[ ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่า ]
การตั้งกระทู้นี้ขึ้น นอกจากอยากทำรีวิวให้คนที่สนใจได้อ่าน
ยังเป็นการทำขึ้นเพื่อทบทวนเรื่องราวสนุกสนาน เฮฮา ในช่วงการเดินทางท่องเที่ยวกับเพื่อนเพื่อนของผมอีกด้วย
หรือ หากพูดตามจริง สิ่งที่ต้องการทำขึ้นอาจเรียกว่าบันทึกการเดินทางมากกว่ารีวิว ก็ได้ ฮ่าๆๆ
หากไม่ตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการดูรีวิวเป็นแนวทางก็ต้องขอโทษล่วงหน้าเลยนะครับ
ก่อนที่จะมาปักหมุด ว่าจะมาเที่ยวที่ "เวียดนาม" เราได้ดูหลายที่อยู่เหมือนกัน
ไม่ว่าจะเป็น จางเจียเจี้ย ฮ่องกง ไต้หวัน เวียดนาม.... แต่ท้ายสุดด้วยความอยากเที่ยวกันหลายๆ คน ภายใต้งบประมาณที่สบายใจกันทู้กกกกกกคน 5555
เราจึงตัดสินใจเที่ยว ที่เวียดนามกันเลย เอ๊ะ !! แต่เดี๋ยวนะ
เราเน้นกันก่อนหน้านี้ว่า "
เที่ยวภายใต้งบประมาณที่น่าจะสบายใจ" แล้วไมตอนกลับ กระเป๋าตูแหกแบบนี้ ไว้อาลัยให้ตัวเองแพร็บบบ
♥ หลังจากปักหมุดเลือกประเทศที่จะไปได้แล้ว
♥ เราก็มาเลือกสถานที่ตัวเมืองที่เราจะไป โดยเมืองที่จะไป คือ #โฮจิมินท์ #ดาลัด และ #มุยเน่
♥ หลังจากที่เลือกที่เที่ยวและไว้อาลัยให้ตัวเองเสร็จแล้ว 3 วิ มาเข้าเรื่องกันเลย......
ผมจะขออธิบายในส่วนของค่าใช้จ่ายโดยรวมที่เราได้ทำการจัดการ ก่อนบินตรงไปที่นั่นนะครับ
ซึ่งประกอบไปด้วย การจองที่พัก ค่าเครื่อง+ค่าโหลดน้ำหนักกระเป๋า
1. ค่าเครื่องจากไทย-โฮจิมินท์ สายการบินแอร์เอเชีย + นน.กระเป๋าพร้อมโหลด 40 กิโล แชร์ นน. กัน 6 คน ตกคนละ 4390 บาท (ถ้าใครจองได้ตั๋วถูกก็ฟินจิกหมอนกันไปนะครัชช)
2. ค่าเครื่องจากโฮจิมินท์-ดาลัด สายการบินเวียดเจ็ท + นน.เป๋าพร้อมโหลด 40 กิโล แชร์ นน. กัน 6 คน ตกคนละ 1211 บาท
3. ค่าที่พัก 3 คืน
3.1 Iris Hotel @ Dalat ตกคนละ 638 / คืน / คน (นอน 2 คืน)
3.2 Muong Thanh Hotel @ Muine ตกคนละ 797/คืน (นอนคืนเดียว)
• โดยค่าใช้จ่ายที่เราได้จ่ายล่วงหน้า ก็มีประมาณนี้ครับ ตกคนละ 7674 บาท / คน
พอเห็นยอดนี้มา เอ้าเฮ้ยยยยย แค่ที่พัก+ค่าเครื่อง ก็เท่ากับ เซฟทริป ของคนอื่นแล้ว ขอหายใจลึกๆ 1..2..1..2.. อีกซักแปป 5555+
ณ ตอนนั้น ก็ยังให้กำลังใจกันเองว่า เออคงไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรเยอะแยะแล้วล่ะ หลักๆ จัดการหมดแล้ว คงสบาย สรุป.......?
เดี๋ยวตามมาดูกัน......ครับ
Day1. Check-in พร้อมโหลดเป๋า @สนามบินนานาชาติดอนเมือง (มีความให้เกียรติสถานที่นิสนึง ได้เช็คอินที่ดอนเมืองเลยนะ เอิ่มมมม...ดีใจฝุดฝุด)
- เช็คอินตั้งแต่ 05.20 น. เปิดเกท 07.15 น.กลัวตกเครื่องกันถ้วนหน้า เพราะทริปก่อน เจอจัดชุดหนักกันมาละ 555555
- ถึงสนามบิน ทาน ซอน แนต (SGN) @ โฮจิมินท์ ราวๆ 09.25 น. เวลาเหมือนไทยเลยครับ ไม่ต้องปรับไรเลย
- หลังจากรับสัมภาระเรียบร้อย ตรงดิ่งมาข้างหน้ามาซื้อซิมเน็ต ผมเลือกใช้งานเน็ตได้ 6GB. ราคา 6$ เอาจริงๆ ไม่ต้องใช้เยอะขนาดนี้ก้ได้ เพราะพวกผม เหลือกันเยอะมาก ไปดูพวก 5 GB. ก็พอ
- และแล้วเรื่องที่ไม่ควรเกิด ก็ดันเกิด เมื่อสมาชิกทริปเรา ดันลืมมือถือ บนเครื่อง มารู้ตัวตอนซื้อซิมจะเปลี่ยนซิมใช้ ( มันคิดได้นะเพื่อนผม ด้วยความที่มันเป็นคนขี้ลืม มันดันแหย่มือถือลงช่องเก็บของด้านหน้าที่นั่งของผู้โดยสารที่ไว้ใส่พวกเอกสารคู่มือขณะนั่งเครื่องกับพวก Magazine ) ใครชอบลืม อย่าเผลอเอาของไปเก็บไว้ตรงนั้นนะครับ
ทำไงล่ะทีนี้ วิ่งกันตาเหลือกสิครัช รอไร ไปถามเจ้าหน้าที่ Tourist Information เค้าแนะนำให้ไปติดต่อ Lost & Found ก็ไปทำเรื่องไว้ สรุปเครื่องบินกลับมาไทยแล้วจ๊า อดสิครับคุณผู้ชม แต่เดชะบุญของเพื่อนผมนะ เพราะท้ายสุด ทางแอร์เอเชียได้เก็บไว้ให้ ต้องมารับมือถือวันกลับไทย

ตัวปัญหานั่งอยู่ด้านหลัง น่าหงิกๆ อยู่นั่นละครับ

○ หลังจากหัวหมุนเรื่องของหาย ก็เตรียมตัวไปเที่ยวกันต่อ โดยสิ่งที่เราจะทำต่อไปคือ เอาไอ้สัมภาระมหาศาลของแต่ละคนไปโยนทิ้งก่อน เอ้ยย !! ไม่ใช่ เอาไปฝากก่อน ที่สนามบินจะมีบริการรับฝากสัมภาระนะครับ
ให้เดินมาทางออกละเลี้ยวขวาไปแถวเบอร์เกอร์คิงครับ จะเห็นห้อง Locker room ฝากสัมภาระ พวกผมจะฝากสัมภาระ 6 ชม. แต่น้องเค้าถามว่ามีไฟลท์บินกี่โมง
เราก็บอกว่ามี 18.20 น. น้องแกใจดีเกิ้นน มี ไซโคกูเบาๆ ให้มาถึงตั้งแต่ บ่าย 3 อารมแบบว่าไม่มามีตกเครื่องนะ ไอ้เราก็ ห๊ะ !!
จะเที่ยวไหนทันมั๊ย แต่ด้วยความกลัวตกเครื่อง ก็เอาๆ กลัวรถติด เดี๋ยวตกเครื่อง แต่ที่ดีมากมาก คือ น้องเค้าคิดค่าฝากแค่ 4 ชม. แต่พวกผมล้อไป 5 ชม. ไม่เก็บเพิ่ม (โดนค่าฝากไปคนละ 100++ บาท)
หลังจากฝากเป๋าเสร็จ ก็ลุยกันเลย ไปไหนดีน๊อ? ที่โฮจิมินท์แห่งนี้ ภายใต้เวลาอันน้อยนิด สิ่งที่เราเลือกไปก็คือ
- ตลาดเบนถัน โดยเรียกรถแท็กซี่ 7 ที่นั่งของ Vinasun จากสนามบินยิงยาวมาเลย

ที่นี่รถเยอะมากมาก ทั้งรถยนต์ มอไซต์ ที่สำคัญ บีบแตรกันราวกับกูอยู่ในสนามรบ จะอะไรขนาดนั้น ยังคุยกับเพื่อนเล่นๆ ว่าถ้ามาเมืองไทยนี่พวกลูกพี่แกคงขับไม่เกินซอย โดนสอยร่วงกลางซอยแน่ๆ 5555+

หลังจากนั้นก็เดินวนๆ ในตลาด แล้วไปแลกเงินที่ร้านทอง แถวทางเดียวกับ Pho 2000 ที่ขึ้นชื่อ
กว่าจะทำอะไรเสร็จก็เที่ยง งั้น ไปจัดมื้อแรก กันเลย ที่ Pho2000 ♥


• มื้อแรกก็จัดกันเบาๆ 1,150,000 ดอง เอ้งงงงงงงงง
วันที่ไปกินแรกๆ ยังไม่เอ๊ะ ไม่อ๊ะ อะไร นึกว่าไม่กี่บาท มองว่าค่าเงินบ้านเค้าเลขเยอะๆ คงไม่เท่าไหร่ พอมานั่งคำนวณก่อนวันกลับ มือกุมหัว นี่มื้อแรกเราฟัดไป 1700+ กว่าแล้วหรอวะ ไม่แปลกใจที่เงินหายไปไวมากราวกับปลิวหายไป
** ขอเน้น ขีดเส้นใต้ไว้ 18 เส้น ไปเลย ถ้าคุณจะจัดเต็มในการกิน ราคาก็จัดเต็มเช่นกัน จำไว้ครับ ค่าครองชีพเวียดนามไม่ได้ต่างจากเราเลย
หลังจากอิ่มท้องกันแล้ว ก็นั่งคุยกันว่าจะไปเที่ยวต่อที่ Notre-Dame กับ Central Post Office ของ โฮจิมินท์ โบกแท็กซี่ โบกแล้ว โบกเล่า ไม่รับกูสักกกกกคัน
สรุป เดินย่อยกันไป แต่ระยะทางก็ไม่ไกลมากนะครับ เดินสบายๆ ได้อยู่ แต่ที่ไม่สบายคือ อากาศนี่ละ ร้อนนนนนนได้ใจ
เข้าคอนเซ็ปเลย หนีร้อนมาเจอร้อน ชีวิตดี้ดี 55555+

หลังจากเดินมาถึง
Notre-Dame เฮ้ยมันสวยจีๆ เห็นแล้วชอบเลย ไม่แปลกใจที่เวียดนามได้ฉายาปารีสตะวันออก
ถ้าจะดีกว่านี้หน่อย อากาศน่าจะเย็นอีกหน่อย ☺☺


พอตะลุยถ่ายตรงนี้กันเสร็จ ก็เดินข้ามถนนไปอีกนิส นิดเดียวจริงๆ ก็ถึง "
ไปรษณีย์กลางโฮจิมินท์"
รอไรอีก ตะลุยถ่ายรูปกันต่อสิครับ...

เห็นบางคนที่ไปเค้าถ่ายรูปสวยมาก พอเห็นตัวเองถ่ายกันเอง รู้เลย มือสมัครเล้นเล่น ---- ที่มาของคำว่าสมัครเล่น คือพวกตูนี่เอง

หลังจากเที่ยวพอหอมปากหอมคอ ร่างกายต้องการแอร์และเครื่องดื่มเย็นๆ เหลือบมองไปเห็น Mister Donut ที่อยู่แถวไปรษณีย์กลาง
ไม่พูดพล่ามทำเพลงตรงดิ่งไปเลยครัช ไปนั่งแช่จนหายเหนื่อยค่อยตั้งหลักกันใหม่
สรุปนั่งไปนั่งมา ก็ถึงเวลาต้องไปรับกระเป๋า ไปเรียกแท็กซี่ Vinasun แถวไปรษณีย์กลาง
บอกเลย
"พลาดมักมากกกก" เจอแท็กซี่นรกเข้าให้ โกงเงินทอน+เรียกค่าทางด่วนบอกว่าเราต้องออกให้เพราะเค้าอุตส่าห์มาส่งสนามบิน
"งง งง งง งง และ ก็ งง " พอเราพูดไรไป ก็พูดแต่ ticket 100,000 ละเราถามไร ก็ไม่รู้เรื่อง สรุปโดนไกงกันไป ตอนนั้น ก็ยังชิวๆ ไม่คิดไร
เพราะคิดว่าคงไม่แปลกเค้าคงขอค่าผ่านทางด่วน แต่เพื่อนร่วมทริปที่เคยมาบอกว่า ปกติ ไม่ได้ขอเยอะขนาดนี้ แต่ด้วยความที่ไม่อยากอะไรมาก
แล้วเท่าที่ดูรีวิวมา ส่วนใหญ่ก็บอก เป็นเรื่องปกติ มาเวียดนามไม่โดนโกงค่าแท็กซี่เหมือนมาไม่ถึง ก็เลยปล่อยตามเลย
แต่มันมาทำให้แค้นใจ ตอนใช้บริการอีกครั้งวันกลับนี่ล่ะ เรียกแท็กซี่จากคิวรถทัวร์ที่นั่งมาจากมุยเน่ เข้ามาสนามบิน น้องคนขับรถแกใจดีเกิ้น
ขับพามาค่าแท็กซี่ถูกมาก ไม่เอาทิป ไม่เรียกเก็บค่าทางด่วนเหมือนไอ้ลุงคนเเรก เท่านั้นล่ะ พอรู้ว่าไอ้ลุงนั้นหลอก-เยอะมาก ร้อง เหี้... กันดังเลยทีนี้
จี๊ดดดด กันเลย 5555+
หลังจากมาถึงสนามบิน ก็มาเอาสัมภาระที่ฝากไว้ละมาโหลดเป๋ากับสายการบิน Vietjet พนักงานดีมาก เพราะโหลดเป๋าเกิน นน. ที่ซื้อไว้ 2-3 กิโล หยวนๆ กันไป 555+

จากที่รอกันแบบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส รอวนวนไป 2 ชม. กว่า ความหิวก็เริ่มเรียกร้อง พอมองไปรอบๆ เอ้าเฮ้ย นั่นมัน "
Banh Mi"
อีกเมนูที่ขึ้นชื่อของเวียดนาม จัดไปเลย งามๆ


พอกินละ มันก็อร่อยดีนะครับ แต่ไม่สุด รสชาติมันจืดๆ ไปหน่อย แต่โดยรวมก็โอเค
ก่อนจะวิจารณ์อาหาร ปรึกษาท้องไส้ตัวเองแปป เพราะที่ซื้อมาได้ข่าวว่ากินหมดไปอย่างรวดเร็ว 5555++
หลังจากที่รอกันไปสักพักใหญ่......งานดีเลย์ ก็มา เนื่องจากมีฝนฟ้าคะนองเล็กน้อย ฟีลตอนนั้น แบบอ้าวววว มาตกไรช่วงนี้วะ
ละจะได้เที่ยวมั๊ย ถ้าฝนตกพรุ่งนี้งานเข้าเลย
จนท้ายที่สุด ก็มีประกาศจากสายการบิน เวียดเจ็ท ว่าพร้อมบินมุ่งตรงจาก โฮจิมินท์ไปสู่เมืองดาลัท ความตื่นเต้ล ก็มา
จากบทความรีวิวที่ยืดเยื้อไร้สาระที่ผ่านมา 555 .....ล่อเสียเวลาไปเยอะเลย


ผมคงต้องมาขอรีวิวใหม่ครั้งหน้าในส่วนของเมืองดาลัด และมุยเน่
ยังไงไว้ผมจะมาบอกนะครับ ว่า ดาลัดละมุยเน่ น่าเที่ยวขนาดไหนนนนน มันฟินมาก พูดเลยยยยยยย


[CR] รีวิว ทริปเวียดนาม (ทริปสุดฟิน ประหยัดได้ แต่ไม่ถูกอย่างที่คิด)
การตั้งกระทู้นี้ขึ้น นอกจากอยากทำรีวิวให้คนที่สนใจได้อ่าน
ยังเป็นการทำขึ้นเพื่อทบทวนเรื่องราวสนุกสนาน เฮฮา ในช่วงการเดินทางท่องเที่ยวกับเพื่อนเพื่อนของผมอีกด้วย
หรือ หากพูดตามจริง สิ่งที่ต้องการทำขึ้นอาจเรียกว่าบันทึกการเดินทางมากกว่ารีวิว ก็ได้ ฮ่าๆๆ
หากไม่ตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการดูรีวิวเป็นแนวทางก็ต้องขอโทษล่วงหน้าเลยนะครับ
ก่อนที่จะมาปักหมุด ว่าจะมาเที่ยวที่ "เวียดนาม" เราได้ดูหลายที่อยู่เหมือนกัน
ไม่ว่าจะเป็น จางเจียเจี้ย ฮ่องกง ไต้หวัน เวียดนาม.... แต่ท้ายสุดด้วยความอยากเที่ยวกันหลายๆ คน ภายใต้งบประมาณที่สบายใจกันทู้กกกกกกคน 5555
เราจึงตัดสินใจเที่ยว ที่เวียดนามกันเลย เอ๊ะ !! แต่เดี๋ยวนะ
เราเน้นกันก่อนหน้านี้ว่า "เที่ยวภายใต้งบประมาณที่น่าจะสบายใจ" แล้วไมตอนกลับ กระเป๋าตูแหกแบบนี้ ไว้อาลัยให้ตัวเองแพร็บบบ
♥ หลังจากปักหมุดเลือกประเทศที่จะไปได้แล้ว
♥ เราก็มาเลือกสถานที่ตัวเมืองที่เราจะไป โดยเมืองที่จะไป คือ #โฮจิมินท์ #ดาลัด และ #มุยเน่
♥ หลังจากที่เลือกที่เที่ยวและไว้อาลัยให้ตัวเองเสร็จแล้ว 3 วิ มาเข้าเรื่องกันเลย......
ผมจะขออธิบายในส่วนของค่าใช้จ่ายโดยรวมที่เราได้ทำการจัดการ ก่อนบินตรงไปที่นั่นนะครับ
ซึ่งประกอบไปด้วย การจองที่พัก ค่าเครื่อง+ค่าโหลดน้ำหนักกระเป๋า
1. ค่าเครื่องจากไทย-โฮจิมินท์ สายการบินแอร์เอเชีย + นน.กระเป๋าพร้อมโหลด 40 กิโล แชร์ นน. กัน 6 คน ตกคนละ 4390 บาท (ถ้าใครจองได้ตั๋วถูกก็ฟินจิกหมอนกันไปนะครัชช)
2. ค่าเครื่องจากโฮจิมินท์-ดาลัด สายการบินเวียดเจ็ท + นน.เป๋าพร้อมโหลด 40 กิโล แชร์ นน. กัน 6 คน ตกคนละ 1211 บาท
3. ค่าที่พัก 3 คืน
3.1 Iris Hotel @ Dalat ตกคนละ 638 / คืน / คน (นอน 2 คืน)
3.2 Muong Thanh Hotel @ Muine ตกคนละ 797/คืน (นอนคืนเดียว)
• โดยค่าใช้จ่ายที่เราได้จ่ายล่วงหน้า ก็มีประมาณนี้ครับ ตกคนละ 7674 บาท / คน
พอเห็นยอดนี้มา เอ้าเฮ้ยยยยย แค่ที่พัก+ค่าเครื่อง ก็เท่ากับ เซฟทริป ของคนอื่นแล้ว ขอหายใจลึกๆ 1..2..1..2.. อีกซักแปป 5555+
ณ ตอนนั้น ก็ยังให้กำลังใจกันเองว่า เออคงไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรเยอะแยะแล้วล่ะ หลักๆ จัดการหมดแล้ว คงสบาย สรุป.......?
เดี๋ยวตามมาดูกัน......ครับ
Day1. Check-in พร้อมโหลดเป๋า @สนามบินนานาชาติดอนเมือง (มีความให้เกียรติสถานที่นิสนึง ได้เช็คอินที่ดอนเมืองเลยนะ เอิ่มมมม...ดีใจฝุดฝุด)
- เช็คอินตั้งแต่ 05.20 น. เปิดเกท 07.15 น.กลัวตกเครื่องกันถ้วนหน้า เพราะทริปก่อน เจอจัดชุดหนักกันมาละ 555555
- ถึงสนามบิน ทาน ซอน แนต (SGN) @ โฮจิมินท์ ราวๆ 09.25 น. เวลาเหมือนไทยเลยครับ ไม่ต้องปรับไรเลย
- หลังจากรับสัมภาระเรียบร้อย ตรงดิ่งมาข้างหน้ามาซื้อซิมเน็ต ผมเลือกใช้งานเน็ตได้ 6GB. ราคา 6$ เอาจริงๆ ไม่ต้องใช้เยอะขนาดนี้ก้ได้ เพราะพวกผม เหลือกันเยอะมาก ไปดูพวก 5 GB. ก็พอ
- และแล้วเรื่องที่ไม่ควรเกิด ก็ดันเกิด เมื่อสมาชิกทริปเรา ดันลืมมือถือ บนเครื่อง มารู้ตัวตอนซื้อซิมจะเปลี่ยนซิมใช้ ( มันคิดได้นะเพื่อนผม ด้วยความที่มันเป็นคนขี้ลืม มันดันแหย่มือถือลงช่องเก็บของด้านหน้าที่นั่งของผู้โดยสารที่ไว้ใส่พวกเอกสารคู่มือขณะนั่งเครื่องกับพวก Magazine ) ใครชอบลืม อย่าเผลอเอาของไปเก็บไว้ตรงนั้นนะครับ
ทำไงล่ะทีนี้ วิ่งกันตาเหลือกสิครัช รอไร ไปถามเจ้าหน้าที่ Tourist Information เค้าแนะนำให้ไปติดต่อ Lost & Found ก็ไปทำเรื่องไว้ สรุปเครื่องบินกลับมาไทยแล้วจ๊า อดสิครับคุณผู้ชม แต่เดชะบุญของเพื่อนผมนะ เพราะท้ายสุด ทางแอร์เอเชียได้เก็บไว้ให้ ต้องมารับมือถือวันกลับไทย
○ หลังจากหัวหมุนเรื่องของหาย ก็เตรียมตัวไปเที่ยวกันต่อ โดยสิ่งที่เราจะทำต่อไปคือ เอาไอ้สัมภาระมหาศาลของแต่ละคนไปโยนทิ้งก่อน เอ้ยย !! ไม่ใช่ เอาไปฝากก่อน ที่สนามบินจะมีบริการรับฝากสัมภาระนะครับ
ให้เดินมาทางออกละเลี้ยวขวาไปแถวเบอร์เกอร์คิงครับ จะเห็นห้อง Locker room ฝากสัมภาระ พวกผมจะฝากสัมภาระ 6 ชม. แต่น้องเค้าถามว่ามีไฟลท์บินกี่โมง
เราก็บอกว่ามี 18.20 น. น้องแกใจดีเกิ้นน มี ไซโคกูเบาๆ ให้มาถึงตั้งแต่ บ่าย 3 อารมแบบว่าไม่มามีตกเครื่องนะ ไอ้เราก็ ห๊ะ !!
จะเที่ยวไหนทันมั๊ย แต่ด้วยความกลัวตกเครื่อง ก็เอาๆ กลัวรถติด เดี๋ยวตกเครื่อง แต่ที่ดีมากมาก คือ น้องเค้าคิดค่าฝากแค่ 4 ชม. แต่พวกผมล้อไป 5 ชม. ไม่เก็บเพิ่ม (โดนค่าฝากไปคนละ 100++ บาท)
หลังจากฝากเป๋าเสร็จ ก็ลุยกันเลย ไปไหนดีน๊อ? ที่โฮจิมินท์แห่งนี้ ภายใต้เวลาอันน้อยนิด สิ่งที่เราเลือกไปก็คือ
- ตลาดเบนถัน โดยเรียกรถแท็กซี่ 7 ที่นั่งของ Vinasun จากสนามบินยิงยาวมาเลย
หลังจากนั้นก็เดินวนๆ ในตลาด แล้วไปแลกเงินที่ร้านทอง แถวทางเดียวกับ Pho 2000 ที่ขึ้นชื่อ
กว่าจะทำอะไรเสร็จก็เที่ยง งั้น ไปจัดมื้อแรก กันเลย ที่ Pho2000 ♥
• มื้อแรกก็จัดกันเบาๆ 1,150,000 ดอง เอ้งงงงงงงงง
วันที่ไปกินแรกๆ ยังไม่เอ๊ะ ไม่อ๊ะ อะไร นึกว่าไม่กี่บาท มองว่าค่าเงินบ้านเค้าเลขเยอะๆ คงไม่เท่าไหร่ พอมานั่งคำนวณก่อนวันกลับ มือกุมหัว นี่มื้อแรกเราฟัดไป 1700+ กว่าแล้วหรอวะ ไม่แปลกใจที่เงินหายไปไวมากราวกับปลิวหายไป
** ขอเน้น ขีดเส้นใต้ไว้ 18 เส้น ไปเลย ถ้าคุณจะจัดเต็มในการกิน ราคาก็จัดเต็มเช่นกัน จำไว้ครับ ค่าครองชีพเวียดนามไม่ได้ต่างจากเราเลย
หลังจากอิ่มท้องกันแล้ว ก็นั่งคุยกันว่าจะไปเที่ยวต่อที่ Notre-Dame กับ Central Post Office ของ โฮจิมินท์ โบกแท็กซี่ โบกแล้ว โบกเล่า ไม่รับกูสักกกกกคัน
สรุป เดินย่อยกันไป แต่ระยะทางก็ไม่ไกลมากนะครับ เดินสบายๆ ได้อยู่ แต่ที่ไม่สบายคือ อากาศนี่ละ ร้อนนนนนนได้ใจ
เข้าคอนเซ็ปเลย หนีร้อนมาเจอร้อน ชีวิตดี้ดี 55555+
หลังจากเดินมาถึง Notre-Dame เฮ้ยมันสวยจีๆ เห็นแล้วชอบเลย ไม่แปลกใจที่เวียดนามได้ฉายาปารีสตะวันออก
ถ้าจะดีกว่านี้หน่อย อากาศน่าจะเย็นอีกหน่อย ☺☺
พอตะลุยถ่ายตรงนี้กันเสร็จ ก็เดินข้ามถนนไปอีกนิส นิดเดียวจริงๆ ก็ถึง " ไปรษณีย์กลางโฮจิมินท์"
รอไรอีก ตะลุยถ่ายรูปกันต่อสิครับ...
หลังจากเที่ยวพอหอมปากหอมคอ ร่างกายต้องการแอร์และเครื่องดื่มเย็นๆ เหลือบมองไปเห็น Mister Donut ที่อยู่แถวไปรษณีย์กลาง
ไม่พูดพล่ามทำเพลงตรงดิ่งไปเลยครัช ไปนั่งแช่จนหายเหนื่อยค่อยตั้งหลักกันใหม่
สรุปนั่งไปนั่งมา ก็ถึงเวลาต้องไปรับกระเป๋า ไปเรียกแท็กซี่ Vinasun แถวไปรษณีย์กลาง
บอกเลย "พลาดมักมากกกก" เจอแท็กซี่นรกเข้าให้ โกงเงินทอน+เรียกค่าทางด่วนบอกว่าเราต้องออกให้เพราะเค้าอุตส่าห์มาส่งสนามบิน
"งง งง งง งง และ ก็ งง " พอเราพูดไรไป ก็พูดแต่ ticket 100,000 ละเราถามไร ก็ไม่รู้เรื่อง สรุปโดนไกงกันไป ตอนนั้น ก็ยังชิวๆ ไม่คิดไร
เพราะคิดว่าคงไม่แปลกเค้าคงขอค่าผ่านทางด่วน แต่เพื่อนร่วมทริปที่เคยมาบอกว่า ปกติ ไม่ได้ขอเยอะขนาดนี้ แต่ด้วยความที่ไม่อยากอะไรมาก
แล้วเท่าที่ดูรีวิวมา ส่วนใหญ่ก็บอก เป็นเรื่องปกติ มาเวียดนามไม่โดนโกงค่าแท็กซี่เหมือนมาไม่ถึง ก็เลยปล่อยตามเลย
แต่มันมาทำให้แค้นใจ ตอนใช้บริการอีกครั้งวันกลับนี่ล่ะ เรียกแท็กซี่จากคิวรถทัวร์ที่นั่งมาจากมุยเน่ เข้ามาสนามบิน น้องคนขับรถแกใจดีเกิ้น
ขับพามาค่าแท็กซี่ถูกมาก ไม่เอาทิป ไม่เรียกเก็บค่าทางด่วนเหมือนไอ้ลุงคนเเรก เท่านั้นล่ะ พอรู้ว่าไอ้ลุงนั้นหลอก-เยอะมาก ร้อง เหี้... กันดังเลยทีนี้
จี๊ดดดด กันเลย 5555+
หลังจากมาถึงสนามบิน ก็มาเอาสัมภาระที่ฝากไว้ละมาโหลดเป๋ากับสายการบิน Vietjet พนักงานดีมาก เพราะโหลดเป๋าเกิน นน. ที่ซื้อไว้ 2-3 กิโล หยวนๆ กันไป 555+
จากที่รอกันแบบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส รอวนวนไป 2 ชม. กว่า ความหิวก็เริ่มเรียกร้อง พอมองไปรอบๆ เอ้าเฮ้ย นั่นมัน "Banh Mi"
อีกเมนูที่ขึ้นชื่อของเวียดนาม จัดไปเลย งามๆ
พอกินละ มันก็อร่อยดีนะครับ แต่ไม่สุด รสชาติมันจืดๆ ไปหน่อย แต่โดยรวมก็โอเค
ก่อนจะวิจารณ์อาหาร ปรึกษาท้องไส้ตัวเองแปป เพราะที่ซื้อมาได้ข่าวว่ากินหมดไปอย่างรวดเร็ว 5555++
หลังจากที่รอกันไปสักพักใหญ่......งานดีเลย์ ก็มา เนื่องจากมีฝนฟ้าคะนองเล็กน้อย ฟีลตอนนั้น แบบอ้าวววว มาตกไรช่วงนี้วะ
ละจะได้เที่ยวมั๊ย ถ้าฝนตกพรุ่งนี้งานเข้าเลย
จนท้ายที่สุด ก็มีประกาศจากสายการบิน เวียดเจ็ท ว่าพร้อมบินมุ่งตรงจาก โฮจิมินท์ไปสู่เมืองดาลัท ความตื่นเต้ล ก็มา
จากบทความรีวิวที่ยืดเยื้อไร้สาระที่ผ่านมา 555 .....ล่อเสียเวลาไปเยอะเลย
ผมคงต้องมาขอรีวิวใหม่ครั้งหน้าในส่วนของเมืองดาลัด และมุยเน่
ยังไงไว้ผมจะมาบอกนะครับ ว่า ดาลัดละมุยเน่ น่าเที่ยวขนาดไหนนนนน มันฟินมาก พูดเลยยยยยยย