เสนอวิธีช่วยเหลือคนจนแบบใหม่ ไม่เอาประชานิยมอีกต่อไป(ไม่ใช่ประชารัฐด้วย)

ทำไมเราต้องเอาแบบใหม่  ซ่อนไว้สำหรับคนที่ขี้เกียจอ่านยาวๆ ข้ามไปเนื้อหาหลักได้เลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ไม่ว่าประชานิยมหรือประชารัฐ  ต่างก็เป็นสังคมนิยมอีกรูปแบบ
ที่เหมือนๆกันคือ หลักการมันเอาเงินจากผู้เสียภาษี ไปช่วยเหลือคนจน
ต่างกันบ้างตรงรูปแบบและใครได้หน้า

เรามาตกลงกันก่อนดีไหม  ว่าจะให้มีการช่วยเหลือคนจนอีกหรือไม่  หรือจะให้ต่างคนต่างช่วยเหลือตัวเอง  ถ้าไม่ต้องช่วยก็จบ
แต่ถ้าจะช่วย จะช่วยแบบไหนที่คนช่วยเต็มใจ และช่วยคนที่สมควรช่วย  เท่านั้นเอง

ปัญหาของประชานิยม คือ ผู้เสียภาษีส่วนมากรู้สึกถูกเอาเปรียบ เพราะเป็นคนเสียเงินแต่นักการเมืองได้คะแนนนิยม
เช่น นาย(ก) เอาเงินภาษีนาย ข ไปให้นาย ค ใช้  แต่นาย ค ขอบคุณแต่นาย(ก)
และผู้ถูกช่วยเหลือก็จะเอาแต่ได้ฟรีๆ
จะบอกว่านาย ข ต้องจ่ายเพราะเป็นหน้าที่ต้องภาษีอยู่แล้ว และนาย ค ก็จ่ายภาษีเหมือนกัน  
ก็ไม่ถูกทั้งหมด เพราะนาย(ก) ควรเก็บแค่พอดีค่าใช้จ่ายที่จำเป็น
ยังไงก็ต้องมีคนที่เสียมากแต่ได้น้อย     ส่วนที่เกินมันก็คือการเอาเงินนาย ข ไปให้นาย ค แล้วไม่ใช่หน้าที่ของภาษีแล้ว(นาย ข คิดแบบนี้)

ประชารัฐมาแก้แค่จุดที่นักการเมืองได้หน้า แต่คนเสียภาษีก็ยังไม่เต็มใจรู้สึกเหมือนถูกบังคับจ่าย
แม้กระทั่งความรู้สึกของคนที่ได้ประชารัฐ ยังมองว่าวิธีช่วยเหลือยังไม่ตรงจุด อาจแย่กว่าเดิม
และยังไงนักการเมืองก็ต้องกลับมา  แล้วการเมืองจะวนลูปจนบ้านเมืองไม่พัฒนา


เรามาเอาแบบทุนช่วยเหลือสังคมนิยมดีไหม  
หรือจะเรียกพ่อพระแม่พระนิยมก็ได้นะ  ใครจ่ายคนนั้นได้หน้า วิธีตามนี้คือ
ให้คนเสียภาษีจ่ายเป็นสองส่วน  
ส่วนแรกจ่ายตามปกติให้แก่รัฐ  ส่วนแรกนี้ห้ามรัฐนำเงินไปช่วยเหลืออุดหนุนใดๆ
ส่วนที่สองเรียกว่าภาษีสังคม  คือ ให้ผู้เสียภาษีเอาเงินไปช่วยคนจนตรงๆกับมือ  
เอาแบบมากกว่าดีกว่าแค่วิธีลดหย่อนของภาษีเงินได้นะ

โดยรัฐกำหนดเกณฑ๋ว่าใครมีสิทธิรับการช่วยเหลือ แต่คนจ่ายเป็นคนเลือกว่าจะช่วยใครอีกที
เช่น รัฐอาจกำหนดว่าช่วยเหลือคนจนที่เรียนอยู่ได้ไม่เกินค่าเทอม แล้วใครที่เล่นการพนัน  กินเหล้าก็ห้ามอ้างสิทธิ์ขอความช่วยเหลือจากภาษีด้วย
แล้วไม่ใช่จำกัดแค่ช่วยคนนะ  จะช่วยสัตว์ก็ได้ด้วย
ถ้าใครไม่ว่างก็เอาภาษีสังคมไปให้กองทุนภาครัฐจัดการก็ตามใจ
รายละเอียดอื่นๆไว้ทีหลัง เอาแค่หลักการก่อน

วิธีนี้  คนจ่ายภาษีก็จ่ายเท่าเดิมแหละ แต่จะรู้สึกว่าได้ช่วยคนที่ตัวเองอยากช่วยจริงๆ ไม่ใช่ถูกบังคับ และยังได้ช่วยเหลือสังคมอีก
และคนที่ถูกช่วยจะเป็นควรถูกช่วยจริงๆ เพราะคนที่ทำตัวเหลวไหล ก็ไม่มีคนช่วยนะ