สอบถามครับ คือ ช่วงที่นั่งเข้าสมาธิ หรือเห็นแสงแล้ว สงบ แล้วผมพิจารณา สติปัฏฐาน 4 ในส่วนของกายานุปัฏฐาน โดยใช้
กายะคะตาสะติภาวะนา โดย แยกเป็น ธาตุทั้ง 4 พร้อมกัน คือ ธาตุดิน ผม ขน ( ขนคิว ขนตา ขนจมูก หนวด เครา ขนรักแร ขนที่ลับ ขนหน้าแข้งตามตัว ) ฟัน เล็บมือเท้า หนัง หุ้มตัว แล้วเข้าพิจารณาภายใน คือ กระดูกทั้งตัว มองรวมๆ แล้วเข้าสู่
ธาตุ น้ำ คือ เมื่อเอาหนังหุ้มร่างกายออกมาแล้ว น้ำเหงื่อที่ไหลออกจากผนัง เลือด น้ำเหลือง น้ำดี น้ำมันเหลว น้ำมันข้น น้ำตา น้ำลาย น้ำเสเลด น้ำมูก น้ำไขข้อ น้ำฉี่ อุจาระ
ธาตุ ลม คือ ลมผ่านจมูก เข้าสู่หลอดลม เข้าสู่กระบังลม เข้าสู่ ปอด ทั้งสอง และเข้าสู่หัวใจ
ธาตุ ไฟ คือ อาหารใหม่ อาหารเข้าสู่ปาก หลอดอาหาร สำไส้ใหญ่ สำไสน้อย ผสมกับอาหารเก่า ผ่านการเผ่าผลาญ ผ่านการดูดซับ กรองของ ตับ ไต พังผืด ม้าม หลังจากนั้นผมมาพิจารณาภาพรวม ซากศพ เหลือง ซากศพ บวม เขียวเหลือง ซากศพที่ตัวขาดครึ่ง และกำลังพิจารณาซากศพแต่ละส่วนขาด , ถูกหนอนซอนไช จนเหลือกระดูก จนเหลือน้ำมันเหลว น้ำมันข้น
1. แต่เยื่อในกระดูก เยื่อในสมอง เอ็นทั้งหลาย อยู่ส่วนไหน แล้วจะพิจารณาอย่างไร
2. ที่เป็น ปฏิกุล สิ่งไม่สวยงาม และเป็นแบบที่สัมผัสจริง ในแต่ละแบบ ถ้าอาหาร น้ำลาย น้ำตา น้ำเสเลด ฉี่ อุจาระ ยังพอไหว ผมก็พอไหวเหนี่ยวๆ ร่างกายเหนี่ย เหม็นๆ แต่ส่วนอื่นๆ ละ จะพิจารณาอย่างไร จะจับอย่างไร ไม่ใช่นึกคิด ไม่ใช่จิตนาการ ไม่ใช่ภาพที่ดูมา
โดยทำได้ทีละส่วน หนึ่งส่วนก็พัก ประมาณ 10 นาทีได้ บางทีก็ได้ต่อเนื่อง ส่วนใหญ่ จะไม่หมด จะเหนื่อย และดูเหมือนไม่ค่อยคืบหน้า และช่วงที่พักมี ทั้งสุข ทุกข์ เฉยๆ กุศล อกุศล คิดไม่ดีกับผู้อื่น ควรทำอย่างไร เห็นบอกว่า แค่รับรู้ แต่มันคิดไม่ดีกับผู้อื่นๆ คนใกล้ชิด จะต้องพูดกับตัวเองไหม ถ้าพูดจะพูดว่าอย่างไร
ปล. แล้ว ทุกช่วงเวลากำหนดลมหายใจตลอดเมื่อระลึกได้ จะกำหนดลมหายใจ ก็เข้าสมาธิ แต่ยังไม่ถึงขั้นว่า หายใจสั้นหรือยาว ควรทำอย่างไรครับสำหรับให้กำหนดให้ได้ตลอดหมดทุกข์ เพราะเหมือนว่า ถ้ารู้ส่วนหนึ่งแล้ว กลับมาพิจารณาจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก เป็นการเจริญปัญญาใช่ไหมครับ แนะนำด้วยครับควรทำอย่างไร ต่อดี แล้วแยกรูปนามคือ อย่างไร ทำอย่างไรครับ ขอบุคณครับผม
นั่งสมาธิแล้วเห็นแสง แล้วมีปัญหา
กายะคะตาสะติภาวะนา โดย แยกเป็น ธาตุทั้ง 4 พร้อมกัน คือ ธาตุดิน ผม ขน ( ขนคิว ขนตา ขนจมูก หนวด เครา ขนรักแร ขนที่ลับ ขนหน้าแข้งตามตัว ) ฟัน เล็บมือเท้า หนัง หุ้มตัว แล้วเข้าพิจารณาภายใน คือ กระดูกทั้งตัว มองรวมๆ แล้วเข้าสู่
ธาตุ น้ำ คือ เมื่อเอาหนังหุ้มร่างกายออกมาแล้ว น้ำเหงื่อที่ไหลออกจากผนัง เลือด น้ำเหลือง น้ำดี น้ำมันเหลว น้ำมันข้น น้ำตา น้ำลาย น้ำเสเลด น้ำมูก น้ำไขข้อ น้ำฉี่ อุจาระ
ธาตุ ลม คือ ลมผ่านจมูก เข้าสู่หลอดลม เข้าสู่กระบังลม เข้าสู่ ปอด ทั้งสอง และเข้าสู่หัวใจ
ธาตุ ไฟ คือ อาหารใหม่ อาหารเข้าสู่ปาก หลอดอาหาร สำไส้ใหญ่ สำไสน้อย ผสมกับอาหารเก่า ผ่านการเผ่าผลาญ ผ่านการดูดซับ กรองของ ตับ ไต พังผืด ม้าม หลังจากนั้นผมมาพิจารณาภาพรวม ซากศพ เหลือง ซากศพ บวม เขียวเหลือง ซากศพที่ตัวขาดครึ่ง และกำลังพิจารณาซากศพแต่ละส่วนขาด , ถูกหนอนซอนไช จนเหลือกระดูก จนเหลือน้ำมันเหลว น้ำมันข้น
1. แต่เยื่อในกระดูก เยื่อในสมอง เอ็นทั้งหลาย อยู่ส่วนไหน แล้วจะพิจารณาอย่างไร
2. ที่เป็น ปฏิกุล สิ่งไม่สวยงาม และเป็นแบบที่สัมผัสจริง ในแต่ละแบบ ถ้าอาหาร น้ำลาย น้ำตา น้ำเสเลด ฉี่ อุจาระ ยังพอไหว ผมก็พอไหวเหนี่ยวๆ ร่างกายเหนี่ย เหม็นๆ แต่ส่วนอื่นๆ ละ จะพิจารณาอย่างไร จะจับอย่างไร ไม่ใช่นึกคิด ไม่ใช่จิตนาการ ไม่ใช่ภาพที่ดูมา
โดยทำได้ทีละส่วน หนึ่งส่วนก็พัก ประมาณ 10 นาทีได้ บางทีก็ได้ต่อเนื่อง ส่วนใหญ่ จะไม่หมด จะเหนื่อย และดูเหมือนไม่ค่อยคืบหน้า และช่วงที่พักมี ทั้งสุข ทุกข์ เฉยๆ กุศล อกุศล คิดไม่ดีกับผู้อื่น ควรทำอย่างไร เห็นบอกว่า แค่รับรู้ แต่มันคิดไม่ดีกับผู้อื่นๆ คนใกล้ชิด จะต้องพูดกับตัวเองไหม ถ้าพูดจะพูดว่าอย่างไร
ปล. แล้ว ทุกช่วงเวลากำหนดลมหายใจตลอดเมื่อระลึกได้ จะกำหนดลมหายใจ ก็เข้าสมาธิ แต่ยังไม่ถึงขั้นว่า หายใจสั้นหรือยาว ควรทำอย่างไรครับสำหรับให้กำหนดให้ได้ตลอดหมดทุกข์ เพราะเหมือนว่า ถ้ารู้ส่วนหนึ่งแล้ว กลับมาพิจารณาจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก เป็นการเจริญปัญญาใช่ไหมครับ แนะนำด้วยครับควรทำอย่างไร ต่อดี แล้วแยกรูปนามคือ อย่างไร ทำอย่างไรครับ ขอบุคณครับผม