ยุคนี้คงไม่มีใคร ไม่รู้จักชนชั้นนักรบแห่งสังคมศักดินาโบราณของญี่ปุ่น หรือที่เราเรียกกันว่า ซามูไร (侍) ใช่มั้ยครับ

คนส่วนใหญ่จะติดภาพว่า อาวุธคู่กายของซามูไรมีเพียง ดาบญี่ปุ่น (刀) เท่านั้น
แต่ผิดครับ อาวุธคู่กายของซามูไรที่ถูกใช้มาตั้งแต่กำเนิดชนชั้นซามูไร ก็คือ ธนู ครับ
ธนูที่ผมพูดถึงอยู่นี้คือ ธนูญี่ปุ่น หรือ ยูมิ (弓)

ธนูกลายเป็นสิ่งโก้หรูของสังคมนักรบในญี่ปุ่น ตั้งแต่ที่ญี่ปุ่นเริ่มรับวัฒนธรรมจีน ช่วงยุคราชวงศ์ถัง
ญี่ปุ่นไม่ได้รับเพียงแค่เครื่องแต่งกาย ศาสนา ประเพณี หรือผังเมืองเท่านั้น
แต่ยังรับสิ่งที่เป็นที่นิยมในหมู่ผู้มีการศึกษาของจีนในยุคนั่นด้วย ซึ่งก็คือ การยิงธนูแบบพิธีนั่นเอง
ค่านิยมชายจีนในยุคนั้น ธนูเป็นหนึ่งในสิ่งที่ผู้มีการศึกษาต้องฝึกฝนให้เชี่ยวชาญ
ค่านิยมนี้ยังได้ส่งผ่านมาถึงญี่ปุ่นด้วยเช่นกันครับ

ต่อมา แม้ว่าค่านิยมด้านธนูในจีนจะเลือนหายไป แต่ในญี่ปุ่นค่านิยมนี้กลับรุ่งเรืองไม่มีจางหาย
จนต่อมาได้พัฒนาเป็นแนวคิดที่ว่า นักรบต้องขี่ม้า ฟันดาบ และยิงธนูได้อย่างเชี่ยวชาญ







ธนูเข้ามามีบทบาทในการทหารอย่างจริงจังในช่วงสงครามเกมเปย์ (源平合戦)
ซึ่งเป็นสงครามระหว่างตระกูลไทระและตระกูลมินาโมโตะ
ช่วงนี้เองเป็นช่วงที่การใช้ธนูในการสงครามเฟื่องฟูถึงที่สุด เมื่อจบสงคราม โชกุนมินาโมโตะ โนะ โยริโทโมะ (源頼朝)
ได้มีคำสั่งให้เหล่าซามูไรฝึกการยิงธนูบนหลังม้าขึ้นมา เพื่อที่จะได้กระตุ้นเหล่านักรบร้างสงคราม ให้ตื่นตัวตลอดเวลา
ไม่เกียจคร้านในการฝึกฝน และการฝึกนี้ ได้พัฒนาเป็นพิธียาบุซาเมะ(流鏑馬式) ในเวลาต่อมาครับ


ธนูเป็นหนึ่งในอาวุธสำคัญ ในช่วงยุคเซนโกคุ (戦国時代)ซึ่งเป็นช่วงสงครามกลางเมืองที่ขุนศึกทั่วประเทศต่างตั้งตัวเป็นใหญ่
รบพุ่งแย่งชิงอำนาจกันอุตลุตวุ่นวาย โดยไม่เห็นหัวโชกุนหรือจักรพรรดิเลย
จากสงครามในยุคนี้ มีบันทึกที่ชี้ว่า ธนูและก้อนหิน ฆ่าคนเป็นอันดับหนึ่งในสนามรบเลยทีเดียว
แสดงให้เห็นว่า แม้ในศตวรรษที่ 16 ธนูยังคงความสำคัญอยู่ ถึงแม้จะมีปืนคาบชุดใช้แล้วก็ตามที
ในวาระสุดท้ายของขุนพลที่เลื่องชื่อ โอดะ โนบุนากะ(織田信長) ก็ยังได้ใช้ธนูยิงสู้กับทหารของ
อาเคจิ มิตสึฮิเดะ(明智光秀) ผู้ทรยศ ก่อนจะกลับเข้าไปในอาคารวัดฮนโนว เพื่อฆ่าตัวตาย
ต่อมา ขุนพลนาม โทคุงาวะ อิเอยาสึ (徳川家康)ชนะศึกที่เซกิงาฮาระ (関ヶ原の戦い)ในปี 1600
และขึ้นเป็นโชกุน รวบรวมอำนาจได้อย่างเบ็ดเสร็จ ญี่ปุ่นเข้าสู่ยุคสงบสุขกว่า 300 ปี ทำให้ซามูไรตกงานกันเป็นแถว
ยังเหลือเพียงส่วนน้อยที่ยังได้รับใช้เจ้านายในปราสาทต่อไป ด้วยความสงบสุขนี้เอง
ทำให้การฝึกยิงธนูในหมู่นักรบ เสื่อมความนิยมลง ต่างมุ่งฝึกฝนเพียงการใช้ดาบเท่านั้น
เมื่อเวลาผ่านไปการใช้ธนูในการทหารของเหล่าซามูไรก็เลือนหายไป เหลือเพียงการฝึกฝนเพื่อฝึกฝนจิตใจ
ซึ่งจะพัฒนาเป็น ศาสตร์การยิงธนูญี่ปุ่น หรือ คิวโด (弓道)ในเวลาต่อมาครับ
ถึงแม้ว่าในสงครามโบะชิน (戊辰戦争)ที่เป็นสงครามปฏิวัติเปลี่ยนระบอบก่อนยุคเมย์จิ จะยังมีการใช้ดาบหรือหอกรบกันก็จริง
แต่ธนูก็ได้สูญหายไปจากกองทัพอย่างสิ้นเชิง และได้มีการใช้ปืนอย่างเต็มรูปแบบแทน

หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้มีการรวมตัวของบรรดาอาจารย์ที่เคยสอนศาสตร์การยิงธนูญี่ปุ่น
เพื่อก่อตั้งสมาคมคิวโด (Kyudo Federation) ขึ้นมา เพื่อที่จะรักษาไม่ให้ศาสตร์การยิงธนูสูญหายไปตามกาลเวลา
ศาสตร์การยิงธนูญี่ปุ่นจึงยังไดรับการสืบทอดอยู่จนทุกวันนี้ครับ
หากท่านใดสนใจเรื่องราวของธนูเทรดดิชันแนลเพิ่มเติม สามารถติดตามได้ทางเพจอีกทางหนึ่งครับ
https://www.facebook.com/worldwidetraditionalbow
ธนูญี่ปุ่น (ยูมิ) อาวุธคู่ใจเหล่าซามูไร
คนส่วนใหญ่จะติดภาพว่า อาวุธคู่กายของซามูไรมีเพียง ดาบญี่ปุ่น (刀) เท่านั้น
แต่ผิดครับ อาวุธคู่กายของซามูไรที่ถูกใช้มาตั้งแต่กำเนิดชนชั้นซามูไร ก็คือ ธนู ครับ
ธนูที่ผมพูดถึงอยู่นี้คือ ธนูญี่ปุ่น หรือ ยูมิ (弓)
ธนูกลายเป็นสิ่งโก้หรูของสังคมนักรบในญี่ปุ่น ตั้งแต่ที่ญี่ปุ่นเริ่มรับวัฒนธรรมจีน ช่วงยุคราชวงศ์ถัง
ญี่ปุ่นไม่ได้รับเพียงแค่เครื่องแต่งกาย ศาสนา ประเพณี หรือผังเมืองเท่านั้น
แต่ยังรับสิ่งที่เป็นที่นิยมในหมู่ผู้มีการศึกษาของจีนในยุคนั่นด้วย ซึ่งก็คือ การยิงธนูแบบพิธีนั่นเอง
ค่านิยมชายจีนในยุคนั้น ธนูเป็นหนึ่งในสิ่งที่ผู้มีการศึกษาต้องฝึกฝนให้เชี่ยวชาญ
ค่านิยมนี้ยังได้ส่งผ่านมาถึงญี่ปุ่นด้วยเช่นกันครับ
ต่อมา แม้ว่าค่านิยมด้านธนูในจีนจะเลือนหายไป แต่ในญี่ปุ่นค่านิยมนี้กลับรุ่งเรืองไม่มีจางหาย
จนต่อมาได้พัฒนาเป็นแนวคิดที่ว่า นักรบต้องขี่ม้า ฟันดาบ และยิงธนูได้อย่างเชี่ยวชาญ
ธนูเข้ามามีบทบาทในการทหารอย่างจริงจังในช่วงสงครามเกมเปย์ (源平合戦)
ซึ่งเป็นสงครามระหว่างตระกูลไทระและตระกูลมินาโมโตะ
ช่วงนี้เองเป็นช่วงที่การใช้ธนูในการสงครามเฟื่องฟูถึงที่สุด เมื่อจบสงคราม โชกุนมินาโมโตะ โนะ โยริโทโมะ (源頼朝)
ได้มีคำสั่งให้เหล่าซามูไรฝึกการยิงธนูบนหลังม้าขึ้นมา เพื่อที่จะได้กระตุ้นเหล่านักรบร้างสงคราม ให้ตื่นตัวตลอดเวลา
ไม่เกียจคร้านในการฝึกฝน และการฝึกนี้ ได้พัฒนาเป็นพิธียาบุซาเมะ(流鏑馬式) ในเวลาต่อมาครับ
ธนูเป็นหนึ่งในอาวุธสำคัญ ในช่วงยุคเซนโกคุ (戦国時代)ซึ่งเป็นช่วงสงครามกลางเมืองที่ขุนศึกทั่วประเทศต่างตั้งตัวเป็นใหญ่
รบพุ่งแย่งชิงอำนาจกันอุตลุตวุ่นวาย โดยไม่เห็นหัวโชกุนหรือจักรพรรดิเลย
จากสงครามในยุคนี้ มีบันทึกที่ชี้ว่า ธนูและก้อนหิน ฆ่าคนเป็นอันดับหนึ่งในสนามรบเลยทีเดียว
แสดงให้เห็นว่า แม้ในศตวรรษที่ 16 ธนูยังคงความสำคัญอยู่ ถึงแม้จะมีปืนคาบชุดใช้แล้วก็ตามที
ในวาระสุดท้ายของขุนพลที่เลื่องชื่อ โอดะ โนบุนากะ(織田信長) ก็ยังได้ใช้ธนูยิงสู้กับทหารของ
อาเคจิ มิตสึฮิเดะ(明智光秀) ผู้ทรยศ ก่อนจะกลับเข้าไปในอาคารวัดฮนโนว เพื่อฆ่าตัวตาย
ต่อมา ขุนพลนาม โทคุงาวะ อิเอยาสึ (徳川家康)ชนะศึกที่เซกิงาฮาระ (関ヶ原の戦い)ในปี 1600
และขึ้นเป็นโชกุน รวบรวมอำนาจได้อย่างเบ็ดเสร็จ ญี่ปุ่นเข้าสู่ยุคสงบสุขกว่า 300 ปี ทำให้ซามูไรตกงานกันเป็นแถว
ยังเหลือเพียงส่วนน้อยที่ยังได้รับใช้เจ้านายในปราสาทต่อไป ด้วยความสงบสุขนี้เอง
ทำให้การฝึกยิงธนูในหมู่นักรบ เสื่อมความนิยมลง ต่างมุ่งฝึกฝนเพียงการใช้ดาบเท่านั้น
เมื่อเวลาผ่านไปการใช้ธนูในการทหารของเหล่าซามูไรก็เลือนหายไป เหลือเพียงการฝึกฝนเพื่อฝึกฝนจิตใจ
ซึ่งจะพัฒนาเป็น ศาสตร์การยิงธนูญี่ปุ่น หรือ คิวโด (弓道)ในเวลาต่อมาครับ
ถึงแม้ว่าในสงครามโบะชิน (戊辰戦争)ที่เป็นสงครามปฏิวัติเปลี่ยนระบอบก่อนยุคเมย์จิ จะยังมีการใช้ดาบหรือหอกรบกันก็จริง
แต่ธนูก็ได้สูญหายไปจากกองทัพอย่างสิ้นเชิง และได้มีการใช้ปืนอย่างเต็มรูปแบบแทน
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้มีการรวมตัวของบรรดาอาจารย์ที่เคยสอนศาสตร์การยิงธนูญี่ปุ่น
เพื่อก่อตั้งสมาคมคิวโด (Kyudo Federation) ขึ้นมา เพื่อที่จะรักษาไม่ให้ศาสตร์การยิงธนูสูญหายไปตามกาลเวลา
ศาสตร์การยิงธนูญี่ปุ่นจึงยังไดรับการสืบทอดอยู่จนทุกวันนี้ครับ
หากท่านใดสนใจเรื่องราวของธนูเทรดดิชันแนลเพิ่มเติม สามารถติดตามได้ทางเพจอีกทางหนึ่งครับ
https://www.facebook.com/worldwidetraditionalbow