คนร้าย : ผู้หญิงอ้างว่าเป็นอาจารย์พิเศษมหาวิทยาลัย ใช้ชื่อว่า "พลอย สาวิตรี" ผิวขาว ผมยาว แต่งตัวภูมิฐาน
พิกัด : หน้าปากซอยธนิยะ หัวถนนสุรวงศ์ สีลม (มีคนเคยเจอแบบเดียวกันที่ถนนพญาไท จามจุรีสแควร์)
วันนี้ครับ (11 พ.ค. 60) ช่วงประมาณ 11.30น. เราก็กำลังข้ามถนนอยู่ตรงปากซอยธนิยะ ตรงหัวถนนสุรวงศ์ มีผู้หญิงคนหนึ่งแต่งตัวท่าทางดูดี ดูภูมิฐาน ลักษณะเหมือนคนทำงานทั่วไป ก็เข้ามาถามว่า "ขอโทษนะคะ น้องพอจะรู้วิธีไปม.ราชภัฏ ตรงคลอง 6 มั้ยคะ พอดีพี่ลืมเอกสารไว้ที่นั่น เป็นเอกสารสำคัญมากต้องรีบไปเอา" คือนางเข้ามาพูดแบบหน้าตื่น แบบเร็วรนมากเหมือนจะเป็นลม เราก็เฮ้ยใจเย็น ค่อยๆ เข้ามาหลบคุยในร่มก่อน แล้วเราก็บอกว่าแถวคลองหกน่าจะตรงรังสิตเราไม่รู้จัก ให้นั่งรถไปลงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ น่าจะมีรถไปต่อแถวๆนั้นได้ เรานางก็พูดทำนองว่า พลอยเป็นอาจารย์พิเศษอยู่ที่ราชภัฏฉะเชิงเทรา (นางแนะนำตัวเองว่าชื่อพลอย) ของที่นางลืมไว้อะเป็นของสำคัญมาก มีทั้งเงินมีทั้งเอกสารที่ต้องใช้ประชุมบ่ายนี้ซึ่งคณบดี ม.ราชภัฏฉะเชิงเทราเซ็นแล้ว ถ้ากลับไปเอาไม่ทันประชุมตอนบ่ายโมงที่ศศินทร์ จุฬาฯ นางอาจจะโดนเลิกจ้าง ถอนสัญญานักวิจัยได้ นางก็พูดไป ซับเหงื่อซับน้ำตาไป เราก็เลยบอกใจเย็นๆ ค่อยๆ คิด เดี๋ยวเราจะเรียก grab taxi ให้แล้วหักบัตรเราให้ก่อน จะได้ไปทัน (คือเป็นคนไม่พกเงินสดเยอะอยู่แล้ว จะช่วยอะไรประเดี๋ยวนั้นก็คงไม่ได้) นางก็บอกว่าเรียก grab กับเรียกแท็กซี่เลยค่าน่าจะเท่ากัน แต่ grab ต้องรอนานกว่า คือนางรีบต้องกลับมาให้ทันบ่ายโมงจริงๆ เลยขอเรียกตรงนี้เลยได้ไหม แต่จำเป็นต้องขอยืมเงินเราก่อน แต่ว่านางสัญญาว่าจะกลับมาคืนให้หลังจากประชุมที่ศศินทร์เสร็จตอนเย็น ประมาณ4โมงครึ่ง
นางก็พยายามย้ำอีกว่าเอากระเป๋าอาจารย์ไว้เป็นประกันก็ได้ สัญญาว่าจะเอามาคืนให้เป็นสองเท่าเลย ไอ้เราก็ความที่ด้วยไม่พกกระเป๋าตังมา มีเงินบังเอิญติดกระเป๋ากางเกงอยู่แค่ 300 ก็เลยบอกว่าเดี๋ยวผมเรียก grab ให้ดีกว่า ผมไม่ได้พกเงินสดมาอาจจะช่วยไม่ได้มาก นางก็ย้ำว่ามันจะเสียเวลา แล้วจะกลับมาไม่ทัน เราก็เออๆ งั้นเดี๋ยวพาข้ามไปเรียกแท็กซี่อีกฝั่งแล้วกัน ก็พาไปเรียกแท็กซี่ นางก็ขอเบอร์ติดต่อเราแล้วเราก็บอกว่าติดต่อมาได้น่าจะอยู่ตรงแถวๆ หอสมุดกลางใกล้ศศินทร์พอดี นางก็ให้ชื่อเบอร์ติดต่อ ชื่อ**อาจารย์พลอย สาวิตรี รุ่งภักดี** เป็นอาจารย์พิเศษสอนบัญชีอยู่ ม.ราชภัฏฉะเชิงเทรา เดี๋ยวจะรีบติดต่อกลับไป แล้วก็บอกว่าขอยืมสัก 500 ก่อนได้ไหม เราเลยบอกไปตรงๆว่า ถ้าเป็นเงินสดอะเราไม่ได้เอากระเป๋าอะไรมา ตอนนั้นมีติดกระเป๋าอยู่ทั้งเนื้อทั้งตัว 300 นี่แหละ เลยให้ไปหมด คือคิดว่ามันน่าจะพอค่าทางด่วนให้กลับไปถึงรังสิตได้ แล้วนางก็ถามว่าแล้วน้องจะใช้อะไรอะคะ เราก็บอกช่างมันเถอะ ขอให้กลับมาทันตามเวลานะครับสู้ๆ ก็ส่งนางขึ้นแท็กซี่ไป *แต่นางไม่ได้ให้กระเป๋าอะไรเป็นประกันนะ ตอนแรกเราว่าจะจดเบอร์แท็กซี่ไว้ เป็นห่วงกลัวตังนางไม่พอโดนทิ้งระหว่างทาง แต่ด้วยความที่รีบไปมหาลัย จึงรีบเดินไปไม่ได้จดอะไรเลย ความจริงก็ไม่คิดจะเอาเงินคืนหรอกแค่ 300 เห็นคนกำลังมีปัญหา กำลังลำบาก อยากให้เค้ากลับมาทันด้วยซ้ำ
พอดีกำลังคุยไลน์สอนหนังสือค้างไว้อยู่ เพื่อนก็งงว่าทำไมหาไปนานจัง เราก็เลยเล่าให้ฟัง เพื่อนก็เลยตอบมาสั้นๆ ง่ายๆว่า "*งโดนหลอกแล้ว" 5555 คือเพื่อนของเพื่อนเคยเจอแบบนี้ที่ ถ.พญาไท เหมือนกันตรงจามจุรีสแควร์โดนไป 500 เราก็เลยเฟลมาก แบบสงสารเค้าจริงๆอะ แทบจะร้องไห้ตามเลย ทำไมหลอกกันอย่างงี้ ไม่ได้เสียดายเงินนะ แต่เสียดายความรู้สึกทำไมต้องมาเล่นกับความสงสารของคนด้วย แต่ก็ดีที่ไม่ได้พกกระเป๋าตังมา ไม่งั้นถ้าเค้าขอพันก็คงให้พันอะ สงสารจริงๆ สงสารตัวเอง 5555 จะว่าโง่ก็ได้นะ แต่ถ้ามีใครมาขอเงินด้วยเรื่องอะไรก็ตาม ถ้าเค้ากล้าบากหน้ามาขอแสดงว่าเรื่องนั้นจำเป็นจริงๆ ถ้าถามว่าในอนาคตถ้ามีคนมาขอเงินอีกจะให้ไหม ให้ครับ เขาอาจมีความจำเป็นจริงๆก็ได้ แต่ก็คงแอบคิดในใจเล็กๆ แหละว่าเรื่องจริงไหม
ป.ล. ถ้าผู้หญิงคนนี้โดนจับได้เมื่อไหร่อัพเดทให้รู้ด้วยนะครับ ไม่ได้จะไปเอาเงินคืนนะ จะไปถามว่าขาดเหลืออะไรเท่าไหร่ ถ้าช่วยได้ก็จะช่วย จะได้เลิกหากินด้วยวิธีสกปรกแบบนี้
**** เตือนภัยมิจฉาชีพสมัยนี้ หากินกับความสงสารของคน ****
พิกัด : หน้าปากซอยธนิยะ หัวถนนสุรวงศ์ สีลม (มีคนเคยเจอแบบเดียวกันที่ถนนพญาไท จามจุรีสแควร์)
วันนี้ครับ (11 พ.ค. 60) ช่วงประมาณ 11.30น. เราก็กำลังข้ามถนนอยู่ตรงปากซอยธนิยะ ตรงหัวถนนสุรวงศ์ มีผู้หญิงคนหนึ่งแต่งตัวท่าทางดูดี ดูภูมิฐาน ลักษณะเหมือนคนทำงานทั่วไป ก็เข้ามาถามว่า "ขอโทษนะคะ น้องพอจะรู้วิธีไปม.ราชภัฏ ตรงคลอง 6 มั้ยคะ พอดีพี่ลืมเอกสารไว้ที่นั่น เป็นเอกสารสำคัญมากต้องรีบไปเอา" คือนางเข้ามาพูดแบบหน้าตื่น แบบเร็วรนมากเหมือนจะเป็นลม เราก็เฮ้ยใจเย็น ค่อยๆ เข้ามาหลบคุยในร่มก่อน แล้วเราก็บอกว่าแถวคลองหกน่าจะตรงรังสิตเราไม่รู้จัก ให้นั่งรถไปลงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ น่าจะมีรถไปต่อแถวๆนั้นได้ เรานางก็พูดทำนองว่า พลอยเป็นอาจารย์พิเศษอยู่ที่ราชภัฏฉะเชิงเทรา (นางแนะนำตัวเองว่าชื่อพลอย) ของที่นางลืมไว้อะเป็นของสำคัญมาก มีทั้งเงินมีทั้งเอกสารที่ต้องใช้ประชุมบ่ายนี้ซึ่งคณบดี ม.ราชภัฏฉะเชิงเทราเซ็นแล้ว ถ้ากลับไปเอาไม่ทันประชุมตอนบ่ายโมงที่ศศินทร์ จุฬาฯ นางอาจจะโดนเลิกจ้าง ถอนสัญญานักวิจัยได้ นางก็พูดไป ซับเหงื่อซับน้ำตาไป เราก็เลยบอกใจเย็นๆ ค่อยๆ คิด เดี๋ยวเราจะเรียก grab taxi ให้แล้วหักบัตรเราให้ก่อน จะได้ไปทัน (คือเป็นคนไม่พกเงินสดเยอะอยู่แล้ว จะช่วยอะไรประเดี๋ยวนั้นก็คงไม่ได้) นางก็บอกว่าเรียก grab กับเรียกแท็กซี่เลยค่าน่าจะเท่ากัน แต่ grab ต้องรอนานกว่า คือนางรีบต้องกลับมาให้ทันบ่ายโมงจริงๆ เลยขอเรียกตรงนี้เลยได้ไหม แต่จำเป็นต้องขอยืมเงินเราก่อน แต่ว่านางสัญญาว่าจะกลับมาคืนให้หลังจากประชุมที่ศศินทร์เสร็จตอนเย็น ประมาณ4โมงครึ่ง
นางก็พยายามย้ำอีกว่าเอากระเป๋าอาจารย์ไว้เป็นประกันก็ได้ สัญญาว่าจะเอามาคืนให้เป็นสองเท่าเลย ไอ้เราก็ความที่ด้วยไม่พกกระเป๋าตังมา มีเงินบังเอิญติดกระเป๋ากางเกงอยู่แค่ 300 ก็เลยบอกว่าเดี๋ยวผมเรียก grab ให้ดีกว่า ผมไม่ได้พกเงินสดมาอาจจะช่วยไม่ได้มาก นางก็ย้ำว่ามันจะเสียเวลา แล้วจะกลับมาไม่ทัน เราก็เออๆ งั้นเดี๋ยวพาข้ามไปเรียกแท็กซี่อีกฝั่งแล้วกัน ก็พาไปเรียกแท็กซี่ นางก็ขอเบอร์ติดต่อเราแล้วเราก็บอกว่าติดต่อมาได้น่าจะอยู่ตรงแถวๆ หอสมุดกลางใกล้ศศินทร์พอดี นางก็ให้ชื่อเบอร์ติดต่อ ชื่อ**อาจารย์พลอย สาวิตรี รุ่งภักดี** เป็นอาจารย์พิเศษสอนบัญชีอยู่ ม.ราชภัฏฉะเชิงเทรา เดี๋ยวจะรีบติดต่อกลับไป แล้วก็บอกว่าขอยืมสัก 500 ก่อนได้ไหม เราเลยบอกไปตรงๆว่า ถ้าเป็นเงินสดอะเราไม่ได้เอากระเป๋าอะไรมา ตอนนั้นมีติดกระเป๋าอยู่ทั้งเนื้อทั้งตัว 300 นี่แหละ เลยให้ไปหมด คือคิดว่ามันน่าจะพอค่าทางด่วนให้กลับไปถึงรังสิตได้ แล้วนางก็ถามว่าแล้วน้องจะใช้อะไรอะคะ เราก็บอกช่างมันเถอะ ขอให้กลับมาทันตามเวลานะครับสู้ๆ ก็ส่งนางขึ้นแท็กซี่ไป *แต่นางไม่ได้ให้กระเป๋าอะไรเป็นประกันนะ ตอนแรกเราว่าจะจดเบอร์แท็กซี่ไว้ เป็นห่วงกลัวตังนางไม่พอโดนทิ้งระหว่างทาง แต่ด้วยความที่รีบไปมหาลัย จึงรีบเดินไปไม่ได้จดอะไรเลย ความจริงก็ไม่คิดจะเอาเงินคืนหรอกแค่ 300 เห็นคนกำลังมีปัญหา กำลังลำบาก อยากให้เค้ากลับมาทันด้วยซ้ำ
พอดีกำลังคุยไลน์สอนหนังสือค้างไว้อยู่ เพื่อนก็งงว่าทำไมหาไปนานจัง เราก็เลยเล่าให้ฟัง เพื่อนก็เลยตอบมาสั้นๆ ง่ายๆว่า "*งโดนหลอกแล้ว" 5555 คือเพื่อนของเพื่อนเคยเจอแบบนี้ที่ ถ.พญาไท เหมือนกันตรงจามจุรีสแควร์โดนไป 500 เราก็เลยเฟลมาก แบบสงสารเค้าจริงๆอะ แทบจะร้องไห้ตามเลย ทำไมหลอกกันอย่างงี้ ไม่ได้เสียดายเงินนะ แต่เสียดายความรู้สึกทำไมต้องมาเล่นกับความสงสารของคนด้วย แต่ก็ดีที่ไม่ได้พกกระเป๋าตังมา ไม่งั้นถ้าเค้าขอพันก็คงให้พันอะ สงสารจริงๆ สงสารตัวเอง 5555 จะว่าโง่ก็ได้นะ แต่ถ้ามีใครมาขอเงินด้วยเรื่องอะไรก็ตาม ถ้าเค้ากล้าบากหน้ามาขอแสดงว่าเรื่องนั้นจำเป็นจริงๆ ถ้าถามว่าในอนาคตถ้ามีคนมาขอเงินอีกจะให้ไหม ให้ครับ เขาอาจมีความจำเป็นจริงๆก็ได้ แต่ก็คงแอบคิดในใจเล็กๆ แหละว่าเรื่องจริงไหม
ป.ล. ถ้าผู้หญิงคนนี้โดนจับได้เมื่อไหร่อัพเดทให้รู้ด้วยนะครับ ไม่ได้จะไปเอาเงินคืนนะ จะไปถามว่าขาดเหลืออะไรเท่าไหร่ ถ้าช่วยได้ก็จะช่วย จะได้เลิกหากินด้วยวิธีสกปรกแบบนี้