ในปัจจุบันสิ่งหนึ่งที่เหมือนจะกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเรียนของวัยมัธยมคือการเรียนพิเศษเพิ่มเติม คำถามคือมันจำเป็นจริงๆหรือไม่หรือมันเป็นเพราะการฮั้วกันทำธุรกิจ/หารายได้เพิ่มจากองค์กรการศึกษา
ผมได้ยินหลานของเพื่อนมาขอพ่อแม่เรียนพิเศษเพิ่มเติมในวันส-อ ซึ่งครอบครัวนี้ก็ไม่ได้มีเงินมากมายอาจค่อนข้างไปทางลำบากด้วยซ้ำ จึงให้คำตอบลูกไปว่าคงไม่ได้เพราะไม่จำเป็นขนาดนั้น และมันมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นพอสมควรด้วยต่อเดือน แต่สิ่งที่ลูกย้อนกลับมาคือ จำเป็นต้องไปเรียนเพราะสิ่งที่จะออกสอบอาจารย์ไม่ได้สอนในห้อง โดยให้ว่ามีสอนพิเศษเพิ่มมาลงชื่อถ้าอยากเรียน ซึ่งมีค่าใช้จ่าย และยังมีอีกคือเพื่อนๆในกลุ่มก็เรียนกันหมด ถ้าไม่ไปก็เหมือนแกะดำ ส่วนพ่อแม่ก็อยากให้ลูกอยู่บ้านส-อช่วยงานบ้านอยู่บ้านกับครอบครัวมากกว่าไปใช้เวลาอยู่กับเพื่อนเพราะทุกวันนี้ก็กลับบ้าน1-2ทุ่มเกือบทุกวันอยู่แล้วบ้างก็บอกทำการบ้าน ติวหนังสือ
พอผมได้ยินจึงมีคำถามในใจและข้อสงสัยต่างๆดังนี้
- ปัจจุบันครูหรืออาจารย์สอนทุกอย่างที่ควรจะสอนอย่างเต็มที่ในเวลาเรียนทั้งหมดหรือไม่ ถึงได้แนะนำให้เด็กไปเรียนพิเศษอย่างเป็นล่ำเป็นสันอย่างนี้ อย่าบอกว่าเวลาไม่พอนะ ถ้าไม่พอจริงคุณก็ติวให้เด็กเพิ่มสิ ด้วยจรรยาบัญไม่ควรจะไปเก็บเงินเพิ่มด้วยซ้ำ
- หรือรายได้เป็นเรื่องสำคัญกว่าการศึกษาไปแล้ว ครูอยากได้เพิ่ม ผู้อำนวยการโรงเรียน ครูใหญ่ ไปเปิดธุรกิจติวเตอร์ แล้วออกนโยบายสนับสนุนให้เด็กไปเรียนเพิ่ม สงสารผู้ปกครองบางรายบ้างไหมที่เค้ามีรายได้น้อย อาจจะไม่สะดวกตรงนี้จริงๆ ทำอย่างนี้ยิ่งจะมีปัญหาการแบ่งชนชั้นเพิ่มขึ้นอีกในหมู่เด็ก
- การไม่ไปเรียนกลับกลายเป็นเหมือนคนนอกกลุ่ม เป็นคนละชนชั้น กลับกลายเป็นมีปัญหาด้านปมด้อมการคบเพื่อนขึ้นอีก สังคมสมัยนี้กลายเป็นแบบนี้ได้อย่างไร
- การไม่มีเวลาให้ครอบครัวเลยคือ7วันอยู่กับเพื่อนทุกวันคิดว่าเป็นเรื่องดีหรือไม่ ถึงจะกลับมาบ้านก็จริงแต่เอาเข้าจริงพอกลับมาก็ไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับพ่อแม่หรือคนในครอบครัวเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ก็เล่นแต่มือถือคุยกับเพื่อน ซึ่งอาจจะนำไปสู่การที่เราเรียกว่า ไม่มีพ่อแม่สั่งสอน ซึ่งจริงๆไม่ใช่ไม่มีแต่เด็กมันไม่มีเวลาให้พ่อแม่สั่งสอนเลย ควรจะให้เด็กอยู่บ้านใช้เวลากับครอบครัวบ้างหรือไม่
- การไปเรียนพิเศษส-ออาจเป็นข้ออ้างของเด็กบางกลุ่ม*ย้ำบางกลุ่มเพื่อนไปใช้เวลาสนุกอยู่กับเพื่อนหรือแฟนมากกว่าที่จะไปสนใจเรียนจริงๆ ทำให้การไปเรียนพิเศษที่พ่อแม่เสียเงินลำบากหามากลายเป็นเสียปล่าวไป
ย้ำ**ขอย้ำนะครับว่าความคิดนี้มีให้กับคนบางกลุ่มเท่านั้นไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ไม่ได้เหมาทั้งหมด**ย้ำไม่ได้เหมาทั้งหมดนะครับ
เพียงแต่ส่วนใหญ่มันผลักดันให้สังคมเรากลายเป็นสังคมแบบนี้ไปแล้วซึ่งผมคิดว่ามันไม่ได้ดีกับเด็กในปัจจุบันเลย หันกลับมาสนใจที่จะมอบความรู้ให้การศึกษากับเยาวชนของชาติโดยไม่หวังผลตอบแทนดีกว่ามั้ยครับ เพราะเด็กยุคนี้คือคนที่จะค้ำชูประเทศและเศรษฐกิจในอนาคตของเรานะครับ ถ้าทุกๆอาชีพเห็นแก่เงินไร้ซึ่งศีลธรรมกันหมด สังคมเราจะเป็นอย่างไรลองคิดดู
จากหนังเรื่องฉลาดเกมส์โกง แตกประเด็นมาเรื่องเรียนพิเศษ มันจำเป็นจริงๆเหรอ
ผมได้ยินหลานของเพื่อนมาขอพ่อแม่เรียนพิเศษเพิ่มเติมในวันส-อ ซึ่งครอบครัวนี้ก็ไม่ได้มีเงินมากมายอาจค่อนข้างไปทางลำบากด้วยซ้ำ จึงให้คำตอบลูกไปว่าคงไม่ได้เพราะไม่จำเป็นขนาดนั้น และมันมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นพอสมควรด้วยต่อเดือน แต่สิ่งที่ลูกย้อนกลับมาคือ จำเป็นต้องไปเรียนเพราะสิ่งที่จะออกสอบอาจารย์ไม่ได้สอนในห้อง โดยให้ว่ามีสอนพิเศษเพิ่มมาลงชื่อถ้าอยากเรียน ซึ่งมีค่าใช้จ่าย และยังมีอีกคือเพื่อนๆในกลุ่มก็เรียนกันหมด ถ้าไม่ไปก็เหมือนแกะดำ ส่วนพ่อแม่ก็อยากให้ลูกอยู่บ้านส-อช่วยงานบ้านอยู่บ้านกับครอบครัวมากกว่าไปใช้เวลาอยู่กับเพื่อนเพราะทุกวันนี้ก็กลับบ้าน1-2ทุ่มเกือบทุกวันอยู่แล้วบ้างก็บอกทำการบ้าน ติวหนังสือ
พอผมได้ยินจึงมีคำถามในใจและข้อสงสัยต่างๆดังนี้
- ปัจจุบันครูหรืออาจารย์สอนทุกอย่างที่ควรจะสอนอย่างเต็มที่ในเวลาเรียนทั้งหมดหรือไม่ ถึงได้แนะนำให้เด็กไปเรียนพิเศษอย่างเป็นล่ำเป็นสันอย่างนี้ อย่าบอกว่าเวลาไม่พอนะ ถ้าไม่พอจริงคุณก็ติวให้เด็กเพิ่มสิ ด้วยจรรยาบัญไม่ควรจะไปเก็บเงินเพิ่มด้วยซ้ำ
- หรือรายได้เป็นเรื่องสำคัญกว่าการศึกษาไปแล้ว ครูอยากได้เพิ่ม ผู้อำนวยการโรงเรียน ครูใหญ่ ไปเปิดธุรกิจติวเตอร์ แล้วออกนโยบายสนับสนุนให้เด็กไปเรียนเพิ่ม สงสารผู้ปกครองบางรายบ้างไหมที่เค้ามีรายได้น้อย อาจจะไม่สะดวกตรงนี้จริงๆ ทำอย่างนี้ยิ่งจะมีปัญหาการแบ่งชนชั้นเพิ่มขึ้นอีกในหมู่เด็ก
- การไม่ไปเรียนกลับกลายเป็นเหมือนคนนอกกลุ่ม เป็นคนละชนชั้น กลับกลายเป็นมีปัญหาด้านปมด้อมการคบเพื่อนขึ้นอีก สังคมสมัยนี้กลายเป็นแบบนี้ได้อย่างไร
- การไม่มีเวลาให้ครอบครัวเลยคือ7วันอยู่กับเพื่อนทุกวันคิดว่าเป็นเรื่องดีหรือไม่ ถึงจะกลับมาบ้านก็จริงแต่เอาเข้าจริงพอกลับมาก็ไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับพ่อแม่หรือคนในครอบครัวเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ก็เล่นแต่มือถือคุยกับเพื่อน ซึ่งอาจจะนำไปสู่การที่เราเรียกว่า ไม่มีพ่อแม่สั่งสอน ซึ่งจริงๆไม่ใช่ไม่มีแต่เด็กมันไม่มีเวลาให้พ่อแม่สั่งสอนเลย ควรจะให้เด็กอยู่บ้านใช้เวลากับครอบครัวบ้างหรือไม่
- การไปเรียนพิเศษส-ออาจเป็นข้ออ้างของเด็กบางกลุ่ม*ย้ำบางกลุ่มเพื่อนไปใช้เวลาสนุกอยู่กับเพื่อนหรือแฟนมากกว่าที่จะไปสนใจเรียนจริงๆ ทำให้การไปเรียนพิเศษที่พ่อแม่เสียเงินลำบากหามากลายเป็นเสียปล่าวไป
ย้ำ**ขอย้ำนะครับว่าความคิดนี้มีให้กับคนบางกลุ่มเท่านั้นไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ไม่ได้เหมาทั้งหมด**ย้ำไม่ได้เหมาทั้งหมดนะครับ
เพียงแต่ส่วนใหญ่มันผลักดันให้สังคมเรากลายเป็นสังคมแบบนี้ไปแล้วซึ่งผมคิดว่ามันไม่ได้ดีกับเด็กในปัจจุบันเลย หันกลับมาสนใจที่จะมอบความรู้ให้การศึกษากับเยาวชนของชาติโดยไม่หวังผลตอบแทนดีกว่ามั้ยครับ เพราะเด็กยุคนี้คือคนที่จะค้ำชูประเทศและเศรษฐกิจในอนาคตของเรานะครับ ถ้าทุกๆอาชีพเห็นแก่เงินไร้ซึ่งศีลธรรมกันหมด สังคมเราจะเป็นอย่างไรลองคิดดู