ก่อนหน้านี้ใช้ชีวิตแบบยังไม่โต ยังล่องลอย เหมือนอยู่ในโลกแห่งความฝัน ตอนนี้ปีสองเทอมสองจะสอบแล้วและเราอายุ ยี่สิบ
มองไปที่พ่อแม่ เเล้วก็รู้ว่าที่ผ่านมาเราไม่เคยโตเป็นผู้ใหญ่เลย
ใช้ชีวิตอยู่ในจินตนาการ ล่องลอยๆเหมือนขนนกยังไงยังงั้น ออกแนวเพ้อๆ ลุ่มหลงและมัวเมาในอะไรที่เป็นนามธรรม ไร้สาระมากๆ เช่น ใช้เงินเปลืองมากๆๆๆๆๆ ทำเหมือนพ่อกับแม่รวยเปิดบ่อน้ำมัน ใช้จ่ายอะไรไม่เคยคิด
เราเกลียดตัวเองจัง
ทั้งๆที่โลกความจริงมันไม่ได้อาร์ตเหมือนโลกเด็กๆของเรา
ถ้าลองคิดถึงเรื่อง ภาระ ค่าใช้จ่ายที่ต้องรับผิดชอบเมื่อมีงานทำ แล้วจะสัมผัสได้เลยว่าโลกจินตนาการมันค่อยๆพังลง เหลือแต่โลกเรียลลิสต์ติก
เราคงจะเริ่มใหม่ตอนนี้ เริ่มการประหยัดเงิน เก็บเงิน เรียนภาษา ตั้งใจเรียน อ่านหนังสือการลงทุน
เพราะตอนจบมาทำงาน เราคงทนเห็นพ่อกับแม่ลำบากไม่ได้ เรารักพ่อกับแม่เรามากๆ แต่เราก็แอบเกลียดตัวเองที่ที่ผ่านมาเราทำตัวเหมือนเห็นแก่ความสุขของตัวเองโดยไม่คิดถึงน้ำพักน้ำแรงของพ่อแม่เลย
มันจะสายไปไหมคะ
ที่เราจะเริ่มโตตอนนี้
แต่สายไม่สาย เราไม่กลัวหรอก เพราะต่อให้สายไป แล้วเราก็ไม่มีทางเลือกนอกจากจะเปลี่ยนตัวเองอยู่ดี
แค่อยากระบายเท่านั้นค่ะ
รู้สึกคิดได้ตอนอายุ 20 มันจะสายไปไหมนะ
มองไปที่พ่อแม่ เเล้วก็รู้ว่าที่ผ่านมาเราไม่เคยโตเป็นผู้ใหญ่เลย
ใช้ชีวิตอยู่ในจินตนาการ ล่องลอยๆเหมือนขนนกยังไงยังงั้น ออกแนวเพ้อๆ ลุ่มหลงและมัวเมาในอะไรที่เป็นนามธรรม ไร้สาระมากๆ เช่น ใช้เงินเปลืองมากๆๆๆๆๆ ทำเหมือนพ่อกับแม่รวยเปิดบ่อน้ำมัน ใช้จ่ายอะไรไม่เคยคิด
เราเกลียดตัวเองจัง
ทั้งๆที่โลกความจริงมันไม่ได้อาร์ตเหมือนโลกเด็กๆของเรา
ถ้าลองคิดถึงเรื่อง ภาระ ค่าใช้จ่ายที่ต้องรับผิดชอบเมื่อมีงานทำ แล้วจะสัมผัสได้เลยว่าโลกจินตนาการมันค่อยๆพังลง เหลือแต่โลกเรียลลิสต์ติก
เราคงจะเริ่มใหม่ตอนนี้ เริ่มการประหยัดเงิน เก็บเงิน เรียนภาษา ตั้งใจเรียน อ่านหนังสือการลงทุน
เพราะตอนจบมาทำงาน เราคงทนเห็นพ่อกับแม่ลำบากไม่ได้ เรารักพ่อกับแม่เรามากๆ แต่เราก็แอบเกลียดตัวเองที่ที่ผ่านมาเราทำตัวเหมือนเห็นแก่ความสุขของตัวเองโดยไม่คิดถึงน้ำพักน้ำแรงของพ่อแม่เลย
มันจะสายไปไหมคะ
ที่เราจะเริ่มโตตอนนี้
แต่สายไม่สาย เราไม่กลัวหรอก เพราะต่อให้สายไป แล้วเราก็ไม่มีทางเลือกนอกจากจะเปลี่ยนตัวเองอยู่ดี
แค่อยากระบายเท่านั้นค่ะ