ขออนุญาตเล่าเลยนะครับ เหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2558 ครับ
ผมได้ให้เพื่อนที่มีความรู้ด้านกฏหมาย ไปดำเนินการทำเรื่องจัดตั้ง บริษ้ท จำกัด และ การเสียภาษีของกรมสรรพากร มาให้เรียบร้อย และให้แจ้งผลมาเป็นระยะๆ
ในระหว่างนั้นผมได้มีการติดต่อ และดำเนินธุรกิจบางส่วนร่วมกับลูกค้า จนถึงวันที่ผมจะต้องทำสัญญาร่วมกับลูกค้า ผมจึงได้โทรไปถามเพื่อนคนนี้ คนที่ผมว่าจ้างให้ไปดำเนินการทำเรื่องเปิดบริษัท จำกัด และเอกสารการเสียภาษีของกรมสรรพกร และเพื่อนคนนี้ให้คำตอบมาว่า "เราต้องเอาชื่อเราเข้าไปในบริษัทด้วยนะ เพราะเค้าให้จัดตั้งอย่างน้อย 3 คนขี้นไป และทุกอย่างเรียบร้อยดี โอเค ไม่มีปัญหา " ผมเองก็เริ่มสงสัยว่า ทำไม ไม่มีเอกสารมาให้เซ็นเลย ? หรือไม่มีอะไรมาให้เราอ่านเลยหรือ ? เอาชื่ออีกคนเข้ามาในบริษัท แล้วหุ้นละ ? จะแบ่งยังไง
ในวันที่ทำสัญญากับลูกค้า ผมได้เอกสารทางเมสเซนเจอ วันนั้น ปรากฏว่า
- ทุกตำแหน่งที่มีชื่อผม เป็นลายเซ็นใครก็ไม่รู้ รวมไปถึงเอกสารของกรมสรรพากรด้วย
- การแบ่งเปอร์เ็นหุ้นในบริษัท ก็ถูกแบ่งเองโดยที่ผมไม่ทราบเรื่องมาก่อน และไม่ได้ยินยอม
- อำนาจในการเซ็นยินยอมเกี่ยวกับบริษัท คือมันก็ไม่ใช่ผมคนเดียว
ตอนนั้นผมสับสนมาก ผมจึงได้ถามเพื่อนคนนี้ว่า ทำไมเป็นแบบนี้ เค้าตอบมาว่า "ไม่มีปัญหา เซ็นแทนกันได้" เห้ยย มันเซ็นแทนกันได้ด้วยหรอ แต่มันคือ ชื่อผมไง คือผมควรมีสิทธิ์อ่าน ยินยอม อะไรก่อนมั้ย
ช่วงเวลานั้นทุกอย่างมืดหมด ผลที่ได้คือ ลูกค้าไม่ทำสัญญาด้วย เค้าให้เหตุผลที่ว่า ผมไม่มีความโปรงใส เพราะลายเซ็นผมที่เซ็นไว้กับลูกค้านั้น ไม่ตรงกันเลย ถ้าเอามาเปรียบเที่ยบกับเอกสารการเปิดบริษัท และกรมสรรพากร
ผมได้ใช้ให้เพื่อนคนนี้ไปแก้ไขเอกสารให้ถูกต้องเรียบร้อย แต่นั้นก็ดูจะเป็นการแก้ไขที่ปลายเหตุ และผมขาดความน่าเชื่อถือไปเรียบร้อยแล้ว
หลังจากนั้นผมได้ไกล่เกลียกับเพื่อนคนนี้ว่า เค้าจะต้องดำเนินการปิดบริษัท และห้ามนำชื่อบริษัทนี้ไปใช้หาผลประโยชน์ และเค้าจะต้องยื่น ภาษี เป็น งบ 0 บาท ทุกเดือน เพื่อจะได้ไม่โดนเบี้ยปรับ
สรุปว่า
ปัจจุบัน 2560 บริษัทนี้ก็ยังไม่ปิด และผมโดนหมายตำรวจให้ไปชำระเบี้ยปรับของปี 2558 คือเค้าไม่ทำอะไรเลย
" ผมสามารถทำอะไรกับเรื่องนี้ได้บ้างครับ "
หมายเหตุ ผมไม่ได้แจ้งความเพราะเห็นเป็นเพื่อน และปัจุบันหนี้สินที่เกิดจากการดำเนินธุรกิจบางส่วน ผมต้องหาใช้คืนลูกค้าอยู่ฝ่ายเดียว ผมท้อมาก ครับ
ถ้าเจ้าของกระทู้ใช้คำผิด พิมพ์ผิดหรือไม่สุภาพต้องกราบขออภัยด้วยนะครับ
เป็นทุกข์มาตั้งแต่ปี 58 เพราะโดนเพื่อนปลอมลายเซ็นเกี่ยวกับ การเปิดบริษัท ควรแก้ไขยังไงดีครับ ?
ผมได้ให้เพื่อนที่มีความรู้ด้านกฏหมาย ไปดำเนินการทำเรื่องจัดตั้ง บริษ้ท จำกัด และ การเสียภาษีของกรมสรรพากร มาให้เรียบร้อย และให้แจ้งผลมาเป็นระยะๆ
ในระหว่างนั้นผมได้มีการติดต่อ และดำเนินธุรกิจบางส่วนร่วมกับลูกค้า จนถึงวันที่ผมจะต้องทำสัญญาร่วมกับลูกค้า ผมจึงได้โทรไปถามเพื่อนคนนี้ คนที่ผมว่าจ้างให้ไปดำเนินการทำเรื่องเปิดบริษัท จำกัด และเอกสารการเสียภาษีของกรมสรรพกร และเพื่อนคนนี้ให้คำตอบมาว่า "เราต้องเอาชื่อเราเข้าไปในบริษัทด้วยนะ เพราะเค้าให้จัดตั้งอย่างน้อย 3 คนขี้นไป และทุกอย่างเรียบร้อยดี โอเค ไม่มีปัญหา " ผมเองก็เริ่มสงสัยว่า ทำไม ไม่มีเอกสารมาให้เซ็นเลย ? หรือไม่มีอะไรมาให้เราอ่านเลยหรือ ? เอาชื่ออีกคนเข้ามาในบริษัท แล้วหุ้นละ ? จะแบ่งยังไง
ในวันที่ทำสัญญากับลูกค้า ผมได้เอกสารทางเมสเซนเจอ วันนั้น ปรากฏว่า
- ทุกตำแหน่งที่มีชื่อผม เป็นลายเซ็นใครก็ไม่รู้ รวมไปถึงเอกสารของกรมสรรพากรด้วย
- การแบ่งเปอร์เ็นหุ้นในบริษัท ก็ถูกแบ่งเองโดยที่ผมไม่ทราบเรื่องมาก่อน และไม่ได้ยินยอม
- อำนาจในการเซ็นยินยอมเกี่ยวกับบริษัท คือมันก็ไม่ใช่ผมคนเดียว
ตอนนั้นผมสับสนมาก ผมจึงได้ถามเพื่อนคนนี้ว่า ทำไมเป็นแบบนี้ เค้าตอบมาว่า "ไม่มีปัญหา เซ็นแทนกันได้" เห้ยย มันเซ็นแทนกันได้ด้วยหรอ แต่มันคือ ชื่อผมไง คือผมควรมีสิทธิ์อ่าน ยินยอม อะไรก่อนมั้ย
ช่วงเวลานั้นทุกอย่างมืดหมด ผลที่ได้คือ ลูกค้าไม่ทำสัญญาด้วย เค้าให้เหตุผลที่ว่า ผมไม่มีความโปรงใส เพราะลายเซ็นผมที่เซ็นไว้กับลูกค้านั้น ไม่ตรงกันเลย ถ้าเอามาเปรียบเที่ยบกับเอกสารการเปิดบริษัท และกรมสรรพากร
ผมได้ใช้ให้เพื่อนคนนี้ไปแก้ไขเอกสารให้ถูกต้องเรียบร้อย แต่นั้นก็ดูจะเป็นการแก้ไขที่ปลายเหตุ และผมขาดความน่าเชื่อถือไปเรียบร้อยแล้ว
หลังจากนั้นผมได้ไกล่เกลียกับเพื่อนคนนี้ว่า เค้าจะต้องดำเนินการปิดบริษัท และห้ามนำชื่อบริษัทนี้ไปใช้หาผลประโยชน์ และเค้าจะต้องยื่น ภาษี เป็น งบ 0 บาท ทุกเดือน เพื่อจะได้ไม่โดนเบี้ยปรับ
สรุปว่า
ปัจจุบัน 2560 บริษัทนี้ก็ยังไม่ปิด และผมโดนหมายตำรวจให้ไปชำระเบี้ยปรับของปี 2558 คือเค้าไม่ทำอะไรเลย
" ผมสามารถทำอะไรกับเรื่องนี้ได้บ้างครับ "
หมายเหตุ ผมไม่ได้แจ้งความเพราะเห็นเป็นเพื่อน และปัจุบันหนี้สินที่เกิดจากการดำเนินธุรกิจบางส่วน ผมต้องหาใช้คืนลูกค้าอยู่ฝ่ายเดียว ผมท้อมาก ครับ
ถ้าเจ้าของกระทู้ใช้คำผิด พิมพ์ผิดหรือไม่สุภาพต้องกราบขออภัยด้วยนะครับ