สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นเลย นี่เป็นกระทู้รีวิวแรกของเรา และยังเป็นครั้งแรกที่เราได้ไปเที่ยวต่างประเทศด้วยค่ะ
แต่จะพยายามรีวิวให้ครบถ้วนที่สุด ปกติแล้วเราจะชอบตามอ่านของคนอื่นมากกว่า
และสาเหตุที่ทำให้เกิดกระทู้นี้ขึ้นมาจะถูกเฉลยในอีกไม่ช้านี้!
ทริปญี่ปุ่นครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณกลางเดือนตุลาคมปี 2016 ที่ผ่านมา โดยมีจำนวนสมาชิกเป็นสาวๆ4คนที่สติไม่ค่อยจะดีกันเท่าไหร่
+ การเดินทางข้ามประเทศใช้บริการของ Vietnam Airline ซึ่งต้องต่อเครื่องด้วย เป็นแบบ full service มีเสิร์ฟอาหาร และโหลดกระเป๋าได้คนละ 30 กิโล
+ การเดินทางในประเทศใช้ JR West, Tokyo city bus และ Osaka one pass
+ ที่พักมี 3 ที่ค่ะ ได้แก่ Drop Inn Osaka, Kyoto Lantern Guest House และ Yadokari Namba จองผ่าน booking ค่ะ
Drop Inn Osaka -
http://www.booking.com/Share-VqcIAg
Kyoto Guesthouse Lantern in Gion -
http://www.booking.com/Share-hyklm4
Yadokari Namba Hostel -
http://www.booking.com/Share-Qegyop
+ ค่าใช้จ่ายตลอดทริป ไม่ได้เน้นประหยัดมากนะคะ จ่ายเท่าที่มีกำลังจ่ายได้ เพราะเป็นการเที่ยวต่างประเทศครั้งแรก เลยอาจจะยังวางแผนไม่ครอบคลุมพอ ก็หมดกันไปคนละไม่เกิน 40,000 บาทค่ะ (ตอนที่แลกเงิน เรทประมาณ 3.4) แต่รอบหน้าไม่พลาดแน่นอน อิอิ
+ อุปกรณ์ถ่ายภาพ Canon 600D, Fuji XA2 และ iPhone 5s
วันเดินทาง
เราออกเดินทางจากประเทศไทยที่สนามบินสุวรรณภูมิ วันที่ 16 ตอนบ่าย 4 ค่ะ ตอนนั้นตื่นเต้นมาก เพราะเครื่องบินก็ไม่เคยขึ้น แถมต้องเดินไปเกทที่อยู่ไกลมาก เรียกได้ว่าขาแทบขวิดค่ะ ไม่มีเวลาจะแวะเปิดหูเปิดตาที่ duty free เลย พอเดินไปถึงก็เจอเครื่องบินจอดอยู่แล้ว แต่เค้ายังไม่ได้เรียกขึ้นค่ะ โถ รีบเดินมาแทบตาย 555555
พอถึงเวลา เราก็ได้ออกเดินทางกัน เครื่องของ Vietnam Airline ที่เรานั่งเป็น Airbus A321 ที่นั่งฝั่งละ 3 ที่ มีจอให้ดูรวมกัน แต่ก็ไม่ค่อยได้ดูอยู่ดีค่ะ เพราะเวลาผ่านไปซักพัก อาหารก็มาเลย.. ตอนนั้นมีให้เลือกระหว่าง Chicken & noodle หรือจะเป็น Fish & rice ซึ่งเราก็เลือกไก่มา ตามภาพเลยค่ะ
ไม่รู้ด้วยความหิวหรืออะไร แต่คืออร่อยมาก กินอย่างเร็ว พอกินอิ่มยังไม่ทันได้นอนพัก อะถึงเวียดนามละ 5555555555555
อย่างที่บอกไปในตอนแรกว่าเราต้องมาต่อเครื่อง ซึ่งก็ไม่ยากเลยค่ะ พอลงจากเครื่องมาก็เดินตามป้าย Transfer ไป และรอบนี้ก็ไกลอีกตามเคย เดินจนไปถึงเคาน์เตอร์ พนักงานเค้าก็ถามเรา ขอดูตั๋วอีกใบที่ใช้บินไปญี่ปุ่น แล้วก็ให้คูปองเรามาใบนึง บอกว่าระหว่างรอขึ้นเครื่องให้ไปกินอาหารที่ร้านนี้ได้ค่ะ ฟรี! ในหัวก็คิดแล้วว่า กินอีกแล้วเรอะ เมื่อกี้ยังอิ่มอยู่เลย ก็เลยตัดสินใจไปนั่งรอก่อนซักพัก พออาหารย่อยค่อยกิน เราสั่งข้าวแกงกะหรี่เนื้อ แต่เหมือนจะเป็นวิญาณเนื้อมากกว่า แถมไม่ค่อยอร่อยด้วยง่ะ น้ำตาจะไหล TwT อ้อ ในสนามบินมี Wifi ฟรีค่ะ สะดวกมากเลย จะเดินเล่นหรือนอนรออยู่ในนั้นก็ได้ เพราะค่อนข้างเงียบอยู่เหมือนกัน คนน้อยมาก ช่วงสี่ห้ามทุ่มถึงเริ่มมีคน
เรารอเครื่องออกตอนประมาณเที่ยงคืนค่ะ แต่เกือบตกเครื่องซะแล้ว เพราะว่ามีการย้ายเกท ดีที่มีแอร์เดินมาตามฝั่งเรา ตอนฟังประกาศก็ไม่ได้ยินเลย รออยู่ว่าเมื่อไหร่จะเรียก แต่สุดท้ายก็ได้ออกเดินทางกันค่ะ รอดไปหวุดหวิด
มาถึงรอบนี้บนเครื่องมีแจกผ้าห่มกับหูฟังด้วยค่ะ หูฟังนี่เอาไว้เสียบฟังเพลงตรงที่วางแขนได้นะคะ มีช่องเพลงสากล เวียดนาม เกาหลี ญี่ปุ่น แต่เพลงเก่ามาก เลยไม่ได้ฟังต่อ
ผ่านไปไม่นานก็มีเมนูอาหารมาแจก ก่อนจะปล่อยให้เราหลับปุ๋ย ควรนอนอะจริงๆ เพราะตอนอยู่สนามบินนอยไบก็ไม่ได้นอน แต่ว่า.. นอนไม่ถึง 2 ชั่วโมง กลิ่นอาหารก็เริ่มมาอีกแล้วค่ะคุณผู้ชม จะข่มตาหลับก็ทำไม่ได้ สุดท้ายเลยต้องตื่นขึ้นมากิน 55555555555 มื้อนี้เราจำไม่ได้จริงๆค่ะว่าสั่งอะไรมากิน เพราะตอนนั้นงัวเงียสุด รีบกินรีบนอนต่อเลยไม่ได้ถ่ายรูปเก็บไว้ พอแอร์เก็บถาดอาหารแล้วเราก็นอนไปได้อีกประมาณเกือบชั่วโมง ท้องฟ้าข้างนอกเริ่มสว่างแล้ว มองเห็นเกาะญี่ปุ่นใกล้เข้ามาเรื่อยๆ หลังจากนั้นเครื่องก็ Landing ซึ่งช่วงนั้นฝนก็ตกอยู่พอดี ตอนลงจากเครื่องสัมผัสได้เลยว่าอากาศเย็นๆ
[CR] [CR] Japan 6 Days :: ตะลุยโอซาก้า เกียวโต โกเบ ฮิเมจิ
สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นเลย นี่เป็นกระทู้รีวิวแรกของเรา และยังเป็นครั้งแรกที่เราได้ไปเที่ยวต่างประเทศด้วยค่ะ
แต่จะพยายามรีวิวให้ครบถ้วนที่สุด ปกติแล้วเราจะชอบตามอ่านของคนอื่นมากกว่า
และสาเหตุที่ทำให้เกิดกระทู้นี้ขึ้นมาจะถูกเฉลยในอีกไม่ช้านี้!
ทริปญี่ปุ่นครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณกลางเดือนตุลาคมปี 2016 ที่ผ่านมา โดยมีจำนวนสมาชิกเป็นสาวๆ4คนที่สติไม่ค่อยจะดีกันเท่าไหร่
+ การเดินทางข้ามประเทศใช้บริการของ Vietnam Airline ซึ่งต้องต่อเครื่องด้วย เป็นแบบ full service มีเสิร์ฟอาหาร และโหลดกระเป๋าได้คนละ 30 กิโล
+ การเดินทางในประเทศใช้ JR West, Tokyo city bus และ Osaka one pass
+ ที่พักมี 3 ที่ค่ะ ได้แก่ Drop Inn Osaka, Kyoto Lantern Guest House และ Yadokari Namba จองผ่าน booking ค่ะ
Drop Inn Osaka - http://www.booking.com/Share-VqcIAg
Kyoto Guesthouse Lantern in Gion - http://www.booking.com/Share-hyklm4
Yadokari Namba Hostel - http://www.booking.com/Share-Qegyop
+ ค่าใช้จ่ายตลอดทริป ไม่ได้เน้นประหยัดมากนะคะ จ่ายเท่าที่มีกำลังจ่ายได้ เพราะเป็นการเที่ยวต่างประเทศครั้งแรก เลยอาจจะยังวางแผนไม่ครอบคลุมพอ ก็หมดกันไปคนละไม่เกิน 40,000 บาทค่ะ (ตอนที่แลกเงิน เรทประมาณ 3.4) แต่รอบหน้าไม่พลาดแน่นอน อิอิ
+ อุปกรณ์ถ่ายภาพ Canon 600D, Fuji XA2 และ iPhone 5s
วันเดินทาง
เราออกเดินทางจากประเทศไทยที่สนามบินสุวรรณภูมิ วันที่ 16 ตอนบ่าย 4 ค่ะ ตอนนั้นตื่นเต้นมาก เพราะเครื่องบินก็ไม่เคยขึ้น แถมต้องเดินไปเกทที่อยู่ไกลมาก เรียกได้ว่าขาแทบขวิดค่ะ ไม่มีเวลาจะแวะเปิดหูเปิดตาที่ duty free เลย พอเดินไปถึงก็เจอเครื่องบินจอดอยู่แล้ว แต่เค้ายังไม่ได้เรียกขึ้นค่ะ โถ รีบเดินมาแทบตาย 555555
พอถึงเวลา เราก็ได้ออกเดินทางกัน เครื่องของ Vietnam Airline ที่เรานั่งเป็น Airbus A321 ที่นั่งฝั่งละ 3 ที่ มีจอให้ดูรวมกัน แต่ก็ไม่ค่อยได้ดูอยู่ดีค่ะ เพราะเวลาผ่านไปซักพัก อาหารก็มาเลย.. ตอนนั้นมีให้เลือกระหว่าง Chicken & noodle หรือจะเป็น Fish & rice ซึ่งเราก็เลือกไก่มา ตามภาพเลยค่ะ
ไม่รู้ด้วยความหิวหรืออะไร แต่คืออร่อยมาก กินอย่างเร็ว พอกินอิ่มยังไม่ทันได้นอนพัก อะถึงเวียดนามละ 5555555555555
อย่างที่บอกไปในตอนแรกว่าเราต้องมาต่อเครื่อง ซึ่งก็ไม่ยากเลยค่ะ พอลงจากเครื่องมาก็เดินตามป้าย Transfer ไป และรอบนี้ก็ไกลอีกตามเคย เดินจนไปถึงเคาน์เตอร์ พนักงานเค้าก็ถามเรา ขอดูตั๋วอีกใบที่ใช้บินไปญี่ปุ่น แล้วก็ให้คูปองเรามาใบนึง บอกว่าระหว่างรอขึ้นเครื่องให้ไปกินอาหารที่ร้านนี้ได้ค่ะ ฟรี! ในหัวก็คิดแล้วว่า กินอีกแล้วเรอะ เมื่อกี้ยังอิ่มอยู่เลย ก็เลยตัดสินใจไปนั่งรอก่อนซักพัก พออาหารย่อยค่อยกิน เราสั่งข้าวแกงกะหรี่เนื้อ แต่เหมือนจะเป็นวิญาณเนื้อมากกว่า แถมไม่ค่อยอร่อยด้วยง่ะ น้ำตาจะไหล TwT อ้อ ในสนามบินมี Wifi ฟรีค่ะ สะดวกมากเลย จะเดินเล่นหรือนอนรออยู่ในนั้นก็ได้ เพราะค่อนข้างเงียบอยู่เหมือนกัน คนน้อยมาก ช่วงสี่ห้ามทุ่มถึงเริ่มมีคน
เรารอเครื่องออกตอนประมาณเที่ยงคืนค่ะ แต่เกือบตกเครื่องซะแล้ว เพราะว่ามีการย้ายเกท ดีที่มีแอร์เดินมาตามฝั่งเรา ตอนฟังประกาศก็ไม่ได้ยินเลย รออยู่ว่าเมื่อไหร่จะเรียก แต่สุดท้ายก็ได้ออกเดินทางกันค่ะ รอดไปหวุดหวิด
มาถึงรอบนี้บนเครื่องมีแจกผ้าห่มกับหูฟังด้วยค่ะ หูฟังนี่เอาไว้เสียบฟังเพลงตรงที่วางแขนได้นะคะ มีช่องเพลงสากล เวียดนาม เกาหลี ญี่ปุ่น แต่เพลงเก่ามาก เลยไม่ได้ฟังต่อ
ผ่านไปไม่นานก็มีเมนูอาหารมาแจก ก่อนจะปล่อยให้เราหลับปุ๋ย ควรนอนอะจริงๆ เพราะตอนอยู่สนามบินนอยไบก็ไม่ได้นอน แต่ว่า.. นอนไม่ถึง 2 ชั่วโมง กลิ่นอาหารก็เริ่มมาอีกแล้วค่ะคุณผู้ชม จะข่มตาหลับก็ทำไม่ได้ สุดท้ายเลยต้องตื่นขึ้นมากิน 55555555555 มื้อนี้เราจำไม่ได้จริงๆค่ะว่าสั่งอะไรมากิน เพราะตอนนั้นงัวเงียสุด รีบกินรีบนอนต่อเลยไม่ได้ถ่ายรูปเก็บไว้ พอแอร์เก็บถาดอาหารแล้วเราก็นอนไปได้อีกประมาณเกือบชั่วโมง ท้องฟ้าข้างนอกเริ่มสว่างแล้ว มองเห็นเกาะญี่ปุ่นใกล้เข้ามาเรื่อยๆ หลังจากนั้นเครื่องก็ Landing ซึ่งช่วงนั้นฝนก็ตกอยู่พอดี ตอนลงจากเครื่องสัมผัสได้เลยว่าอากาศเย็นๆ