ทริปสำรวจสวนหลังบ้าน ยอดดอยนางนอน (1096) บ้านผาหมี เชียงราย ทางง่ายๆไม่มีอยู่จริง


สวัสดีครับ ยืมล็อกอินพี่ชายมานะครับ ขอบคุณพี่แม๊กซ์มา ณ ที่นี้ด้วยครับ

สวัสดีอีกครั้งครับ เมื่อวันที่ 6-7 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสเดินขึ้นไปสำรวจยอดดอยนางนอน ดอยบ้านเกิดที่เวลามาเที่ยวแม่สายทีไร แหงนหน้าขึ้นมองแล้วมันช่างยิ่งใหญ่อลังการจริง ๆ คิดได้ดังนั้นจึงพยายามสืบหาพรานผู้เชี่ยวชาญนำขึ้นยอดดอยนางนอน ถามคนนู้นคนนี้ทีจนได้เบอร์ติดต่อร้านกาแฟผาหมี ว่ามีคนที่สามารถนำพาร่างอันเป็นภาระของเราขึ้นไปได้บนยอดแน่ๆ จึงอุ่นใจและค้นหาข้อมูลภูมิศาสตร์อะไรต่างๆ เพื่อเตรียมตัวขึ้นยอดดอยนางนอน

ยอดที่จะขึ้นคือยอด 1096 นะครับ

ส่วนเรื่องประวัติความเป็นมาของเทือกเขานี้สามารถหาประกอบข้อมูลได้ตามเว็บไซต์ทั่วไปเลยนะครับ ขออนุญาติข้ามข้อมูลในด้านนี้นะครับ




----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

วันเดินทาง


สมาชิกส่วนใหญ่ของทริปเราจะเรียนอยู่ที่ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องที่รู้จักกันผ่านกิจกรรมชมรม ถ้าพูดถึงจังหวัดบ้านเกิดก็ค่อนข้างหลากหลายจากหลายๆภูมิภาคนะครับ แต่เรื่องความกวน ยอกย้อนละไม่มีใครยอมใครแน่นอนผมรับประกัน

เรานัดเจอกันที่บ้านของสมาชิกคนนึงที่หน้า มฟล.เวลา 8.00 น. และเดินทางมายังร้านกาแฟผาหมี 10.30 น. ที่จริงถ้าตรงไปก็ใช้เวลาไม่เกิน 45 นาที แต่ก็มีแวะซื้อของประปรายบ้างตามทางทำให้ช้าลง

พี่เตี้ยนัดเราไว้เวลา 12.00 น. และแจ้งให้ทราบว่าจะมีพรานนำทางเป็นเพื่อนแกอีก 2 คน และใช้เวลาในการเดินขึ้นไม่เกิน 1.30 ชั่วโมง ซึ่งข้อมูลที่เราได้รับทำให้เราอุ่นใจ และค่อนข้างผ่อนคลาย ไม่ได้รีบร้อนอะไรมากมายครับ


เริ่มเดินจากสวนแมคคาเดเมียของโครงการหลวงดอยตุง เวลาประมาณ 12.30 น.


สบายๆครับ


เดินผ่านสวนเชอร์รี่ดอย และไร่กาแฟ ทางเริ่มมาแบบ 45 องศา


เริ่มมาแล้ว


เดิน 10 ก้าว หยุดพัก 10 นาที ฮ่าๆๆๆ


ยังยิ้มได้


เริ่มมาเดินนำครับ โชว์น้องๆ


พี่พงษ์ พรานป่ากำลังเบิกทางมาเรื่อยๆครับ ขึ้นลงบ้างสลับกัน


เดินมาได้สัก 30 นาทีครับ พี่พงษ์ พี่กล้า บอกให้เราหยุดรอสักครู่ ขออนุญาตล่วงหน้าไปดูทางขึ้น เพราะยอดดอยนางนอน คณะเราเป็นคณะแรกที่จะไปค้างแรมข้างบนในรอบเกือบ 10 ปี (ข้อมูลจากพี่พงษ์) ทำให้ต้องเบิกทางใหม่ที่จะสะดวกสำหรับการขนสัมภาระขึ้นไปครับ


หยุดจกข้าวรองท้องกับทางลาดชันเกือบๆ 60 องศา


สักพักได้ยินเสียงกู่ร้องไกลๆจากพี่กล้า ส่งข่าวมาว่าให้เดินต่อไปได้ พวกเราจึงหยุดจกแล้วเดินต่อไป ลงหุบและขึ้นไปอีกนิดหน่อยก็ถึงไร่กาแฟของชาวบ้าน ซึ่งเป็นทางตัดขึ้นไปหายอดดอยนางนอน

แอบดูนาฬิกาตอนนั้นก็ปาเข้าไปจะบ่ายสองโมงครึ่งแล้ว แต่แหงนมองฟ้ายังเห็นยอดอยู่อีกไกล จึงแอบถามพี่เตี้ยที่บอกว่าใช้เวลา 1.30 ชม. จนถึงยอด พี่เตี้ยตอบมาว่า "พี่ก็ไม่เคยขึ้นเหมือนกัน" ทำให้รู้ว่าเส้นทางขึ้นยอดดอยนางนอนนี่เริ่มจะสนุกหลังจากนี่แน่นอนครับ 55555

เริ่มเดินต่อครับ เริ่มเข้าสู่ป่าไผ่หนาม ทางเดินยังสบายๆครับ ดินดำดีมาก

ความสดของป่าที่ยังอุดมสมบูรณ์

ค่อยๆตามกันไปครับ

ทางเริ่มชัน

ไหนบอกหนูว่าเดินสบายคะพี่นนท์

แวะพักเป็นครั้งคราว
ความอุดมสมบูรณ์ของป่า
เห็ดห้างก็มา
พี่พงษ์พยายามแกะรอบตามพี่กล้า พี่กล้าแกเป็นคนตัวเล็ก ล่วงหน้าไปก่อนเพื่อสำรวจทาง แต่แกก็ไม่ค่อยฟันทางให้ครับ พี่พงษ์บ่นตลอดทาง จะให้มุดตามก็คงไม่ไหวเหมือนกัน

สี่โมงเย็นละครับ พลังงานเริ่มหมด

ยิ่งเดิน ทางยิ่งชัน

ทำไมมองพี่ด้วยสายตาอย่างนั้น 555

น้องปอน เดินไม่เคยบ่น ชอบแต่บนอย่างเดียว

โฉมหน้าพี่เตี้ย ไหนบอกผมว่าทางง่ายๆ เดินสบายไงล๊วกเพี๊ย

นั่งทีนึกว่ายืนคุยกัน ชันมากยิ่งใกล้ถึง

เดินตามพรานเราไปเรื่อย ๆ ตอนไหนที่ป่ารกๆ ต้องใช้เวลาในการเบิกนาน ก็ใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ด้วยการคุยกัน...ในฝัน 555


เราหลอกเค้ามานี่ห้ามง่วงเด็ดขาดครับ ต้องยิ้มแย้มไว้ แต่ในใจนี่หื้มมม สี่โมงครึ่งแล้ว ท้องฟ้ายังไม่เห็นเลย 555


ตามกันมาเรื่อยๆครับ

ส่วนเราแอบชมนกชมไม้

สักพักพอถึงแนวหินปูน พี่พงษ์ก็บอกว่าไม่เกิน 20 นาทีเราจะถึงหุบแอ่งกะทะ ซึ่งเคยเป็นแคมป์เก่าของคณะสำรวจเมื่อปี 48 เราก็ดีใจเหมือนกับฟื้นคืนชีพใหม่กันทุกคน

อีกนิดเดียว

ถึงแล้วแอ่งกะทะ ตอนเวลาประมาณ 5 โมงเย็น

ที่หุบแห่งนี้มีร่องรอยของหมูป่า และก็อ้น (ตัวตุ่น) อยู่ประปราย คณะเรานั่งพักอยู่ประมาณ 5 นาทีจึงปรึกษากัน เพราะถ้าพักที่นี่ เราต้องใช้เวลาประมาณ 45 นาทีในการขึ้นยอดดอยนางนอน (ซึ่งตอนนี้เราไม่เชื่อการคำนวนเวลาจากพี่เตี้ยของเราอีกต่อไปแล้ว 555) ประกอบกับที่หุบไม่มีลมพัดด้วย ถึงแม้จะมีที่ราบมากพอที่เราจะกางเต็นท์ได้ แต่การที่เรายังไม่แน่ใจถึงระยะของยอดที่แน่นอนจึงบอกพี่พงษ์ และพี่เตี้ยว่า เราจะไปต่อถึงยอดดอยนางนอนและหาที่นอนในระแวกใกล้เคียงแทน

เดินไปได้ประมาณ 10 นาที เจอทางอย่างนี้ทำให้เรารู้ว่าเราตัดสินใจถูกแล้วที่เดินต่อในตอนนี้แทนตอนเช้ามืด

แหมม พี่เตี้ย แล้วบอกเราว่าทางง่ายๆ

หกโมงสิบนาทีโดยประมาณ เราก็มาถึงยอดดอยนางนอน(ในรูปยังไม่ใช่จุดยอดดอยนางนอนนะครับ เป็นสันเขาใกล้เคียงครับ)
ดวงอาทิตย์ใก้ตกดินแล้ว ทำให้เราไม่มีเวลาที่จะไปชมวิวที่จุดยอดตอนนี้ รีบหาระแวกใกล้เคียงที่จะตั้งแคมป์ได้ครับ
(รวมเวลาเดินทางขึ้นยอดประมาณ 6 ชั่วโมง)

ให้เวลาพักหายใจสักนิด
ให้ชมวิวอีกหน่อย
เราเลือกที่ว่างระหว่างทางขึ้นยอดช่วงนึง จะว่าราบก็ไม่ได้ ทางเอียงประมาณ 15 องศา ยังโชคดีที่พื้นเป็นดิน เพราะพื้นที่อื่นมีแต่หินปูนที่แหลมคม หลังจากสำรวจทางหนีทีไล่ พรานป่าของเราก็เริ่มกำหนดอาณาเขต และตั้งแคมป์ของเรา

เริ่มลงมือทำอาหารกันครับ

พี่ๆช่วยเราทำอาหารด้วย

รายการเข้าคุกเข้าครัว เวอร์ชั่นแกงเหนือ

ขอลาค่ำคืนนี้ไปด้วยรูปนี้นะครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่