สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวพันทิป วันนี้เรามาแบกเป้เที่ยวเวียดนามใต้จรดเวียดนามกลางกัน เป็นทริปฮิปๆ .....ในที่นี้ไม่ใช่ฮิปสเตอร์แต่อย่างใด
แต่เป็นทริปฮิปโปโปเตมัส 5555 เหมาะกับสาย-ที่แท้จริง (ขอใช้ศัพท์ที่คุ้นเคย เหมือนเพื่อนมาเล่าเรื่องให้ฟังเนอะ) หลังจากเราทํางานได้สี่เดือน แต่เราได้ลาพักร้อนเฉยเลย โอ้ยยยย ดีงามพระรามเก้า แต่ต้องลาพักร้อนล่วงหน้ากําหนดวันให้ชัดเจน เราเลยจัดไปเลยค่ะลาพักร้อนซัก 3 วัน และหาวันหยุดที่ติดๆกัน และเราก็ได้วันลามาในช่วงปลายเมษา - ต้นพฤษภาคม ติดกัน 9 วัน 55555 สะใจ!! วันลาได้แล้วก็จองเครื่องสิคะ รออะไร ไป-กลับ ดอนเมือง-โฮจิมินห์ โฮจิมินห์-ดอนเมือง ตั๋วโปร ในราคา 2,750 บาท รวมไปกลับและค่าโหลดกระเป๋า 20 กิโลแล้ว ของสายการบินไลอ้อนแอร์ เห็นราคาแล้วคุ้มเว้ย! จองเลย แต่ลืมจ้าาา ลืมเพื่อนไปเที่ยว ไม่มีเพื่อนไป พอไปชวนเพื่อนคําตอบที่ได้ คุณเมิ้งงงงมันนานไป!! ไปไม่ได้ -[]-! ช็อคค่ะ! เอาไง จองละไง วันลาก็ลาแล้วไง สุดท้ายต้องไปลากแฟนค่ะ ซึ่งแฟนบอกปัดตั้งแต่แรก พี่ไม่อยากไปเวียดนาม อยากไปญี่ปุ่น ที่มันศิวิไล แต่ช้าก่อน!!! อํานาจแฟนมันต้องเหนือทุกสิ่ง 55555555 ทริปนี้เลยเป็นทริปของเราสอง อิอิ
เกริ่นซะยืดยาว เรามาดูแพลนเที่ยวของเรากันดีกว่า 9 วันนี้จะไปไหนทําอะไรกันบ้าง
แพลนของเราคือต้องเดินทางเที่ยว 6 เมือง ในเวลาที่กําหนด คือ โฮจิมินห์/มุยเน่/ดาลัด/ญาจาง/ฮอยอัน/ดานัง ในงบประมาณไม่เกิน 20,000 บาท/คน ซึ่งงบนี้ต้องรวมทุกอย่างแล้ว ตั๋วเครื่องบินและที่พักจองล่วงหน้าไปเลย เงินที่เหลือคือไว้ใช้จ่ายในแต่ละวัน
มาเริ่มเดินทางกันเลยดีกว่า เราขึ้นเครื่องเวลา 05.25 น. ระหว่างรอเดินทางมาขึ้นเครื่องก็ไม่หลับไม่นอนกันเลยทีเดียว เพิ่งมาตื่นเต้นตอนวันจะไป กลัวหลายๆอย่างจากกระแสต่างๆที่ได้ฟังมา กลัวโดนโกง กลัวโดนขโมย กลัวคุยกับเค้าไม่รู้เรื่อง กลัวแม้กระทั่งได้กินหมา 55555 เอาน่ามันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดหรอกมั้ง! บอกตัวเองกันไป
ถึงเวลาขึ้นเครื่องก็บินกันไปเลยค่ะ
ถึงโฮจิมินห์แล้วเราก็เริ่มลุยกันเลยดีกว่า ก่อนอื่นไปแลกเงินกันก่อน เราแนะนําให้แลกเงินเป็นเงินดอลล่าที่ไทยมาก่อน เพราะค่าเงินมันสูงกว่า พอถึงโฮจิมินห์แล้วเราค่อยมาแลกเป็นเงินดอง ซึ่งเราแบ่งแค่บางส่วนแลกเท่านั้นเอาแค่ที่พอใช้จ่ายสําหรับค่ากิน เพราะค่าทัวร์เราใช้เป็นเงินดอลล่าจ่ายจะคุ้มกว่า และที่สําคัญอย่าลืมซื้อซิมการ์ดกัน จะได้ไม่ตัดขาดจากโลกภายนอก ใช้เพื่อความอยู่รอดและอัพรูปสวยๆให้เพื่อนๆอิจฉาเล่นๆกัน ราคาซิมการ์ดตกราคา 290,000 ดอง ใช้ดาต้าได้ 7 GB อยู่ได้ประมาณ 2 อาทิตย์ สบายละจ้าทีนี้

พอออกจากสนามบิน ก็สามารถเดินชิวๆเพื่อไปขึ้นรถเมล์ที่จอดอยู่ที่ป้ายด้านหน้าเลยคะ โดยเรานั่งรถเมล์สาย 152(คันสีเขียว) ราคา 5,000 ดอง/คน เพื่อไปลงที่สถานี ฟามงเหลา ไปซื้อตั๋วรถที่เวียตซี แพลนการเดินทางของเราตลอดทั้งทริป


เอาจริงๆแล้ว มันมีบริษัททัวร์อีกหลายเจ้าที่ในบริเวณนี้ให้เลือกและจะมีนักท่องเที่ยวจะรออยู่หน้าบริษัททัวร์เยอะมาก ลองเดินเลือกดูกันได้เลยน้า ของเราที่เลือกเวียตซีเพราะเจ้าที่เล็งไว้มีคนรออยู่เยอะเกินไปวุ่นวายมาก พอไปถึงเราก็ได้แจ้งกับพนักงานว่าเราจะไปไหนบ้างและค้างที่ไหนเพื่อที่ให้เขาได้แพลนและติดต่อรอบรถเพื่อจะได้มารับส่งตรงที่พักเราได้เลย โดยรวมถือว่าโอเคสำหรับทัวร์นี้ แต่ก็ไม่ถึงกับประทับใจ แต่ยังไงจองการเดินทางไว้เลยถือว่าสะดวกดีสําหรับการเดินทางที่ยาวนานของเรา การเดินทางตลอดทั้งทริป+ซื้อทัวร์ของมุยเน่ที่นี่ที่เดียวจบ
คนประสานงานของเวียตซีถือว่าโอเคร ช่วยเราประสานงานอย่างเต็มที่ และรถที่มารับที่พักแต่ละที่ตรงเวลามากๆคะ (แต่หักคะแนนตรงไปส่งไม่ถึงที่พักอย่างที่บอกไว้)
สรุปค่าตั๋วและรอบรถที่ได้แพลนกับทางบริษัททัวร์ตามเส้นทางดังนี้ค่ะ
- จากโฮจิมินห์->มุยเน่ ถึงท่ารถต้องหารถต่อไปที่พักเอง (ซึ่งเวียตซีบอกว่าไปส่งถึงที่พัก แต่คนขับรถบอกไกลไป- -!)
- จากมุยเน่->ดาลัด ถึงท่ารถต้องหารถต่อไปที่พักเอง (ซึ่งเวียตซีบอกว่าไปส่งถึงที่พัก แต่คนขับรถบอกไกลไป- -! อีกแล้ว)
- จากดาลัด->ญาจาง ถึงท่ารถ (ซึ่งเวียตซีบอกคอยขึ้นรถต่อที่ท่าได้เลย ปรากฎว่าต้องหาท่ารถใหม่เอง !!!!)
- จากญาจาง->ฮอยอัน ถึงท่ารถหารถต่อไปที่พักเอง (อันนี้เป็นรถนอน โดยรถจะออกรอบทุ่มนึงและถึงจุดหมายเช้าพอดี)
- ราคาค่าทัวร์มุยเน่ต่อคน มีรถจีพมารับถึงที่พัก และพาไปเที่ยวแต่ละที่ (แต่บอกเลยไม่ประทับใจเลยซักนิด คนพาทัวร์ไม่สนใจเราเลย คุยโทรศัพท์ตลอดการเดินทางของเรา อยากจะตะโกนออกไปเป็นคําหยาบๆ แต่ก็เหมือนเค้าจะไม่เข้าใจ เลยนั่งเงียบๆดีกว่า เฮ้ออออ!!)
รวมค่าเสียหายทั้งหมด 68 ดอลล่า/คนนะจ๊ะ


เมื่อจองทุกอย่างเสร็จสรรพแล้ว เรายังเหลือเวลาเที่ยวโฮจิมินห์อีกนิด เนื่องจากเรามาถึงโฮจิมินห์ประมาณ 07.00 น. และจะต้องต่อรถไปมุยเน่ตอน 15.30 น. ยังมีเวลาอีกเหลือเฟือ งั้นเราฝากกระเป๋าแล้วไปตะลอนหาของกินและที่เที่ยวในโฮจิมินห์กันก่อนดีกว่า
อาหารมื้อแรก ก็จัดเฝอปู กันเลย

ของกินใน Mini Shop บ้านเค้าคือดีงามมากกกก น่ากินไปซะทุกอย่าง แถมมีที่ให้นั่งกินอย่างสะดวกสบายอีกด้วย


มาถึงที่เที่ยวในโฮจิมินห์กันค่ะ ถ้าถามเราว่าเดินทางยังไง ตอบให้อย่างชัดเจนเลยค่ะ เราเดินค่ะ!! เดินไปทุกที่ที่อยากไปเปิดกูเกิ้ลแม็พเอา 55555 ใครที่มาที่นี้จะต้องได้สกิลเพิ่มขึ้นเยอะเลย ที่แน่ๆสกิลแรกคือสกิลการข้ามถนน ในขณะที่รถขับสวนเลนกันไปมา ไฟเขียวไฟแดงไม่ได้เป็นผลกับประเทศนี้ การสวนเลนเป็นเรื่องธรรมชาติ เช่นเดียวกับการบีบแตร! ปี้นนนนนนนนนนนนน!! ถ้าไม่ได้ยินเสียงนี้คุณมาผิดประเทศแน่ๆ ค่ะ ทําตัวให้ชินซะ เดี๋ยวรถเค้าจะขับหลบเราเอง
ที่เที่ยวในโฮจิมินห์ที่เราเก็บได้ในวันนี้ ศาลากลาง(City Hall)/ไปรษณีย์กลาง/โบสถ์นอร์ธเธอดาม

15.30 น. ก็ได้เวลาขึ้นรถมามุนเน่ ถึงมุยเน่ประมาณ 19.00 น. พอลงจากรถปุ๊บ ก็มีคนออเข้ามาเพื่อจะพาเราไปส่งที่พักมากมาย ทั้งแท็กซี่และมอเตอร์ไซน์ เราตัดสินใจขึ้นรถมอไซน์มาค่ะ เพื่อเซฟค่าใช้จ่าย 55555 ตกคนละ 50,000 ดอง

มาถึงที่พักของเรากันค่ะ ที่พักของเราชื่อว่า Longson Mui Ne เรานอนเต้นท์คะ ใช่คะ นอนเต้นท์ถูกแล้ว เพื่อเซฟค่าใช่จ่ายเช่นเดิม 5555 แต่บอกเลยการนอนเต้นท์ของเราไม่ได้แย่นะคะ เต้นท์ติดริมทะเล บรรยากาศดีมากกกกก และ ฝ. ฝรั่งก็ดีมากเช่นกัน 5555 ที่พักที่นี่จะมีอยู่สองแบบ คือนอนเต้นท์และ นอนบ้านรวมกัน และมีห้องนํ้าแยกชายหญิงชัดเจน มีที่นั่งส่วนกลางที่ชิลมาก มีโต๊ะพลู ไวฟายให้พร้อม และอาหารอร่อยมากค่ะ เป็นปลื้มที่สุด ราคาตกคนละ 150 บาท/คน/ คืน ถูกขนาดนี้หาไม่ได้อีกแล้ว






เช้าวันที่ 2 ของการเดินทาง อรุณสวัสดิ์เช้าวันออกทริป 04.00 น. เพื่อไปทักทายพระอาทิตย์ยามเช้ากัน เป็นทริปที่ทรหดอดทนมากคะบอกเลย
ทริปของเราก็จะมีไป White Sand Dounes/Red Sand Dunes/Fairy Stream/Fisherman Village โดยเรายอมเสียเงินเพิ่มเป็นค่ารถ ATV อีก 500,000 ดอง ขับได้ 1 ชั่วโมง แลกกลับการไม่เดินขึ้นทะเลทราย เพราะดูสภาพแล้วคงไม่ไหวจริง แต่เหมือนจะโดนหลอก เพราะว่าน่าจะหาได้ถูกกว่านี้ โอ้ยยยยนํ้าตาจะไหล ปล.ถ้าให้คนขับรถ ATV ไปส่งที่จุดชมวิว เค้าคิดราคา 200,000 ดอง/คนนะจ๊ะ



ปิดท้ายทริปนี้ด้วยน้องหอย จัดให้สําราญกับอาหารทะเลให้คุ้ม เพราะพรุ่งนี้เราจะเดินทางต่อไปเมืองแห่งภูเขา และเมืองแห่งความรักกันแล้วจ้า



วันที่ 3 ของการเดินทาง รถที่เราจองไว้ก็มารับเราที่พัก เพื่อเดินทางไปดาลัดกัน ตลอดการเดินทางผ่านเส้นทางที่คดเคี้ยวขึ้นเขากับบรรยากาศที่เย็นสบาย เอาเป็นว่าเราหลับตลอดทางเพราะความเหนื่อย 555555 ตื่นมาอีกทีอ้าว! ถึงแล้ว โอ้วโหววววววววแค่เข้าเมืองมาก็ประทับใจแล้ว เป็นเมืองที่สวยมากๆ และอากาศดีมากกกกกกก ก.ล้านตัว อุณภูมิตอนนั้นประมาณ 16 องศาได้ ตึกรามบ้านช่องเป็นสไตล์ยุโรป สวยงามเต็มไปหมดตื่นตาตื่นใจ สําหรับเรามาก พอถึงท่ารถปุ๊บเราก็เช่ามอเตอร์ไซน์เลยคะ กับท่ารถนั่นแหละ ราคาวันละ 150,000 ดอง และเติมนํ้ามันอีก 50,000 ดอง ขับไปที่พักที่แรกและตะลอนเที่ยว ขอบอกก่อนว่าที่ดาลัดเราเปลี่ยนที่พักด้วย เพราะอยากรับรู้บรรยากาศนอกเมืองและในเมือง อยากซึมซับให้มากที่สุด และที่นี่แหละคือที่เพิ่มสกิลการขับมอเตอร์ไซน์เพิ่มมาอีกหนึ่งสกิล
มาดูที่พักที่แรกของเรากันค่ะ ที่พักชื่อว่า Tre'House อยู่นอกเมืองออกมา แต่ขอบอกเลยว่าเป็นที่พักที่เราชอบการออกแบบดีไซน์มาก และเข้ากับบรรยากาศของเมืองดาลัดเป็นที่สุด ราคาที่พักตก 387 บาทต่อคน ไปดูภาพประกอบได้เลยคะ อยากนําเสนอมาก สายฮิปสเตอร์ต้องชอบกันแน่ๆ






เดี๋ยวมาต่อกัน ที่เที่ยวดาลัด ใน EP 2. กันนะคะคุณณณณณณณ
[CR] แบกเป้เที่ยวเวียดนามใต้จรดเวียดนามกลาง ทริปฮิปๆ 9 วัน 8 คืน EP 1.
แต่เป็นทริปฮิปโปโปเตมัส 5555 เหมาะกับสาย-ที่แท้จริง (ขอใช้ศัพท์ที่คุ้นเคย เหมือนเพื่อนมาเล่าเรื่องให้ฟังเนอะ) หลังจากเราทํางานได้สี่เดือน แต่เราได้ลาพักร้อนเฉยเลย โอ้ยยยย ดีงามพระรามเก้า แต่ต้องลาพักร้อนล่วงหน้ากําหนดวันให้ชัดเจน เราเลยจัดไปเลยค่ะลาพักร้อนซัก 3 วัน และหาวันหยุดที่ติดๆกัน และเราก็ได้วันลามาในช่วงปลายเมษา - ต้นพฤษภาคม ติดกัน 9 วัน 55555 สะใจ!! วันลาได้แล้วก็จองเครื่องสิคะ รออะไร ไป-กลับ ดอนเมือง-โฮจิมินห์ โฮจิมินห์-ดอนเมือง ตั๋วโปร ในราคา 2,750 บาท รวมไปกลับและค่าโหลดกระเป๋า 20 กิโลแล้ว ของสายการบินไลอ้อนแอร์ เห็นราคาแล้วคุ้มเว้ย! จองเลย แต่ลืมจ้าาา ลืมเพื่อนไปเที่ยว ไม่มีเพื่อนไป พอไปชวนเพื่อนคําตอบที่ได้ คุณเมิ้งงงงมันนานไป!! ไปไม่ได้ -[]-! ช็อคค่ะ! เอาไง จองละไง วันลาก็ลาแล้วไง สุดท้ายต้องไปลากแฟนค่ะ ซึ่งแฟนบอกปัดตั้งแต่แรก พี่ไม่อยากไปเวียดนาม อยากไปญี่ปุ่น ที่มันศิวิไล แต่ช้าก่อน!!! อํานาจแฟนมันต้องเหนือทุกสิ่ง 55555555 ทริปนี้เลยเป็นทริปของเราสอง อิอิ
เกริ่นซะยืดยาว เรามาดูแพลนเที่ยวของเรากันดีกว่า 9 วันนี้จะไปไหนทําอะไรกันบ้าง
แพลนของเราคือต้องเดินทางเที่ยว 6 เมือง ในเวลาที่กําหนด คือ โฮจิมินห์/มุยเน่/ดาลัด/ญาจาง/ฮอยอัน/ดานัง ในงบประมาณไม่เกิน 20,000 บาท/คน ซึ่งงบนี้ต้องรวมทุกอย่างแล้ว ตั๋วเครื่องบินและที่พักจองล่วงหน้าไปเลย เงินที่เหลือคือไว้ใช้จ่ายในแต่ละวัน
มาเริ่มเดินทางกันเลยดีกว่า เราขึ้นเครื่องเวลา 05.25 น. ระหว่างรอเดินทางมาขึ้นเครื่องก็ไม่หลับไม่นอนกันเลยทีเดียว เพิ่งมาตื่นเต้นตอนวันจะไป กลัวหลายๆอย่างจากกระแสต่างๆที่ได้ฟังมา กลัวโดนโกง กลัวโดนขโมย กลัวคุยกับเค้าไม่รู้เรื่อง กลัวแม้กระทั่งได้กินหมา 55555 เอาน่ามันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดหรอกมั้ง! บอกตัวเองกันไป
ถึงเวลาขึ้นเครื่องก็บินกันไปเลยค่ะ
ถึงโฮจิมินห์แล้วเราก็เริ่มลุยกันเลยดีกว่า ก่อนอื่นไปแลกเงินกันก่อน เราแนะนําให้แลกเงินเป็นเงินดอลล่าที่ไทยมาก่อน เพราะค่าเงินมันสูงกว่า พอถึงโฮจิมินห์แล้วเราค่อยมาแลกเป็นเงินดอง ซึ่งเราแบ่งแค่บางส่วนแลกเท่านั้นเอาแค่ที่พอใช้จ่ายสําหรับค่ากิน เพราะค่าทัวร์เราใช้เป็นเงินดอลล่าจ่ายจะคุ้มกว่า และที่สําคัญอย่าลืมซื้อซิมการ์ดกัน จะได้ไม่ตัดขาดจากโลกภายนอก ใช้เพื่อความอยู่รอดและอัพรูปสวยๆให้เพื่อนๆอิจฉาเล่นๆกัน ราคาซิมการ์ดตกราคา 290,000 ดอง ใช้ดาต้าได้ 7 GB อยู่ได้ประมาณ 2 อาทิตย์ สบายละจ้าทีนี้
พอออกจากสนามบิน ก็สามารถเดินชิวๆเพื่อไปขึ้นรถเมล์ที่จอดอยู่ที่ป้ายด้านหน้าเลยคะ โดยเรานั่งรถเมล์สาย 152(คันสีเขียว) ราคา 5,000 ดอง/คน เพื่อไปลงที่สถานี ฟามงเหลา ไปซื้อตั๋วรถที่เวียตซี แพลนการเดินทางของเราตลอดทั้งทริป
เอาจริงๆแล้ว มันมีบริษัททัวร์อีกหลายเจ้าที่ในบริเวณนี้ให้เลือกและจะมีนักท่องเที่ยวจะรออยู่หน้าบริษัททัวร์เยอะมาก ลองเดินเลือกดูกันได้เลยน้า ของเราที่เลือกเวียตซีเพราะเจ้าที่เล็งไว้มีคนรออยู่เยอะเกินไปวุ่นวายมาก พอไปถึงเราก็ได้แจ้งกับพนักงานว่าเราจะไปไหนบ้างและค้างที่ไหนเพื่อที่ให้เขาได้แพลนและติดต่อรอบรถเพื่อจะได้มารับส่งตรงที่พักเราได้เลย โดยรวมถือว่าโอเคสำหรับทัวร์นี้ แต่ก็ไม่ถึงกับประทับใจ แต่ยังไงจองการเดินทางไว้เลยถือว่าสะดวกดีสําหรับการเดินทางที่ยาวนานของเรา การเดินทางตลอดทั้งทริป+ซื้อทัวร์ของมุยเน่ที่นี่ที่เดียวจบ
คนประสานงานของเวียตซีถือว่าโอเคร ช่วยเราประสานงานอย่างเต็มที่ และรถที่มารับที่พักแต่ละที่ตรงเวลามากๆคะ (แต่หักคะแนนตรงไปส่งไม่ถึงที่พักอย่างที่บอกไว้)
สรุปค่าตั๋วและรอบรถที่ได้แพลนกับทางบริษัททัวร์ตามเส้นทางดังนี้ค่ะ
- จากโฮจิมินห์->มุยเน่ ถึงท่ารถต้องหารถต่อไปที่พักเอง (ซึ่งเวียตซีบอกว่าไปส่งถึงที่พัก แต่คนขับรถบอกไกลไป- -!)
- จากมุยเน่->ดาลัด ถึงท่ารถต้องหารถต่อไปที่พักเอง (ซึ่งเวียตซีบอกว่าไปส่งถึงที่พัก แต่คนขับรถบอกไกลไป- -! อีกแล้ว)
- จากดาลัด->ญาจาง ถึงท่ารถ (ซึ่งเวียตซีบอกคอยขึ้นรถต่อที่ท่าได้เลย ปรากฎว่าต้องหาท่ารถใหม่เอง !!!!)
- จากญาจาง->ฮอยอัน ถึงท่ารถหารถต่อไปที่พักเอง (อันนี้เป็นรถนอน โดยรถจะออกรอบทุ่มนึงและถึงจุดหมายเช้าพอดี)
- ราคาค่าทัวร์มุยเน่ต่อคน มีรถจีพมารับถึงที่พัก และพาไปเที่ยวแต่ละที่ (แต่บอกเลยไม่ประทับใจเลยซักนิด คนพาทัวร์ไม่สนใจเราเลย คุยโทรศัพท์ตลอดการเดินทางของเรา อยากจะตะโกนออกไปเป็นคําหยาบๆ แต่ก็เหมือนเค้าจะไม่เข้าใจ เลยนั่งเงียบๆดีกว่า เฮ้ออออ!!)
รวมค่าเสียหายทั้งหมด 68 ดอลล่า/คนนะจ๊ะ
เมื่อจองทุกอย่างเสร็จสรรพแล้ว เรายังเหลือเวลาเที่ยวโฮจิมินห์อีกนิด เนื่องจากเรามาถึงโฮจิมินห์ประมาณ 07.00 น. และจะต้องต่อรถไปมุยเน่ตอน 15.30 น. ยังมีเวลาอีกเหลือเฟือ งั้นเราฝากกระเป๋าแล้วไปตะลอนหาของกินและที่เที่ยวในโฮจิมินห์กันก่อนดีกว่า
อาหารมื้อแรก ก็จัดเฝอปู กันเลย
ของกินใน Mini Shop บ้านเค้าคือดีงามมากกกก น่ากินไปซะทุกอย่าง แถมมีที่ให้นั่งกินอย่างสะดวกสบายอีกด้วย
มาถึงที่เที่ยวในโฮจิมินห์กันค่ะ ถ้าถามเราว่าเดินทางยังไง ตอบให้อย่างชัดเจนเลยค่ะ เราเดินค่ะ!! เดินไปทุกที่ที่อยากไปเปิดกูเกิ้ลแม็พเอา 55555 ใครที่มาที่นี้จะต้องได้สกิลเพิ่มขึ้นเยอะเลย ที่แน่ๆสกิลแรกคือสกิลการข้ามถนน ในขณะที่รถขับสวนเลนกันไปมา ไฟเขียวไฟแดงไม่ได้เป็นผลกับประเทศนี้ การสวนเลนเป็นเรื่องธรรมชาติ เช่นเดียวกับการบีบแตร! ปี้นนนนนนนนนนนนน!! ถ้าไม่ได้ยินเสียงนี้คุณมาผิดประเทศแน่ๆ ค่ะ ทําตัวให้ชินซะ เดี๋ยวรถเค้าจะขับหลบเราเอง
ที่เที่ยวในโฮจิมินห์ที่เราเก็บได้ในวันนี้ ศาลากลาง(City Hall)/ไปรษณีย์กลาง/โบสถ์นอร์ธเธอดาม
15.30 น. ก็ได้เวลาขึ้นรถมามุนเน่ ถึงมุยเน่ประมาณ 19.00 น. พอลงจากรถปุ๊บ ก็มีคนออเข้ามาเพื่อจะพาเราไปส่งที่พักมากมาย ทั้งแท็กซี่และมอเตอร์ไซน์ เราตัดสินใจขึ้นรถมอไซน์มาค่ะ เพื่อเซฟค่าใช้จ่าย 55555 ตกคนละ 50,000 ดอง
มาถึงที่พักของเรากันค่ะ ที่พักของเราชื่อว่า Longson Mui Ne เรานอนเต้นท์คะ ใช่คะ นอนเต้นท์ถูกแล้ว เพื่อเซฟค่าใช่จ่ายเช่นเดิม 5555 แต่บอกเลยการนอนเต้นท์ของเราไม่ได้แย่นะคะ เต้นท์ติดริมทะเล บรรยากาศดีมากกกกก และ ฝ. ฝรั่งก็ดีมากเช่นกัน 5555 ที่พักที่นี่จะมีอยู่สองแบบ คือนอนเต้นท์และ นอนบ้านรวมกัน และมีห้องนํ้าแยกชายหญิงชัดเจน มีที่นั่งส่วนกลางที่ชิลมาก มีโต๊ะพลู ไวฟายให้พร้อม และอาหารอร่อยมากค่ะ เป็นปลื้มที่สุด ราคาตกคนละ 150 บาท/คน/ คืน ถูกขนาดนี้หาไม่ได้อีกแล้ว
เช้าวันที่ 2 ของการเดินทาง อรุณสวัสดิ์เช้าวันออกทริป 04.00 น. เพื่อไปทักทายพระอาทิตย์ยามเช้ากัน เป็นทริปที่ทรหดอดทนมากคะบอกเลย
ทริปของเราก็จะมีไป White Sand Dounes/Red Sand Dunes/Fairy Stream/Fisherman Village โดยเรายอมเสียเงินเพิ่มเป็นค่ารถ ATV อีก 500,000 ดอง ขับได้ 1 ชั่วโมง แลกกลับการไม่เดินขึ้นทะเลทราย เพราะดูสภาพแล้วคงไม่ไหวจริง แต่เหมือนจะโดนหลอก เพราะว่าน่าจะหาได้ถูกกว่านี้ โอ้ยยยยนํ้าตาจะไหล ปล.ถ้าให้คนขับรถ ATV ไปส่งที่จุดชมวิว เค้าคิดราคา 200,000 ดอง/คนนะจ๊ะ
ปิดท้ายทริปนี้ด้วยน้องหอย จัดให้สําราญกับอาหารทะเลให้คุ้ม เพราะพรุ่งนี้เราจะเดินทางต่อไปเมืองแห่งภูเขา และเมืองแห่งความรักกันแล้วจ้า
วันที่ 3 ของการเดินทาง รถที่เราจองไว้ก็มารับเราที่พัก เพื่อเดินทางไปดาลัดกัน ตลอดการเดินทางผ่านเส้นทางที่คดเคี้ยวขึ้นเขากับบรรยากาศที่เย็นสบาย เอาเป็นว่าเราหลับตลอดทางเพราะความเหนื่อย 555555 ตื่นมาอีกทีอ้าว! ถึงแล้ว โอ้วโหววววววววแค่เข้าเมืองมาก็ประทับใจแล้ว เป็นเมืองที่สวยมากๆ และอากาศดีมากกกกกกก ก.ล้านตัว อุณภูมิตอนนั้นประมาณ 16 องศาได้ ตึกรามบ้านช่องเป็นสไตล์ยุโรป สวยงามเต็มไปหมดตื่นตาตื่นใจ สําหรับเรามาก พอถึงท่ารถปุ๊บเราก็เช่ามอเตอร์ไซน์เลยคะ กับท่ารถนั่นแหละ ราคาวันละ 150,000 ดอง และเติมนํ้ามันอีก 50,000 ดอง ขับไปที่พักที่แรกและตะลอนเที่ยว ขอบอกก่อนว่าที่ดาลัดเราเปลี่ยนที่พักด้วย เพราะอยากรับรู้บรรยากาศนอกเมืองและในเมือง อยากซึมซับให้มากที่สุด และที่นี่แหละคือที่เพิ่มสกิลการขับมอเตอร์ไซน์เพิ่มมาอีกหนึ่งสกิล
มาดูที่พักที่แรกของเรากันค่ะ ที่พักชื่อว่า Tre'House อยู่นอกเมืองออกมา แต่ขอบอกเลยว่าเป็นที่พักที่เราชอบการออกแบบดีไซน์มาก และเข้ากับบรรยากาศของเมืองดาลัดเป็นที่สุด ราคาที่พักตก 387 บาทต่อคน ไปดูภาพประกอบได้เลยคะ อยากนําเสนอมาก สายฮิปสเตอร์ต้องชอบกันแน่ๆ
เดี๋ยวมาต่อกัน ที่เที่ยวดาลัด ใน EP 2. กันนะคะคุณณณณณณณ