พวกเก็บตัว แบบผม - ชาตินี้จะได้เจอคนที่ใช่ไหมครับ ?

กระทู้คำถาม
    ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าผม เป็นพวกเก็บตัว ( ต้องบอกไหม ? ) ไม่มั้ง

    
    ถ้างั้นเริ่มกันเลย สวัสดีครับ ผมเป็นผู้ชายเน้อ ( ไม่ต้องบอกมั้ง ) อายุ 19 ปี สถานะ โสด ทั้งชีวิต ( อนาถ ) ตั้งแต่เกิดจนโต ผมไม่เคยมีแฟนเลยครับ ( ฮ้า ๆ ๆ ) โสดมาตลอดชีวิตจนในอนาคตคาดว่า ไม่ต่างจากนี้แม้แต่น้อย


    ผมถึงได้ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา


    เพื่ออาจจะทำให้ผมมีแฟน ? ( ยาก )


    แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นก็อยากจะลองดู ( ตั้งเล่น ๆ นั่นละ ) ก่อนอื่นต้องท้าวความกลับไปก่อนเล็กน้อย


    เล็กน้อยเท่านั้น


    6 ปีก่อน ( ยาวหน่อยนะ )


    ในช่วงนั้นผมอยู่กรุงเทพครับ ผมถูกส่งไปอาศัยอยู่กับพ่อเนื่องจาก ภาวะติดเกมขนาดหนัก ได้ 0 10 กว่าตัว ในตอน ม 1 ของ โรงเรียนที่บ้านเกิดผม ผมจึงถูกส่งย้ายไปอยู่กลับพ่อแต่ผลกลับกลายเป็นว่า มันหนักกว่ายิ่งกว่า 0 10 กว่าตัวอีกครับ


    พ่อผมนั้นมีภาระหน้าที่จึงไม่ค่อยว่างดูแลนะครับ ( ติดปล้นเงิน ประชาชนอยู่ครับ ) ผมจึงถูกไปฝากไว้กับป้า ทำให้ช่วงนั้นผมกลายเป็นเด็กติดเกมไปโดรปริยาย เพราะไปโรงเรียนก็ไปเองครับ นั่งรถเมย์ไป วัน ๆ ก็ไม่มีอะไรมากนัก วันไหนเบื่อ ๆ หน่อยก็โดดเรียนไปเล่นเกม ตามประสาเด็กหัวเกรียนนักเรียนไทยเพิ่งเข้า ม 2 หมาด ๆ ( เข้าแบบเด็กแนว )


    ตอนนั้นผมอายุยังละอ่อน 13 เศษ ๆ ๆ ผมในตอนนั้นเป็นเด็กหัวเกรียน นักเรียนไทย ที่ไม่ค่อยสนใจเรียนและชีวิต รึอนาคตแม้แต่น้อย ทำให้ผมในตอนนั้นมีชีวิต ที่ไม่ต้องบอกก็รู้กัน ว่ามีอนาคตเช่นไร ผมในตอนนั้น ติดเกมมากครับ ถึงจะบอกว่าไม่เคยมีแฟนแต่ผมก็เคยมีประสบการณ์ความรัก จากเกม ๆ หนึ่งมาอย่างโชกโฉน ไม่ต้องบอกก็คงรู้กัน ( ออดิชั่น ) เกม ๆ นี้ ผมเองก็เล่นเหมือนเด็กทั่วไปธรรมดา เกรียนคีย์บอร์ด นักเลงคีย์บอร์ด พวกป่วนเช้าบ้าน อะไรหลาย ๆ อย่างที่สังคมประณามกันอย่างทั่วฟ้าทั่วแผ่นดิน ผมในตอนนั้นมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขครับ โดยไม่รู้อนาคตตัวเองมันจะอนาถเช่นนี้ ( ถ้ารู้อยากกลับไปกระทืบตัวเองให้จมดินสักครั้ง )


    ผมในตอนนั้นแม้จะเคยมีแฟนในเกม และ ในอินเทอร์เน็ตมาพอสมควร แต่ก็หาได้เคยพบเจอตัวจริงกันเลยสักครั้งเดียว เพราะงั้นผมถึงขอเรียกว่า ( ประสบการณ์ความรัก ) แทนที่จะเป็นแฟน นะครับ ผมในช่วงนั้นนอกจากเป็น เกรียนคีย์บอร์ดป่วนคนไปทั่ว แล้วยังเป็นเด็กไร้เดียงสาด้วยครับ


    สำหรับผมในตอนนั้น ตามประสาเด็กที่มีแฟนครับ ผมเพ้อหนักมากครับขอแค่ได้พูดคุยกันทุกวันได้พบเจอกันทุกวัน ( ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ) แม้จะไม่เห็นหน้าค่าตา รึ รู้จักกันก็ตามแต่ ขอแค่ได้เจอก็สุขใจ ผมถึงขั้นลงทุนโดดเรียนวันแล้ววันเล่าเพื่อไปพบเจอเธอ เงินค่าข้าวค่าอาหารไม่เคยเก็บไว้กินได้อิ่มตกถึงท้อง เสียเงินไปล้างพลาญทั้งกับค่าเล่นเกมในร้านเน็ต วันต่อวัน ยังไม่พอต้องเจียดเงินเก็บเป็นค่าเติมเงินเข้าเกม อีก ผมทำเช่นนั้นเรื่อยมาโดยที่ไม่ได้คิดถึงผลที่จะตามมา แม้แต่น้อย


    พอรู้ตัวอีกทีนั้น ผมก็โดดเรียนมากจนเกินไปยากที่จะเรียนจบ พอมีสอบซ่อมผมก็ยังคงโดดเรียนและไปพบเจอเธออยู่อย่างมิอาจหยุดยั้ง สุดท้ายจึงกลายเป็นว่า ผมสอบไม่ผ่านและได้รับสิทธิ์ซ้ำชั้น


    ผมจึงถูกส่งกลับบ้านเกิดของผมอย่างมิอาจหลีกเลี่ยง แต่พอผมกลับไปแล้วอาการ ติดเกมของผมก็ไม่มีแววจะดีขึ้นเลยครับ พอกลับมาอยู่กับฝ่ายแม่แล้วนั้นชีวิตก็ยังตรงดิ่ง พุ่งลงเหว เช่นเดิม นอกจากติดเกมแล้ว ผมยังติดทำตัวแบบสังคมของชาวญี่ปุ่นกลุ่มหนึ่ง ฮิคิโคโมริ พวกเก็บตัว พวกไม่เข้าสังคม ( เป็นโดยไม่รู้ตัวครับ รู้ตัวอีกทีก็เป็นเสียแล้ว )


    ผมในช่วงนั้น ทั้งติดเกม ทั้งเก็บตัว แต่ก็ยังถูกส่งไปเรียนเช่นเคยครับ ผมไม่ใช้คนเถียงพ่อแม่มากนัก แต่ก็มีเถียงอยู่หน่อย ถ้าเขาบอกให้ไปผมก็จะไป แต่ถ้าไม่มีคนควบคุม ผมก็จะหายเลยครับ เหมือนกลับจุดจบของ ตอนด้านบนที่ไม่มีใครคุม เพราะงั้นเมื่อผมไปเรียนเข้า ม 2 ใหม่ ที่ จังหวัดบ้านเกิด


    ผมเรียนอยู่ได้ประมาณ 7 วัน


    ขาด 3 ไปเรียน 2


    หลังจากนั้น ขาดยาวเลยครับ ไม่ไปอีกเลย สุดท้ายจึงกลับเป็นพวกเก็บตัว แม่ก็จนปัญญา ท่านเองก็ทำได้แค่หาเลี้ยงดูผมไปวัน ๆ ทำให้ผมในตอนนั้นชีวิตโคตร จะ อนาถสุด ๆ แบบ อายตัวเองที่เกิดมาเลยครับ ผมเก็บตัวมีชีวิตอยู่เช่นนั้นเรื่อยมาจนถึงอายุ 17 แต่แฟนก็ยังมีแค่ในสังคมออนไลน์เช่นเคย ผมพอใจกับการมีแฟนที่ไม่เคยเจอหน้ากันเช่นนั้น เพราะผมในตอนนั้นในหัว ยังไม่ได้มีเรื่อง


    ... ( อย่างว่า ) อยู่มากเท่าไหร่นักครับ ถ้ามันมีอารมณ์ ก็ใช้มือขวาช่วยสะ แค่นั้นเราก็จะหาย ทำให้ผมยังเป็นหนุ่มโสดซิงไร้เดียงสาอยู่จนถึงปัจจุบัน 17 ปี เต็ม ครับ และแฟนคนล่าสุดก็ตอนอายุ 17 ผมคบกับเธอด้วยความรักและความห่วงใย แต่ผมในตอนนั้นยังคงงี่เง่าเกินไป ทำให้ผมเป็นฝ่ายบอกเลิกเธอ และกลายเป็นว่าผมคงจะพลาดโอกาสที่จะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนครั้งสุดท้ายในชีวิตไปแล้วละมั้ง


    หลังจากนั้นจนอายุ 19 ผมก็ไม่เคยมีแฟนอีกเลยครับ ( เลิกเล่นเกมนั้น ) แม้จะเคยเล่น พวกไลน์ บีทอค เฟสบุค แต่ก็ไม่ช่วยให้มีแฟนได้จากสิ่งเหล่านั้นเลย อาจเป็นเพราะ .... อย่างการมีแฟนต้องใช้เวลาดูใจกันสักเดือนสองเดือนรึอาจนานกว่านั้นแต่หลังจากผมเลิกติดเกมเมื่ออายุ 17 ( ตาสว่าง เสียเวลาไป สี่ปี ) ผมก็ไม่เคยแตะเกมอีกเลยครับ นอกจากเข้าไปดูบ้างไม่ได้เข้าไปนานแต่ก็เรียกได้ว่า น้อยแถบจะนับด้วยนิ้วข้างเดียวได้ใน 1 ปี


    เพราะผมคล้ายกับตาสว่าง มันเหมือนกับการที่เราทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งซ้ำ ๆ จนชีวิตเหลวแหลก แต่ถ้าเราทำมันไปจนถึงจุด ๆ หนึ่ง คุณก็จะหยุดเพราะชีวิตของคุณมันไม่อาจเหลวแหลกเพราะสิ่ง ๆ นี้มากไปกว่านี้ได้อีกแล้ว ผมจึงเลิกเล่มเกมตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา


    ( ก่อนอื่นคำว่าติดเกมผมอาจใช้ผิดไปหน่อย ผมได้รู้จักพี่คนหนึ่งพวกเขาเป็นพวกติดเกมอย่างแท้จริง ทั้งคีย์บอร์ดทั้งเมาส์มีกระทั้งจอยเกม หูฟังแบบราคาแพง ลงเกมเสียเงิน เครื่องคอมราคามหาโหด คนเหล่านี้น่าจะเหมาะกับคำว่าติดเกมมากกว่า ส่วนตัวผม แค่ติดความรักในโลกแห่งนั้น ( ความรักในเกม )


    เมื่อมาถึงจุดหนึ่ง ๆ ผมก็เคยเลิกเล่นมันไปก่อนเพราะความเบื่อหน่ายแต่สุดท้ายก็กลับมาเล่นอีก เป็นเช่นนี้ตลอด 4 ปีทีเล่นเกมแต่ปัจจุบันผมกลับเลิกมันได้อย่างถาวร เพราะบ้างอย่าง ความรักสุดท้ายของผมในโลกแห่งนั้นครับ มันทำให้ผมไม่อยากแตะสิ่งใดและข้องแวะยุ่งเกี่ยวอีก ( บวกเหหตุผลหลัก ๆ เสียเงิน ผมเป็นคนมีเงินน้อย ) ( จน )


    ( จึงคิดว่าเกมแบบนี้มันไม่เหมาะกับผม ซึ่งน่าจะรู้ตัวนานแล้ว ถ้าเอาเงินมาลงกลับสิ่งไร้ประโยชน์ ซึ่งมันไม่ได้ช่วยเปลี่ยนแปลงอะไรเราเลยในชีวิตจริงแม้แต่น้อยก็ควรจะเลิกมันสะ ผมจึงเลิกมันไปอย่างง่ายดายเพราะเหตุผลสองสิ่งใหญ่ ๆ ความรักสุดท้ายจากเธอ และ ผมจน ครับ ฮ้า ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ หัวเราะดัง ๆ ให้ความอนาถของตัวเอง )


    และหลังจากนั้นก็กลับไปทำสิ่งไร้ประโยชน์ไปวัน ๆ ต่อแทนการเล่นเกม ติดอนิเมะ มังงะ ดูซีรีย์เกาหลี อังกฤษ ญี่ปุ่น ทำสิ่งเหล่านี้ซ้ำไปซ้ำมาตั้งแต่อายุ 13 ( นอกจากติดเกมใช้เวลาฆ่าเวลากับสิ่งเหล่านี้ด้วย )  ติดแมงอย่างโชกโฉน เสียเวลาอ่านและดูข้ามวันข้ามคืนไม่มีอะไรประเทืองปัญญาแม้แต่น้อย โคตรจะไร้สาระและมีสาระ ( ประชด ) เลย เรียกว่าดูเอาความฟินและความต้องการอย่างเดียวโดยแท้ ผมติดสิ่งเหล่านี้มาจนถึงเมื่ออายุ 18 ก็เปลี่ยนครับ

    
    เปลี่ยนมาติด นิยายแทนครับ ( ชีวิตโคตรจะไร้สาระ ) และหลังจากนั้นผมก็ติดมันเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน


    ชีวิตของผมมันไร้สาระใช่ไหมละครับ


    “ อืม ๆ ผมเห็นด้วยทีเดียวละมันก็ไร้สาระจริง ๆ นั่นละนะ ฮ้า ๆ ๆ ”


    “ แล้วพวกคุณละมีชีวิตกันยังไงบ้างได้มองย้อนกลับไปยังอดีตของตนบ้างรึเปล่า ครั้งสุดท้ายที่ได้มอง มองย้อนกลับไปเมื่อใด และได้ดูและยอมรับความผิดพลาดเหล่านั้นกันบ้างรึยังส่วนผมนะเหรอ โหะ ๆ ยังเลยละยังผิดพลาดอยู่เหมือนเดิม ฮ้า ๆ ๆ ”


    อันที่จริงกระทู้นี้ออกจะไร้สาระแบบสุด ๆ ผมใช้เวลาว่างส่วนใหญ่กับการ แต่งนิยาย ผมจึงค่อนข้างพิมพ์ได้เยอะหน่อย ( มีเวลาว่างเยอะ วันหนึ่งพิมพ์ได้วันละ 60 กว่าหน้า แนะ อิอิ ไร้สาระปะละ )


    จะว่าไปยังไม่ได้เล่าข้างบนเลย ไอ้เรื่องที่ไม่มีแฟนในไลน์ในบีทอคในเฟส อาจเพราะผมรู้สึกว่าการเป็นแฟนกันในสิ่งเหล่านั้น มันไม่ต่างจากผมคุยกับตัวเองสักเท่าไหร่ เพราะสุดท้ายมันก็แค่การพูดคุย อย่างไร้สาระและฆ่าเวลาไปวัน ๆ ของเหล่าหนุ่มสาว ซึ่งชีวิตผมมันก็ไร้สาระอยู่แล้วจึงไม่อยากเอาเวลาไปไร้สาระเพิ่มกว่านี้จึง ขอไร้สาระในสิ่งที่ชอบแทน เพราะผมไม่ได้ชอบในการพูดคุยกับผู้ใดมากนัก แต่ก็พูดได้ไม่มีปัญหาแต่ถ้าจะให้พูดคุยกันยาว ๆ เป็นเดือน ยานอนหลับมากรอกปากผมเถอะ


    ( ผมเป็นเช่นนี้ตั้งแต่เลิกติดเกมนั้นผมก็ไม่อาจจะมีความรู้สึกและความรักผ่านเจ้าหน้าจอนี้ได้อีกเลย ) ( เพราะมันต้องเสียเวลาจีบกัน ซึ่งผมไม่มีวะ ทำใจคุยกับใครนาน ๆ ไม่ได้จริง ๆ เอาเวลาไปไร้สาระส่วนอื่นมีความสุขดีกว่า )


    ( เพราะบ้างครั้งการลงทุนนั้นมีความเสี่ยง เสี่ยงคุยไป สามสี่เดือนผลที่ได้กลับมาเป็นเพียงแค่ ... เพื่อนรัก เพื่อนสนิท น้องชายที่รัก พี่ชายสุดหล่อ โอปป้า ( ไม่ใช่ละ ) มันจึงไม่คุ้มค่าและไม่ใช่สิ่งที่ผมรักผมชอบเอาสะเลย ทำให้ผมไม่เคยแม้แต่น้อยนิดที่จะคิดไปใช้ชีวิตกับสิ่งเหล่านั้น


    เอาละผมก็เพ้อมาพอสมควรได้แล้วคงได้เวลาจากลา


    ใครที่หลงเข้ามาอ่านในกระทู้นี้ ก็ต้องขอบคุณที่ทนอ่านจนจบ ขอบคุณจากใจเลย หรืออ่านผ่านตามแต่ แต่ก็ยังเข้ามาขอบคุณจ้า ส่วนสำหรับเด็ก ๆ ที่กำลังติดเกมกันอย่างหนักรึติดความรักในโลกออนไลน์ อย่าลืม


    กินยาแล้วเขย่าขวดสะนะ จะได้พากันตาสว่าง มิเช่นนั้นจุดจบของอนาคตพวกคุณ อันใกล้ อาจเป็นคนอนาถ เช่นผมได้ หุหึคิคุคึกคัก ( ไร้สาระ )
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่