สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ในเมื่อแท็กห้องศาสนา จะขออธิบายในเชิงศาสนาให้นะครับ

ก่อนอื่นต้องแยกให้ออกก่อนว่า ชีวิตคู่เนี่ย หมายถึง "มีความรัก" ด้วยใช่ไหม ... ถ้าใช่ อันนั้นจะเป็นทางมาของทุกข์หนัก เพราะจะต้องมีความกังวลเสมอว่าคู่ครองของตนจะไม่ชอบตนเอง ต้องคอยเอาอกเอาใจ และกลัวว่าจะมีคนอื่น ... จิตใจของทั้งสองคนจะรับภาระหนักเพราะจะมีความระแวงกันและกัน ... หากไม่ระแวง แล้วเกิดวันนึงจับได้ว่าอีกฝ่ายนอกใจ แบบนี้จะทุกข์หนักมาก (คนที่ไม่ระแวงเลย ผมถือว่าโง่กว่านะ เพราะกำลังคิดว่าความรักซึ่งเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้จะคงสภาพแบบนั้นตลอดกาล คนพวกนี้พอบทเจอความเปลี่ยนแปลงจริงๆ มักจะอกหักขั้นรุนแรง ถึงขั้นฆ่าตัวตายก็มีให้เห็นมากมาย) ... หรือบางทีเบื่อหน้ากันแล้ว อยากจะแยกจากกันก็ไม่ได้ เพราะแต่งงานไปแล้ว แยกกัน อาจจะโดนคนอื่นๆเอาไปเม้าท์ได้ หรืออาจมีธุรกิจผูกมัดรวมกัน

.....
กับอีกกรณีนึง คือมีชีวิตคู่ ในลักษณะ "เพื่อนคู่ชีวิต" คือช่วยเหลือเกื้อกูลกัน แต่ไม่ได้มีความรักกันลักษณะหึงหวง กรณีนี้จะมีทุกข์น้อย เพราะอยู่กันด้วยความเข้าใจ ไม่ได้หวังครอบครอง ช่วยเหลือกันจนถึงแก่เฒ่า ไม่จำเป็นต้องตามใจกันตลอด ให้เวลาส่วนตัวแต่ละฝ่ายอย่างพอดี ถ้าฝ่ายใดเกิดคิดนอกใจ อีกฝ่ายก็วางเฉยได้ (เพราะใจมองเขาเป็นเหมือนเพื่อนที่มาอยู่บ้านเดียวกัน ไม่ได้มองแบบแฟนกัน) ... แต่โอกาสที่เกิดลักษณะนี้มียากมากที่สุด เฉพาะผู้ที่มีภูมิธรรมมาดีทั้งสองคนเท่านั้น จึงจะมีสภาพแบบนี้ได้ ผมให้เลขเลยว่า อาจจะแค่ 1 ใน 100 หรือน้อยกว่า ... แต่ก็ยังมีความทุกข์เนื่องจากต้องคอยเป็นห่วงอีกฝ่ายบ้าง ตามใจกันบ้าง แต่ทางเราเองเวลาเจ็บไข้ได้ป่วย ก็มีอีกฝ่ายมาช่วยดูแลเหมือนกัน เป็นข้อดีในระยะยาว ถ้าเราคิดว่าตัวเองจะมีชีวิตรอดถึงตอนแก่น่ะนะ

.... ...
ถ้ามีลูก ละก็ ... ความทุกข์ในด้านการงานก็จะมาเยือน ต้องทำงานหนักขึ้นมากหลายเท่าเพื่อเลี้ยงลูก .... ถ้าเกิดความรักต่อลูกมากจนเกินพอดี จะนำความทุกข์มาให้อย่างมาก เพราะเราต้องคอยเป็นห่วงลูกอยู่เสมอ ลูกเจ็บ เราก็เจ็บปวดใจไปด้วย ... วันๆก็ต้องคอยคิดแต่เรื่องลูกจนไม่ต้องทำอะไรแล้ว ... ... อีกข้อที่สำคัญคือเราไม่รู้ว่าลูกเราพอโตขึ้นจะเป็นคนดีหรือไม่ดี การมีลูกจึงเป็นเพิ่มความเสี่ยงให้ชีวิต ถ้าลูกดีก็โชคดีไป ชีวิตวัยชรามีความสุขมาก ++ ... ถ้าลูกไม่ดี เนรคุณพ่อแม่ นอกจากจะเหนื่อยเลี้ยงดูแล้ว ยังทำให้ช่วงบั้นปลายชีวิตเราไม่มีความสุขอีกด้วย ... ... ทั้งนี้คนส่วนใหญ่ 99% เมื่อมีลูกจะเพิ่มความทุกข์ให้จิตครับ แต่ตัวเองไม่รู้ คิดว่ามีความสุข ...

...
และถ้าเป็นคู่ชีวิตประเภทแรกแล้วมีลูก การมีลูกจะเป็นข้อผูกมัดที่น่ากลัว ... เรียกว่าถ้าเกิดอนาคตสามี หรือภรรยา เราเปลี่ยนไป กลายเป็นคนเลว หรืออะไรก็แล้วแต่ ... การจะหย่าร้างทำได้ยากมากเพราะติดที่ลูก ให้ดูตัวอย่างแพท ณปภา เวลานี้ ถ้ายังไม่มีลูกละก็ สามารถชิ่งหนีผู้ชายคนนี้ได้สบาย ... แต่พอมีลูกแล้ว ก็กลายเป็นต้องร่วมหัวจมท้าย สู้เพื่อสามีสุดฤทธิ์ เพราะจะให้ลูกไม่มีพ่อก็ไม่ได้ .......

.....
.... สุดท้ายคือ คนโสด .... ทางศาสนากล่าวว่า "การไม่มีคู่เป็นลาภอันประเสริฐ" ... คนโสดปราศจากภาระทางใจทั้งปวง สามารถใช้ชีวิตได้อิสระเสรี ไม่ต้องกังวลเรื่องแฟน แล้วก็ไม่ต้องเอาพ่อแม่แฟน ญาติแฟน มาปวดหัวเลย ... แต่ที่ยังมีความทุกข์อยู่ก็เพราะในใจยังมีความปรารถนาหาคู่ครอง อันนี้เป็นเรื่องปกติสำหรับทุกคน แม้แต่กับพระ หากยังไม่บรรลุเป็นพระอริยะขั้นอนาคามี ใจก็ยังมีความรู้สึกอยากมีคู่ครองอยู่เนืองๆ ... แต่ความทุกข์ตรงนี้ถือว่าเล็กน้อยมากๆเมื่อเทียบกับทุกข์ของคนมีคู่ครองครับ ...

.... ปัญหาที่คนโสดอาจจะต้องคิดนิดนึง คือ พอช่วงวัยชรา (สมมุติถ้ายังมีชีวิตรอดถึงตอนนั้นนะ) จะมีใครดูแลได้ในตอนแก่ จุดนี้เป็นปัญหาที่อาจจะต้องเผื่อคิดซักนิดครับ

จบครับ

ก่อนอื่นต้องแยกให้ออกก่อนว่า ชีวิตคู่เนี่ย หมายถึง "มีความรัก" ด้วยใช่ไหม ... ถ้าใช่ อันนั้นจะเป็นทางมาของทุกข์หนัก เพราะจะต้องมีความกังวลเสมอว่าคู่ครองของตนจะไม่ชอบตนเอง ต้องคอยเอาอกเอาใจ และกลัวว่าจะมีคนอื่น ... จิตใจของทั้งสองคนจะรับภาระหนักเพราะจะมีความระแวงกันและกัน ... หากไม่ระแวง แล้วเกิดวันนึงจับได้ว่าอีกฝ่ายนอกใจ แบบนี้จะทุกข์หนักมาก (คนที่ไม่ระแวงเลย ผมถือว่าโง่กว่านะ เพราะกำลังคิดว่าความรักซึ่งเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้จะคงสภาพแบบนั้นตลอดกาล คนพวกนี้พอบทเจอความเปลี่ยนแปลงจริงๆ มักจะอกหักขั้นรุนแรง ถึงขั้นฆ่าตัวตายก็มีให้เห็นมากมาย) ... หรือบางทีเบื่อหน้ากันแล้ว อยากจะแยกจากกันก็ไม่ได้ เพราะแต่งงานไปแล้ว แยกกัน อาจจะโดนคนอื่นๆเอาไปเม้าท์ได้ หรืออาจมีธุรกิจผูกมัดรวมกัน

.....
กับอีกกรณีนึง คือมีชีวิตคู่ ในลักษณะ "เพื่อนคู่ชีวิต" คือช่วยเหลือเกื้อกูลกัน แต่ไม่ได้มีความรักกันลักษณะหึงหวง กรณีนี้จะมีทุกข์น้อย เพราะอยู่กันด้วยความเข้าใจ ไม่ได้หวังครอบครอง ช่วยเหลือกันจนถึงแก่เฒ่า ไม่จำเป็นต้องตามใจกันตลอด ให้เวลาส่วนตัวแต่ละฝ่ายอย่างพอดี ถ้าฝ่ายใดเกิดคิดนอกใจ อีกฝ่ายก็วางเฉยได้ (เพราะใจมองเขาเป็นเหมือนเพื่อนที่มาอยู่บ้านเดียวกัน ไม่ได้มองแบบแฟนกัน) ... แต่โอกาสที่เกิดลักษณะนี้มียากมากที่สุด เฉพาะผู้ที่มีภูมิธรรมมาดีทั้งสองคนเท่านั้น จึงจะมีสภาพแบบนี้ได้ ผมให้เลขเลยว่า อาจจะแค่ 1 ใน 100 หรือน้อยกว่า ... แต่ก็ยังมีความทุกข์เนื่องจากต้องคอยเป็นห่วงอีกฝ่ายบ้าง ตามใจกันบ้าง แต่ทางเราเองเวลาเจ็บไข้ได้ป่วย ก็มีอีกฝ่ายมาช่วยดูแลเหมือนกัน เป็นข้อดีในระยะยาว ถ้าเราคิดว่าตัวเองจะมีชีวิตรอดถึงตอนแก่น่ะนะ

.... ...
ถ้ามีลูก ละก็ ... ความทุกข์ในด้านการงานก็จะมาเยือน ต้องทำงานหนักขึ้นมากหลายเท่าเพื่อเลี้ยงลูก .... ถ้าเกิดความรักต่อลูกมากจนเกินพอดี จะนำความทุกข์มาให้อย่างมาก เพราะเราต้องคอยเป็นห่วงลูกอยู่เสมอ ลูกเจ็บ เราก็เจ็บปวดใจไปด้วย ... วันๆก็ต้องคอยคิดแต่เรื่องลูกจนไม่ต้องทำอะไรแล้ว ... ... อีกข้อที่สำคัญคือเราไม่รู้ว่าลูกเราพอโตขึ้นจะเป็นคนดีหรือไม่ดี การมีลูกจึงเป็นเพิ่มความเสี่ยงให้ชีวิต ถ้าลูกดีก็โชคดีไป ชีวิตวัยชรามีความสุขมาก ++ ... ถ้าลูกไม่ดี เนรคุณพ่อแม่ นอกจากจะเหนื่อยเลี้ยงดูแล้ว ยังทำให้ช่วงบั้นปลายชีวิตเราไม่มีความสุขอีกด้วย ... ... ทั้งนี้คนส่วนใหญ่ 99% เมื่อมีลูกจะเพิ่มความทุกข์ให้จิตครับ แต่ตัวเองไม่รู้ คิดว่ามีความสุข ...

...
และถ้าเป็นคู่ชีวิตประเภทแรกแล้วมีลูก การมีลูกจะเป็นข้อผูกมัดที่น่ากลัว ... เรียกว่าถ้าเกิดอนาคตสามี หรือภรรยา เราเปลี่ยนไป กลายเป็นคนเลว หรืออะไรก็แล้วแต่ ... การจะหย่าร้างทำได้ยากมากเพราะติดที่ลูก ให้ดูตัวอย่างแพท ณปภา เวลานี้ ถ้ายังไม่มีลูกละก็ สามารถชิ่งหนีผู้ชายคนนี้ได้สบาย ... แต่พอมีลูกแล้ว ก็กลายเป็นต้องร่วมหัวจมท้าย สู้เพื่อสามีสุดฤทธิ์ เพราะจะให้ลูกไม่มีพ่อก็ไม่ได้ .......

.....
.... สุดท้ายคือ คนโสด .... ทางศาสนากล่าวว่า "การไม่มีคู่เป็นลาภอันประเสริฐ" ... คนโสดปราศจากภาระทางใจทั้งปวง สามารถใช้ชีวิตได้อิสระเสรี ไม่ต้องกังวลเรื่องแฟน แล้วก็ไม่ต้องเอาพ่อแม่แฟน ญาติแฟน มาปวดหัวเลย ... แต่ที่ยังมีความทุกข์อยู่ก็เพราะในใจยังมีความปรารถนาหาคู่ครอง อันนี้เป็นเรื่องปกติสำหรับทุกคน แม้แต่กับพระ หากยังไม่บรรลุเป็นพระอริยะขั้นอนาคามี ใจก็ยังมีความรู้สึกอยากมีคู่ครองอยู่เนืองๆ ... แต่ความทุกข์ตรงนี้ถือว่าเล็กน้อยมากๆเมื่อเทียบกับทุกข์ของคนมีคู่ครองครับ ...

.... ปัญหาที่คนโสดอาจจะต้องคิดนิดนึง คือ พอช่วงวัยชรา (สมมุติถ้ายังมีชีวิตรอดถึงตอนนั้นนะ) จะมีใครดูแลได้ในตอนแก่ จุดนี้เป็นปัญหาที่อาจจะต้องเผื่อคิดซักนิดครับ

จบครับ
แสดงความคิดเห็น
การมีชีวิตคู่ กับ การไม่มีชีวิตคู่ ข้อดีข้อเสียต่างกันยังไง