เด็กน้อยน่ารัก ปั่นจักรยานล้มใส่รถ เอาผิดได้มั้ย??

เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2017 ที่ผ่านมา ณ ห้องเช่าติดถนน แถว ต.กะทู้ จังหวัดภูเก็ต ด้วยบริเวณนั้นไม่มีที่จอดรถยนต์ (และด้านหน้าหอพักเจ้าของหอเปิดร้านขายข้าวแกง) เราเลยจอดริมถนน ตรงทางเข้าหอพัก ที่มีกล้องวงจรปิดติดอยู่  เวลาประมาณช่วงบ่ายแก่ๆ-ตอนเย็น มีเด็ก (อายุน่าจะประมาณเด็กป.1) ปั่นจักรยานอยู่บนทางเท้า หน้าหอพัก โดยไม่มีผู้ปกครองคอยดูแล ด้วยความที่ขับจักรยานยังไม่คล่องเท่าไหร่ จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุล้มลง จักรยานชนเข้ากับกันชนหน้ารถเรา สีแตก เป็นรอยขูด และสีรถจักรยานติดอยู่ เด็กน้อยไม่เป็นไรมากรีบลุกแล้วยกจักรยานขึ้น โชคร้ายที่ตอนนั้นเราอยู่ในหอพักไม่ได้เห็นเหตุการณ์ แต่ด้วยความโชคดีของเรา มีคนเห็นเด็กล้มลงใส่รถเราถึง 2 คน คนนึงเป็นลูกจ้างร้านข้าวแกงหน้าหอ และอีกคนเป็นพ่อเจ้าของร้านข้าวแกง ซึ่งรู้จักพ่อแม่ของเด็กคนนั้นเป็นอย่างดี (เราขอเรียกว่าคุณลุงนะคะ) เมื่อคุณลุงเห็นเด็กล้มลงใส่รถเรา จึงตะโกนถามว่าโดนรถเขารึเปล่า? เด็กน้อยตอบว่า "ไม่โดน" คุณลุงจึงไม่ได้สนใจอะไร

ต่อมาเวลา 00:47 เราเดินออกมาจากหอกำลังจะไปข้างนอก แล้วพบกับรอยโดนชนที่กันชนหน้า เราจึงถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน ประกอบกับกล้องวงจรปิดหน้าหอ เมื่อถ่ายรูปเสร็จเราก็ขับรถออกไป
เช้าวันต่อมาแฟนเราไปหาเจ้าของหอพักเพื่อจะขอดูกล้องวงจรปิดว่าใครชนรถ  บังเอิ๊ญ..ลูกจ้างร้านขายข้าวแกงบอกกับเราว่าเขาเห็นเด็กที่อยู่บ้านใกล้ๆกันนี่แหละ ล้มใส่รถ แต่คิดว่าไม่เป็นไร เลยไม่เอะใจ เมื่อสืบสาวราวเรื่องจนมั่นใจว่าเป็นใคร   เราเลยไปพูดกับเจ้าของหอพักและเอารูปที่รถโดนชนให้ดู เจ้าของหอพักบอกให้เราเรียกค่าเสียหายกับพ่อแม่เด็กได้เลย เพราะแผลรถเสียหายใช้ได้เลย และเราขอช่วยติดต่อพ่อแม่เด็กให้หน่อยเพราะพี่เจ้าของหอพักรู้จักกันดี และบ้านพ่อเด็กคนนั้นก็อยู่ติดกับบ้านเจ้าของหอพักแถวกะทู้นี่แหละ เมื่อเจ้าของหอพักติดต่อกับพ่อเด็กไป แต่กลับได้คำตอบที่ไม่ค่อยน่าฟังเท่าไหร่

เจ้าของหอพัก : พี่ ลูกของพี่อ่ะ ขับจักรยานไปล้มใส่รถคนที่หอพักฯ พี่จะว่ายังไง??
พ่อเด็ก : จริงเหรอ พี่ไม่เชื่อว่าลูกจะทำแบบนั้น แล้วไปถามลูกว่าชนรถเขารึเปล่า ลูกบอกว่า "ไม่ได้ชน"
เจ้าของหอพัก : พอดีว่า พ่อกับลูกจ้าง เห็นเหตุการณ์ ถามน้องแล้วว่าโดนรถมั้ย น้องบอกไม่โดนรถ แต่เมื่อเช้าเจ้าของรถมาขอดูกล้อง เพื่อจะดูว่าใครชนรถเขา เราจึงคาดว่าน่าจะเป็นลูกของพี่ (เพราะไม่มีใครขับรถบนทางเท้านอกจากลูกพี่ตอนนั้น)
พ่อเด็ก : ลูกพี่ไม่เคยโกหกนะ
เจ้าของหอพัก : เขามีหลักฐานเป็นรูปภาพมาให้ดู เห็นสีจักรยานติดรถเขา และรถเขาสีแตก ที่กันชนด้านหน้าซ้าย
พ่อเด็ก : เขาจะเครมใช่มั้ย ถ้าต้องการจะเครมรถ เดี๋ยวพี่จะถอยรถไปชนให้อีกที จะได้เครมสมใจ (พูดด้วยน้ำเสียงกร่างๆ) หมาหอน
เจ้าของหอพัก : !!!!!......เงิบบบบบสิค่ะ

เมื่อเราได้ฟังจากที่พี่เจ้าของหอพักเล่าให้ฟัง เราอึ้งเลย นึกใจในแบบนี้ก็มีหรอด้วยหรอว่ะ เริ่มนับ
เราบอกไปว่า ตอนแรกเราไม่ได้ต้องการอะไรจากเขาหรอกนะ เพราะเห็นว่าเป็นเด็ก รถเราก็มีประกัน เครมเองได้ ขอเพียงแค่ คุณมาแสดงความรับผิดชอบสักหน่อยก็ยังดี..ว่าลูกคุณชนรถเรา อย่างนู้นอย่างนี้ มาขอโทษสักคำก็ยังดี แต่นี่ไม่มีแม้แต่คำขอโทษ หรือ ทีท่าว่าจะมาพบเราเพื่อรับผิดชอบค่าเสียหายใดใดเลย

เรากับแฟนจึงคิดว่า หรือจะเรียกค่าเสียหายดีว่ะ มีผู้ปกครองหัวหมอแบบนี้ แถมลูกยังโกหกอีก!! หยอกเย้า เรารู้สึกหมั่นไส้ และโมโหขึ้นมาเล็กน้อย


และเมื่อแม่เด็กรู้เรื่องนี้จากพี่เจ้าของหอพักอีกทีหลังจากนั้น เพราะไม่ได้อยู่ใกล้กัน นางก็ตกใจ แล้วก็ให้เราคิดค่าเสียหายเองเลย ว่าจะให้เขาจ่ายเท่าไหร่
(แม่และพ่อเด็กน่าจะหย่ากัน เพราะไม่ได้อยู่ด้วยกัน เด็กมานอนบ้านพ่อเป็นครั้งคราว ไม่ได้อยู่กะทู้ตลอด)  

เราไม่รู้หรอกว่าราคาค่าซ่อมสี กันชนหน้า รถเท่าไหร่?? เราจึงเปิดหาในเน็ตเอา
บอกว่า ราคาค่าทำสีกันชนหน้าขิ้นเดียว ราคา 3500 ฿ ไม่รวมค่าซ่อม เราก็คิดจะเอาไงดี เลยฝากเจ้าของหอพักไปบอกเขาว่า เราเรียก 1500 ฿
( อย่าหาว่าเราหน้าเงินเลยนะ )
เราไม่ได้อยากได้เงินหรอก แต่เราหมั่นไส้ผู้ปกครองมากกว่า ที่ไม่คิดจะรับผิดชอบอะไรเลย รู้ทั้งรู้ว่าลูกทำผิดเอาไว้ จึงคิดจะปล่อยให้เรื่องเงียบไป
นี่ก็ผ่านมาเกือบ 3 สัปดาห์ละ ยังไม่มีทีท่าจะดำเนินการอะไรทั้งนั้น

เรากำลังคิดว่าจะแจ้งตำรวจดีมั้ย เพราะหลักฐาน พยาน มีพร้อมหมดละ
หรือจะให้แจ้งประกันมารับเรื่องแล้วเรียกค่าเสียหายเอง จะได้จบๆไป ไม่อยากปล่อยแบบนี้ เพราะเท่ากับปล่อยให้เขามาชนรถเราฟรีๆ โดยไร้ซึ่งความรับผิดชอบใดๆ ทั้งที่รู้ตัวคนผิด และเด็กน้อยก็จะมีพฤติกรรมไม่ดีแบบนี้ต่อไป ทำผิดไม่ยอมรับผิด แถมมีนิสัยโกหกเพราะกลัวความผิดติดตัวไปอีก ที่สำคัญผู้ปกครองก็เข้าข้างลูกตัวเองไปอีกจ้าาาา แบบนี้เขาเรียกว่า พ่อแม่รังแกฉันรึป่าวเอ่ย?????

เราควรทำไงดี  เหนื่อยใจเลยเจอแบบนี้

เรื่องเล่าความน่าหมั่นไส้ของสังคม
ปล. เม้นได้แต่อย่าแร๊งงงงง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่