สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 21
เพิ่งเจอมา การบินไทยเลย ไฟล์ท hnd-bkk
พอใกล้เวลา เราก็วิ่งไปที่เกท ซึ่งเกทจะเห็นเป็นสองแถว คือฝั่งซ้าย ซึ่งคิวยาวเหยียดมาก กับฝั่งขวา มีคนต่อแถวอยู่น้อยนิด ซึ่งป้ายซ้ายระบุว่าชั้น economy มีป้ายเขียวตัวเลขว่าแถวที่ xx-71 (จำเลขหน้าไม่ได้) ส่วนขวาระบุว่า first/bc/platinum/gold เรามองหาหัวของแฟนเรา เพราะแฟนเราเดินไปต่อแถวนานแล้ว (เรามัวแต่แปรงฟัน) สิ่งที่เราเห็นคือ หัวของแฟนเรา อยู่ค่อนไปเกือบหัวแถว เราเลยเดินไปหา เดินผ่านเหล่าคุณป้าๆ คุณแม่ๆ ที่ถือของช้อปปิ้งพะรุงพะรังรอขึ้นเครื่องอยู่กน้าแฟนเรา แล้วก็เห็นพนักงานภาคพื้นชาวญี่ปุ่น ตรวจบัตรโดยสารแล้วก็เหมือนเชิญให้กลุ่มที่อยู่หน้าเราออกจากแถว กลุ่มที่ถูกเชิญออกจากแถวก็โวยวาย อุตส่าห์มาต่อแถวตั้งนาน มาไล่กันอย่างนี้ได้ยังไง แล้วพนง. ก็พาแฟนเรากับเราไปยืนข้างหน้าแทน (เพราะตั๋วเราแถว 71) แต่ระหว่างนั้น ก็ผู้หญิงอายุหน้าจะ 40 กว่า มายืนข้างๆเราไม่ยอมออกไป เราเห็นที่นั่งเค้านั่งแถว 35 จนลูกสาวอายุประมาณ 11-12 เดินมาตาม แล้วบอกว่า "ม๊า ออกมา เค้าบอกแล้วว่ายังไม่ถึงแถวเรา ออกมาก่อน" คุณแม่ท่านนั้นก็ยังบ่นกับลูกอีกว่า อุตส่าห์มาต่อแถวตั้งนานให้ออกได้ยังไง ลูกก็บอกกับแม่ว่า "ก็เค้าบอกไม่ถึงเวลา ก็คือไม่ถึงเวลา ไปนั่งก่อน" เราก็ได้แต่ยิ้มๆกับเด็ก คือเด็กยังคิดได้ ทำไมแม่คิดไม่ได้
พอใกล้เวลา เราก็วิ่งไปที่เกท ซึ่งเกทจะเห็นเป็นสองแถว คือฝั่งซ้าย ซึ่งคิวยาวเหยียดมาก กับฝั่งขวา มีคนต่อแถวอยู่น้อยนิด ซึ่งป้ายซ้ายระบุว่าชั้น economy มีป้ายเขียวตัวเลขว่าแถวที่ xx-71 (จำเลขหน้าไม่ได้) ส่วนขวาระบุว่า first/bc/platinum/gold เรามองหาหัวของแฟนเรา เพราะแฟนเราเดินไปต่อแถวนานแล้ว (เรามัวแต่แปรงฟัน) สิ่งที่เราเห็นคือ หัวของแฟนเรา อยู่ค่อนไปเกือบหัวแถว เราเลยเดินไปหา เดินผ่านเหล่าคุณป้าๆ คุณแม่ๆ ที่ถือของช้อปปิ้งพะรุงพะรังรอขึ้นเครื่องอยู่กน้าแฟนเรา แล้วก็เห็นพนักงานภาคพื้นชาวญี่ปุ่น ตรวจบัตรโดยสารแล้วก็เหมือนเชิญให้กลุ่มที่อยู่หน้าเราออกจากแถว กลุ่มที่ถูกเชิญออกจากแถวก็โวยวาย อุตส่าห์มาต่อแถวตั้งนาน มาไล่กันอย่างนี้ได้ยังไง แล้วพนง. ก็พาแฟนเรากับเราไปยืนข้างหน้าแทน (เพราะตั๋วเราแถว 71) แต่ระหว่างนั้น ก็ผู้หญิงอายุหน้าจะ 40 กว่า มายืนข้างๆเราไม่ยอมออกไป เราเห็นที่นั่งเค้านั่งแถว 35 จนลูกสาวอายุประมาณ 11-12 เดินมาตาม แล้วบอกว่า "ม๊า ออกมา เค้าบอกแล้วว่ายังไม่ถึงแถวเรา ออกมาก่อน" คุณแม่ท่านนั้นก็ยังบ่นกับลูกอีกว่า อุตส่าห์มาต่อแถวตั้งนานให้ออกได้ยังไง ลูกก็บอกกับแม่ว่า "ก็เค้าบอกไม่ถึงเวลา ก็คือไม่ถึงเวลา ไปนั่งก่อน" เราก็ได้แต่ยิ้มๆกับเด็ก คือเด็กยังคิดได้ ทำไมแม่คิดไม่ได้
ความคิดเห็นที่ 1
อ่านแล้วรู้สึกอายแทนจริงๆ
เรื่องแชร์น้ำหนักกระเป๋าผมเองก็เคยโดนเหมือนกัน กลับจากฮ่องกงด้วย Air Asia ซื้อน้ำหนักกระเป๋าไว้ขนของฝากกลับกรุงเทพ
มีกลุ่มนักท่องเที่ยวคนไทยยืนดักอยู่ไม่ไกลเค้าเตอร์เช็คอิน เห็นผมมีสัมภาระขนมาเยอะๆก็เริ่มมองตาม แถมยังเดินเข้ามาขอแชร์น้ำหนักด้วย
บอกช่วยหน่อยนะ คนไทยด้วยกัน มีน้ำใจหน่อย ผมปฏิเสธไปเพราะไม่รู้ว่าของที่เขาฝากเป็นอะไร
ไม่รู้ว่าจะเป็นของผิดกฏหมายหรือเปล่า เกิดมันผิดกฏหมายแล้วโดนจับขึ้นมากลัวจะซวยเอง
อีกอย่างก็คิดว่ามันไม่ใช่หน้าที่หรือความจำเป็นต้องช่วยเหลือเลย ในเมื่อผมเสียเงินซื้อน้ำหนักกระเป๋าอยู่คนเดียว มาขอแชร์ฟรีๆ
แถมเอาความเสี่ยงมาให้อีก (ถ้ารู้ตัวจะช็อปหนักก็น่าจะซื้อน้ำหนักแต่แรกสิ ทำแบบนี้ผมว่าเห็นแก่ตัวเกินไป)
น่าเบื่อครับ ต่อไปนี้ไปเมืองนอกคงต้องพยายามหลีกเลี่ยงกลุ่มทัวร์คนไทยแล้วล่ะ
เรื่องแชร์น้ำหนักกระเป๋าผมเองก็เคยโดนเหมือนกัน กลับจากฮ่องกงด้วย Air Asia ซื้อน้ำหนักกระเป๋าไว้ขนของฝากกลับกรุงเทพ
มีกลุ่มนักท่องเที่ยวคนไทยยืนดักอยู่ไม่ไกลเค้าเตอร์เช็คอิน เห็นผมมีสัมภาระขนมาเยอะๆก็เริ่มมองตาม แถมยังเดินเข้ามาขอแชร์น้ำหนักด้วย
บอกช่วยหน่อยนะ คนไทยด้วยกัน มีน้ำใจหน่อย ผมปฏิเสธไปเพราะไม่รู้ว่าของที่เขาฝากเป็นอะไร
ไม่รู้ว่าจะเป็นของผิดกฏหมายหรือเปล่า เกิดมันผิดกฏหมายแล้วโดนจับขึ้นมากลัวจะซวยเอง
อีกอย่างก็คิดว่ามันไม่ใช่หน้าที่หรือความจำเป็นต้องช่วยเหลือเลย ในเมื่อผมเสียเงินซื้อน้ำหนักกระเป๋าอยู่คนเดียว มาขอแชร์ฟรีๆ
แถมเอาความเสี่ยงมาให้อีก (ถ้ารู้ตัวจะช็อปหนักก็น่าจะซื้อน้ำหนักแต่แรกสิ ทำแบบนี้ผมว่าเห็นแก่ตัวเกินไป)
น่าเบื่อครับ ต่อไปนี้ไปเมืองนอกคงต้องพยายามหลีกเลี่ยงกลุ่มทัวร์คนไทยแล้วล่ะ
แสดงความคิดเห็น
เจอกรุ๊ปทัวร์คนไทยยอดแย่ที่ประเทศไต้หวัน ด่า จนท. ด่าผู้โดยสารที่ขึ้นเครื่องก่อน พร้อมแอบถ่ายรูปเค้าและด่าหยาบคายมากค่ะ
เริ่มจากขาไปก่อนเลย พอลงเครื่องปุ๊บก็รีบตรงดิ่งไปเข้าห้องน้ำก่อน
เราทำธุระเสร็จ ก็ออกมาล้างมือตรงอ่างหน้ากระจก มีกลุ่มคนไทยที่มาลำเดียวกันก็มาเข้าห้องน้ำเหมือนกันหลายคน
มีผู้หญิงวัยกลางคนคนนึงในกรุ๊ป ระหว่างที่พี่แกยืนต่อแถวเข้าห้องน้ำกับกลุ่มเพื่อนของแก
อยู่ดีๆ แกก็ขากถุ๊ย
แล้วไม่เดินมากดน้ำล้างด้วยนะ เรางี้หันไปมองแบบโมโหมาก ขอโทษซักคำก็ไม่มี มารยาทแย่สุดๆ อีกนิดเดียวนี่จะโดนแขนเราอยู่แล้ว
แต่เขามากันกลุ่มใหญ่ โหวกเหวกโวยวายกันเสียงดัง ไอ้เราก็ไม่อยากมีเรื่อง เลยออกมายืนรอน้องข้างนอกแทน
นับหนึ่งถึงสิบสงบสติอารมณ์ กลัวจะเที่ยวไม่สนุก
หลังจากนั้นก็ไปรอซื้อซิมการ์ด เป็นร้านที่อยู่ทางไป MRT มีคนต่อแถวอยู่เยอะมาก จนล้นออกมาถึงประตูอัตโนมัติหน้า Shop เลยค่ะ
เราต่ออยู่ด้านนอกหลังประตูพอดี คนด้านหน้าเราที่อยู่ฝั่งด้านใน เป็นคนญี่ปุ่น
จากนั้นมีกลุ่มคนไทยอีกกลุ่ม มากัน 4 คน ชาย 1 หญิง 3 วัยกลางคน น่าจะอายุ 40 up
เดินเข้ามาแซงคิวเข้าไปเฉยเลย ตอนแรกก็คิดว่าคงเข้าไปถามพนักงานเรื่องโปรโมชั่นเฉยๆมั้ง แต่เปล่าเลยค่ะ
ลากกระเป๋าเข้าไป เบียดๆ แซงคิวคนอื่น แทรกเสร็จก็ซื้อเลยค่ะ เราเลยตะโกนบอกไปว่า พี่คะ ต่อคิวด้วยค่ะ
แต่ทั้ง 4 คนก็ตีมึน ทำเป็นไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น และที่น่าเซ็งก็คือ พนักงานก็ขายซิมให้ปกติ จริงๆน่าจะบอกให้คนพวกนั้นไปต่อคิวเนอะ
แต่กลับไม่ว่าอะไรเลย ส่วนคนที่ต่อแถวอยู่ก็ได้แต่ส่ายหัวกันไป
ตัดมาที่ตอนขากลับ อาจจะไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเราโดยตรงนะคะ แต่เราก็อยู่ในเหตุการณ์นั้นค่ะ
เรากลับสายการบินนกสกู๊ตเที่ยวบิน XW181 ไฟล์ทออกเวลา 09:40
พอเวลาประมาณ 08:50 ก็จะมีบางคนไปยืนต่อแถวหน้าเคาท์เตอร์ตรวจตั๋วก่อนขึ้นเครื่อง
บางคนก็เอากระเป๋าไปวางต่อคิวไว้บ้าง แล้วมานั่งรอตรงเก้าอี้
พอเคาท์เตอร์เปิด มีพนักงานมาประจำเคาท์เตอร์ 2 คน ชาย 1 หญิง 1
เจ้าหน้าที่ผู้หญิงประกาศเป็นภาษาอังกฤษว่า เชิญผู้โดยสาร ScootBiz ขึ้นเครื่องก่อน
แต่มีกรุ๊ปทัวร์คนไทยหลายๆคน มีทั้งวัยรุ่น วัยกลางคน และผู้สูงอายุ บางท่านอาจจะไม่เข้าใจ
เลยกรูกันเข้าไปในแถว แย่งๆ เบียดๆ กัน รุนแรงมาก เหมือนกลัวว่าตัวเองจะไม่ได้ขึ้นประมาณนั้น
เห็นมีหัวหน้าทัวร์อยู่ 2 คน จริงก็น่าจะบอกลูกทัวร์นะ ว่ายังไม่ใช่คิวของตน
ทีนี้พอเจ้าหน้าที่ดูตั๋วของเหล่าพี่ๆป้าๆน้าอาทั้งหลาย เค้าก็ผายมือบอกว่าไม่ใช่
ตั๋วชั้นประหยัดยังไม่เรียกขึ้นนะ ให้ถอยไปก่อน ประมาณนี้
แต่ว่าด้านหลังแถวมันแน่นมาก เพราะแต่ละคนไม่มีใครยอมถอยเลยค่ะ
ส่วนเราเป็นพวกชอบขึ้นเครื่องคนหลังๆ ของถือขึ้นเครื่องก็มีแค่เป้เล็กๆใบเดียว เลยนั่งรอตรงเก้าอี้ดูความวุ่นวายพลางๆไปก่อน
หลังจากนั้นมีผู้โดยสาร ScootBiz คนหนึ่งเดินอ้อมเอาตั๋วไปให้พนักงานดู พนักงานเลยปลดสายกั้นแถวให้เค้าลัดเข้ามาอีกฝั่ง
เพราะแทรกเข้าไปตรงช่องแถวปกติไม่ได้เลย จากนั้นมีหญิงไทยในแถวคนหนึ่งที่มากับกรุ๊ปทัวร์พร้อมกล่องลังขนมพะรุงพะรังหลายกล่อง
ตะโกนเสียงดังว่า "อ้าว e-ha-ราก แซงคิวguได้ไงเนี่ย อุตส่าห์มายืนต่อก่อน มันไม่ต่อ เ _ื อ ก ได้เข้าก่อน"
พวกพ้อง: "e-air
พวกพ้อง: "ถ่ายรูปมันเลย ถ่ายรูปมันเลย guจะเอาไปประจาน"
แล้วก็สบถด่าหยาบคายอีกมากมาย จนเราไม่กล้าพิมพ์
ส่วนผู้โดยสารชั้น ScootBiz คนนั้น โดนแอบถ่ายรูปรัวๆค่ะ เราไม่รู้ว่าพวกที่แอบถ่ายเค้า
เอารูปผู้โดยสารคนนั้นไปโพสประจานในเฟซฯหรือที่ไหนบ้างรึเปล่า
เห็นแล้วก็รู้สึกหดหู่นะ โดนด่าหยาบคาย ทั้งที่ตัวเองไม่ได้ทำผิดอะไรเลย
หลังจาก จนท ตะโกนซักแป็บ ก็มีผู้โดยสารชั้น ScootBiz อีก 2 คู่ เดินลัดช่องไปตามคนแรก น่าจะเป็นชาวญี่ปุ่นกับชาวไต้หวันค่ะ
คนในแถวกลุ่มนั้นเลยพูดว่า "อ๋อ มันคงให้พวกพ้องมันก่อนสินะ" หืมมมม กำ
เราก็ยังคิดอยู่ว่า กลุ่มคนที่ด่า เค้าไม่รู้หรือเปล่า ว่าผู้โดยสารชั้นธุรกิจหรือต้องการความช่วยเหลือพิเศษ
จะได้ขึ้นเครื่องก่อนเป็นปกติอยู่แล้ว เจ้าหน้าที่เค้าก็ตะโกนปาวๆ ว่า ScootBiz ScootBiz ป้ายบนจอทีวี ก็โชว์หราตัวเบ้อเร่อ
และจากที่เราเห็น เค้าคงกลัวว่าจะโดนแย่งที่เก็บสัมภาระบนเครื่องกันอ่ะค่ะ แต่ละคนมีลังขนมคนละ 2 ลังใหญ่กันทั้งนั้น
ไม่รวมกระเป๋าเป้หรือกระเป๋าลากขึ้นเครื่องอีกต่างหาก จริงๆเค้าก็จำกัดของถือขึ้นเครื่องว่าไม่เกินกี่ชิ้นหรือเปล่า
หรือว่าเค้าอนุโลม หรือไม่ก็ เค้าอาจจะซื้อหลังผ่าน ตม เข้ามาในเกทแล้วหรือเปล่า อันนี้เราก็ไม่รู้ค่ะ
แต่เท่าที่เห็นคือแต่ละคนของเยอะมาก
และที่น่าเศร้าอีกอย่างคือ ตอนที่เรามาต่อแถวเช็คอิน จะมีป้า 2 คน เดินมาถามตามแถวว่า น้อง น้ำหนักกระเป๋าเหลือเท่าไหร่
บางคนซื่อๆหน่อย ก็บอกไปตามจริง ก็โดนขอฝากโหลดของไปตามระเบียบ
เพราะเราเห็นแก็งค์แกหิ้วขนมพวกพายสัปปะรดกันมาเยอะมาก
เหมือนกะจะมาขอแชร์น้ำหนักจากคนอื่นเอาดาบหน้า โดยไม่ยอมซื้อเพิ่ม
เราก็เพิ่งเคยเห็นกับตาก็คราวนี้แหล่ะค่ะ เห็นบางคนที่มากรุ๊ปเดียวกับแกก็ปฏิเสธ ก็มาบ่นงึมงำหาว่าเค้าไม่มีน้ำใจ
แล้วตอนที่ขึ้นมานั่งบนเครื่องกันแล้ว บางคนก็ไม่ยอมนั่งตามที่นั่งตัวเอง แอร์ก็ประกาศเตือนไปหลายรอบ จนเดินมาแจ้งถึงที่
ไฟล์ทนี้เป็นอะไรที่วุ่นวายมากจริงๆค่ะ อาจจะเพราะมาเจอกรุ๊ปใหญ่หลายกรุ๊ปในลำเดียวด้วยเลยอลหม่านน่าดู
สรุป สิ่งที่ได้ประสบพบเจอในไฟล์ทขาไปและขากลับจากไต้หวันในครั้งนี้ ก็คือ
1. คนไทยบางคนไม่รักษาความสะอาด แกะขนมกินเสร็จ เศษซองขยะก็ยัดมันไว้ตรงข้างเก้าอี้นั่นแหล่ะ
2. คนไทยบางคนไม่มีระเบียบ ไม่มีวินัย ไม่เคารพกฎ อย่างเช่น ตอนเครื่องกำลังจะจอด
พอล้อเครื่องบินแตะพื้นที่ดอนเมืองเท่านั้นแหล่ะ สัญญาณรัดเข็มขัดยังไม่ดับเลย เหล่าพี่ๆป้าๆ ก็พากันปลดเข็มขัดกันป็อกแป็ก
ลุกจะเปิดเอาของบนที่เก็บสัมภาระกันซะแล้ว โธ่ จนแอร์ต้องมาประกาศเตือนอีกรอบ
ว่าให้เครื่องจอดสนิทก่อน แต่ไม่มีใครฟังเลยค่ะ
3. คนไทยบางคนชอบแซงคิว เจอได้ทุกที่จริงๆค่ะ เจอทั้งตอนขาไปและขากลับ ไม่รู้ว่า มีใครไปไฟล์ทเดียวกับเรามั้ย
ขาไปวันที่ 27/04/60 ตอนตีสอง โดนกรุ๊ปข้าราชการจากจังหวัดทางภาคใต้ขอแซงคิวสแกนกระเป๋าก่อนเช็คอินกันซึ่งๆหน้า
คือคนที่ต่อแถวก่อนหน้าเราเป็น 1 ในกรุ๊ปทัวร์นั้น ทีนี้มีเหล่าเพื่อนๆลุงๆป้าๆเค้าลากกระเป๋าวิ่งมาจากข้างหลังเราประมาณ 10 คน
บอกว่าป้าขอเข้าต่อจากเพื่อนเค้าได้มั้ย เราส่ายหน้า แต่ไม่ตอบ จากนั้นทั้ง 10 คน ก็ลากกระเป๋ามาประกบคู่ เบียดๆข้างๆเรา
กลายเป็นสร้างแถวมาอีกแถวเลยค่ะ แล้วพอถึงตอน แถวตีโค้งจะถึงเครื่องสแกนกระเป๋า คนทั้งหมดนั้น ยกกระเป๋าแซงเราไปหน้าตาเฉย
เฮ้ออออออ ทำไมถึงกลัวไม่ได้เข้าขนาดนั้น