จขกท.ชอบเลี้ยงสัตว์มากๆค่ะเลยอยากแชร์นิสัยสัตว์ชนิดต่างๆ ทริควิธีเลี้ยง ประสบการณ์ต่างๆที่เคยเจอ เพื่อมือใหม่จะได้ศึกษาเป็นแนวทางก่อนเลี้ยงค่ะ สัตว์เลี้ยงที่เคยเลี้ยงมีปลา(หางนกยูง ดาบ สอด ทอง เทวดา บอลลูน กุ้งฝอย) ห่าน ไก่(แจ้ งวง ไข่) เป็ดเทศ แฮมเตอร์(วินเทอร์ไวท์ แคมเบล) สุนัข แมว ตะพาบ วันนี้ขอเริ่มที่แฮมเตอร์นะคะ ถ้ามีคนสนใจเยอะหรืออยากให้ทำตัวไหนบอกได้ค่ะจะลองทำต่อดู
1.แฮมเตอร์(วินเทอร์ไวท์ แคมเบล)ประสบการณ์เลี้ยง6ปี
อายุขัย -1ปีครึ่ง-2ปี(ถ้าแก่มากๆจะผอมตาฝ้าฟาง)
นิสัยและพฤติกรรม -เป็นสัตว์อยู่โดดเดี่ยว ไม่เข้าสังคมเลย หากเจอแฮมแปลกหน้าแม้ต่างเพศหากไม่ชอบขี้หน้าจะกัดกันเลือดไหล ส่วนเพศเดียวกันกัดกัน100%หากไม่ได้อยู่ด้วยกันแต่เด็ก ชอบปั่นจักรตอนกลางคืน กิจวัตรหลักคือกินนอน
วิธีเอาแฮมโตเต็มวัยเพศตรงข้ามมารู้จักและดูว่าเข้ากันได้หรือไม่คือ ให้นำตัวเมียมาไว้หน้ากรงของตัวผู้ ถ้า
1.ทั้งสองมองหน้ากันแล้วจัดขนตัวเองเป็นพักๆ=ชอบอยากรู้จัก ->ให้มองหน้ากันสัก10นาทีลองเปิดกรงให้ตัวเมียเข้าไปโดยคอยสังเกตตลอดหากกัดกันต้องรีบแยก
2.บางตัวหรือทั้งสองขู่ร้องจุ๊ๆๆๆใส่กันแต่ไม่กระโจนใส่อีกตัว=ไม่ไว้ใจ->ให้นำมามองหน้ากันบ่อยๆทุกวันครั้งละไม่ต่ำกว่า10นาที จนกว่าจะไม่ขู่แล้วทำตามข้อ1.
3.ทั้งสองกระโจนใส่กัน หรือตัวหนึ่งกระโจนใส่อีกตัวกลัวขี้ไหล=ช่วยหนูด้วยยยย ->จับคู่กันยากมากควรหาคู่ใหม่มาให้มันดูตัวดีกว่า
4.ตัวเมียกระโจนใส่ตัวผู้ตัวผู้ไม่ขี้ไหล=ผมอยากรู้จักคุณ ->มีโอกาสจับคู่ได้อยู่ เนื่องจากปกติตัวเมียจะดุกว่าตัวผู้อยู่แล้วให้ทำตามข้อ2.
ความต่างระหว่างเพศ-ตัวผู้ตัวใหญ่กว่าและจะมีไข่ใหญ่มากเมื่อโตเต็มที่(เหมือนมีก้นอยู่ด้านหน้า55++) ตัวผู้มักจะอ้วน ขี้เกียจ และดุน้อยกว่าตัวเมีย
จำนวนที่เหมาะในการเลี้ยง-เลี้ยงตัวเดียว , คู่ผู้เมีย , ตัวผู้คู่หรือตัวเมียคู่แต่กรณีนี้ต้องเลี้ยงด้วยกันแต่เด็กห้ามแยกและห้ามให้เจอเพศตรงข้ามเด็ดขาด โดยตัวผู้คู่มีโอกาสอยู่ด้วยกันดีกว่าเมียคู่
ลูก-เมื่อตัวเมียท้องใหญ่เห็นเป็นรูปคล้ายมะม่วงให้แยกตัวผู้ออก เมื่อลูกเกิดให้นำกระดาษชิดชู่ฉีกให้ แฮมจะนำไปสร้างรังเอง(ระวังอย่าให้ชิดชู่ถูกปากกระบอกน้ำ) ดูแลแฮมได้ตามปกติ แต่อย่าเปลี่ยนขี้เลื่อยหากสกปรกมากให้ใช้ช้อนตักขี้เลื่อยที่สกปรกออกแล้วใส่ขี้เลื่อยใหม่แทน ไม่ควรจับลูกเพราะแม่แฮมบางตัวดุมากอาจกัดนิ้วหรือทำร้ายลูก เมื่อลูกแฮมลืมตาได้เต็มที่สามารถแยกออกไปได้
ข้อสังเกต1.ห้ามนำพี่น้องมาผสมกัน เพราะแฮมที่เกิดมาโตขึ้นบางตัวจะแคระแกรน ชอบวิ่งเหมือนเป็นโรคอยู่นิ่งไม่ได้ อาจคอเอียงเมื่อโตเต็มที่
2.ห้ามนำแฮมพันธ์แคมเบลผสมกับวิทเทอร์ไวท์เด็ดขาด เพราะแม่หนูจะคลอดไม่ได้หรือแท้งตายทั้งแม่ลูก
โรคที่ควรรู้-1.ท้องเสีย ->หากแฮมท้องเสียและมีกลิ่นเหม็นมากต้องทำใจเพราะแทบไม่มีโอกาสรอด สาเหตุอาจเกิดจากความเครียดของแฮม หรือมือที่สกปรกของคนเลี้ยง
2.เนื้องอก ->เนื้องอกเกิดจากได้รับโปรตีนสูงเกินจำเป็น ดังนั้นหากให้อาหารแมวผสมที่ซื้อทั่วไปมักเป็นเนื้องอกทุกตัว(อาหารแมวโปรตีน30%) จึงควรเปลี่ยนเป็นอาหารแฮมที่ขายในห้าง หรือให้ผักสดล้างสะอาดและเมล็ดพืชแทนเช่นถั่วฝักยาว ผักคะน้า ข้าวสาร เมล็ดพืชสำหรับนกหงส์หยก หากต้องการเสริมโปรตีนอาจให้หมูสับหรืออาหารหมาแทน (โภชนาการที่แฮมต้องการในแต่ละวัน-> โปรตีน 12-15% ไขมัน3-6% สำหรับแฮมท้อง-> โปรตีน18-20% ไขมัน7-9%)
3.หนาวตาย ->โดยปกติเลี้ยงแฮมต้องมีทรายอาบน้ำให้มันและไม่ควรอาบน้ำ แต่หากแฮมสกปรกมากๆจนต้องอาบน้ำ จะต้องใช้น้ำอุ่นอาบและอาบด้วยความเร็วสูงสุด ใช้สบู่ฟอกได้ เมื่ออาบเสร็จรีบใช้ผ้าขนหนูเช็ด แล้วเอาผ้าขนหนูอีกผืนที่แห้งห่อแฮมไว้หลวมๆ แฮมจะจัดแต่งทรงผมในผ้า อย่าให้แฮมถูกอากาศและแอร์ขณะเปียกเด็ดขาด เมื่อแฮมแห้งสนิทหรือเกือบสนิทค่อยเอาแฮมใส่กรงแต่หากยังชื้นนิดๆห้ามวางไว้ในห้องแอร์ มิเช่นนั้นแฮมอาจแข็งตายได้ง่ายๆ ส่วนหน้าหนาวควรนำชิดชู่ฉีกใส่ไว้ให้แฮมเอาไปทำรัง
ความสนิท- หากเล่นกับแฮมบ่อยแฮมจะสนิทกับเรา แม้พันธ์แคมเบลก็ดุน้อยลง(พันธ์นี้ดุและขี้ตกใจควรค่อยๆเอามือให้ดมก่อนจับไม่งั้นอาจกัดเลือดไหล) เมื่อสนิทกับแฮมมากๆแฮมจะกล้านอนบนมือ เลียมือ แฮมตัวผู้อาจทำท่าดิ้บๆบนมือเรา-..-
ข้อสังเกต-1.ฉี่แฮมใหม่ๆพันธ์ุแคมเบลกลิ่นเหมือนถั่วลิสง พันธ์ุวินเทอร์ไวท์กลิ่นเหมือนใบเตย
2.หากจับอาหารก่อนเล่นกับแฮมควรล้างมือเพราะแฮมจะคิดว่ามือเราคืออาหาร
3.แฮมตัวเมียบางตัวดุมากกก ดังนั้นมือใหม่อาจเลี้ยงตัวผู้ตัวเดียวก่อน
4.วิทเทอร์ไวท์ สีนอมอลมักดุน้อยกว่าสีเหลือง นอมอลตัวผู้บางตัวช่วยดูแลลูกหนูได้
5.แฮมส่วนใหญ่เกิน95%ไม่เป็นมิตรกับลูกหนู จึงไม่ควรเลี้ยงร่วมกันหรือเสี่ยงไว้ด้วยกันเลย ยกเว้นแม่ลูกที่ไม่เคยพรากออกมา
6.หากแม่หนูคลอดลูกพร้อมกัน แล้วครอกนึงมีลูกเยอะเกินจำนวนเต้านม สามารถนำมาให้แม่หนูอีกครอกเลี้ยงได้แต่ต้องนำขี้เลื้อยที่เปื้อนฉี่แม่บุญธรรมมาคลุกลูกหนูให้ทั่ว และแอบใส่ตอนแม่หนูเผลอ โดยสังเกตพฤติกรรมแม่บุญธรรมอย่างใกล้ชิด
(อยากตั้งเป็นกระทู้สนทนาแต่ทำไม่ได้อ่ะ)แนะนำวิธีเลี้ยงสัตว์สำหรับมือใหม่เริ่มด้วยแฮมเตอร์
1.แฮมเตอร์(วินเทอร์ไวท์ แคมเบล)ประสบการณ์เลี้ยง6ปี
อายุขัย -1ปีครึ่ง-2ปี(ถ้าแก่มากๆจะผอมตาฝ้าฟาง)
นิสัยและพฤติกรรม -เป็นสัตว์อยู่โดดเดี่ยว ไม่เข้าสังคมเลย หากเจอแฮมแปลกหน้าแม้ต่างเพศหากไม่ชอบขี้หน้าจะกัดกันเลือดไหล ส่วนเพศเดียวกันกัดกัน100%หากไม่ได้อยู่ด้วยกันแต่เด็ก ชอบปั่นจักรตอนกลางคืน กิจวัตรหลักคือกินนอน
วิธีเอาแฮมโตเต็มวัยเพศตรงข้ามมารู้จักและดูว่าเข้ากันได้หรือไม่คือ ให้นำตัวเมียมาไว้หน้ากรงของตัวผู้ ถ้า
1.ทั้งสองมองหน้ากันแล้วจัดขนตัวเองเป็นพักๆ=ชอบอยากรู้จัก ->ให้มองหน้ากันสัก10นาทีลองเปิดกรงให้ตัวเมียเข้าไปโดยคอยสังเกตตลอดหากกัดกันต้องรีบแยก
2.บางตัวหรือทั้งสองขู่ร้องจุ๊ๆๆๆใส่กันแต่ไม่กระโจนใส่อีกตัว=ไม่ไว้ใจ->ให้นำมามองหน้ากันบ่อยๆทุกวันครั้งละไม่ต่ำกว่า10นาที จนกว่าจะไม่ขู่แล้วทำตามข้อ1.
3.ทั้งสองกระโจนใส่กัน หรือตัวหนึ่งกระโจนใส่อีกตัวกลัวขี้ไหล=ช่วยหนูด้วยยยย ->จับคู่กันยากมากควรหาคู่ใหม่มาให้มันดูตัวดีกว่า
4.ตัวเมียกระโจนใส่ตัวผู้ตัวผู้ไม่ขี้ไหล=ผมอยากรู้จักคุณ ->มีโอกาสจับคู่ได้อยู่ เนื่องจากปกติตัวเมียจะดุกว่าตัวผู้อยู่แล้วให้ทำตามข้อ2.
ความต่างระหว่างเพศ-ตัวผู้ตัวใหญ่กว่าและจะมีไข่ใหญ่มากเมื่อโตเต็มที่(เหมือนมีก้นอยู่ด้านหน้า55++) ตัวผู้มักจะอ้วน ขี้เกียจ และดุน้อยกว่าตัวเมีย
จำนวนที่เหมาะในการเลี้ยง-เลี้ยงตัวเดียว , คู่ผู้เมีย , ตัวผู้คู่หรือตัวเมียคู่แต่กรณีนี้ต้องเลี้ยงด้วยกันแต่เด็กห้ามแยกและห้ามให้เจอเพศตรงข้ามเด็ดขาด โดยตัวผู้คู่มีโอกาสอยู่ด้วยกันดีกว่าเมียคู่
ลูก-เมื่อตัวเมียท้องใหญ่เห็นเป็นรูปคล้ายมะม่วงให้แยกตัวผู้ออก เมื่อลูกเกิดให้นำกระดาษชิดชู่ฉีกให้ แฮมจะนำไปสร้างรังเอง(ระวังอย่าให้ชิดชู่ถูกปากกระบอกน้ำ) ดูแลแฮมได้ตามปกติ แต่อย่าเปลี่ยนขี้เลื่อยหากสกปรกมากให้ใช้ช้อนตักขี้เลื่อยที่สกปรกออกแล้วใส่ขี้เลื่อยใหม่แทน ไม่ควรจับลูกเพราะแม่แฮมบางตัวดุมากอาจกัดนิ้วหรือทำร้ายลูก เมื่อลูกแฮมลืมตาได้เต็มที่สามารถแยกออกไปได้
ข้อสังเกต1.ห้ามนำพี่น้องมาผสมกัน เพราะแฮมที่เกิดมาโตขึ้นบางตัวจะแคระแกรน ชอบวิ่งเหมือนเป็นโรคอยู่นิ่งไม่ได้ อาจคอเอียงเมื่อโตเต็มที่
2.ห้ามนำแฮมพันธ์แคมเบลผสมกับวิทเทอร์ไวท์เด็ดขาด เพราะแม่หนูจะคลอดไม่ได้หรือแท้งตายทั้งแม่ลูก
โรคที่ควรรู้-1.ท้องเสีย ->หากแฮมท้องเสียและมีกลิ่นเหม็นมากต้องทำใจเพราะแทบไม่มีโอกาสรอด สาเหตุอาจเกิดจากความเครียดของแฮม หรือมือที่สกปรกของคนเลี้ยง
2.เนื้องอก ->เนื้องอกเกิดจากได้รับโปรตีนสูงเกินจำเป็น ดังนั้นหากให้อาหารแมวผสมที่ซื้อทั่วไปมักเป็นเนื้องอกทุกตัว(อาหารแมวโปรตีน30%) จึงควรเปลี่ยนเป็นอาหารแฮมที่ขายในห้าง หรือให้ผักสดล้างสะอาดและเมล็ดพืชแทนเช่นถั่วฝักยาว ผักคะน้า ข้าวสาร เมล็ดพืชสำหรับนกหงส์หยก หากต้องการเสริมโปรตีนอาจให้หมูสับหรืออาหารหมาแทน (โภชนาการที่แฮมต้องการในแต่ละวัน-> โปรตีน 12-15% ไขมัน3-6% สำหรับแฮมท้อง-> โปรตีน18-20% ไขมัน7-9%)
3.หนาวตาย ->โดยปกติเลี้ยงแฮมต้องมีทรายอาบน้ำให้มันและไม่ควรอาบน้ำ แต่หากแฮมสกปรกมากๆจนต้องอาบน้ำ จะต้องใช้น้ำอุ่นอาบและอาบด้วยความเร็วสูงสุด ใช้สบู่ฟอกได้ เมื่ออาบเสร็จรีบใช้ผ้าขนหนูเช็ด แล้วเอาผ้าขนหนูอีกผืนที่แห้งห่อแฮมไว้หลวมๆ แฮมจะจัดแต่งทรงผมในผ้า อย่าให้แฮมถูกอากาศและแอร์ขณะเปียกเด็ดขาด เมื่อแฮมแห้งสนิทหรือเกือบสนิทค่อยเอาแฮมใส่กรงแต่หากยังชื้นนิดๆห้ามวางไว้ในห้องแอร์ มิเช่นนั้นแฮมอาจแข็งตายได้ง่ายๆ ส่วนหน้าหนาวควรนำชิดชู่ฉีกใส่ไว้ให้แฮมเอาไปทำรัง
ความสนิท- หากเล่นกับแฮมบ่อยแฮมจะสนิทกับเรา แม้พันธ์แคมเบลก็ดุน้อยลง(พันธ์นี้ดุและขี้ตกใจควรค่อยๆเอามือให้ดมก่อนจับไม่งั้นอาจกัดเลือดไหล) เมื่อสนิทกับแฮมมากๆแฮมจะกล้านอนบนมือ เลียมือ แฮมตัวผู้อาจทำท่าดิ้บๆบนมือเรา-..-
ข้อสังเกต-1.ฉี่แฮมใหม่ๆพันธ์ุแคมเบลกลิ่นเหมือนถั่วลิสง พันธ์ุวินเทอร์ไวท์กลิ่นเหมือนใบเตย
2.หากจับอาหารก่อนเล่นกับแฮมควรล้างมือเพราะแฮมจะคิดว่ามือเราคืออาหาร
3.แฮมตัวเมียบางตัวดุมากกก ดังนั้นมือใหม่อาจเลี้ยงตัวผู้ตัวเดียวก่อน
4.วิทเทอร์ไวท์ สีนอมอลมักดุน้อยกว่าสีเหลือง นอมอลตัวผู้บางตัวช่วยดูแลลูกหนูได้
5.แฮมส่วนใหญ่เกิน95%ไม่เป็นมิตรกับลูกหนู จึงไม่ควรเลี้ยงร่วมกันหรือเสี่ยงไว้ด้วยกันเลย ยกเว้นแม่ลูกที่ไม่เคยพรากออกมา
6.หากแม่หนูคลอดลูกพร้อมกัน แล้วครอกนึงมีลูกเยอะเกินจำนวนเต้านม สามารถนำมาให้แม่หนูอีกครอกเลี้ยงได้แต่ต้องนำขี้เลื้อยที่เปื้อนฉี่แม่บุญธรรมมาคลุกลูกหนูให้ทั่ว และแอบใส่ตอนแม่หนูเผลอ โดยสังเกตพฤติกรรมแม่บุญธรรมอย่างใกล้ชิด