[CR] Shangri la เส้นทางในฝันที่ใครๆ ก็ไปเองได้


     เมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมามีเรื่องราวดีๆ จะมาเล่าสู่กันฟัง ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาบ้านเราห้ามโน้น ห้ามนี้ ห้ามนั้น ห้ามเยอะมาก ก็เลยคิดว่า เฮ้ย!!! กูไปตามเส้นทางในฝันของกูดีกว่า และแล้วมันก็เกิดทริปนี้ขึ้นมา เริ่มแรกเลยตอนแรกกะว่าจะขี่มอเตอร์ไซค์จากไทยขึ้นไป แต่พอศึกษาลึกๆ แล้วมันต้องเตรียมเอกสารเยอะแยะมากมายและที่สำคัญคือ ไปคันเดียวไม่ได้ "มันจบตรงที่ไปคันเดียวไม่ได้นี้ละ" แล้วอีกอย่างถ้าขี่มอเตอร์ไซค์ไปต้องใช้เวลาอย่างน้อย 15 วันในการขี่ไป-กลับ ซึ่งเราไม่สามารถทำแบบนั้นได้เลย ก็ตัดสินใจแบกเป้ไปนี้ละ เอาละ เดี๋ยวมาบอกวิธีการเดินทางไปเส้นทางในฝันของใครหลายๆ คน ในรูปแบบง่ายๆ กันดีกว่า ก่อนอื่นเลยผมต้องบอกว่า ผมพูดภาษาจีนไม่ได้และผมก็ไม่ง้อหนังสือต่างๆ นาๆ ด้วย ข้อมูลส่วนใหญ่หาจากเพื่อนๆ ที่เคยรีวินี้แหละครับ
ก่อนอื่นเลยทำการโหลดแอพพลิเคชั่นที่จำเป็นต่อการดำรงชีพในประเทศจีนก่อนเลยครับ
1. VPN
     เพื่อใช้ในการติดต่อค้นคว้าหาข้อมูลระหว่างการเดินทางหรือเล่นโซเชียล เพื่ออัพเรื่องราวหรือรูปภาพให้เพื่อนๆ อิจเล่น เราแนะนำใช้ตัวนี้ ExpressVPN ให้เราใช้ฟรีถึง 8 วัน (ตัวนี้ไวสุดละ)

2. Wechat
     เพราะเราต้องใช้ wechat นี้แหละในการสื่อสารกับคนจีน แอพนี้ช่วยชีวิตมาหลายครั้งละ เพราะว่ามันสามารถแปลภาษาได้ด้วย เราก็พิมพ์อังกฤษไปแล้วเดี๋ยวเขากดแปลเป็นภาษาจีน เขาก็พิมพ์จีนมาแล้วเราก็แปลเป็นอังกฤษ สะดวกจะตายยังไงก็รู้เรื่อง มันอาจจะใช้เวลาหน่อยแต่เข้าใจทั้งสองฝ่าย ถือว่าผ่านนนนนน

3. Map me
     เราต้องทำการปักหมุดไว้ก่อนเลย เราจะไปไหนบ้างก็ปักไว้ตั้งแต่ตอนอยู่ไทยนี้ละ แล้วอีกอย่างชื่อสถานที่มันมีภาษาจีนอยู่ด้วยเว้ย เราก็สามารถยื่นให้คนจีนดูได้ว่าเราจะไปไหน สะดวกสุดๆ

     เพียงแค่ 3 แอพพลิเคชั่น เราก็สามารถเที่ยวจีนได้อย่างสบายคลายความกังวล เอาละจากที่แนะนำแอพพลิเคชั่นเพื่อการดำรงชีพในจีนแล้วต่อไปเราจะบอกแผนคร่าวๆ ของทริปนี้ก่อนละกัน แผนของเราก็จะตามรูปด้านล่างนี้เลย

Plane
Day 1: 08 Apr 17 :: BKK --> Kunming --> Shangri-la
Day 2: 09 Apr 17:: Shangri-la all day
Day 3: 10 Apr 17:: Shangri-la --> Daocheng(稻城)
Day 4: 11 Apr 17:: ทะเลสาบน้ำนม (牛奶海หนิวหน่ายไฮ่)+ ทะเลสาบห้าสี (五色海อู่เซ่อไห่)
Day 5: 12 Apr 17:: ทะเลสาบไข่มุก (珍珠海เจินจูไห่) (Zhuoma La Lake)
Day 6: 13 Apr 17:: Daocheng(稻城) --> Shangri-la
Day 7: 14 Apr 17:: Shangri-la --> Lijiang
Day 8: 15 Apr 17:: หุบเขามังกรหยก+bluemoon valley --> Shenzhen
Day 9: 16 Apr 17:: Shenzhen --> BKK

เพี้ยนออกทริปเพี้ยนออกทริปเพี้ยนออกทริป


Day 1: 08 Apr 17 :: BKK --> Kunming --> Shangri-la
     เราไปถึงสนามบินคุนหมิงประมาณ 11.40 น. ถ้าใครอยากเล่นเนตก็หาซิมจีนซื้อมาใส่ได้เลยนะ เมื่อเราเดินขึ้นมาแล้วให้เราออกทางออกที่ 2
เพื่อไปซื้อตั๋วรถ Shuttle Bus ในราคา 25 RMB เพื่อไปสถานีขนส่งสายตกวันตก พอออกไปเราก็จะเจอตู้ลักษณะแบบนี้
ให้บอกเขาว่าไป Western bus terminal (昆明西部汽车客运站) แล้วเอารูปให้เขาดู
เมื่อเราไปถึงสถานีขนส่ง เราก็เดินเข้าไปเลี้ยวซ้ายเข้าช่องไหนก็ได้ ซื้อตั๋วบอกเค้าว่าไป Shangri-la (Deqen (迪庆藏族 自治州)) ให้จองรอบ 20.30 น. เพราะว่าถ้าไวกว่านี้เราจะถึงเช้าเกิน และถ้าช้ากว่านี้ก็ไม่มีรถแล้ว ฮ่าๆ พอเราซื้อตั๋วเสร็จแล้วเราก็ฝากกระเป๋าไว้ที่สถานีขนส่งแหละค่าฝากใบละ 10 RMB (ตอนนั้นเราเจอพี่คนไทย 2 คนที่บินมาไฟท์เดียวกะเรา เราก็เลยเข้าไปคุยด้วยแผนการเที่ยวก็คล้ายๆ กัน ก็เลยกะว่าจะไปเจอกันที่แซงกรีล่าแล้วเที่ยวด้วยกัน (ตอนนั้นได้แค่ให้เบอร์โทรศัพท์ ประเด็นคือเบอร์ไทยด้วยฮ่าๆ พี่แกยังไม่มี wechat หรืออะไรที่สามารถเปิดใช้งานได้เลย)
พอเราฝากกระเป๋าเสร็จเราก็ไปขึ้นรถบัสสาย 89 ที่มุมฝั่งตรงข้าม เพื่อไปเดินเล่นแถวถนน Guanghua street เป็นเหมือนจตุจักรบ้านเราเลย ^_^
เป็นไงปลายังมีลาย I love U เลย ฮ่าๆ
วัด Yuantong Temple
พอชมวัดเสร็จก็เดินมาฝั่'ตรงข้ามเพื่อนั่งรถเมย์สาย 92 ไปย่าน shopping แถวถนน Zhengyi ในราคา 1 หยวน
ประมาณบ่าย 3 เราก็กลับมาที่สถานีขนส่ง ตอนนี้แหละที่ map me และ google map เรามีประโยชน์มาก เพียงเรากดจากจุดที่เราอยู่ไปยังจุดปลายทาง มันก็จะขึ้นสายรถเมย์มาให้เรา เพียงเท่านี้เราก็เดินทางโดยรถเมย์ได้ง่ายๆ ที่สำคัญค่าโดยสาร 1 หยวนตลอดสายจ้า
แล้วก็รอเวลาขึ้นรถนอนและนี้ก็สภาพรถนอนของเรา ^_^ หลับสบายพร้อมกลิ่นหอมชื่นใจ เม่ารังเกียจ
เพี้ยนฝันดี

     วันแรกมีเพียง 3 step ง่ายๆ สำหรับการปรับตัวให้เข้ากับเมืองจีน
      1. ออกทางออกที่ 2 เพื่อซื้อตั๋ว Shuttle Bus ไป Western buster terminal (昆明西部汽车客运站)
      2. พอถึงสถานีให้ซื้อตั๋วไป Shangri-la (Deqen (迪庆藏族 自治州)) รอบ 20.30 น เพื่อจะได้ถึงปลายทางตอนเช้า
      3. เวลาที่เหลือก็หาที่เที่ยวในตัวคุนหมิงโดยนั่งบัสสาย 89 นั่งไปประมาณ 7-8 สถานีก็ถึงแล้ว ขากลับก็มาขึ้นที่เดิมหรือถ้าใครเดินไปไกลจนจำไม่ได้
           ก็ใช้ google map ปักจุดหมายปลาย แล้วค้นหาโดยรถเมย์ ก็ได้เช่นกัน

Day 2: 09 Apr 17:: Shangri-la all day
แสงแดดเริ่มแยงตาเราก็ตื่นมา แล้วบ่นว่า กูถึงไหนแล้ววะเนี้ยเลยยังว่ะ!!!
เรามาถึง สถานีขนส่งที่ Shangri la ประมาณ 8.00 น. จากนั้นก็ให้เดินไปฝั่งตรงข้ามของขนส่ง เพื่อนั่งรถเมย์สาย 3, 7 เพื่อเข้าไปยังเมืองเก่าค่าโดยสาร 1 หยวนเหมือนเดิม (ไม่มีเงินทอนนะ ฮ่าๆ เตรียมมาให้พอดี)
ประตูเมืองเก่าจะอยู่ทางด้านขวามือสังเกตุให้ดีตามรูปด้านล่างนี้นะ เห็นแล้วก็ลงเลย
พอมาถึงเมืองเก่าก็หาที่พักกันตามใจชอบเลย เรามาตามรีวิว ฮ่าๆ เดินไกลพอสมควร
(แนะนำเรื่องที่พักนิดนึงก็คือว่า ไปหาเอาข้างหน้าดีกว่าบอกที่ ที่พวกเรารีวิวมันก็ไม่ได้ดีตามนั้น เราว่าความต้องการ การพักของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นไปดูกับตาตัวเองเลย) พอเราได้ที่พักแล้วเราก็พักผ่อนเก็บข้าวเก็บของหาข้าวกิน แล้วก็กลับไปสถานีรถบัสอีกครั้งนึงเพื่อที่จะซื้อตั๋วไป Daocheng(稻城) ซึ่งจะมีวันละ 1 รอบเท่านั้น พอเราจะซื้อตั๋วเท่านั้นแหละ คนขายบอกว่า วันถัดไปคือวันที่ 10 Apr 17 ตั๋วเต็มแล้ว เราก็เลยต้องทำใจ จังหวะนั้นเองเราก็... (เหมือนหัวใจถูกย้ำยีและกระถืบซ้ำอย่างหนักหน่วง T_T) ระหว่างยืนรอบัสเพื่อ กลับไปเดินที่เมืองก็มีพวกรถรับเหมาพาเที่ยวมายื่นข้อเสนอโน้นนี้นั้นมากมาย เราก็เลยถามดูว่าไป ย่าติง 4 วันคิดเท่าไรโดยใช้ Wechat นั้นแหละ บางคนเสนอมา 3200 RMB ซึ่งแพงมาก จนแล้วจนเล่ามีลุงคนนึงเสนอมาที่ 3000 RMB (ถ้าหารกันก็ตกคนละ 1000 RMB) เราเลยบอกแกว่าเดี๋ยวคอนเฟริมอีกที แล้วเราก็ขึ้นรถสาย 3 กลับมาที่เมืองเก่าเพื่อเดินไปวัด Guishan (วัดต้าฟ้อ)
ต่อด้วยพิธภัณฑ์ ทางด้านซ้ายมือ เวลาเราเดินลงจมาจากวัด ก็จะเล่าประวัติของเมืองว่าเป็นไง มาไง
เดินดูนี้ ชมดูนั้น จังหวะนั้นเองก็มีเสียงโทรศัพท์เข้าพอดีปรากฏว่าเป็นพี่ 2 คนที่เราเจอกันที่คุนหมิงก็เลยชวนพี่เขามาหารด้วยฮ่าๆ พี่แกก็โอเค เพราะว่าตั๋วมันเต็มยังไงก็ต้องเหมารถไป ดังนั้นเราเลยเฟริมลุงแกไปว่า โอเค เราไปย่าติงในวันรุ่งขึ้นสรุปได้มาในราคา 3000 RMB 4 วัน ก็ตกวันละ 750 RMB ซึ่งก็ไม่ได้แพงมากพอสู้ไหว
เดินเล่นไม่ทันไรก็ค่ำแล้วแต่ฟ้ายังไม่มืดเลย แต่เราก็ต้องหาข้าวกินกันแล้ว นี้คือมื้อค่ำของพวกเรา
หลังจากการกินแล้วเราก็เดินเล่นในตัวเมืองเก่า ไปดูเขาเต้นรำกันที่ลานหน้าวัดต้าฝ้อ พอหลังจากการเต้นรำเสร็จ บรรยากาศช่างเงียบเหงาเหลือเกิน ฮ่าๆ
     วันที่สอง ชิลๆ เดินไปถ่ายรูปไป ไม่ได้ยากอย่างที่คิด
      1. ลงรถบัสมาให้จองตั๋วไปย่าติงในวันถัดไปก่อนเลย (ถ้ามีแผนว่าจะไป)
      2. เดินมาฝั่งตรงข้ามสถานี แล้วขึ้นรถเมย์สาย 3 หรือ 7 ก็ได้ พอถึงหน้าประตูเมืองเก่าก็ลง แล้วเดินหาที่พัก
      3. ทำการสำรวจเมือง Shangri-la อย่างเต็มอัตราสูบ
           - วัด Guishan (วัดต้าฟ้อ), วัด Songzanlin, วัดไก่ถ้าแรงเหลือ, ร้านกาแฟ, ร้านโปสการ์ด
      4. แนะนำว่าการไป Yadding ถ้าไปกัน 5 คนควรเหมารถไป เพราะจะสะดวกและประหยัดเวลา กว่านั่งบัสไปเต้าเฉินก่อนแน่นอน
ชื่อสินค้า:   7NOVEMBER
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่