ท้าวความ
เรา เป็น ผญ คนหนึ่ง มีแฟนอยู่คนหนึ่ง มีพ่อที่น่ารักอีกคนหนึ่ง แต่พ่อไม่รู้ว่าเรามีแฟน
คบแฟนมาสักพัก แฟนก็แนะนำวิธีโกงค่าไฟ ค่าน้ำบ้าน ซึ่งบ้านเค้าก็ทำอยู่ เราเองทำไม่เป็น ฟังแล้วก็ไม่เข้าหัวและรู้สึกไม่ถูกต้องที่จะทำเลยปฎิเสธมาตลอด แต่แฟนก็ยังยืนยันว่าใช้ได้ผลดี บอกจะมาทำให้ถ้าเราทำไม่ได้ด้วยจิตเจตนาดี เราก็ยังไม่เห็นด้วย และเอาไปถามพ่อว่ามีความเห็นใดกับเรื่องนี้
ประเด็นอยู่ที่คำตอบของพ่อ
เรา - พ่อคะ มีเพื่อนแนะนำวิธีโกงค่าน้ำค่าไฟ พ่อคิดว่าไงคะ
พ่อ - (มองหน้าลูกสาวอย่างอึ้งๆ แล้วถามเสียงนิ่งๆ) เค้าพูดมาแบบนี้ลูกยังจะคบเค้าเป็นเพื่อนอีกหรือ คบคนพาล พาลพาไปหาผิด เค้าเป็นขี้ยังไปคลุกคลีให้แปดเปื้อน ให้ตัวเองเหม็นทำไม คนแบบนี้เห็นแต่ประโยชน์ของตัวเอง เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ก็ยังโกง อีกหน่อยก็ต้องไปโกงเรื่องใหญ่กว่านี้ สักวันก็จะสร้างความเดือดร้อนมาให้เราไม่ทางตรงก็ทางอ้อม ไปๆมาๆมันคิดได้ก็โกงเรา ไม่โกงเรื่องเล็ก ก็โกงเรื่องใหญ่ ไม่โกงก็เอาเปรียบเรา คนแบบนี้สันดานมันเห็นแก่ตัว เพื่อนพ่อถ้ามีคนแบบนี้จะไม่สุงสิงด้วย พูดคุยอย่างผิวเผิน ไม่เอาเข้ามาในชีวิตเป็นอันขาด ลูกก็ควรจะอยู่ให้ห่างคนแบบนี้ให้มาก
เราฟังถึงกับอึ้งไป มาย้อนคิดดู แฟนคนนี้เค้าบอกว่าตัวเอง "เป็นคนฉลาดรู้จักเอาตัวรอด"
แต่ก็จริงอย่างพ่อว่า แฟนคนนี้มีนิสัยเอาเปรียบคนอื่น อะไรที่เป็นทางลัดก็ยินดีทำไม่เลือกวิธีการ
เ
ราเลยเอาเรื่องที่พ่อพูดไปบอกแฟนตามตรง (ตามที่เขียนให้พวกคุณอ่านนั่นแหละ) เขาตอบว่า
"สังคมบีบให้คนต้องเอาตัวรอด ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าข้าวขึ้นไม่หยุด แต่เงินเดือนมีเท่าเดิมจะพอได้ยังไง
มีคนโง่ที่เห็นแก่ตัวในรัฐบาล ทำให้คนอื่นอยู่อย่างยากลำบาก ผมไม่ใช่คนโง่ที่จะให้คนอื่นเอาเปรียบฝ่ายเดียว
คนโกงเอาภาษีไปไม่ตกถึงประชาชน เกษียนไปเราได้แค่ 600 ต่อเดือนทำไมเป็นแบบนั้น
คนที่ประสบความสำเร็จไม่ได้มาด้วยผ้าที่ใสสะอาดแน่นอน เขาเรียกว่า อยู่เป็น คนรวยๆยิ่งใหญ่ เค้าก็โกงก็มีความสุขดี ยิ่งใหญ่ผูกขาด
เธอควรจะตามยุคสมัยให้ทัน เธอไม่ต้องสนใจเรื่องชั่วๆแบบนั้น เพียงแค่รู้ว่าเธออยู่กับคนฉลาดก็พอ
ความสุขคือเงินที่มีไม่จำกัด เธออยากซื้อ อยากกินก็ทำได้ทั้งนั้น นั่นแหละความสุข
การอยู่ในกรอบแล้วดี มันก็แค่นั้น ไม่เจริญ ไม่รวย
เธอเพียงแต่ไม่เคยทำเรื่องไม่ดี คนเราเป็นคนขี้กลัวโดยธรรมชาติ แต่พอได้ลองก็จะรู้ว่ามันดี"
ฟังจบเราก็มานั่งคิด ตลอดชีวิตเราไม่เคยทำเรื่องที่ต้องละอายใจ ใครเข้าใจผิดก็ไม่เคยคิดต้องไปอธิบายเพราะบริสุทธ์ใจ เจอตำรวจไม่เคยกลัว เสียภาษี เสียค่าใช้จ่ายต่างๆอย่างตรงเวลาไม่บิดพริ้ว ไม่เคยต้องขับทางน้อยเพราะไม่มีใบขับขี่ ไม่เคยทิ้งขยะบนพื้นสาธารณะด้วยความมักง่าย
ไม่พูดคำหยาบคาย กู มุง ไม่ออกจากปาก ไม่ว่าคุยกับเพื่อนสนิตก็ตาม
เคยอยู่บริษัทที่เค้าโกงลูกค้าแล้วเรารู้เห็นมีส่วนด้วยก็ลาออกมาเพราะใจรับไม่ได้
พ่อเราก็ไม่เคยทำชั่ว มีบัตรเติมน้ำมันบริษัทไม่จำกัด แต่ถ้าไปกิจของตัวเองก็ไม่เคยเอาไปเบิกแม้จะไม่มีใครว่าหรือตามจับผิดพ่อก็ตาม ไม่เคยเอาเปรียบที่ทำงาน หรือใครคนไหน วันว่างก็ไปสอนหนังสือการกุศล เป็นที่ปรึกษาให้บริษัทต่างๆฟรีเพื่อคุณภาพชีวิตของพนักงานระดับล่าง
ทั้ง 2 คนต่างมีเหตุผลเป็นของตัวเอง ทำเอาเราสับสนไม่รู้ควรทำยังไง แต่ที่แน่ๆ 2 คนนี้เข้ากันไม่ได้แน่นอน
ปล. ไม่ทราบแท๊คถูกห้องหรือเปล่านะคะ
เรื่องเริ่มจาก แฟนแนะนำวิธีโกงค่าไฟ ค่าน้ำบ้าน - ข้อคิดของพ่อ ตีกับ ข้อคิดของแฟน ทำเราสับสนมาก
เรา เป็น ผญ คนหนึ่ง มีแฟนอยู่คนหนึ่ง มีพ่อที่น่ารักอีกคนหนึ่ง แต่พ่อไม่รู้ว่าเรามีแฟน
คบแฟนมาสักพัก แฟนก็แนะนำวิธีโกงค่าไฟ ค่าน้ำบ้าน ซึ่งบ้านเค้าก็ทำอยู่ เราเองทำไม่เป็น ฟังแล้วก็ไม่เข้าหัวและรู้สึกไม่ถูกต้องที่จะทำเลยปฎิเสธมาตลอด แต่แฟนก็ยังยืนยันว่าใช้ได้ผลดี บอกจะมาทำให้ถ้าเราทำไม่ได้ด้วยจิตเจตนาดี เราก็ยังไม่เห็นด้วย และเอาไปถามพ่อว่ามีความเห็นใดกับเรื่องนี้
ประเด็นอยู่ที่คำตอบของพ่อ
เรา - พ่อคะ มีเพื่อนแนะนำวิธีโกงค่าน้ำค่าไฟ พ่อคิดว่าไงคะ
พ่อ - (มองหน้าลูกสาวอย่างอึ้งๆ แล้วถามเสียงนิ่งๆ) เค้าพูดมาแบบนี้ลูกยังจะคบเค้าเป็นเพื่อนอีกหรือ คบคนพาล พาลพาไปหาผิด เค้าเป็นขี้ยังไปคลุกคลีให้แปดเปื้อน ให้ตัวเองเหม็นทำไม คนแบบนี้เห็นแต่ประโยชน์ของตัวเอง เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ก็ยังโกง อีกหน่อยก็ต้องไปโกงเรื่องใหญ่กว่านี้ สักวันก็จะสร้างความเดือดร้อนมาให้เราไม่ทางตรงก็ทางอ้อม ไปๆมาๆมันคิดได้ก็โกงเรา ไม่โกงเรื่องเล็ก ก็โกงเรื่องใหญ่ ไม่โกงก็เอาเปรียบเรา คนแบบนี้สันดานมันเห็นแก่ตัว เพื่อนพ่อถ้ามีคนแบบนี้จะไม่สุงสิงด้วย พูดคุยอย่างผิวเผิน ไม่เอาเข้ามาในชีวิตเป็นอันขาด ลูกก็ควรจะอยู่ให้ห่างคนแบบนี้ให้มาก
เราฟังถึงกับอึ้งไป มาย้อนคิดดู แฟนคนนี้เค้าบอกว่าตัวเอง "เป็นคนฉลาดรู้จักเอาตัวรอด"
แต่ก็จริงอย่างพ่อว่า แฟนคนนี้มีนิสัยเอาเปรียบคนอื่น อะไรที่เป็นทางลัดก็ยินดีทำไม่เลือกวิธีการ
เราเลยเอาเรื่องที่พ่อพูดไปบอกแฟนตามตรง (ตามที่เขียนให้พวกคุณอ่านนั่นแหละ) เขาตอบว่า
"สังคมบีบให้คนต้องเอาตัวรอด ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าข้าวขึ้นไม่หยุด แต่เงินเดือนมีเท่าเดิมจะพอได้ยังไง
มีคนโง่ที่เห็นแก่ตัวในรัฐบาล ทำให้คนอื่นอยู่อย่างยากลำบาก ผมไม่ใช่คนโง่ที่จะให้คนอื่นเอาเปรียบฝ่ายเดียว
คนโกงเอาภาษีไปไม่ตกถึงประชาชน เกษียนไปเราได้แค่ 600 ต่อเดือนทำไมเป็นแบบนั้น
คนที่ประสบความสำเร็จไม่ได้มาด้วยผ้าที่ใสสะอาดแน่นอน เขาเรียกว่า อยู่เป็น คนรวยๆยิ่งใหญ่ เค้าก็โกงก็มีความสุขดี ยิ่งใหญ่ผูกขาด
เธอควรจะตามยุคสมัยให้ทัน เธอไม่ต้องสนใจเรื่องชั่วๆแบบนั้น เพียงแค่รู้ว่าเธออยู่กับคนฉลาดก็พอ
ความสุขคือเงินที่มีไม่จำกัด เธออยากซื้อ อยากกินก็ทำได้ทั้งนั้น นั่นแหละความสุข
การอยู่ในกรอบแล้วดี มันก็แค่นั้น ไม่เจริญ ไม่รวย
เธอเพียงแต่ไม่เคยทำเรื่องไม่ดี คนเราเป็นคนขี้กลัวโดยธรรมชาติ แต่พอได้ลองก็จะรู้ว่ามันดี"
ฟังจบเราก็มานั่งคิด ตลอดชีวิตเราไม่เคยทำเรื่องที่ต้องละอายใจ ใครเข้าใจผิดก็ไม่เคยคิดต้องไปอธิบายเพราะบริสุทธ์ใจ เจอตำรวจไม่เคยกลัว เสียภาษี เสียค่าใช้จ่ายต่างๆอย่างตรงเวลาไม่บิดพริ้ว ไม่เคยต้องขับทางน้อยเพราะไม่มีใบขับขี่ ไม่เคยทิ้งขยะบนพื้นสาธารณะด้วยความมักง่าย
ไม่พูดคำหยาบคาย กู มุง ไม่ออกจากปาก ไม่ว่าคุยกับเพื่อนสนิตก็ตาม
เคยอยู่บริษัทที่เค้าโกงลูกค้าแล้วเรารู้เห็นมีส่วนด้วยก็ลาออกมาเพราะใจรับไม่ได้
พ่อเราก็ไม่เคยทำชั่ว มีบัตรเติมน้ำมันบริษัทไม่จำกัด แต่ถ้าไปกิจของตัวเองก็ไม่เคยเอาไปเบิกแม้จะไม่มีใครว่าหรือตามจับผิดพ่อก็ตาม ไม่เคยเอาเปรียบที่ทำงาน หรือใครคนไหน วันว่างก็ไปสอนหนังสือการกุศล เป็นที่ปรึกษาให้บริษัทต่างๆฟรีเพื่อคุณภาพชีวิตของพนักงานระดับล่าง
ทั้ง 2 คนต่างมีเหตุผลเป็นของตัวเอง ทำเอาเราสับสนไม่รู้ควรทำยังไง แต่ที่แน่ๆ 2 คนนี้เข้ากันไม่ได้แน่นอน
ปล. ไม่ทราบแท๊คถูกห้องหรือเปล่านะคะ