห้อีกครั้ง ก็คือเหตุผลเดิม กลัวโดนพ่อด่า เพราะเราไม่เคยรักษาของได้เลย กลัวว่าถ้าพ่อรู้จะโดนด่าจะทำให้ท่านผิดหวัง เพื่อนในกลุ่มเห็น บางคนก็ปลอบ บางคนก็เงียบ แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้ร้องไห้อีก แต่เพื่อนๆก็คงติดภาพลักษณ์เราว่าอ่อนแอไปแล้ว
ตัวเราก็รัอยู่ว่ามันเป็นความคิดคนอื่น ไม่เห็นจะต้องแคร์ และอดีตก็ไม่สามารถแก้ไขได้อีกแล้ว แต่มันก็ยังไม่สามารถสลัดความคิดนี้ออกไปได้เลยค่ะ และมีครั้งนึง เราเห็นเพื่อนผู้ชายคนนึงที่ชอบแกล้งคนอื่นร่วมถึงเราด้วยกำลังวิ่งไล่คนอื่นอยู่ จู่ๆเราก็คิดขึ้นมาได้ค่ะ ว่ามันเคยขัดขาเรา เราก็เลยลองขัดขามันบ้าง แต่กลับกลายเป็นว่าล้มไปเลย?? หลังจากนั้นมันก็เจ็บหัวเข่า เราก็รีบขอโทษมันทันที แต่ก็เหมือนโดนเพื่อนผู้ชายเกลียดไปเลยค่ะ พอหลังจากนั้น พอเราลงไปเรียนข้างล่างรออ.พวกผู้ชายเล่นบาสรอ แล้วบาสมันมาโดนเรา แรงด้วย แต่พอเพื่อนของคนที่เราขัดขามันรู้ว่าเราโดนมันก็บอกว่า โดนเราได้ไม่เป็นไร ตอนนั้นเราเฟลมากเลยค่ะ คือที่เราขัดขาพอมันเป็นอย่างงั้นเราก็สำนึกผิดขอโทษ แต่พอเราโดนกระทำบ้างกลับไม่มีใครคิดขอโทษเราเลย ทั้งเพื่อนคนที่เราขัดขาอ่ะ เป็นคนที่ทั้งแกล้งเรา ล้อชื่อพ่อชื่อแม่เรา แกล้งทุกอย่างสารพัด เราก็ไม่ได้คิดเอาผิดอะไร หน่ำซ้ำ ตอนม.1มันเจ็บแขนขอให้เราช่วยจดในสมุดให้เราก็ช่วย ซึ่งเป็นสองวิชาที่จดเยอะที่สุดเราก็ช่วยเป็นปวดมือมากๆ มันขอลอกการบ้านตอนเช้าเราก็ให้ลอก สิ่งที่เราเคยทำให้นี่คือมันไม่เคยคิดจะจำเลยใช่ไหมคะ
เพราะหลังจากนั้นไม่นาน ผลกรรมที่เราทำมันก็ตามสนองเราจนได้...เราไปแข่งวิ่งกระสอบแล้วล้ม จนเท้าเจ็บเดินกะเผกไปหลายวัน เจ็บมากด้วย แล้วเพื่อนคนนี้มันก็มาบอกเราว่ากรรมตามสนองแล้ว อันนี้เราก็ยอมรับผิด แต่คือถามหน่อย แล้วที่มันทำกะเราไว้สารพัดอ่ะ เคยสนองมันบ้างไหม เคยคิดสำนึกผิดบ้างไหมอ่ะ เอาชื่อพ่อชื่อแม่คนอื่นไปล้อนี่มีความสุขมากป่ะ แต่นี่ก็แค่ส่วนหนึ่งค่ะ
แล้วจะเปิดเทอมแล้ว ต้องเรียนบาส กะแบตเรากังวลมากเลย เพราะแบตก็ตีได้บ้าง แต่บาสคือเราไม่ถูกกะมันเลยอ่ะ แบบแค่เดินผ่าน

ก็ลอยมาใส่หัวทุกทีเกลียดที่สุด ไม่ถูกโรคกะมันเลย แล้วคือเราเป็นคนตัวสูงค่ะ(ว่ายน้ำดี แต่ไม่ได้เป็นนักกีฬา)อยากจะนั่งหน้าเราก็เลี่ยงไปนั่งริมหน้าบอร์ดแทนจะได้ไม่บังใคร เพื่อที่จะตั้งใจเรียน แต่ก็กลัวเกิดปัญหามากเลย นี่ก็ใกล้เปิดเทอมแล้ว
มีวิธีไหนที่ทำให้ เราไม่คิดมาก แล้วก็ต้องทำตัวยังไงกับชีวิตที่โดนภาพลักษณ์ขนาดนี้เพราะตอนนี้เรารู้สึกตัวเองอยู่ยากมากเลยค่ะ และเราก็ไม่อยากจะก่อกรรมอะไรกับใครอีกแล้ว เพราะเราเชื่อในเรื่องของเวรกรรมค่ะ ยังไงก็ขอฝากกระทู้นี้ไว้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
ช่วยหน่อยน้าาา คิดมากจริงๆ
เป็นคนคิดมาก และมีปัญหากับชีวิต มัธยม ทำไงดี?
เข้าเรื่องเลย ก็คือ เราเป็นเด็กม.ต้นค่ะ ใกล้เปิดเทอมแล้ว นี่ก็คิดมากเรื่องชีวิต ตอนเปิดเทอม เพราะปิดเทอมมาเกือบสองเดือนนี่คิดอะไรได้หลายอย่างเลยค่ะว่าที่ผ่านมา เคยทำอะไรผิดๆไว้บ้าง แต่หลายคนก็บอกแค่ว่าเราคิดมากเฉยๆ ไม่ได้ผิดอะไร แต่เพราะได้อยู่คนเดียวก็ทำให้เราได้คิดอะไรได้หลายๆอย่างค่ะปิดเทอมนี้เอาแต่คิดฟุ้งซ่าน อย่างตอนนี้ ในแชทกลุ่มเพื่อนก็รู้สึกเหมือนกับเพื่อนๆเมินเรา แต่ความจริงมันก็เป็นเรื่องปกติ และอยากจะคุยกับใครสักคนที่เราคุยแล้วสบายใจ ซึ่งเราก็คุยกับครอบครัวซึ่งเป็นทางที่ดีที่สุด ครอบก็สอนเราชี้แนะให้หลายๆอย่าง เราก็รู้ว่า ถ้าไม่อยากคิดมากก็แค่ไม่คิดปล่อยๆไป ถึงจะรู้แต่ก็ทำไม่ได้
และในความคิดส่วนตัวของเรา มีความรู้สึกว่าชีวิต มัธยมนี่ต้องแกร่งอย่างเดียวเลยจริงๆค่ะ เหมือนกับว่าคนอ่อนแอก็ไม่มีที่ยืนในสังคม หรือง่ายๆไม่มีคนเอา เพื่อนผู้ชายในห้องเราก็ดูเหมือนจะไม่ชอบเราสักเท่าไหร่ ด้วยความที่ภาพลักษณ์ของเราตอนม.1ที่เราเป็นคนที่ร้องไห้ง่าย เคยสอบได้คะแนนแค่พอผ่านทาบเส้นเราก็ร้องไห้เพื่อนก็มาถามว่าเป็นอะไร ร้องไห้ทำไมก็ผ่านแล้ว ดีจะตาย ไม่ใช่อะไรค่ะ ที่เราร้องไห้เพราะเรากลัวโดนพ่อด่า นี่เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เราร้องไห้เพราะมันเกี่ยวกับพ่อแม่เคยมีประสบการฝั่งใจตรงที่ว่าตอนเด็ก ไม่เก่งคณิตศาสตร์เลย ทำให้แม่เสียใจ จนเราติดตา ก็เลยอยากจะได้คะแนนดีๆพอคะแนนออกมาเป็นแบบนั้นเราก็เลยเสียใจ จนร้องไห้ นี่ก็เป็นเหตุที่ทำให้เพื่อนผู้ชายมองว่าเราอ่อนแอ แต่มาม.2เราเปลี่ยนไปแล้ว ไม่ร้องไห้ง่ายๆอีก แน่นอนว่าคงไม่มีใครอยากจะแสดงด้านที่อ่อนแอให้คนอื่นเห็น แต่เราก็ต้องมาร้องไห้อีกครั้งจนได้ เพราะอุบัติเหตุคือเราใส่หน้านิฬิกาแบบจอสัมผัส แล้วบังเอิญเดินเล่นๆอยู่กับเพื่อนแล้วนาฬิกาดันไปกระแทกกับเสา นั้นก็เป็นเหตุให้เราร้องไห้อีกครั้ง ก็คือเหตุผลเดิม กลัวโดนพ่อด่า เพราะเราไม่เคยรักษาของได้เลย กลัวว่าถ้าพ่อรู้จะโดนด่าจะทำให้ท่านผิดหวัง เพื่อนในกลุ่มเห็น บางคนก็ปลอบ บางคนก็เงียบ แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้ร้องไห้อีก แต่เพื่อนๆก็คงติดภาพลักษณ์เราว่าอ่อนแอไปแล้ว
ตัวเราก็รัอยู่ว่ามันเป็นความคิดคนอื่น ไม่เห็นจะต้องแคร์ และอดีตก็ไม่สามารถแก้ไขได้อีกแล้ว แต่มันก็ยังไม่สามารถสลัดความคิดนี้ออกไปได้เลยค่ะ และมีครั้งนึง เราเห็นเพื่อนผู้ชายคนนึงที่ชอบแกล้งคนอื่นร่วมถึงเราด้วยกำลังวิ่งไล่คนอื่นอยู่ จู่ๆเราก็คิดขึ้นมาได้ค่ะ ว่ามันเคยขัดขาเรา เราก็เลยลองขัดขามันบ้าง แต่กลับกลายเป็นว่าล้มไปเลย?? หลังจากนั้นมันก็เจ็บหัวเข่า เราก็รีบขอโทษมันทันที แต่ก็เหมือนโดนเพื่อนผู้ชายเกลียดไปเลยค่ะ พอหลังจากนั้น พอเราลงไปเรียนข้างล่างรออ.พวกผู้ชายเล่นบาสรอ แล้วบาสมันมาโดนเรา แรงด้วย แต่พอเพื่อนของคนที่เราขัดขามันรู้ว่าเราโดนมันก็บอกว่า โดนเราได้ไม่เป็นไร ตอนนั้นเราเฟลมากเลยค่ะ คือที่เราขัดขาพอมันเป็นอย่างงั้นเราก็สำนึกผิดขอโทษ แต่พอเราโดนกระทำบ้างกลับไม่มีใครคิดขอโทษเราเลย ทั้งเพื่อนคนที่เราขัดขาอ่ะ เป็นคนที่ทั้งแกล้งเรา ล้อชื่อพ่อชื่อแม่เรา แกล้งทุกอย่างสารพัด เราก็ไม่ได้คิดเอาผิดอะไร หน่ำซ้ำ ตอนม.1มันเจ็บแขนขอให้เราช่วยจดในสมุดให้เราก็ช่วย ซึ่งเป็นสองวิชาที่จดเยอะที่สุดเราก็ช่วยเป็นปวดมือมากๆ มันขอลอกการบ้านตอนเช้าเราก็ให้ลอก สิ่งที่เราเคยทำให้นี่คือมันไม่เคยคิดจะจำเลยใช่ไหมคะ
เพราะหลังจากนั้นไม่นาน ผลกรรมที่เราทำมันก็ตามสนองเราจนได้...เราไปแข่งวิ่งกระสอบแล้วล้ม จนเท้าเจ็บเดินกะเผกไปหลายวัน เจ็บมากด้วย แล้วเพื่อนคนนี้มันก็มาบอกเราว่ากรรมตามสนองแล้ว อันนี้เราก็ยอมรับผิด แต่คือถามหน่อย แล้วที่มันทำกะเราไว้สารพัดอ่ะ เคยสนองมันบ้างไหม เคยคิดสำนึกผิดบ้างไหมอ่ะ เอาชื่อพ่อชื่อแม่คนอื่นไปล้อนี่มีความสุขมากป่ะ แต่นี่ก็แค่ส่วนหนึ่งค่ะ
แล้วจะเปิดเทอมแล้ว ต้องเรียนบาส กะแบตเรากังวลมากเลย เพราะแบตก็ตีได้บ้าง แต่บาสคือเราไม่ถูกกะมันเลยอ่ะ แบบแค่เดินผ่าน
มีวิธีไหนที่ทำให้ เราไม่คิดมาก แล้วก็ต้องทำตัวยังไงกับชีวิตที่โดนภาพลักษณ์ขนาดนี้เพราะตอนนี้เรารู้สึกตัวเองอยู่ยากมากเลยค่ะ และเราก็ไม่อยากจะก่อกรรมอะไรกับใครอีกแล้ว เพราะเราเชื่อในเรื่องของเวรกรรมค่ะ ยังไงก็ขอฝากกระทู้นี้ไว้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
ช่วยหน่อยน้าาา คิดมากจริงๆ