[CR] -- [LET'S EXPLORE] BALI, INDONESIA EPISODE!!! บาหลีมีดีอะไร

บาหลีมีดีอะไรอ่ะ?

     จุดเริ่มต้นการเดินทางไปเกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซียครั้งนี้ของเราก็ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ ตามประสาสาวออฟฟิตพอว่างๆก็เข้า PANTIP เปิดไปๆมาๆ เจอกระทู้น่าอ่านเข้าก็อดจะกดเข้าไปดูไม่ได้ ตกเป็นเหยื่อการรีวิว เกาะบาหลีอยู่บ่อยๆ จนบอกกับตัวเองว่าไม่ได้การละ เราต้องไปซักที มือก็ลั่นไปจองตั๋วเข้าจนได้ ลั่นในที่นี้ก็ไม่ได้เป็นตั๋วโปรอะไรนะแจ๊ะ หึหึ ราคาเต็มค่ะ แต่จะมีบอกรายละเอียดในตอนท้ายว่าเราใช้จ่ายไปกับการเดินทางนี้ประมาณเท่าไหร่นะคะ

     จากนั้นก็เริ่มจัดแผนค่ะว่าอยากจะไปที่ไหนบ้าง ส่วนใหญ่ก็ตามแลนมาร์คดังๆที่ไม่ควรพลาด บลาๆจนเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยก็ออกเดินทางไปบาหลีกันเลย!!

DAY01
     เรามถึงสนามบิน Denpasar International Airport หรืออีกชื่อเก๋ๆที่ออกเสียงโครตยากว่า Ngurah Rai International Airport (ท่าอากาศยานนานาชาติงูระห์ไร) นะฮะ เราว่าสนามบินที่นี่ใหญ่โตและสะอาดมาก ผิดจาที่คาดไว้ ผ่านตม.ออกมาง่ายดายสดใส ก็ตื่นเต้นกับการมารอรับของไกด์ ใช่ค่า ทริปนี้จะขนาดบุคคลสำคัญท่านนี้ไปไม่ได้เลย และเราเหมือนสวรรค์บันดาลเราก็พลันไปสบตากับคุณลุงเสื้อฟ้า ชูป้ายชื่อของพวกเรา จริงๆนี่เป็นครั้งแรกที่เดินทางไปปตท แล้วมีคนมารอรับแบบนี้ค่ะเลยโครตตื่นเต้นเป็นพิเศษ พอเจอหน้าทักทายสารทุกข์สุกดิบ แนะนำตัวกันไป ฟังแกแนะนำตัวด้วย ชื่อของไกด์ที่จะดูแลเราตลอดการเดินทางในทริปนี้คือ กึ้ดดี้ค่ะ ค่ะถ้าเราฟังชื่อแกไม่ผิดนะคะ ออกเสียงยากมาก ต้องพูดซ้ำหลายรอบมากกว่าจะถูก เราเลยตั้งให้ใหม่ค่ะเพื่อการออกเสียงที่ง่ายและน่ารักกว่า เราเรียกแกว่า ลุงคิตตี้ ค่ะ ลุงคิตตี้พาเราออกจากสนามบินเพื่อไปเที่ยวที่แรกในวันนี้เลยค่ะ ฟิตโครต เราออกเดินทางไป GWK (Garuda Wisnu Kencana) หรือ สวนพระวิษณุ นั่นเอง


     ที่นี่ออกแนวเป็น National Park ด้วยนะคะ ก่อนเข้าก็ต้องซื้อตั๋ว และนั่งรถของทาง Park เข้าไป ลุงคิตตี้เราเดินตัดเขาเข้าไป อากาศดีมากถึงแม้จะร้อนเหมือนบ้านเราแต่ลมที่พัดมาเย็นชื่นใจมากค่ะ ภูเขาหินที่นี่เขาตั้งใจตัดผ่าให้เป็นทางเดิน พร้อมแกะสลักหินเป็นรูปหน้าครุต หน้าผู้หญิงก็สวยดีนะคะ แต่เนื่องจากแกะจากหินงานจึงไม่ดูละเอียดมากเท่าไร พอเดินเข้าไป เราก็จะเจอรูปปั้นพญาครุตองค์ใหญ่มาก ตีจากเหล็กสีดำยืนรอให้ถ่ายรูปคู่อยู่ จากนั้นลุงแกก็พามาดูรูปหล่อพระวิษณุองค์ใหญ่ที่ตั้งอยู่ไม่ห่างจากพญาครุตมากนัก เราคิดว่าทำมาจากการหล่อสำริด สวยและใหญ่อลังการมากเช่นกัน


     หลังจากชื่นชมรูปปั้นต่างๆนานาไปแล้วไกด์คิตตี้ก็ถามเราว่ายูอยากดู Barong Dance เราก็เฉยๆนะตอนแรก อ่านกระทู้มาเยอะว่าน่าเบื่อ จะหลับเอาป่าวว๊า แต่ก็นะเวลามันเหลืออ่ะค่ะคุณก็เลยจำใจดู ก็เข้าไปนั่งในอัฒจรรย์มีเวทีอยู่ข้างหน้า คนดูเยอะมากส่วนใหญ่ก็จะเป็นเด็กๆที่ รร พามาทัศนศึกษาบ้าง จากที่เราสังเกตที่นี่ไม่ได้มีแค่คนต่างชาติ คนในประเทศเองก็มาเที่ยวกันเยะ ช่างน่าภูมิใจค่ะ Barong Dance นำเสนอเราในเนื้อเรื่องของกาต่อสู้กันระหว่าง พญาครุตและพญานาค โปรดอย่าถามเนื้อเรื่องอะไรทั้งสิ้นนะคะ การพากย์เสียงเป็นอินโดนีเซี่ยนออดิโอ้ล้วนๆ จุดพีคอยู่ที่คนพากย์เนี่ย มีคนเดียวนะคะและการจะพากย์เป็นทุกตัวละคร จะหญิงจะชายจะยักษ์ ตัวอะไรก็ตามแกจัดได้หมดค่ะ พากย์ไปจิบน้ำไป ฮาดีค่ะเราว่าแกเป็นส่วนนึงที่ทำให้ Barong Dance สนุกขึ้นมากเพราะทุกคนจะหัวเราะตัวงอไปตามการพากย์ของพี่คนนี้ จบจากการดู Barong Dance เราก็เตรียมออกเดินทางต่อค่ะ เรามุ่งหน้าลงไปทางใต้ของเกาะเพื่อไป Uluwatu อีกหนึ่งแลนด์มาร์คของบาหลี


     จาก GWK มา Uluwatu ไม่ใกล้เลยค่ะ เรานั่งรถอีกเป็นชม.ตามถนนเลนเดียว รถที่ขับผ่านกันไปมาอยากจะเบียดอยากจะแซงยังไงก็ได้ เราว่าเมืองไทยก็ไม่ธรรมดาแล้วเจอที่นี่เข้าไป อยากจะไปกราบอกแล้วบอกว่าพี่คะ ใจเย็นๆกันเนอะ ขับตามเขามาเรื่อยๆก็จะถึงวัด Uluwatu วัดนี้จะสร้างอยู่บนผาติดทะลค่ะ ชมภาพสิคะ ที่นี่เป็นหนึ่งใน Dream Destination ของเราเลยก็ว่าได้ ก่อนจะเขาวัดนี้เราจะต้องแปลงร่างเอาผ้ามาผูกเอวค่ะถึงแม้คุณจะใส่กางเกงก็ตาม ถือว่าเป็นการให้ความเคารพต่อสิ่งศักดิ์สิทธ์ค่ะ ไกด์คิตตี้พาเราเดินเข้าวัด แน่นอนเราเตรียมตัวมาดี ศัตรูรอเราอยู่ค่ะ ศัตรูที่ว่าคือ เจ้าลิง นั่นเอง เราจึงไม่พกหมวก แว่นกันแดดอะไรทั้งสิ้นลงรถ หึหึ แกไม่มีทางมาฉกของจากฉันได้หรอก แต่พอเดินไปซักพักร้อนมากค่ะ แดดก็แรง แสบหน้า แสบตา เหงื่อไหลออกมาเปียกไปยันกางเกงในเลยค่ะ น้องลิงก็ไม่เห็นจะมายุ่งกะเราเลย ฮืออ



     แต่หลังจากที่เดินบ่นๆในใจจนมาถึงตรงหน้าผา เราแทบหยุดหายใจเลย ภาพตรงหน้ามันยิ่งใหญ่มาก คลื่นลูกใหญ่กำลังซัดเข้าฝั่งปะทะหน้าผาใหญ่ คุณพระมือทาบอก เหมือนที่เคยเห็นในหนังเลย เรายืนมองภาพตรงหน้า กดชัตเตอร์รัวๆๆ จนลุงคิตตี้ต้องบอกให้เดินต่อ เดี๋ยวจะพาไปที่จุดชมวิว เราเดินต่อโดยที่ไม่รู้สึกเหนื่อยอีกต่อไป ภาพวิวข้างทางทำให้เราต้องศิโรราบให้กับธรรมชาติ ทำให้เรารู้ว่าธรรมชาติยิ่งใหญ่แค่ไหน ยิ่งใหญ่ซะจนมนุษย์ไม่ควรเอาตัวเองเข้าไปเปรียบค่ะ เราถ่ายรูปจากจุดชมวิวฝั่งหน้าอยู่พักใหญ่ สุดหายใจเข้าปอดเยอะๆ ซึมซับบรรยากาศตรงหน้าให้มากที่สุด ซักพักลุงคิตตี้ก็พาไปอีกฝั่งซึ่งเป็นฝั่งของวัดค่ะ
     เราก็จะได้เห็นความงามของหน้าผาที่เราไปมาในตอนแรก เราคิดว่าหน้าผาที่นี่มีลักษณะโค้งคล้ายครึ่งวงกลมนะคะ ทำให้เรามองเห็นผาอีกฝั่งนึงได้เพราะมันต่างยื่นออกมาในทะเลพอสมควร อิ่มอกอิ่มใจนั่งมองวิว กดชัตเตอร์ไม่ยั้งก็ต้องเตรียมโบกมือลา ระหว่างจะเดินออกจากวัด แน่นอนค่ะเราเจอศัตรูของเราที่นี่ อยู่กันแบบครอบครัว เกาหัวให้ลูกหาเห็บให้ลูกบ้าง เล่นถังขยะบ้างปีนต้นไม้บ้าง แอ็คท่าให้มนุษย์ถ่ายอย่างกะนายแบบบ้าง ชิลๆค่ะ ก็ยังไม่เห็นว่ามันจะไปกระชากแว่นตาหรือหมวกใครนะคะ ดูเรียบร้อยดึ แต่ค่ะคิดว่าวันนี้จะจบลงแค่สองที่ท่องเที่ยว ลุงคิตตี้ใจดีบอกว่าเวลาเหลือเดี๋ยวจะพาไป Padang Padang Beach หาดนี้อยู่ไม่ไกลจาก Uluwatu มากนักค่ะ การจะเข้าไปหาดได้จะต้องเสียค่าเข้านะคะ



     ค่าเข้าประมาณ 1,000 IDR เราว่ามันเป็นความคิดที่ดีนะคะ สำหรับการเก็บค่าเข้าถือว่าเป็นการนำเงินไปบำรุงรักษาหาดให้สะอาด สวยงามไปในตัว พอจ่ายเงินก็เดินทางเลาะไปตามฐานของเขา ทางก็จะมืดๆหน่อยตื่นเต้นดีค่ะ เวลามีคนเดินจะสวนกับเราก็สลับกันหลบให้ทางคนอื่นบ้าง พอลงมาถึงพวกเราถึงกับช็อกค่ะ มันเป็นหาดเล็กที่สวยมาก ฝรั่งงาน ฝ ทั้งชายและหญิงนอนอาบแดด บ้างก็ว่ายน้ำ บ้างก็โต้คลื่นค่ะ ทุกคนจัดเต็มด้วยบิกินี่ ผู้ชายฝรั่งที่นี่โหมซิกแพ็คมาเต็มมากกค่ะ ชะนีไทยได้แต่เอียงคอตาม งานดีเต็มหาดไปหมด ให้อยู่ทั้งวันก็ทำได้ว้อยย รู้ไหมอะไรเอ่ยไม่เข้าพวกที่สุดในหาด ก็ชะนีไทยสามคนที่ยืนอยู่นี่แหละค่ะ จัดเต็มด้วยเสื้อยืด กางเกงขายาว รองเท้าผ้าใบ ใส่หมวกเข้าไปอีกใรขณะที่รอบกายเต็มไปด้วย บิกินี่และซิกแพ็ค ฮรือออออ สนุกสนานเดินเตะน้ำอยู่ที่นี่ซักพักใหญ่ ก็ถึงเวลาร่ำลาอีกครั้ง ลาก่อน Padang Padang Beach แล้วเราคงได้เจอกันอีก แอบโกรธลุงคิตตี้เล็กๆ ก็น่าจะบอกกันบ้างว่า Padang Padang Beach มันดีขนาดนี้ จะได้รีบเปลี่ยนชุดลงแช่น้ำกับเขาซักแปปนึง และการเดินทางวันที่หนึ่งก็จบลงเท่านี้ค่ะ แล้วเด๋วมาต่อวันที่สองกัน

ชื่อสินค้า:   Bali Indonesia
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่