วันที่ 10 พฤษภาคม 2560 พระราชโพธิวรคุณ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสะเก็ดพระอารามหลวง ต.เชิงดอย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ในฐานะเจ้าคณะอำเภอดอยสะเก็ด กล่าวสัมโมทียกถา เนื่องในวันวิสาขบูชา เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ว่า เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา องค์กรยูเนสโกยกย่องว่าเป็นวันสำคัญของโลก วันประสูติตรัสรู้ ดับขันธ์ปรินิพพาน ของพระพุทธเจ้า ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ใต้ เดือน 8 เหนือ ทางคณะสงฆ์ ข้าราชการ องค์กรท้องถิ่น ศร้ทธาประชาชนชาว อ.ดอยสะเก็ดร่วมกันจัดกิจกรรมส่งเสริมสัปดาห์พระพุทธศาสนา โดยสรงน้ำพระเจดีย์เกศาธาตุเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ซึ่งได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพวรางกูร รัชกาลที่ 10 ทรงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานน้ำสรงองค์เจดีย์พระเกศาธาตุ โดยตั้งขบวนแห่น้ำสรงพระราชทาน 13 ตำบล จากสนามกีฬาอำเภอดอยสะเก็ด มาที่วัดพระธาตุดอยสะเก้ด พระอารามหลวง ระยะทาง 2 กิโลเมตร พร้อมมีพิธีอัญเชิญนมสดมารดถวาย ต้นพระศรีมหาโพธิ์ซึ่งรัฐบาลอินเดีย และศรีลังกา ได้ถวายต้นพระศรีมหาโพธิ์ มาปลูกที่วัดแห่งนี้
“ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ต้นแรก ได้รับพระกรุณาจากสมเด็จพระสังฆราชวาสสนะมหาเถรทรงพระราชทานและปลูก ต้นที่สอง ได้พระกรุณาจากพระอาสภัท พันตะมหาเถร สังฆราชศรีลังกา และอธิบดีกรมการศาสนา ศรีลังกา มาปลูกจนเติบใหญ่ เขียวพุ่มไสว ซึ่งชาวดอยสะเก็ด ได้อัญเชิญนมสมมารถดวาย ต้นพระศรีมหาโพธิ์ มา 12 ปีแล้ว เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา เป็นกุศโลบายสร้างความรักสามัคคี รักษาวัฒนธรรมประเพณี อันสูงค่าทางพระพุทธศาสนา ให้เจริญคงอยู่คู่บ้านเมือง พร้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่ดวงพระวิญญาณ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 และเฉลิมพระเกียรติแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพวรางกูร รัชกาลที่ 10 ด้วย” พระราชโพธิวรคุณ กล่าว
พระราชโพธิวรคุณ กล่าวถึงปัญหาสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้พุทธศาสนิกชนอาจมาทำบุญน้อยกว่าทุกปี ว่า วันวิสาขบูชา เป็นวันสำคัญของโลก เป็นวันสร้างบุญใหญ่ ถวายเป็นพุทธบูชา และถวายเป็นราชสักการะ แม้ช่วงนี้ภาวะเศรษฐกิจไม่ค่อยดีหรือคล่องตัวมากนัก การทำมาค้าขายค่อนข้างฝืดเคือง อยากบอกญาติโยมทั้งหลายว่า ให้นึกถึงพระพุทธเจ้า ว่าทุกอย่างเป็นของคู่กัน มีมืด มีสว่าง มีร้อน มีเย็น ไม่นานนักเชื่อว่า เศรษฐกิจคงดีขึ้น เชื่อมั่นรัฐบาล คงบริหารประเทศให้ผ่านพ้นวิกฤตได้
ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เป็นช่วงการเตรียมเนื้อเตรียมตัว หากเป็นนักธุรกิจ เพิ่งลงทุนส่วนกำไรมากน้อย หรือขาดทุน เป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจของโลก แต่ขอให้ยึดหลักธรรมพระพุทธเจ้า พระพุทธองค์ทรงสอนในวันวิสาขาบูชา ซึ่งตรัสรู้ และตรัสถึงอริยสัจธรรม 4 ประการ คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค หมายถึง ทุกข์ คือตัวปัญหา สมุทัยต้นเหตุเกิดปัญหา นิโรธ รู้หลักวิธีแก้ปัญหา ใช้น้อยจ่ายน้อย ประหยัดอดออม อย่าใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย และมรรค ปฏิบัติตามทางสายกลาง ไม่สุดโต่ง ไม่ย่อหย่อนเกินไป การใช้จ่ายพอประมาณ ไม่ทุ่มเทมากนัก ขอให้ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรามหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ที่พระราชทานแด่พสนกนิกรชาวไทย ขอให้ยึดหลักดังกล่าว
“เชื่อว่า ทุกสิ่งทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ ขอทำใจให้สบาย อย่าได้เครียดมากเกินไป ประเทศเคยผ่านยุคไอเอ็มเอฟ หรือต้มยำกุ้ง ฟองสบู่แตกมาแล้ว แต่ยุคนี้ยังไม่ถึงขั้นดังกล่าว วันหน้าคงดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจโลก เมืองไทยเป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์ เมืองพระพุทธศาสนามีสิ่งปกป้องคุ้มภัย ไม่ช้าทุกอย่างคลี่คลาย ไปในทางที่ดีขึ้นแน่นอน” พระราชโพธิวรคุณ กล่าวทิ้งท้าย
JJNY : เสดตะกิดดี๊ดี...ซี้จุกสูญ พระราชโพธิวรคุณ ชี้ ศก.ฝืด ปีนี้คนทำบุญน้อย แนะอย่าเครียด เชื่อรบ.บริหารพ้นวิกฤตได้
“ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ต้นแรก ได้รับพระกรุณาจากสมเด็จพระสังฆราชวาสสนะมหาเถรทรงพระราชทานและปลูก ต้นที่สอง ได้พระกรุณาจากพระอาสภัท พันตะมหาเถร สังฆราชศรีลังกา และอธิบดีกรมการศาสนา ศรีลังกา มาปลูกจนเติบใหญ่ เขียวพุ่มไสว ซึ่งชาวดอยสะเก็ด ได้อัญเชิญนมสมมารถดวาย ต้นพระศรีมหาโพธิ์ มา 12 ปีแล้ว เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา เป็นกุศโลบายสร้างความรักสามัคคี รักษาวัฒนธรรมประเพณี อันสูงค่าทางพระพุทธศาสนา ให้เจริญคงอยู่คู่บ้านเมือง พร้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่ดวงพระวิญญาณ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 และเฉลิมพระเกียรติแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพวรางกูร รัชกาลที่ 10 ด้วย” พระราชโพธิวรคุณ กล่าว
พระราชโพธิวรคุณ กล่าวถึงปัญหาสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้พุทธศาสนิกชนอาจมาทำบุญน้อยกว่าทุกปี ว่า วันวิสาขบูชา เป็นวันสำคัญของโลก เป็นวันสร้างบุญใหญ่ ถวายเป็นพุทธบูชา และถวายเป็นราชสักการะ แม้ช่วงนี้ภาวะเศรษฐกิจไม่ค่อยดีหรือคล่องตัวมากนัก การทำมาค้าขายค่อนข้างฝืดเคือง อยากบอกญาติโยมทั้งหลายว่า ให้นึกถึงพระพุทธเจ้า ว่าทุกอย่างเป็นของคู่กัน มีมืด มีสว่าง มีร้อน มีเย็น ไม่นานนักเชื่อว่า เศรษฐกิจคงดีขึ้น เชื่อมั่นรัฐบาล คงบริหารประเทศให้ผ่านพ้นวิกฤตได้
ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เป็นช่วงการเตรียมเนื้อเตรียมตัว หากเป็นนักธุรกิจ เพิ่งลงทุนส่วนกำไรมากน้อย หรือขาดทุน เป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจของโลก แต่ขอให้ยึดหลักธรรมพระพุทธเจ้า พระพุทธองค์ทรงสอนในวันวิสาขาบูชา ซึ่งตรัสรู้ และตรัสถึงอริยสัจธรรม 4 ประการ คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค หมายถึง ทุกข์ คือตัวปัญหา สมุทัยต้นเหตุเกิดปัญหา นิโรธ รู้หลักวิธีแก้ปัญหา ใช้น้อยจ่ายน้อย ประหยัดอดออม อย่าใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย และมรรค ปฏิบัติตามทางสายกลาง ไม่สุดโต่ง ไม่ย่อหย่อนเกินไป การใช้จ่ายพอประมาณ ไม่ทุ่มเทมากนัก ขอให้ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรามหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ที่พระราชทานแด่พสนกนิกรชาวไทย ขอให้ยึดหลักดังกล่าว
“เชื่อว่า ทุกสิ่งทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ ขอทำใจให้สบาย อย่าได้เครียดมากเกินไป ประเทศเคยผ่านยุคไอเอ็มเอฟ หรือต้มยำกุ้ง ฟองสบู่แตกมาแล้ว แต่ยุคนี้ยังไม่ถึงขั้นดังกล่าว วันหน้าคงดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจโลก เมืองไทยเป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์ เมืองพระพุทธศาสนามีสิ่งปกป้องคุ้มภัย ไม่ช้าทุกอย่างคลี่คลาย ไปในทางที่ดีขึ้นแน่นอน” พระราชโพธิวรคุณ กล่าวทิ้งท้าย