เราไม่มีศาสนา แต่ขอเป็นคนดี ชีวิตดี๊ดี เป็นอิสระเสรี ไม่มีกฎไม่มีเกณฑ์

-ใครจะว่าเรายังไงเราไม่สนใจ เราไม่มีศาสนา ไม่เอาศาสนาอะไรทั้งนั้น ขอเป็นคนดีไม่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นก็พอ ไม่ต้องตักบาตร ไม่ต้องไปวัด(กลัวรองเท้าหาย)ไม่ต้องไปโบสต์ ไม่ต้องขลิบ ไม่ต้องถือศิลอด ไม่ต้องละหมาด อยากจะกินอะไรก็กินไป แค่นี้ก็มีความสุขแล้วครับ
-วัดบางที่ คนไปถวายเป็นแสนๆล้านบาท บางศาสนา ใครเป็นเกย์จับโยนตึก มีชู้ปาหิน ลักขโมย ตัดแขน ยุคคนี้พวกทุนนิยมเข้าแทรกแซงศาสนาหมดแล้ว ทั้ง  เงิน อำนาจ  ก็เลยมีบางคนไม่เอาศาสนาไง มันปวดหัว เสียแต่เงินๆทองๆ เสียเวลาอีก บางศาสนาฝากอนาคตไว้กับโลกหน้า(โลกนี้อดทนไปก่อน เขาสั่งให้ทำอะไรก็ทำ ก้มๆทำไป)

1. กระผมต้องละทิ้งศาสนาให้หมด ห้ามเกี่ยวข้องสถานที่ศาสนา และ หนังสือคำภีร์ ห้ามเข้ากิจกรรมทางศาสนาทุกศาสนา การแต่งกายศาสนา การให้เงินทางศาสนา
2.กระผมทำตัวเป็นคนประชาชนธรรมดา แต่งกายได้อิสระ ไม่มีสัญญลักษณ์ศาสนาเกี่ยวข้อง เช่น ไว้หนวด ทำขลิบ แขวนพระ แขวนพระเยซู ไม่กินหมู สวมผ้ายิฮาบ ละหมาด ไหว้พระ สรรเสริญ
3.กินอาหารได้ตามปกติทั่วไป ได้ทุกประเภท
4.ไม่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น และ ปฏิบัติตนเป็นคนดี
5.อนุญาติปฎิบัติให้ใช้ หลักยึดเหนี่ยวจิตใจ ดังนี้ ห้ามลักทรัพย์ ห้ามผิดลูกผิดเมียคนอื่น ห้ามฆ่าคน ให้เกียรติบิดามารดาของท่าน ห้ามใส่ร้ายและเป็นพยานเท็จให้กับคนอื่น
6.ยุคทุนนิยม พวกนายทุน พระ ผู้แผ่ศาสนาบางทีเป็นนายทุนเสียเองก็มี หลายคนพึ่งตัวเองดีกว่า ไม่ต้องพึ่งวัด การพึ่งตัวเองเป็นการประหยัดเวลา ประหยัดเงิน  บางคนหวังบุญ และ พระเจ้า เพื่อโลกหน้า เอาโลกหน้ามาเป็นรางวัล เป็นของขวัญ