แผนร้าย แผนรัก

ตอนที่ 1 เหตุบังเอิญหรือพรหมลิขิต
เสียงดังเอะอะโวยวายสนั่นกลางดึก บริเวณถนนเลียบด่วนสายหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ของพวกกลุ่มวัยรุ่นชายที่เรียกตัวเองว่าแก๊งเด็กแว้นหรือสายแว้น กำลังบิดเบิ้ลเครื่องยนต์หลายต่อหลายคัน แข่งกับเสียงกรี๊ดกร๊าดของพวกสาวสก๊อยหลายนางที่ตามมานั่งซ้อนท้ายรถซิ่ง พร้อมกับส่งเสียงเชียร์ให้กับผู้ชายที่เธอนั่งมาด้วย
เสียงเครื่องยนต์ที่ทดสอบความเร็วแรง บวกกับความดังของท่อสูตรที่ดัดแปลงตัดสั้น ทำให้เพิ่มความดังเข้าไปอีก  ซึ่งหนึ่งในนักแข่งนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน ณัชชา กิตติพัฒน์ หญิงสาวที่มีลักษณะร่างสูงสมส่วนซึ่งมีใบหน้าหวานบวกกับดวงตากลมโตสีน้ำตาลเข้ม มีปากบางรูปกระจับสีชมพูและมีผิวขาวอมชมพูระเรื่ออย่างคนสุขภาพดี เธอจึงมีใบหน้าคมเข้มคล้ายลูกครึ่งเหมือนสาวแขกขาวจัดได้ว่าเป็นผู้หญิงที่ทั้งสวยและน่ารักในคนเดียวกัน แต่เอ๊ะ…เธอจะสวยหรือ ‘หล่อ’ ดีล่ะ! ก็ไอ้ทรงผมของเธอนะซิ ที่ตัดสั้นจนเปิดหูที่รับกับใบหน้าซึ่งทำให้ดูน่ารัก บวกกับเสื้อยืดตัวหลวมกับกางยีนทรงกระบอกทำให้ดูหล่อไปอีกแบบ จนทำให้สาวสก๊อยหลายนางแอบมาขายขนมจีบ
    “เจ๊มนทางนี้…” ณัชชากวักมือเรียกพี่รหัสคนสนิท ที่กำลังเดินมองหาเธอ เพราะวันนี้หญิงสาวได้ขอร้องแกมบังคับให้มาเป็นเพื่อนในการประลองแข่งรถของเธอวันนี้ ด้วยเหตุผลบางประการที่มณเฑียรไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เพราะปกติแล้ว คนที่มากับเธอคือพีรภัทร เพื่อนสนิทที่เรียนห้องเดียวกันตั้งแต่เข้ามหาลัยที่มีนิสัยและอะไรหลายอย่างคล้ายๆ กัน แต่ฝ่ายนั้นติดธุระสำคัญ ต้องกลับไปภูเก็ตอย่างเร่งด่วนจึงมาเป็นเพื่อนเธอในวันนี้ไม่ได้
“โทรจิกอยู่นั่นแหละ! บอกไม่ชอบ! ไม่ชอบ! ยังจะให้มาอยู่ได้!” มาถึงมณเฑียรก็บ่นกระปอดกระแปดใส่น้องรหัสทันที เมื่อเช้าตาขวานางกระตุกแรงเสียแรงด้วย ยิ่งช่วงนี้เข้าออกโรงพักเป็นว่าเล่น เพราะต้องเข้าไปประกันตัวมารดาที่ชอบตั้งวงเล่นไพ่นกกระจอกอยู่เป็นประจำ แถมโดนจับเกือบทุกครั้งที่ตั้งวงตำรวจประเทศไทยนี้เก่งจริงๆ นางแกล้งชมในใจเพราะติดใจความหล่อเหลาของผู้กองหนุ่มคนหนึ่ง ที่หล่อลากดิน หล่อไม่บันยะบันยัง แล้วที่นางชะนีน้อยกับพวกมาแข่งรถกลางค่ำกลางคืนอย่างนี้ มันก็เสี่ยงน้อยที่ไหนล่ะ ยิ่งตำรวจหล่อๆ เก่งอยู่ด้วยทำไมจะหาไม่เจอเสียงดังออกขนาดนี้ เด็กพวกนี้มันไม่มีสมองหรืออย่างไรนะ จะนัดก็นัดกันวันเสาร์ทุกครั้ง เวลาก็เวลาเดิม สถานที่ก็สถานที่เดิม ป่านี้ตำรวจรอดักรวบตัวอยู่แล้วเพี้ยง! มณเฑียรแอบแช่งอยู่ในใจ
นางยืนกอดอกพร้อมแบะปากอย่างไม่ชอบใจ ยิ่งมองไปทางเหล่าชะนีหลายสิบคน ที่คอยส่งเสียงดังร้องลั่นเมื่อพวกหนุ่มๆ เบิ้ลเครื่องยนต์ ก็ยิ่งไม่ชอบใจไปกันใหญ่ “มันจะกรี๊ดอะไรนักหนา กรี๊ดให้บิดามากันหรือไงนะ!”
ณัชชาเหลือบตามองรุ่นพี่ ที่ยืนกระฟัดกระเฟียดแล้วอมยิ้ม เธอรู้ดีว่าลูกนายพลอย่างนาง ไม่ชอบมาอยู่ในสถานที่ อย่างนี้ ถ้าไม่ใช่เจอคำขู่ของเธอเข้าไป เรื่องจะฟ้องแมทธิวแฟนหนุ่มของนาง ว่านางแอบชอบผู้กองธาริตคนหล่อประจำโรงพัก เพราะมีภาพเป็นหลักฐานเต็มโทรศัพท์ไปหมด นางเลยต้องมาายืนอยู่ตรงนี้อย่างไม่เต็มใจนัก
“ที่มาถึงก็บ่นๆ อิจฉาพวกน้องๆ เขาละสิใช่มั้ย…” ณัชชาเอ่ยแซวอีกฝ่าย เพื่อให้สถานการณ์ดีขึ้น แต่กลับเหมือนเติมเชื้อเพลิงให้นางเพิ่มขึ้น
มณเฑียรถึงกับควันออกหู นางยืนเท้าสะเอวด่าคนพูดมากทันที “ชั้นจะไปอิจฉาอะไรพวกมันยะ! กะอีแค่มอเตอร์ไซค์คันไม่กี่หมื่นเอามาแต่งแล้วทำซิ่งบนท้องถนนให้ชาวบ้านชาวช่องเขาเดือดร้อน แถมอันตรายจนถึงชีวิต แทนที่จะเอาเวลาไปอ่านหนังส่งหนังสือเตรียมตัวสอบ กลับมาทำอะไรที่ไร้สาระ ป่านี้ชาวบ้านแถวนี้คงโทรแจ้งตำรวจไปแล้วแต่ถ้าใครยังไม่โทรชั้นจะโทรเอง!” นางพูดอย่างไม่คิด เพราะไม่คิดว่าสิ่งที่ตัวเองพูดมันจะเป็นจริง
“พอได้แล้วเจ๊… หลายตีนเลยนะไม่กลัวหรือไง!” ณัชชารีบตะครุบปิดปากรุ่นพี่ พร้อมกับแย่งโทรศัพท์มือถือในมือของนาง เมื่อเห็นนางทำท่าจะโทรจริง ยังดีที่เสียงของมณเฑียรดังสู้เสียงของเครื่องยนต์ไม่ได้ ไม่นั้นเจ๊นมนี่ของเธอ คงไม่พลาดได้รับประทานยำรวมมิตรตีนไก่เป็นแน่
คนโดนแย่งโทรศัพท์เชิดหน้าแบะปากใส่ พร้อมยักไหล่อย่างไม่กลัวเกรงคำขู่นั้น เพราะนางเองก็ไม่ได้อยากจะมาอยู่ตรงนี้อยู่แล้ว
หญิงสาวเมื่อเห็นว่ามณเฑียรยังคงมีสีหน้าบึ้งตึง เธอจึงชวนคุยเรื่องรถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้แข่งแทน เพื่อกลบเกลื่อนสถานการณ์ที่ตึงเครียดที่ผ่านมา “เจ๊ ดูรถของนัทสิ วันนี้สวยที่สุดเลยนะว่ามั้ย” เจ้าของรถพูดอย่างภาคภูมิใจกับเจ้า KawasakiKSR 110 หรือเจ้าพายุ มอเตอร์ไซค์เล็ก สีน้ำเงิน แต่ความแรงไม่ได้ด้อยไปกว่ารถยนต์เลย โดยไม่สนใจหน้าหงิกหน้างอของใครบางคนที่ทำปากขยุบขยิบร่ายมนตร์อยู่
‘ใครอยากไปรู้ยะ! ชั้นอยากกลับบ้านถ้าไม่ใช่แกเอาความลับชั้นมาขู่ชั้นไม่มาหรอกยะนั่งชะนี!’ มณเฑียรยังคงยืนกอดอกทำเป็นไม่สนใจ
ณัชชาย่อตัว นั่งยองๆ ลงข้างรถ มองรถของเธออย่างภาคภูมิใจ เพราะครั้งนี้เธอแต่งใหม่แบบยกชุด ล้อวิบากขอบสิบเจ็ดทำให้รถวิ่งเร็วขึ้นเกาะถนนขึ้น แถมเธอยังเปลี่ยนท่อสูตรกู่มหาชัยสีไทเทเนียมไล่น็อตสีไทเทเนียมเพิ่มความดุดันให้กับรถสายวิบากอีก และยังมีโช้คแก๊สรุ่นวายเอสเอสรับน้ำหนักได้ดีช่วยให้คล่องตัวในการขับขี่ เครื่องยนต์ก็ไม่ได้น้อยหน้า เพิ่มกล่องเพิ่มแรงม้าเปลี่ยนคาบูเคเหลี่ยม พร้อมด้วยเครื่องลูกบอสเจ็ดสิบขนาดสิบสี่มิลลิเมตร เสื้อสูบเบอร์สองร้อยห้าสิบอีกชุด ทั้งยังเสริมหม้อน้ำในตัวทำให้รถทนยิ่งกว่าเดิม “โน้นเจ๊คู่แข่งของนัท…” หญิงสาวใช้ปากชี้พร้อมมองไปทางคู่แข่ง เพื่อให้ดูรถคันสีแดงดำ Honda MSX 125 ตัวใหม่ล่าสุด ของคู่แข่งเธอในค่ำคืนนี้ “มันแต่งมาทั้งคันเหมือนกันเจ๊…แต่สู้เจ้าพายุ นัทไม่ได้หรอก…” เจ้าของคาวาซากิยกยิ้มมุมปาก เมื่อให้เด็กไปสืบมาเรียบร้อยแล้วว่า อีกฝ่ายเสริมแต่งอะไรเข้าไปบ้าง เพราะแต่ละอย่างที่อีกฝ่ายแต่งเพิ่มเข้าไป ไม่ได้ทำให้รถแรงขึ้นเลย “เพราะมันแต่งแค่ภายนอกกับคว้านเสื้อสูบ มันคงคิดละสิว่า… รถมันรุ่นใหม่กว่า 125 ซีซี จะแรงกว่า 110 ซีซี ละสิ! ฝันไปเถอะไอ้ลูกหมา” ณัชชาพูดอย่างภาคภูมิใจในความเร็วของรถมอเตอร์ไซค์ตัวเอง
มณเฑียรได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ เพราะนางไม่เคยอยากจะรับรู้เกี่ยวกับเรื่องที่มันพูดออกมาเลย อยากจะบอกด้วยซ้ำว่า ให้รีบแข่งให้จบๆ แล้วนางจะได้กลับไปนอนเพราะง่วงมากแล้ว
ณัชชากระตุกยิ้มให้กับคู่แข่งที่ขยิบตาส่งมา ถ้ามันจะชนะเธอได้ ก็บ้าไปแล้ว เพราะเธอทุ่มเงินไปหลายหมื่นเพื่อให้เจ้าพายุ ทน! แรง! ถึก! เดิมพันครั้งนี้ด้วยรถมอเตอร์ไซค์ของตัวเอง ถ้าใครชนะก็เอามอเตอร์ไซค์ของอีกคนกลับไปได้เลย และที่เธอต้องตามมณเฑียรมาวันนี้เพราะมั่นใจว่ารถคันนั้นต้องตกเป็นของเธออย่างแน่นอนกลัวจะไม่มีคนขับกลับไปให้ เพราะเธอไม่ไว้ใจพวกรุ่นน้องคนอื่นๆ เลย ว่าพวกมันจะขับเอาไปให้จริงหรือเปล่า ครั้งนี้เธอเสียเงินไปสองหมื่น แต่ได้รถคันละเกือบแสนกลับมาถึงว่าคุ้มกับการลงทุนในครั้ง
“ยะ… แม่คนเก่ง ตำรวจซิวเอาวันไหนก็บิดให้ไวแล้วกันนะยะ…” คนพูดไม่ได้คิดอะไรมาก แค่ลืมไปว่า คนอื่นเขามีมอเตอร์ไซค์ข้างกายติดตัว แต่นางจอดรถไว้ข้างทาง แถมยังเดินมาไกลพอสมควร ถ้าจะวิ่งก็เร็วขึ้นอีกนิดแต่จะทันหรือเปล่าถ้าตำรวจเกิดมาจริงๆ
ณัชชาหันมองหน้าคนพูดทันที “แทนที่จะให้พรน้องดีๆ กลับแช่งกันได้” เธอทำหน้างออย่างไม่จริงจังนัก

เมื่อถึงเวลาที่ทุกคนรอคอย รถมอเตอร์ไซค์คันแรงทั้งสองคัน จอดเคียงข้างกันกลางถนนเลียบทางด่วน โดยฝ่ายแดง Honda MSX 125VS กับฝ่ายน้ำเงิน Kawasaki KSR 110 เสียงเบิ้ลของเครื่องยนต์แข่งกับเสียงกรี๊ดกร๊าดของสาวๆ ทำให้มณเฑียรถึงกับปิดหูอย่างไม่ชอบใจ
“มันแข่งกันสองคัน แล้วไอ้พวกเวรนั้นมันจะติดเครื่องรถทำ ‘พ่อ’ อะไรของมันวะ!” นางหันไปมองทางกองเชียร์ต่างส่งเสียงเชียร์ของแต่ละฝ่าย แถมยังมีการพนันขันต่อกันอีก เงินบ้าง ผู้หญิงบ้าง รถบ้าง แล้วแต่ว่าจะเลือกพนันฝ่ายไหน
ณัชชาเบิ้ลเครื่องให้อีกฝ่ายฟังเสียงเจ้าพายุคันสีน้ำเงิน อีกฝ่ายก็ไม่น้อยหน้าเบิ้ลกลับและยาวกว่าเธอเพื่อโชว์พลังในความแรงของรถ
“เจ๊! ข้อตกลงของเรายังเหมือนเดิมใช่ปะ?” วัยรุ่นคู่แข่งหันมาถามหญิงสาว เพราะพวกเขารู้ว่าเธออายุมากกว่า และเป็นผู้หญิง แต่ด้วยชื่อเสียงที่ไม่เคยแพ้ใคร ทำให้วัยรุ่นหลายคนยอมรับเธอบางคนถึงขั้นเรียกลูกพี่ก็มี
“ตามนั้น!” เสียงวี๊ดวิ้วดังมาตามหลัง เมื่อสิ้นเสียงของหญิงสาว
กรรมการในคืนนี้คือสาวสวยเซ็กซี่ที่จ้างมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ พริตตี้สาวเดินถือธงออกมายืนอยู่ตรงกลางระหว่างรถมอเตอร์ไซค์ทั้งสองคัน เสียโห่ร้องยังคงดังไม่ขาดสาย มณเฑียรที่เดินไปหลบอยู่ข้างทางเรียบร้อยแล้ว เมื่อเห็นรุ่นน้องหันมาทางนางจึงตะโกนบอกออกไป “สู้เขานะนางชะนี!”
ณัชชาพยักหน้าถึงเธอจะไม่ได้ยิน แต่รับรู้ว่าทางนั้นให้กำลังใจเธอมาแน่นอน หญิงสาวเบิ้ลเครื่องดังยาวติดต่อกันรอสัญญาณให้ปล่อยตัว แต่ก่อนที่พริตตี้สาวจะทำการยกธงให้สัญญาณปล่อยรถ กลับมีเสียงหวอรถตำรวจดังขึ้น ที่ตั้งหน้าตั้งตาขับมาทางนี้พอดี พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประกาศมาแต่ไกล “นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนโปรดอยู่ในความสงบ!” เสียงล้อรถเบรกดังเอี๊ยดนับหลายคันจอดปิดหลังรถมอเตอร์ไซค์หลายสิบคัน
“สงบก็โดนจับนะซิ เจ๊วิ่งเร็ว!” ณัชชาส่งสัญญาณมือให้รุ่นพี่วิ่งหนีตำรวจ ส่วนเธอขับรถออกไปทันทีไม่รอใคร งานนี้จะได้รู้สักที ว่ารถเธอแรงแค่ไหนตำรวจก็ตำรวจเหอะ ทางลัดเธอเพียบ! มอเตอร์ไซค์หลายคันขับตามหลังหญิงสาวไป และอีกส่วนขับแยกไปอีกทางที่เป็นทางตรง
นายตำรวจหลายนายวิ่งลงมาจากรถกระบะมายังจุดปล่อยรถบนถนน ทำให้เกิดความชุลมุนกันจ้าละหวั่น เสียกรี๊ดของสาวๆ แข่งกับเสียงรถที่ขับออกไป เมื่อหญิงสาวบางคนกระโดดท้ายขึ้นทัน บางคนก็กระโดดขึ้นไม่ทัน บางคนดันกระโดดขึ้นผิดคัน มีถึงขนาดจิกหัวลงมาเมื่อเมียเจ้าของรถยังยืนอยู่บนพื้นถนน
“นี่มันรถผัวกู!” ต่างฝ่ายต่างตบตีกัน ทำให้คนขับไม่รีรอรีบบิดรถออกไป บางคันกลับโดนดึงเอาไว้ด้วยมือของบรรดาหญิงสาว “จะทิ้งกูไปกับอีนั่นใช่ไหม!” จากบางคู่ที่จะตบตีผู้หญิง ดันลากตัวแฟนตัวเองลงมาตบล้างน้ำแทน จึงทำให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวได้บางส่วน แต่มีส่วนใหญ่ที่ขับหนีออกไปได้ทัน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งให้สกัดจับรถมอเตอร์ไซค์ทั้งหลายแล้ว
มณเฑียรที่รีบวิ่งหลบตำรวจพึ่งมาถึงรถ BMW คันสีดำของตัวเองที่จอดอยู่ข้างทาง แต่นางถึงกับตกใจอย่างสุดขีด เมื่อมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่ง วิ่งมายื้อยุดฉุดกระชากมือที่กำลังจะเปิดประตูรถเอาไว้
“จะหนีไปไหน...”
มณเฑียรหัวใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม เมื่อหันมาเจอกับตำรวจนายหนึ่ง “คุ คุ คุณ คุณตำรวจ” อาการติดอ่างเกิดขึ้นกะทันหัน นางนึกถึงพ่อแก้วแม่แก้วที่ไม่มีใครช่วยคนสวยๆ อย่างนางได้เลย “มีอะไรหรือครับ” นางยิงคำถามออกไปพร้อมตั้งสติที่แตกกระเจิง ทำให้นึกถึงตาขวากระตุกตอนเช้าแล้ว ไม่เอะใจตัวเองเลย
“ผมสงสัยว่าดึกดื่นป่านี้ ทำไมคุณยังมาอยู่ที่นี่ได้ หรือคุณอาจจะมีส่วนสมรู้ร่วมคิดกับไอ้พวกแก๊งเด็กแว้นนั้นใช่ไหม นั้นผมขอเชิญตัวคุณไปให้ปากคำที่โรงพักด้วยครับ!”
มณเฑียรอยากจะบอกคุณตำรวจเหลือเกินว่าไม่ได้สมรู้ร่วมคิดกับพวกมันเลย… มันคิดของมันเองทั้งนั้น ที่มานี่โดนบังคับมาค่ะ นางได้แต่กกด่ารุ่นน้องอยู่ภายในใจ “ก็ได้ครับ เดี๋ยวผมขับรถตามไป…”
“ไม่ได้! เผื่อคุณคิดเล่นตุกติกขึ้นมา ผมจะให้นายตำรวจนายอื่นขับไปให้ที่โรงพักเอง” นายตำรวจจึงหันไปพูดกับลูกน้องอีกคน “หมู่มาขับรถคันนี้กลับโรงพักด้วย”
นายตำรวจอีกคนรับคำ หลังจากนั้นมณเฑียรก็ถูกนำตัวไปขึ้นหลังกระบะของรถตำรวจรวมทั้งผู้ต้องหารายอื่นด้วยที่จับได้พร้อมกับรถมอเตอร์ไซค์อีกจำนวนหนึ่งกลับไปโรงพัก
มณเฑียรอยากบอกตำรวจเหลือเกิดว่าไม่ได้มาซิ่งกับไอ้พวกเวรนั้นสักหน่อย จะจับคนสวยทำไมเนี่ย นางก็ได้แค่คิด เมื่อโดนจับไปโรงพักกับแก๊งเด็กแว้นเรียบร้อยแล้ว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่