สวัสดีค่ะ อยากขอพื้นที่คุยระบายความในใจเรื่อยเปื่อย อย่าว่ากันนะคะ ขอไร้สาระ พิมพ์อะไรอยากที่พิมพ์หน่อยเถอะ คือเป็นคนประเภท
พอช่วงกลางคืนมักจะอารมณ์อ่อนไหว วีน เหวี่ยงได้ง่าย ๆ ถ้าเจอเรื่องไม่เข้าหู หรือไม่ถูกจริต คือเวลากลางวันก็เป็นนะ แต่กลางคืนจะเป็นเยอะกว่า เหมือนผีเข้า พอเล่าให้ใครฟัง ก็หาว่าเป็นโรคประสาท คิดอะไรเยอะ จนบางทีก็ออกนอกความเป็นจริง เรามาสำรวจดูความรู้สึกตัวเอง พบว่าเป็นเพราะลึก ๆในใจแล้ว มันว่างเปล่า มันมีเรื่องที่ฝังอยู่ในใจลึก ๆที่ยังไม่ให้อภัย แต่ความรู้สึกแบบนี้ก็เป็นแค่บางช่วง บางวัน บางวันก็ดี๊ดี อยู่ในทางธรรม ต่อไปคงต้องจดบันทึกแล้วว่าความถี่ในการเป็นมากน้อยแค่ไหน
เราเคยตั้งกระทู้หาเพื่อนคุย แต่ไม่ได้คนคุยจริง ๆ ซักที เลยมาตั้งกระทู้คุยซะเลยดีกว่า เราเห็นมีกระทู้เตือนหลังไมค์ เราก็ยังไม่เคยเจอหลังไมค์ที่ไม่ดีนะ หรือเพราะว่าเรามันดูไม่มีอะไรให้หลอก แฮ่ !
คืออย่างนี้นะคะ เวลาเราเกิดอาการแบบข้างต้นเนี่ย ถ้ามันจบที่สมุดบันทึก หรือ ลงเอ็กเซลแล้วลบ worksheet นั้นทิ้งซะ วันถัดมามันก็ไม่เกิดเป็นความละอายใจ แต่หลายครั้ง ที่ข้อความงี่เง่าเหล่านั้นมันไปลงที่ไลน์ของเพื่อนบางคน แล้ววันถัดมาเราจะรู้สึกอ๊าย อาย มากๆ เลย
แล้วเราก็พยายามตั้งสติต่อว่า ต่อไปนี้นะ ต่อให้บ้าบอสติแตกแค่ไหน ก็จะพยายามไม่ไปบันทึกเป็นหลักฐานที่ใครเด็ดขาด!
มีใครเป็นแบบเราบ้างไหน ที่พิมพ์ไปแล้ว มารู้สึกว่าชั้นไม่น่าเลย ฮือ ๆ แล้วเราก็จะค่อย ๆ เสียเพื่อนไปทีละคนสองคน เพราะคิดว่าเรามันบ้า
บางทีเราอาจจะเป็นบ้าจริง ๆ ก็ได้นะ เราเคยคิดจะไปพบจิตแพทย์เหมือนกัน คือมันควบคุมความรู้สึกของตัวเองไม่ได้ ในตอนนั้นมันจะเหวี่ยงวีนไปหมด เรื่องดี ๆ ก็มองเป็นไม่ดี คือเรื่องบางเรื่องมันก็มองได้หลายแง่มุมเปล่า อยู่ที่ว่าใครจะเลือกมองดีหรือไม่ดี เช่น สมมติมีคนบอกว่าจะมาเยี่ยม ก็อยากคุยด้วย มันก็เป็นเรื่องดีใช่มะ แต่เวลาอารมณ์ไม่ดี มันกลับมองว่า สตร_ ไปเลยก็มีนะ
ตอนนี้เราเลยว่าจะไปหาที่ออกกำลังกายละ เผื่ออะไร ๆ ที่มันเกาะกินสมองอยู่มันจะล้างไปกับเหงื่อได้บ้าง ตั้งใจจะไปปั่นจักรยาน ฝนดันตกซะนี่
มีช่วงนึงเราเคยเล่นเว็บหาคู่นะ ความรู้สึกตอนนั้นมันก็ออกแนวสติแตกเหมือนกัน เหมือนอยากเอาชนะแฟนเก่าที่ทิ้งเราไปมากกว่า เราเข้าไปดูก็ไม่ถูกใจใครที่อยากจะคุยด้วยเลย ความจริงก็ไม่มีใครทักมาคุยกะเราด้วยแหละ มีแต่คนแก่กะคนหน้าตาน่ากลัว ๆ เราก็เล่นอยู่ปีนึงแล้วก็เลิก เพราะรู้สึกมันเสียเวลาและเป็นไปไม่ได้ ในความรู้สึกเรานะ ต่อให้คุยกันยังไงก็คงไม่กล้าไปนัดเจอกันจริง ๆ ได้หรอก เพราะไม่รู้จะไว้ใจคนไม่รู้จักกันได้อย่างไร
ตอนนี้กลับรู้สึกว่าอยู่คนเดียวแบบนี้ก็ดีแล้ว เริ่มเสพติดความโสด เราไม่โทษความโสดที่ทำให้เรามีอาการเหวี่ยงวีนอย่างที่บอกข้างต้นหรอกนะ เพราะตอนเรามีแฟนเราก็เป็น วิเคราะห์แล้วมันไม่เกี่ยวกัน โล่งอกไปที เดี๋ยวคนจะหาว่าเราวัยทอง จริง ๆ เรามีอาการแบบนี้มาตั้งแต่วัยรุ่นแล้วล่ะ คิดว่าพออายุมากขึ้นมันจะหาย แต่มันกลับไม่หายแต่กลับมากขึ้นอีก เฮ้อ !
จบแล้วค่ะ ขอบคุณที่มานั่งฟังเป็นเพื่อนกันอีก 1 วัน
กระทู้คุยเรื่อยเปื่อย
พอช่วงกลางคืนมักจะอารมณ์อ่อนไหว วีน เหวี่ยงได้ง่าย ๆ ถ้าเจอเรื่องไม่เข้าหู หรือไม่ถูกจริต คือเวลากลางวันก็เป็นนะ แต่กลางคืนจะเป็นเยอะกว่า เหมือนผีเข้า พอเล่าให้ใครฟัง ก็หาว่าเป็นโรคประสาท คิดอะไรเยอะ จนบางทีก็ออกนอกความเป็นจริง เรามาสำรวจดูความรู้สึกตัวเอง พบว่าเป็นเพราะลึก ๆในใจแล้ว มันว่างเปล่า มันมีเรื่องที่ฝังอยู่ในใจลึก ๆที่ยังไม่ให้อภัย แต่ความรู้สึกแบบนี้ก็เป็นแค่บางช่วง บางวัน บางวันก็ดี๊ดี อยู่ในทางธรรม ต่อไปคงต้องจดบันทึกแล้วว่าความถี่ในการเป็นมากน้อยแค่ไหน
เราเคยตั้งกระทู้หาเพื่อนคุย แต่ไม่ได้คนคุยจริง ๆ ซักที เลยมาตั้งกระทู้คุยซะเลยดีกว่า เราเห็นมีกระทู้เตือนหลังไมค์ เราก็ยังไม่เคยเจอหลังไมค์ที่ไม่ดีนะ หรือเพราะว่าเรามันดูไม่มีอะไรให้หลอก แฮ่ !
คืออย่างนี้นะคะ เวลาเราเกิดอาการแบบข้างต้นเนี่ย ถ้ามันจบที่สมุดบันทึก หรือ ลงเอ็กเซลแล้วลบ worksheet นั้นทิ้งซะ วันถัดมามันก็ไม่เกิดเป็นความละอายใจ แต่หลายครั้ง ที่ข้อความงี่เง่าเหล่านั้นมันไปลงที่ไลน์ของเพื่อนบางคน แล้ววันถัดมาเราจะรู้สึกอ๊าย อาย มากๆ เลย
แล้วเราก็พยายามตั้งสติต่อว่า ต่อไปนี้นะ ต่อให้บ้าบอสติแตกแค่ไหน ก็จะพยายามไม่ไปบันทึกเป็นหลักฐานที่ใครเด็ดขาด!
มีใครเป็นแบบเราบ้างไหน ที่พิมพ์ไปแล้ว มารู้สึกว่าชั้นไม่น่าเลย ฮือ ๆ แล้วเราก็จะค่อย ๆ เสียเพื่อนไปทีละคนสองคน เพราะคิดว่าเรามันบ้า
บางทีเราอาจจะเป็นบ้าจริง ๆ ก็ได้นะ เราเคยคิดจะไปพบจิตแพทย์เหมือนกัน คือมันควบคุมความรู้สึกของตัวเองไม่ได้ ในตอนนั้นมันจะเหวี่ยงวีนไปหมด เรื่องดี ๆ ก็มองเป็นไม่ดี คือเรื่องบางเรื่องมันก็มองได้หลายแง่มุมเปล่า อยู่ที่ว่าใครจะเลือกมองดีหรือไม่ดี เช่น สมมติมีคนบอกว่าจะมาเยี่ยม ก็อยากคุยด้วย มันก็เป็นเรื่องดีใช่มะ แต่เวลาอารมณ์ไม่ดี มันกลับมองว่า สตร_ ไปเลยก็มีนะ
ตอนนี้เราเลยว่าจะไปหาที่ออกกำลังกายละ เผื่ออะไร ๆ ที่มันเกาะกินสมองอยู่มันจะล้างไปกับเหงื่อได้บ้าง ตั้งใจจะไปปั่นจักรยาน ฝนดันตกซะนี่
มีช่วงนึงเราเคยเล่นเว็บหาคู่นะ ความรู้สึกตอนนั้นมันก็ออกแนวสติแตกเหมือนกัน เหมือนอยากเอาชนะแฟนเก่าที่ทิ้งเราไปมากกว่า เราเข้าไปดูก็ไม่ถูกใจใครที่อยากจะคุยด้วยเลย ความจริงก็ไม่มีใครทักมาคุยกะเราด้วยแหละ มีแต่คนแก่กะคนหน้าตาน่ากลัว ๆ เราก็เล่นอยู่ปีนึงแล้วก็เลิก เพราะรู้สึกมันเสียเวลาและเป็นไปไม่ได้ ในความรู้สึกเรานะ ต่อให้คุยกันยังไงก็คงไม่กล้าไปนัดเจอกันจริง ๆ ได้หรอก เพราะไม่รู้จะไว้ใจคนไม่รู้จักกันได้อย่างไร
ตอนนี้กลับรู้สึกว่าอยู่คนเดียวแบบนี้ก็ดีแล้ว เริ่มเสพติดความโสด เราไม่โทษความโสดที่ทำให้เรามีอาการเหวี่ยงวีนอย่างที่บอกข้างต้นหรอกนะ เพราะตอนเรามีแฟนเราก็เป็น วิเคราะห์แล้วมันไม่เกี่ยวกัน โล่งอกไปที เดี๋ยวคนจะหาว่าเราวัยทอง จริง ๆ เรามีอาการแบบนี้มาตั้งแต่วัยรุ่นแล้วล่ะ คิดว่าพออายุมากขึ้นมันจะหาย แต่มันกลับไม่หายแต่กลับมากขึ้นอีก เฮ้อ !
จบแล้วค่ะ ขอบคุณที่มานั่งฟังเป็นเพื่อนกันอีก 1 วัน