สุดท้าย คาซิม่า แอทเลอร์ ก็เล่นเพื่อหลบ ทีมคาวาซากิ ไม่ได้เล่นเพื่อหลบทีมกวางโจว อย่างที่เป็นข่าวแต่อย่างใด
ทำให้แฟนบอลไทย มากมาย คิดว่านัดนี้ คาซิม่า คงเล่นเพื่อหลบ ทีมกวางโจวแน่ๆ สุดท้าย เล่นเพื่อหลบทีมคาวาซากิครับ
สิ่งที่บ่งบอก
1. นักเตะคาซิม่า วิ่งขยันไม่มีหมด
2. นักเตะคาซิม่า ทุ่มเท พยายามช่วยกันป้องกันประตู
3. นักเตะคาซิม่า และโค้ชทำหน้าจริงจัง สีหน้าบ่งบอกว่า แพ้ไม่ได้
4. นักเตะคาซิม่า และโค้ชทำหน้าเครียดหลังชนะ เหตุผลจริงๆก็คือไม่ได้เครียดเพราะชนะ แต่น่าจะเครียดเพราะนักเตะและโค้ชหมดแรง นักเตะต้องใช้แรงเกินกว่า100เปอร์เซ็น เพื่อที่จะบดขยี้เมืองทอง เลยใช้แรงไปค่อนข้างเยอะ ส่วนโค้ชทำสีหน้าเครียดเพราะ นั่งกำหนดลมหายใจจนเหนื่อย โค้ชญี่ปุ่นใช้การนั่งสมาธิเข้าช่วยบำบัดจิตใจ นี่เป็นจิตวิทยาของโค้ช ญี่ปุ่น ที่ น่าทึ่งมากๆ
นี่คือการวิเคราะห์หลังเกมส์ ครับ คือว่า คาซิม่าแอทเลอร์ ทุ่มเทจริงๆ ใส่แรงไม่มีหมด
สุดท้าย คาซิม่า แอทเลอร์ ก็เล่นเพื่อหลบ ทีมคาวาซากิ ไม่ได้หลบทีมกวางโจวอย่างที่เป็นข่าว
ทำให้แฟนบอลไทย มากมาย คิดว่านัดนี้ คาซิม่า คงเล่นเพื่อหลบ ทีมกวางโจวแน่ๆ สุดท้าย เล่นเพื่อหลบทีมคาวาซากิครับ
สิ่งที่บ่งบอก
1. นักเตะคาซิม่า วิ่งขยันไม่มีหมด
2. นักเตะคาซิม่า ทุ่มเท พยายามช่วยกันป้องกันประตู
3. นักเตะคาซิม่า และโค้ชทำหน้าจริงจัง สีหน้าบ่งบอกว่า แพ้ไม่ได้
4. นักเตะคาซิม่า และโค้ชทำหน้าเครียดหลังชนะ เหตุผลจริงๆก็คือไม่ได้เครียดเพราะชนะ แต่น่าจะเครียดเพราะนักเตะและโค้ชหมดแรง นักเตะต้องใช้แรงเกินกว่า100เปอร์เซ็น เพื่อที่จะบดขยี้เมืองทอง เลยใช้แรงไปค่อนข้างเยอะ ส่วนโค้ชทำสีหน้าเครียดเพราะ นั่งกำหนดลมหายใจจนเหนื่อย โค้ชญี่ปุ่นใช้การนั่งสมาธิเข้าช่วยบำบัดจิตใจ นี่เป็นจิตวิทยาของโค้ช ญี่ปุ่น ที่ น่าทึ่งมากๆ
นี่คือการวิเคราะห์หลังเกมส์ ครับ คือว่า คาซิม่าแอทเลอร์ ทุ่มเทจริงๆ ใส่แรงไม่มีหมด