สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
ตัวคุณยังไม่ให้เกียรติตัวเองเลยคนอื่นเค้าไม่เกียรติเราก็ไม่แปลกหรอก
อย่าคิดว่าสมัยนี้แล้วท้องก่อนแต่งไม่มีใครเค้าถือสาแล้ว คนที่ถือก็มี
ยิ่งถ้าไม่ปลื้มสะใภ้แต่แรกอยู่แล้วยิ่งเป็นข้อตำหนิใหญ่ในใจเลยแหละ
พ่อแม่สามีเค้าถึงพูดไงว่าท้องแล้วแต่งทำไม ฝ่ายคุณจะเรียกร้องอะไรก็พูดได้ไม่เต็มปากละ
ล่วงเลยจนป่านนี้แล้วเลิกคิดถึงเรื่องสินสอดไปได้เลยเค้าไม่ให้คุณหรอก
อ่านที่คุณเล่ามาเค้าไม่ปลื้มลูกสะใภ้อย่างคุณเค้าเลยไม่ให้กระเด็นสักแดง ไม่ใช่ว่ารวยแล้วเปย์ทุกอย่าง
อีกอย่างแต่งงานสามีคุณควรหามาแต่งเองไม่ใช่โบ้ยไปที่พ่อแม่แล้วไปเคืองเค้า
ทุกวันนี้สามีคุณทำงานอะไร ดูแลลูกเมียได้มั้ย มันคือหน้าที่สามีคุณ ไม่ใช่พ่อแม่เค้ามาเลี้ยงสะใภ้
อย่าคิดว่าสมัยนี้แล้วท้องก่อนแต่งไม่มีใครเค้าถือสาแล้ว คนที่ถือก็มี
ยิ่งถ้าไม่ปลื้มสะใภ้แต่แรกอยู่แล้วยิ่งเป็นข้อตำหนิใหญ่ในใจเลยแหละ
พ่อแม่สามีเค้าถึงพูดไงว่าท้องแล้วแต่งทำไม ฝ่ายคุณจะเรียกร้องอะไรก็พูดได้ไม่เต็มปากละ
ล่วงเลยจนป่านนี้แล้วเลิกคิดถึงเรื่องสินสอดไปได้เลยเค้าไม่ให้คุณหรอก
อ่านที่คุณเล่ามาเค้าไม่ปลื้มลูกสะใภ้อย่างคุณเค้าเลยไม่ให้กระเด็นสักแดง ไม่ใช่ว่ารวยแล้วเปย์ทุกอย่าง
อีกอย่างแต่งงานสามีคุณควรหามาแต่งเองไม่ใช่โบ้ยไปที่พ่อแม่แล้วไปเคืองเค้า
ทุกวันนี้สามีคุณทำงานอะไร ดูแลลูกเมียได้มั้ย มันคือหน้าที่สามีคุณ ไม่ใช่พ่อแม่เค้ามาเลี้ยงสะใภ้
แสดงความคิดเห็น
ปัญหาสินสอด
เริ่มจากฐานะบ้านสามี ค่อนข้างมีอันจะกิน เพราะเที่ยว ต่างประเทศทุกเดือน (เที่ยวเกือบรอบโลกแล้วค่ะ)
ส่วนฐานะบ้านดิฉัน ปานกลาง อยู่แบบประหยัด ก็แค่พนักงานกินเงินเดือน เช้าชามเย็นชาม
เราสองคนได้มีลูกก่อนแต่งงานค่ะ ดิฉันท้องได้เดือนกว่าค่ะ พอสามีรู้ก็เลยบอกทางพ่อแม่เค้า ให้จัดงานแต่งงานให้ค่ะ ตอนแรกพ่อแม่สามีเค้าไม่ค่อยพอใจคือ เค้าเห็นว่าท้องแล้วจะแต่งทำไม แต่สุดท้ายก็ยอมให้แต่ง เพื่อหน้าตาของลูกเค้าเองค่ะ
ก่อนแต่งทางแม่สามีได้ถามเรื่องสินสอดกับแม่ดิฉันว่าจะเรียกยังไง แม่ดิฉันบอกไปว่าแล้วแค่เห็นสมควรค่ะ แต่ฝ่ายแม่สามีจึงถาม แม่ดิฉันอีกว่า จะเรียกเท่าไหร่ว่ามาเลย ฝ่ายแม่ดิฉันก็บอกไป ว่า เงินสด 199,999 กับ ทอง อีก 9 บาท พอเป็นพิธี ไม่ต้องมากมาย พอแม่สามีได้ยินว่าจำนวนเท่านี้ ไม่พอใจ มีต่อลองให้ลดลงอีก ให้เหลือ เงินสด 100,000 กับทอง 5 บาท ฝ่ายแม่ดิฉันได้ยินก็ไม่พอใจนะค่ะ แต่ก็ทำไงได้ แค่นี้ก็แค่นี้ จะได้จบๆ ฝ่ายแม่สามีบอกอีกว่าสินสอดจะให้วันแต่งงานนะ แต่สรุป พอถึงวันแต่งงาน ฝ่ายพ่อแม่สามีไม่เอาสินสอดมา ทำนิ่งไม่พูดถึง จนงานจบ แม่ดิฉัน ไม่พอใจอย่างมาก แต่ก็ไม่ได้ต่อว่าหรือพูดอะไร เพราะแม่ดิฉันกลัวดิฉันจะอยู่บ้านเค้าไม่ได้ ไม่อยากให้เป็นปัญหา เลยบอกกับดิฉันว่า ลูกเอ้ยอยู่กับคนพวกนี้ลำบากหน่อยนะ ยังไงก็อดทนให้มากๆเพื่อลูกที่กำลังจะเกิด ส่วนเรื่องสินสอดชั่งมัน ไม่ต้องไปทวงเค้า รอดูไปว่าจะให้รึป่าว
จนเวลาผ่านไป ตอนนี้ลูกดิฉันคลอดแล้ว อายุได้ ขวบกว่า แล้ว. ทางฝ่ายพ่อแม่สามีก็นิ่งไม่พูดถึงเรื่องสินสอดอีกเลย.
ดิฉันบอกตามตรง ดิฉันรู้สึกอึดอัดมาก ที่ฝ่ายพ่อแม่สามีไม่ให้เกียติฝ่ายแม่ดิฉัน ทุกวันนี้ต้องอดทน และรู้สึกผิด ที่ดิฉันทำไรไม่ได้เลย
เพราะทุกวันนี้กินอยู่บ้านเค้า เงินก็ไม่เคยให้เราเลย เค้างกกับเรามากค่ะ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ สามีไม่เคยมีนิสัยนี้เลย สามีเค้าเชื่อฟังพ่อแม่เค้ามากจนดิฉันมองแล้วเหมือนลูกแง ทุกวันนี้ต้องอดทนเพื่อลูกอย่างมาก ไม่รู้ว่าจะทนได้แค่ไหนเลยค่ะ
** ดิฉันควรทำไงดีค่ะ เรื่องสินสอด ตอนนี้เริ่มคิดล่ะว่าจะทำไงถึงจะได้ อย่างน้อยเพื่อไว้เป็นหลักประกันตัวเรากับลูกบ้างก็ยังดี