"น้ำเซาะทราย" มากกว่าความเป็นละคร
#น้ำเซาะทราย
ข้อคิดจากละครเรื่องนี้ลอง
อ่านหลายๆความคิดเห็นที่เข้ามาร่วมพูดคุยกันส่วนมากจะให้ข้อคิดที่เน้นไปถึงความเป็นครอบครัว...
แต่ส่วนตัวความคิดที่ได้จากน้ำเซาะทราย...คือ
#ความฉลาดของมนุษย์มีน้อยกว่าความอยากเสมอ
เมื่อไหร่ที่มีความอยากเกิดขึ้น....ให้เก่งหรือฉลาดแค่ไหน...ก็สามารถทำในสิ่งที่ใครๆมองว่าโง่ได้
ภีม วรรณรี พุดกรอง พงษ์สนิท ทวยหาญ....ตัวละครเกือบทุกคนในเรื่องล้วนต่างเป็นคนที่ภาวะ
ต้นทุน และฐานชีวิต...ที่สูงแล้ว....ละครชี้ให้คนดูรูสึกได้ว่า....ถ้าเป็นเรื่องของความรู้สึก...มันควบคุมไม่ได้จริงๆ....มันดูไร้ขอบเขตและเหตุผลไปทันที
ในหน้าที่ของความเป็นพ่อและแม่...ทั้งภีม วรรณรี
และพุดกรอง....ต่างไม่บกพร่องในส่วนนี้...ในความเป็นครูก็ยังทำหน้าที่ได้ครบถ้วน.....ละครจัดและแยกส่วนนี่ออกมาได้ชัดเจน....ให้เราได้คิดว่าการจัดการปัญหาในแบบของคนที่มาก ด้วยวัยและประสบการณ์นั้นต่างกัน....ปอ ป่าน หรือ จ้าน...
เมื่อรับรู้ปัญหาของพ่อกับแม่...ก็มีสติรู้คิดและแยกแยะได้...ว่าคือปัญหาของผู้ใหญ่...บทบาทในหน้าที่ของลูกที่ถูกต้องควรทำเช่นไร...ไม่ก้าวมาวุ่นวาย....ในจุดนี้แสดงออกถึงการอบรบ และเลี้ยงดูมาดีของ...ภึม วรรณรี และพุดกรอง....ที่สะท้อน
ให้ฉุกคิดได้ว่า...เลี้ยงลูกอย่างไรถึงจะให้พร้อมเผชิญกับปัญหา ในครอบครัวที่เกิดขึ้นได้......
#คนเราเหลือค่าตรงที่รู้จักจัดคืน.....เมื่อมีสิ่งผิดพลาดเกิดขึ้นแล้ว....จะแก้ไขอย่างไรให้ถูกต้อง
เรื่องราวเหตุการณ์ในละครอาจแค่สะท้อนและข้อคิด. ได้ในบางส่วนด้วยพื้นฐานของตัวละครในเรื่อง แตกต่างกับคนดูที่หลากหลายวัยมากกว่า
เวลาดูอาจจะมีความคิดแบบนั้น แบบนี้....แต่ถ้าดู
แล้วมีเสี้ยวความคิดที่ว่า..."ไม่ได้อยู่ในจุดๆเดียวกับเค้า...อย่าไปตัดสินดีกว่า"......
ขอบคุณ...ช่อง7. ดาราวีดีโอ....ที่สร้างละครที่เรียลทางความคิดให้กับคนดู.....ตั้งแต่ดูตอนแรกจนถึงตอนนี้ละครไม่ได้ชี้ชัดลงไป...ว่าการกระทำของตัวละครถูกหรือผิด...แต่ให้คนดูตัดสินเองผ่านความคิด และ ผลของการกระทำ...ที่เกิดขึ้นกับตัวละครนั้นๆเอง......#น้ำเซาะทราย
"น้ำเซาะทราย" มากกว่าความเป็นละคร
#น้ำเซาะทราย
ข้อคิดจากละครเรื่องนี้ลอง
อ่านหลายๆความคิดเห็นที่เข้ามาร่วมพูดคุยกันส่วนมากจะให้ข้อคิดที่เน้นไปถึงความเป็นครอบครัว...
แต่ส่วนตัวความคิดที่ได้จากน้ำเซาะทราย...คือ
#ความฉลาดของมนุษย์มีน้อยกว่าความอยากเสมอ
เมื่อไหร่ที่มีความอยากเกิดขึ้น....ให้เก่งหรือฉลาดแค่ไหน...ก็สามารถทำในสิ่งที่ใครๆมองว่าโง่ได้
ภีม วรรณรี พุดกรอง พงษ์สนิท ทวยหาญ....ตัวละครเกือบทุกคนในเรื่องล้วนต่างเป็นคนที่ภาวะ
ต้นทุน และฐานชีวิต...ที่สูงแล้ว....ละครชี้ให้คนดูรูสึกได้ว่า....ถ้าเป็นเรื่องของความรู้สึก...มันควบคุมไม่ได้จริงๆ....มันดูไร้ขอบเขตและเหตุผลไปทันที
ในหน้าที่ของความเป็นพ่อและแม่...ทั้งภีม วรรณรี
และพุดกรอง....ต่างไม่บกพร่องในส่วนนี้...ในความเป็นครูก็ยังทำหน้าที่ได้ครบถ้วน.....ละครจัดและแยกส่วนนี่ออกมาได้ชัดเจน....ให้เราได้คิดว่าการจัดการปัญหาในแบบของคนที่มาก ด้วยวัยและประสบการณ์นั้นต่างกัน....ปอ ป่าน หรือ จ้าน...
เมื่อรับรู้ปัญหาของพ่อกับแม่...ก็มีสติรู้คิดและแยกแยะได้...ว่าคือปัญหาของผู้ใหญ่...บทบาทในหน้าที่ของลูกที่ถูกต้องควรทำเช่นไร...ไม่ก้าวมาวุ่นวาย....ในจุดนี้แสดงออกถึงการอบรบ และเลี้ยงดูมาดีของ...ภึม วรรณรี และพุดกรอง....ที่สะท้อน
ให้ฉุกคิดได้ว่า...เลี้ยงลูกอย่างไรถึงจะให้พร้อมเผชิญกับปัญหา ในครอบครัวที่เกิดขึ้นได้......
#คนเราเหลือค่าตรงที่รู้จักจัดคืน.....เมื่อมีสิ่งผิดพลาดเกิดขึ้นแล้ว....จะแก้ไขอย่างไรให้ถูกต้อง
เรื่องราวเหตุการณ์ในละครอาจแค่สะท้อนและข้อคิด. ได้ในบางส่วนด้วยพื้นฐานของตัวละครในเรื่อง แตกต่างกับคนดูที่หลากหลายวัยมากกว่า
เวลาดูอาจจะมีความคิดแบบนั้น แบบนี้....แต่ถ้าดู
แล้วมีเสี้ยวความคิดที่ว่า..."ไม่ได้อยู่ในจุดๆเดียวกับเค้า...อย่าไปตัดสินดีกว่า"......
ขอบคุณ...ช่อง7. ดาราวีดีโอ....ที่สร้างละครที่เรียลทางความคิดให้กับคนดู.....ตั้งแต่ดูตอนแรกจนถึงตอนนี้ละครไม่ได้ชี้ชัดลงไป...ว่าการกระทำของตัวละครถูกหรือผิด...แต่ให้คนดูตัดสินเองผ่านความคิด และ ผลของการกระทำ...ที่เกิดขึ้นกับตัวละครนั้นๆเอง......#น้ำเซาะทราย