สวัสดีค่ะพี่น้องชาวพันทิป วันนี้เป็นฤกษ์ดีที่อยากมารีวิวหลังจากพาน้องหมาที่บ้านไปบริจาคเลือดมาที่โรงพยาบาลสัตว์เกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ค่ะ จริงๆ บ้านเราพาน้องหมาไปบริจาคที่นี่หลายครั้งแล้ว รู้สึกดีทุกครั้งที่ได้พาน้องหมามาช่วยหมาตัวอื่น น้องหมาเราก็ไม่ได้ขัดขืนเลย นายแมนมาก! วันนี้ เราเลยอยากมาเขียนรีวิวแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆ ได้ดูกันว่าการพาน้องหมามาบริจาคเลือด ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดเลย โดยครั้งนี้มีเพื่อนร่วมทริปด้วยกัน 6 ตัว แต่ละตัวตัวใหญ่ทั้งนั้น คือ นินจา พันธุ์อลาสกัน โนว่า, โทร่า, โลกิ, โมจิ พันธุ์โกลเดน รีทรีฟเวอร์ และเราก็ยังชวนเพื่อนมาร่วมบริจาคด้วย คือน้องอลิส พันธุ์ทิเบตันนั่นเอง
ก่อนอื่นเรามารู้ถึงคุณสมบัติเบื้องต้นที่ธนาคารเลือดต้องการกันก่อน คือน้องหมาต้องมีร่างกายแข็งแรง ฉีดวัคซีนครบถ้วน อายุหนึ่งขวบขึ้นไป แต่ต้องไม่เกิน 7 ขวบ และน้ำหนักต้องหนัก 17 กิโลขึ้นไป แต่ถ้าเป็นเพศเมียต้องรอให้หมดประจำเดือนก่อน ซึ่งน้องหมาที่บ้าน ผ่านหมดจ้า ทีนี้ ก็เตรียมตัวให้พร้อมเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนของการเป็นสุนัขฮีโร่กันได้เลย โฮ๊ะๆ
วันนี้เราจะมารีวิวกันให้ดูอย่างละเอียดทุกขั้นตอนเลยค่ะ ว่าการบริจาคเลือดสุนัขนั้นไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดจริงๆๆนะ ให้เจ้าของสบายใจได้ค่ะ มาดูกันตั้งแต่ต้นเลยดีกว่า เริ่มด้วยที่พาน้องๆ มาถึงที่โรงพยาบาลสัตว์เกษตรตั้งแต่ 14.30 พอมาถึงก็วิ่งไปทั่ว ตื่นเต้นกันใหญ่เลย
โทร่าช่วยถือของด้วย
ต่อมาก็พาน้องหมาไปที่ตึกเก่าของโรงพยาบาลสัตว์เกษตร ขึ้นลิฟท์ไปที่ธนาคารเลือดที่ชั้นสามเลย ก็เจออลิส มานั่งรอก่อนแล้ว
ยังมีเพื่อนๆ สี่ขามารอบริจาคเลือดเหมือนกันด้วยค่ะ
พอมาถึงธนาคารเลือด ก็พาน้องหมามาตากแอร์เย็นๆ กันที่ห้องพัก รอพี่พยาบาลเจาะเลือดเพื่อนำไปตรวจ ดูว่าตัวไหนที่จะผ่านคุณสมบัติไปบริจาคได้
อุปกรณ์พร้อมแล้วว เตรียมตัวกันได้เลย !
ในการเจาะเลือด เพื่อนำไปตรวจถึงคุณสมบัติในเลือดของสุนัข คุณพยาบาลจะเจาะที่เส้นเลือดบริเวณ
ขาขวาของน้องค่ะ
โมจิ ให้ความร่วมมือเต็มที่
ระหว่างนี้ก็รอผลประมาณ 45 นาทีค่ะ แต่หลังจากเจาะเลือดไปแล้ว น้องหมาก็ยังไม่หยุดคึก ยังเล่นกันไม่หยุด
พานินจามาชั่งน้ำหนักรอค่ะ
ผ่านไปประมาณ 45 นาที คุณพยาบาลนำผลเลือดมาแล้วว ! ผู้ที่ผ่านเข้ารอบก็คือ นินจา โทร่า และ โลกิ สามตัวค่ะ ! ส่วน โนว่า โมจิ อลิส วันนี้ยังไม่สามารถบริจาคได้ เพราะคุณพยาบาลบอกว่ามีโนว่ามีค่าตับสูงเกินมาตราฐานไปหน่อย โมจิ อายุเกินเกณฑ์ 7 ปี ส่วนพี่อลิสเกร็ดเลือดต่ำเนื่องจากพยาธิเม็ดเลือด T^T ดีนะ ได้ตรวจสุขภาพแบบฟรีๆ ไปด้วยเลยนะเนี่ย
หลังจากนั้นก็ เข้าห้องปฏิบัติการกันเลย
ขั้นตอนการบริจาคเลือดคือต้องให้น้องหมานอนตะแคงซ้าย เพื่อให้คุณพยาบาลนำปัตตาเลี่ยนมาโกนขนที่คอเพื่อให้สามารถเจาะเลือดได้อย่างแม่นยำ หากเค้าดื้อไม่ยอมทำตาม จะต้องให้ยาซึม เพื่อให้น้องหมามีอาการนิ่ง และยอมนอนตะแคง แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ หากบริจาคเสร็จทางคุณหมอจะมียาถอนยาซึมให้อีกทีแล้วน้องหมาก็จะร่าเริงเหมือนเดิมค่ะ
โทร่า หมาฮีโร่ผู้กล้าหาญตัวแรก เตรียมพร้อมแล้วงับ !
การบริจาคเลือดครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายของโทร่า ! เพราะโทร่าอายุ 7 ขวบพอดีค่ะ T^T
โทร่าคนเก่งของแม่เชื่อฟังดีมาก นอนสบายๆ รอเลย
หลังจากที่โกนขนเสร็จแล้วคุณพยาบาลก็จะทาแอลกอฮอล์และยาแดงให้ก่อนเจาะเลือดค่ะ
ในขณะที่โทร่ากำลังให้เลือดอยู่ เค้าก็ไม่ได้ขัดขืนอะไรแถมไม่ร้องด้วย ภูมิใจมากค่ะ
ต่อกันด้วยตัวที่สองกับ โลกิจ้า เอ้า พร้อม !
โลกิก็เชื่อฟัง ป๊ะป๋ากับม่าม๊าดีมาก ไม่ดิ้น ไม่ขัดขืนเลย^^
ตอนที่โลกิให้เลือดอยู่ ก็นอนนิ่งๆ ยินยอมทุกอย่าง ไม่ได้ขัดขืนอะไรด้วยค่ะ
ต่อมาก็ถึงตานินจาแล้ว ! พี่ๆ มาให้กำลังในกันเต็มเลย
นินจา ตอนขึ้นเตียงก็รู้สึกตื่นเต้น ประหม่าเล็กน้อย มีขัดขืนบ้าง แต่สุดท้ายก็ได้กำลังใจจากป๊ะป๋าไป เลยยอมนอนค่ะ
แต่หลังจากเจาะเลือดแล้ว มียื่นหน้ามาอวดความแมนด้วยน๊า
โทร่า โลกิ โมจิ โนวา ก็มานอนเชียร์นินจา ถึงขอบเตียง
ทุกทีสุนัขจะบริจาคได้ตัวละ 350-450 CC ต่อตัว ขึ้นอยู่กับน้ำหนักของน้องหมา แต่บ้านเราบริจาคได้ตัวละ 450 CC รวมทั้งสิ้นสามารถให้เลือดแก่ธนาคารเลือดได้ถึง 1,350 CC เลยค่ะ
น้องหมาตัวไหนที่ได้ผ่านการบริจาคเลือด ก็ยังจะได้รับผ้าพันคอฮีโร่จากธนาคารเลือดเพื่อแสดงถึงความกล้าหาญอีกด้วยค่ะ
หลังจากที่บริจาคเลือดแล้ว เด็กๆ ก็ยังคงร่าเริงเป็นปกติค่ะ แถมคุณหมอยังบอกอีกว่าการบริจาคเลือดจะทำให้น้องหมาแข็งแรงขึ้นอีกด้วย เพราะร่างกายของน้องหมาจะผลิตเซลล์เลือดใหม่ขึ้นมา เห็นไหมคะ ว่าการบริจาคเลือดไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดเลย แถมได้ตรวจสุขภาพน้องๆ ไปด้วยเลย
นอกเหนือจากการตรวจสุขภาพแล้ว นินจา, โทร่า และ โลกิ ก็ยังได้ของตอบแทนจากโรงพยาบาลอีกด้วย หากนำมาบริจาค 1 ครั้ง จะได้รับยาเห็บหมัด พยาธิหนอนหัวใจ ฟรี! หากมาบริจาค 2 ครั้ง จะได้รับ ยาเห็บหมัด พยาธิหนอนหัวใจ+วัคซีนรวม+พิษสุนัขบ้า ฟรี! และถ้าหากมาบริจาค 10 ครั้ง น้องหมาก็จะได้รับฟรีทุกอย่างจากโรงพยาบาลตลอดชีวิตเลย !
แถมครั้งนี้ยังมีของสมนาคุณจากโครงการ Bar B Q FULFILL จากบาร์บีคิวพลาซ่า เป็นอาหารเม็ดด้วยกันตัวละ 1 ถุงใหญ่ แทนคำขอบคุณให้กับนินจา, โทร่า และโลกิ ที่ช่วยต่อชีวิตเพื่อนสี่ขาด้วยกันอีกด้วย
เรามีความสุขและอิ่มใจทุกครั้งหลังจากที่พาน้องหมาที่บ้านมาบริจาคเลือด แถมยังรู้สึกภูมิใจที่น้องหมาบ้านเราเป็นฮีโร่ช่วยเหลือเพื่อนๆ สี่ขาด้วยกันอีกด้วย ยังมีน้องหมาอีกหลายตัวที่ก็ต้องการเลือดอยู่เหมือนกัน ลองคิดดูว่าหากวันไหนน้องหมาบ้านเราเกิดป่วยต้องการเลือดขึ้นมา แล้วมีน้องหมาตัวอื่นๆ มาช่วยให้เลือด เราต้องดีใจมากแน่ๆ ค่ะ ใครอยากพาเด็กๆ ที่บ้านมาบริจาคเลือด เพื่อเก็บไว้ช่วยเหลือเหล่าน้องหมาที่ต้องการเลือดก็มากันได้นะคะ ^_^
[รีวิว] พานินจาแอนด์เดอะแก๊งค์ไปบริจาคเลือด หมาแฮปปี้มากกว่าที่คิด^^
ก่อนอื่นเรามารู้ถึงคุณสมบัติเบื้องต้นที่ธนาคารเลือดต้องการกันก่อน คือน้องหมาต้องมีร่างกายแข็งแรง ฉีดวัคซีนครบถ้วน อายุหนึ่งขวบขึ้นไป แต่ต้องไม่เกิน 7 ขวบ และน้ำหนักต้องหนัก 17 กิโลขึ้นไป แต่ถ้าเป็นเพศเมียต้องรอให้หมดประจำเดือนก่อน ซึ่งน้องหมาที่บ้าน ผ่านหมดจ้า ทีนี้ ก็เตรียมตัวให้พร้อมเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนของการเป็นสุนัขฮีโร่กันได้เลย โฮ๊ะๆ
วันนี้เราจะมารีวิวกันให้ดูอย่างละเอียดทุกขั้นตอนเลยค่ะ ว่าการบริจาคเลือดสุนัขนั้นไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดจริงๆๆนะ ให้เจ้าของสบายใจได้ค่ะ มาดูกันตั้งแต่ต้นเลยดีกว่า เริ่มด้วยที่พาน้องๆ มาถึงที่โรงพยาบาลสัตว์เกษตรตั้งแต่ 14.30 พอมาถึงก็วิ่งไปทั่ว ตื่นเต้นกันใหญ่เลย
ขาขวาของน้องค่ะ
ผ่านไปประมาณ 45 นาที คุณพยาบาลนำผลเลือดมาแล้วว ! ผู้ที่ผ่านเข้ารอบก็คือ นินจา โทร่า และ โลกิ สามตัวค่ะ ! ส่วน โนว่า โมจิ อลิส วันนี้ยังไม่สามารถบริจาคได้ เพราะคุณพยาบาลบอกว่ามีโนว่ามีค่าตับสูงเกินมาตราฐานไปหน่อย โมจิ อายุเกินเกณฑ์ 7 ปี ส่วนพี่อลิสเกร็ดเลือดต่ำเนื่องจากพยาธิเม็ดเลือด T^T ดีนะ ได้ตรวจสุขภาพแบบฟรีๆ ไปด้วยเลยนะเนี่ย
ขั้นตอนการบริจาคเลือดคือต้องให้น้องหมานอนตะแคงซ้าย เพื่อให้คุณพยาบาลนำปัตตาเลี่ยนมาโกนขนที่คอเพื่อให้สามารถเจาะเลือดได้อย่างแม่นยำ หากเค้าดื้อไม่ยอมทำตาม จะต้องให้ยาซึม เพื่อให้น้องหมามีอาการนิ่ง และยอมนอนตะแคง แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ หากบริจาคเสร็จทางคุณหมอจะมียาถอนยาซึมให้อีกทีแล้วน้องหมาก็จะร่าเริงเหมือนเดิมค่ะ
หลังจากที่บริจาคเลือดแล้ว เด็กๆ ก็ยังคงร่าเริงเป็นปกติค่ะ แถมคุณหมอยังบอกอีกว่าการบริจาคเลือดจะทำให้น้องหมาแข็งแรงขึ้นอีกด้วย เพราะร่างกายของน้องหมาจะผลิตเซลล์เลือดใหม่ขึ้นมา เห็นไหมคะ ว่าการบริจาคเลือดไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดเลย แถมได้ตรวจสุขภาพน้องๆ ไปด้วยเลย
นอกเหนือจากการตรวจสุขภาพแล้ว นินจา, โทร่า และ โลกิ ก็ยังได้ของตอบแทนจากโรงพยาบาลอีกด้วย หากนำมาบริจาค 1 ครั้ง จะได้รับยาเห็บหมัด พยาธิหนอนหัวใจ ฟรี! หากมาบริจาค 2 ครั้ง จะได้รับ ยาเห็บหมัด พยาธิหนอนหัวใจ+วัคซีนรวม+พิษสุนัขบ้า ฟรี! และถ้าหากมาบริจาค 10 ครั้ง น้องหมาก็จะได้รับฟรีทุกอย่างจากโรงพยาบาลตลอดชีวิตเลย !
แถมครั้งนี้ยังมีของสมนาคุณจากโครงการ Bar B Q FULFILL จากบาร์บีคิวพลาซ่า เป็นอาหารเม็ดด้วยกันตัวละ 1 ถุงใหญ่ แทนคำขอบคุณให้กับนินจา, โทร่า และโลกิ ที่ช่วยต่อชีวิตเพื่อนสี่ขาด้วยกันอีกด้วย
เรามีความสุขและอิ่มใจทุกครั้งหลังจากที่พาน้องหมาที่บ้านมาบริจาคเลือด แถมยังรู้สึกภูมิใจที่น้องหมาบ้านเราเป็นฮีโร่ช่วยเหลือเพื่อนๆ สี่ขาด้วยกันอีกด้วย ยังมีน้องหมาอีกหลายตัวที่ก็ต้องการเลือดอยู่เหมือนกัน ลองคิดดูว่าหากวันไหนน้องหมาบ้านเราเกิดป่วยต้องการเลือดขึ้นมา แล้วมีน้องหมาตัวอื่นๆ มาช่วยให้เลือด เราต้องดีใจมากแน่ๆ ค่ะ ใครอยากพาเด็กๆ ที่บ้านมาบริจาคเลือด เพื่อเก็บไว้ช่วยเหลือเหล่าน้องหมาที่ต้องการเลือดก็มากันได้นะคะ ^_^