ทริปนี้เดินทางระหว่างวันที่ 19-24 เมษายน 2560 โดยเราจองตั๋วเครื่องบิน Nok Scoot ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน 2559 โดยรวมน้ำหนักไป-กลับอยู่ที่ 6,734 บาท และไม่รวมน้ำหนัก อยู่ที่ 5,234 บาท มีผู้ร่วมทริป จำวน 8 ท่าน
ก่อนที่เราจะเดินทาง ผู้ซึ่งเป็นทั้งพี่และเพื่อนที่เคยร่วมเดินทางด้วยกันได้เสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็ง และจะทำการรดน้ำศพ กันในวันที่ 18 เมษายน 2560 และจะพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 23 เมษายน 2560 วันรดน้ำศพ จึงมีพี่ที่เป็นตัวแทนไปร่วมงานฯ 2 คน และในวันพระราชทานเพลิงฯ นั้น พวกเราทุกคนยังอยูที่ไต้หวัน ชีวิตคนเราแสนสั้น ดังคำที่ว่า “ทุกคนรู้วันเกิดตนเอง แต่ไม่มีใครที่รู้วันตายของตนเอง” จงทำดีต่อกันไว้
วันที่ 18 เมษายน 2560 เราขนกระเป๋าเดินทาง และมาทำงานตามปกติ เพื่อมาเก็บงาน และเก็บโต๊ะให้เรียบร้อย วันนี้บ่ายมีอบรม Infographic พอเสร็จจากการอบรม กลุ่มเรา 3 คน ก็ออกไปทานอาหารเย็น และไปอาบน้ำ เพื่อเตรียมตัว โดยได้ใช้บริการศูนย์แท็กซี่ฯ ให้มารับในหมู่บ้านแถวคลองทวีวัฒนา ประมาณ 18.30 น. เพื่อออกเดินทางไปยังสนามบินดอนเมือง กลัวรถติด ไปถึงสนามบินฯ ประมาณสองทุ่มกว่า ก็พา buddy ไปแลกเงิน ช่วงนี้ SCB แลกเงินต่างประเทศ 0% 3 เดือนคะ มีถึงสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้
เรานัดรวมตัวกันสามทุ่ม ที่ต้องมาเร็วแม้เครื่องจะออก 02.15 น. เพราะ Nok Scoot ไม่มีเช็คอินออนไลน์ ทุกคนจะต้องมาเช็คอินที่หน้า Counter เท่านั้น และเคยอ่านรีวิวเคยมีคนเจอตั๋ว overbook ไม่ได้ขึ้นเครื่องกันมาแล้ว และนี่ก็เป็นการใช้บริการครั้งแรกของเรา พอสี่ทุ่มเราก็มาตั้งหัวแถว Counter เปิดให้บริการ 22.30 น. พอได้ตั๋วเรียบร้อย เราก็เข้าไปใช้บริการ King Power Lounge ว่าจะนอนพักก็ไม่ได้นอน กินจุกกินจิก และชาร์จโทรศัพท์มือถือ พอตีหนึ่งเราก็ออกไปยัง Gate เพื่อเตรียมตัวขึ้นเครื่อง
แต่ละคนหลับกันยาวเลยคะ นั่งรอบนี้เมื่อยมาก แม้จะทานยาคลายกล้ามเนื้อมาแล้วก็ตาม เดินเข้าห้องน้ำอยู่หลายรอบ ถึง Taiyuan airport ประมาณ 07.00 น. รับกระเป๋า เข้าห้องน้ำ และออกมาซื้อซิม ราคาซิมอินเตอร์ที่นี่ไม่แพงคะ เราซื้อแบบ 5 วัน 300 บาท เจ้าหน้าที่เขาจะเปลี่ยนซิม และเซทเครื่องให้เราด้วย เป็นครั้งแรกที่มาใช้บริการเนตแบบนี้ในต่างแดน รู้สึกดีตลอดการเดินทางคะ เหมือนชีวิตไม่ได้ขาดช่วง สามารถติดต่อกับทุกคนได้ตลอดเวลา เข้าไปดูคำแนะนำที่นี่ได้เลยคะ >>>
http://www.1000milesjourney.com/taoyaun-airport-to-taipei-city/
ไปไต้หวันครั้งนี้ ต้องขอขอบพระคุณรีวิวของทุก ๆ ท่าน ซึ่งได้เข้าไปอ่านและหาข้อมูลแยะมาก ๆ copy มาทำข้อมูลสำหรับการเดินทางเป็นเล่ม ส่งเป็น file ไปให้ผู้ร่วมทริปทุกคน ซึ่งละเอียดและใช้งานได้จริง อีกทั้งคนไต้หวันส่วนใหญ่ มีอัธยาศัยเป็นเจ้าบ้านที่ดีด้วยคะ พร้อมให้ความช่วยเหลือ และวัยรุ่นส่วนใหญ่ก็ speak English very well ผิดกับนักท่องเที่ยวแบบเรา 5555 Snake ๆ Fish ๆ
ข้อมูลที่ทำไว้คะ เผื่อใครสนใจ >>
https://drive.google.com/file/d/0B7-4GCzmIFuOYmtseWRrUldlQmM/view?usp=sharing
อีกเรื่องคะสำคัญมาก ก่อนการเดินทาง 7 วัน เราได้กรอกใบขาเข้าไต้หวันออนไลน์มาก่อน พอถึงสนามบินจุดตรวจคนเข้าเมืองจึงไม่ยุ่งยาก แค่ยื่นพาสปอร์ต ทุกคนก็ผ่านไร้ปัญหาใด ๆ ต้องขอขอบคุณหลาย ๆ ท่านที่ได้นำลิงค์มาแปะไว้ให้ และยังมีตัวอย่างวิธีการกรอกอย่างละเอียดเลยคะ >>>
http://www.1000milesjourney.com/how-to-apply-taiwan-online-arrival-card/<<<
เราออกจากสนามบินก็เดินทางตามป้ายบอก Bus to City เราเข้าเมืองโดยใช้บริการรถบัสคะ เราไปกันแบบชิว ๆ จะได้ชมเมืองเขาไปด้วย เราซื้อตั๋วที่ Counter รถบัสสาย 1819 คนละ 125 nt หลังจากคนขับเก็บกระเป๋าของเราใต้ท้องรถ เราก็ขึ้นรถไปหาที่เหมาะ ๆ เพื่อถ่ายรูป รถคันนี้มีช่อง USB ด้วยนะคะ รถที่นี่ออกเป็นเวลาคะ ไมได้รอให้คนเต็มรถ อ่านจากรีวิว รถบัสสายนี้วิ่งตลอด 24 ชั่วโมง ถือว่าเป็นการเข้าเมืองที่ไม่ยุ่งยาก ระหว่างทางเราเห็นหมอก เหมือนฝนจะเพิ่งตกไป

ขอขอบคุณข้อมูลวิธีการเดินทางฯ อันนี้มากค่ะ ช่วยได้เยอะเลยคะ ต้องขอโทษที่จำไม่ได้ว่า copy มาจากเวบไหน ขออนุญาตนำมาแชร์นะคะ เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ที่กำลังคิดจะไปไต้หวันด้วยตนเอง

มาทริปนี้ไม่อยากเจอฝนเลย รถวิ่งไปเรื่อย ๆ ช่วงเช้าการจราจรยังไม่คับคั่งเท่าไหร่ และแล้วรถก็มาจอดที่ท่ารถ มองไปก็เห็น Taipei Main Station ของเขาใหญ่กว่าสถานีรถไฟหัวลำโพงบ้านเราอีก เราก็เดินเข้าไปใน Taipei Main Station เพื่อไปซื้อ easy card และเติมเงินคนละ 200 บาท ไป 8 คน ก็ซื้อกันคนละ 1 ใบ โดยเราลงขันครั้งแรกคนละ 1,000 nt สำหรับเป็นการเดินทาง ส่วนค่ากินต่างคนต่างกินตามอัธยาศัย และมีการเก็บเพิ่มอีกในวันต่อมา เพราะมันไม่พอ เราก้อเติมเงินกันเกือบทุกวัน กว่าจะลงตัวก็หลายวันอยู่ ซื้อเสร็จเราก็ลากกระเป๋าเพื่อไปหาที่พัก โดยไม่ได้อ่านโฉนดทื่ถือมา ถามคนที่เราเดินผ่านโดยให้เขาอ่านภาษาจีนที่เรา copy มาด้วย ที่ไม่ได้อ่านเพราะที่ copy มานั้นการดินทางจากสนามบินไปยังโรงแรม Morwing Hotel Fairytale คนที่รีวิวไว้เขามาด้วย MRT ลงที่ Taipei Main Station แล้วเดินออกทาง Z10 เราก็เดินมาตามที่เขาบอก คือลากกระเป๋าออกจาก Taipei Main Station แล้วเลี้ยวขวา ข้ามถนนตรงสี่แยก เดินตรงมาเจอสี่แยกเลี้ยวขวาข้ามถนน โรงแรมอยู่ในซอยเล็ก ๆ เยื้อง ๆ กับ Family Mart ก่อนถึงร้าน Seven Eleven เรามาถึงโรงแรมประมาณเกือบ 10 โมงเช้า ห้องพักยังทำไม่เสร็จ เขาบอกว่าจะเข้าได้ประมาณบ่ายสองโมง เราจึงเข้าห้องน้ำจัดการตัวเองให้พร้อมลุย และฝากกระเป๋าเพื่อออกไปผจญภัยกันแบบผู้สูงวัยกันดีกว่า
เราก็ย้อนทางเก่าที่เราเดินไปโรงแรม กลับมายัง Taipei Main Station เพื่อขึ้นรถบัสสาย 1815 ตรงจุดเดียวกับที่เราลงรถเมื่อเช้า อ่านจากโฉนดเขาบอกว่าสายเดียวถึงเย่หลิว ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงกับ 10 นาที ค่าโดยสาร 96 nt ไม่ต้องซื้อตั๋วไปแตะบัตร easy card ได้บนรถบัสเลย รถบัสสายนี้เราจะต้องแตะบัตรทั้งตอนขึ้นและตอนลงนะคะ นั่งไปไกลเหมือนกัน ขึ้นเขาด้วย คนขับ ๆ เก่งมาก เหวี่ยงเราโยกไปเอียงมาก ลุ้นระทึกเลยคะ ลงสุดสายเลย พอลงก็ต้องเดินต่ออีกคะ ระหว่างทางจะเป็นท่าเรือประมง เดินไปคุยกันไป ฝนก็เริ่มโปรยปราย
เอาเสื้อกันฝนมาแต่อยู่ในกระเป๋าเดินทางคะ ไม่คิดว่ามาเดือนนี้แล้วจะไม่เจอฝน ใส่แต่แจ็คเก็ตผ้ายืดมา พอกันได้บ้างนิดหน่อย ทางเดินเข้าไปมีคนรีวิวไว้ว่าประมาณ 750 เมตร เราซื้อตั๋วเข้าไปแต่ Yehliu Geopark คนละ 80 nt เข้าไปก็เดินคะ ไปดูหินรูปแปลก ๆ ซึ่งเกิดจากการกัดเซาะของคลื่น และการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก เขาว่าไว้แบบนั้น

จุดไฮไลท์ของที่นี่คะ หินรูป "หัวราชินี"

ออกจากเย่หลิวเราก็ไปเมืองเก่าจิ่วเฟื่น (Jiufen Old Street) เราออกมาตามทางที่เราเดินเข้าไป ตามรีวิวบอกให้เราข้ามถนนไปรอรถบัสสาย 790 เพื่อที่จะไปยังเมืองจีหลง (Keelung) จุดสังเกตคือจะมีสะพานลอยขนาดใหญ่สีฟ้าหลังคาเหลืองให้ลงที่ป้ายนั้น แล้วเดินข้ามสะพานลอยไปอีกฝั่ง ลงสะพานด้านขวา จะเจอป้ายรถเมล์ซึ่งอยู่หน้าร้าน Family Mart และรอรถบัสสาย 788 นั่งไปประมาณ 50 นาที ก็จะถึงจิ่วเฟิ่น จุดนี้จะมีคนลงแยะมาก เราก็ลงตาม ลงไปเจอฝนเทลงมาเหมือนฟ้าโกรธใครมาไม่รู้ ยิ่งกว่าลูกหมาตกน้ำอีก คนก็แยะมาก ๆ เดินลุยฝนแทบไม่ได้เดินดูของ หรือไม่ได้แวะชิมอะไรเลย

ข้อมูลนี้ก็มีประโยชน์มากค่ะ ขอบคุณผู้ที่ให้ข้อมูลไว้อย่างสูงเลยคะ

แล้วยังเดินหลงหากันไม่เจออีก จะแวะทานข้าวเย็น คนก็แยะไปหมด ดีที่มีเนตก็ไลน์หากัน กว่าจะเจอ....เซ็งมาก..... พอเจอกันก็ตัดสินใจกลับดีกว่า เราก็กลับไปขึ้นรถตรงจุดที่เราลง ฝนก็ตก ปรากฏว่าจุดนั้นเป็นจุดลงรถ ไม่ใช่จุดขึ้นรถกลับไทเป จุดขึ้นรถกลับเราจะต้องเดินย้อนขึ้นไปอีก ทุลักทะเล จิ่วเฟิ่นในวันนี้สำหรับเรา 'เธอไม่สวย เหมือนอย่างที่ฉันฝันไว้ก่อนมาเลย' ขากลับเรารอรถบัสสาย 1062 คนรถขึ้นแยะมาก ฝนก็ตก มีแต่คนไทยที่แย่งกันขึ้น 555 เราได้นั่งยาว เรานั่งมาลงสุดสาย เป็นห้างโซโก้คะ แล้วเข้าไปเดินกะว่าจะทานมื้อเย็นกันที่นี่ แต่ด้วยพวกเราเปียกปอนยันรองเท้าที่ใส่เลย บางคนเหมือนจะไข้ขึ้น จึงกลับออกมานั่งแท็กซี่กลับที่พัก มาแวะทานอาหารร้านหน้าปากซอยโรงแรม เป็นอาหารจานเดียว พอทานเสร็จก็แยกย้าย ขึ้นห้องก็อาบน้ำ เสื้อผ้า รองเท้าถุงเท้า ชื่นไปด้วยน้ำฝน คืนนี้ต้องพึ่งพาราเซท ซะหน่อย
จะไปไหนนั้น ค่อยว่ากันพรุ่งนี้คะ ราตรีสวัสดิ์...วันต่อไป >>>
https://pantip.com/topic/36473338
[CR] Taiwan Trip: Ep. 1
ก่อนที่เราจะเดินทาง ผู้ซึ่งเป็นทั้งพี่และเพื่อนที่เคยร่วมเดินทางด้วยกันได้เสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็ง และจะทำการรดน้ำศพ กันในวันที่ 18 เมษายน 2560 และจะพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 23 เมษายน 2560 วันรดน้ำศพ จึงมีพี่ที่เป็นตัวแทนไปร่วมงานฯ 2 คน และในวันพระราชทานเพลิงฯ นั้น พวกเราทุกคนยังอยูที่ไต้หวัน ชีวิตคนเราแสนสั้น ดังคำที่ว่า “ทุกคนรู้วันเกิดตนเอง แต่ไม่มีใครที่รู้วันตายของตนเอง” จงทำดีต่อกันไว้
วันที่ 18 เมษายน 2560 เราขนกระเป๋าเดินทาง และมาทำงานตามปกติ เพื่อมาเก็บงาน และเก็บโต๊ะให้เรียบร้อย วันนี้บ่ายมีอบรม Infographic พอเสร็จจากการอบรม กลุ่มเรา 3 คน ก็ออกไปทานอาหารเย็น และไปอาบน้ำ เพื่อเตรียมตัว โดยได้ใช้บริการศูนย์แท็กซี่ฯ ให้มารับในหมู่บ้านแถวคลองทวีวัฒนา ประมาณ 18.30 น. เพื่อออกเดินทางไปยังสนามบินดอนเมือง กลัวรถติด ไปถึงสนามบินฯ ประมาณสองทุ่มกว่า ก็พา buddy ไปแลกเงิน ช่วงนี้ SCB แลกเงินต่างประเทศ 0% 3 เดือนคะ มีถึงสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้
เรานัดรวมตัวกันสามทุ่ม ที่ต้องมาเร็วแม้เครื่องจะออก 02.15 น. เพราะ Nok Scoot ไม่มีเช็คอินออนไลน์ ทุกคนจะต้องมาเช็คอินที่หน้า Counter เท่านั้น และเคยอ่านรีวิวเคยมีคนเจอตั๋ว overbook ไม่ได้ขึ้นเครื่องกันมาแล้ว และนี่ก็เป็นการใช้บริการครั้งแรกของเรา พอสี่ทุ่มเราก็มาตั้งหัวแถว Counter เปิดให้บริการ 22.30 น. พอได้ตั๋วเรียบร้อย เราก็เข้าไปใช้บริการ King Power Lounge ว่าจะนอนพักก็ไม่ได้นอน กินจุกกินจิก และชาร์จโทรศัพท์มือถือ พอตีหนึ่งเราก็ออกไปยัง Gate เพื่อเตรียมตัวขึ้นเครื่อง
แต่ละคนหลับกันยาวเลยคะ นั่งรอบนี้เมื่อยมาก แม้จะทานยาคลายกล้ามเนื้อมาแล้วก็ตาม เดินเข้าห้องน้ำอยู่หลายรอบ ถึง Taiyuan airport ประมาณ 07.00 น. รับกระเป๋า เข้าห้องน้ำ และออกมาซื้อซิม ราคาซิมอินเตอร์ที่นี่ไม่แพงคะ เราซื้อแบบ 5 วัน 300 บาท เจ้าหน้าที่เขาจะเปลี่ยนซิม และเซทเครื่องให้เราด้วย เป็นครั้งแรกที่มาใช้บริการเนตแบบนี้ในต่างแดน รู้สึกดีตลอดการเดินทางคะ เหมือนชีวิตไม่ได้ขาดช่วง สามารถติดต่อกับทุกคนได้ตลอดเวลา เข้าไปดูคำแนะนำที่นี่ได้เลยคะ >>> http://www.1000milesjourney.com/taoyaun-airport-to-taipei-city/
ไปไต้หวันครั้งนี้ ต้องขอขอบพระคุณรีวิวของทุก ๆ ท่าน ซึ่งได้เข้าไปอ่านและหาข้อมูลแยะมาก ๆ copy มาทำข้อมูลสำหรับการเดินทางเป็นเล่ม ส่งเป็น file ไปให้ผู้ร่วมทริปทุกคน ซึ่งละเอียดและใช้งานได้จริง อีกทั้งคนไต้หวันส่วนใหญ่ มีอัธยาศัยเป็นเจ้าบ้านที่ดีด้วยคะ พร้อมให้ความช่วยเหลือ และวัยรุ่นส่วนใหญ่ก็ speak English very well ผิดกับนักท่องเที่ยวแบบเรา 5555 Snake ๆ Fish ๆ
ข้อมูลที่ทำไว้คะ เผื่อใครสนใจ >> https://drive.google.com/file/d/0B7-4GCzmIFuOYmtseWRrUldlQmM/view?usp=sharing
อีกเรื่องคะสำคัญมาก ก่อนการเดินทาง 7 วัน เราได้กรอกใบขาเข้าไต้หวันออนไลน์มาก่อน พอถึงสนามบินจุดตรวจคนเข้าเมืองจึงไม่ยุ่งยาก แค่ยื่นพาสปอร์ต ทุกคนก็ผ่านไร้ปัญหาใด ๆ ต้องขอขอบคุณหลาย ๆ ท่านที่ได้นำลิงค์มาแปะไว้ให้ และยังมีตัวอย่างวิธีการกรอกอย่างละเอียดเลยคะ >>> http://www.1000milesjourney.com/how-to-apply-taiwan-online-arrival-card/<<<
เราออกจากสนามบินก็เดินทางตามป้ายบอก Bus to City เราเข้าเมืองโดยใช้บริการรถบัสคะ เราไปกันแบบชิว ๆ จะได้ชมเมืองเขาไปด้วย เราซื้อตั๋วที่ Counter รถบัสสาย 1819 คนละ 125 nt หลังจากคนขับเก็บกระเป๋าของเราใต้ท้องรถ เราก็ขึ้นรถไปหาที่เหมาะ ๆ เพื่อถ่ายรูป รถคันนี้มีช่อง USB ด้วยนะคะ รถที่นี่ออกเป็นเวลาคะ ไมได้รอให้คนเต็มรถ อ่านจากรีวิว รถบัสสายนี้วิ่งตลอด 24 ชั่วโมง ถือว่าเป็นการเข้าเมืองที่ไม่ยุ่งยาก ระหว่างทางเราเห็นหมอก เหมือนฝนจะเพิ่งตกไป
ขอขอบคุณข้อมูลวิธีการเดินทางฯ อันนี้มากค่ะ ช่วยได้เยอะเลยคะ ต้องขอโทษที่จำไม่ได้ว่า copy มาจากเวบไหน ขออนุญาตนำมาแชร์นะคะ เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ที่กำลังคิดจะไปไต้หวันด้วยตนเอง
มาทริปนี้ไม่อยากเจอฝนเลย รถวิ่งไปเรื่อย ๆ ช่วงเช้าการจราจรยังไม่คับคั่งเท่าไหร่ และแล้วรถก็มาจอดที่ท่ารถ มองไปก็เห็น Taipei Main Station ของเขาใหญ่กว่าสถานีรถไฟหัวลำโพงบ้านเราอีก เราก็เดินเข้าไปใน Taipei Main Station เพื่อไปซื้อ easy card และเติมเงินคนละ 200 บาท ไป 8 คน ก็ซื้อกันคนละ 1 ใบ โดยเราลงขันครั้งแรกคนละ 1,000 nt สำหรับเป็นการเดินทาง ส่วนค่ากินต่างคนต่างกินตามอัธยาศัย และมีการเก็บเพิ่มอีกในวันต่อมา เพราะมันไม่พอ เราก้อเติมเงินกันเกือบทุกวัน กว่าจะลงตัวก็หลายวันอยู่ ซื้อเสร็จเราก็ลากกระเป๋าเพื่อไปหาที่พัก โดยไม่ได้อ่านโฉนดทื่ถือมา ถามคนที่เราเดินผ่านโดยให้เขาอ่านภาษาจีนที่เรา copy มาด้วย ที่ไม่ได้อ่านเพราะที่ copy มานั้นการดินทางจากสนามบินไปยังโรงแรม Morwing Hotel Fairytale คนที่รีวิวไว้เขามาด้วย MRT ลงที่ Taipei Main Station แล้วเดินออกทาง Z10 เราก็เดินมาตามที่เขาบอก คือลากกระเป๋าออกจาก Taipei Main Station แล้วเลี้ยวขวา ข้ามถนนตรงสี่แยก เดินตรงมาเจอสี่แยกเลี้ยวขวาข้ามถนน โรงแรมอยู่ในซอยเล็ก ๆ เยื้อง ๆ กับ Family Mart ก่อนถึงร้าน Seven Eleven เรามาถึงโรงแรมประมาณเกือบ 10 โมงเช้า ห้องพักยังทำไม่เสร็จ เขาบอกว่าจะเข้าได้ประมาณบ่ายสองโมง เราจึงเข้าห้องน้ำจัดการตัวเองให้พร้อมลุย และฝากกระเป๋าเพื่อออกไปผจญภัยกันแบบผู้สูงวัยกันดีกว่า
เราก็ย้อนทางเก่าที่เราเดินไปโรงแรม กลับมายัง Taipei Main Station เพื่อขึ้นรถบัสสาย 1815 ตรงจุดเดียวกับที่เราลงรถเมื่อเช้า อ่านจากโฉนดเขาบอกว่าสายเดียวถึงเย่หลิว ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงกับ 10 นาที ค่าโดยสาร 96 nt ไม่ต้องซื้อตั๋วไปแตะบัตร easy card ได้บนรถบัสเลย รถบัสสายนี้เราจะต้องแตะบัตรทั้งตอนขึ้นและตอนลงนะคะ นั่งไปไกลเหมือนกัน ขึ้นเขาด้วย คนขับ ๆ เก่งมาก เหวี่ยงเราโยกไปเอียงมาก ลุ้นระทึกเลยคะ ลงสุดสายเลย พอลงก็ต้องเดินต่ออีกคะ ระหว่างทางจะเป็นท่าเรือประมง เดินไปคุยกันไป ฝนก็เริ่มโปรยปราย
เอาเสื้อกันฝนมาแต่อยู่ในกระเป๋าเดินทางคะ ไม่คิดว่ามาเดือนนี้แล้วจะไม่เจอฝน ใส่แต่แจ็คเก็ตผ้ายืดมา พอกันได้บ้างนิดหน่อย ทางเดินเข้าไปมีคนรีวิวไว้ว่าประมาณ 750 เมตร เราซื้อตั๋วเข้าไปแต่ Yehliu Geopark คนละ 80 nt เข้าไปก็เดินคะ ไปดูหินรูปแปลก ๆ ซึ่งเกิดจากการกัดเซาะของคลื่น และการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก เขาว่าไว้แบบนั้น
จุดไฮไลท์ของที่นี่คะ หินรูป "หัวราชินี"
ออกจากเย่หลิวเราก็ไปเมืองเก่าจิ่วเฟื่น (Jiufen Old Street) เราออกมาตามทางที่เราเดินเข้าไป ตามรีวิวบอกให้เราข้ามถนนไปรอรถบัสสาย 790 เพื่อที่จะไปยังเมืองจีหลง (Keelung) จุดสังเกตคือจะมีสะพานลอยขนาดใหญ่สีฟ้าหลังคาเหลืองให้ลงที่ป้ายนั้น แล้วเดินข้ามสะพานลอยไปอีกฝั่ง ลงสะพานด้านขวา จะเจอป้ายรถเมล์ซึ่งอยู่หน้าร้าน Family Mart และรอรถบัสสาย 788 นั่งไปประมาณ 50 นาที ก็จะถึงจิ่วเฟิ่น จุดนี้จะมีคนลงแยะมาก เราก็ลงตาม ลงไปเจอฝนเทลงมาเหมือนฟ้าโกรธใครมาไม่รู้ ยิ่งกว่าลูกหมาตกน้ำอีก คนก็แยะมาก ๆ เดินลุยฝนแทบไม่ได้เดินดูของ หรือไม่ได้แวะชิมอะไรเลย
ข้อมูลนี้ก็มีประโยชน์มากค่ะ ขอบคุณผู้ที่ให้ข้อมูลไว้อย่างสูงเลยคะ
แล้วยังเดินหลงหากันไม่เจออีก จะแวะทานข้าวเย็น คนก็แยะไปหมด ดีที่มีเนตก็ไลน์หากัน กว่าจะเจอ....เซ็งมาก..... พอเจอกันก็ตัดสินใจกลับดีกว่า เราก็กลับไปขึ้นรถตรงจุดที่เราลง ฝนก็ตก ปรากฏว่าจุดนั้นเป็นจุดลงรถ ไม่ใช่จุดขึ้นรถกลับไทเป จุดขึ้นรถกลับเราจะต้องเดินย้อนขึ้นไปอีก ทุลักทะเล จิ่วเฟิ่นในวันนี้สำหรับเรา 'เธอไม่สวย เหมือนอย่างที่ฉันฝันไว้ก่อนมาเลย' ขากลับเรารอรถบัสสาย 1062 คนรถขึ้นแยะมาก ฝนก็ตก มีแต่คนไทยที่แย่งกันขึ้น 555 เราได้นั่งยาว เรานั่งมาลงสุดสาย เป็นห้างโซโก้คะ แล้วเข้าไปเดินกะว่าจะทานมื้อเย็นกันที่นี่ แต่ด้วยพวกเราเปียกปอนยันรองเท้าที่ใส่เลย บางคนเหมือนจะไข้ขึ้น จึงกลับออกมานั่งแท็กซี่กลับที่พัก มาแวะทานอาหารร้านหน้าปากซอยโรงแรม เป็นอาหารจานเดียว พอทานเสร็จก็แยกย้าย ขึ้นห้องก็อาบน้ำ เสื้อผ้า รองเท้าถุงเท้า ชื่นไปด้วยน้ำฝน คืนนี้ต้องพึ่งพาราเซท ซะหน่อย
จะไปไหนนั้น ค่อยว่ากันพรุ่งนี้คะ ราตรีสวัสดิ์...วันต่อไป >>> https://pantip.com/topic/36473338