กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่แบ่งปันความรู้ในการเลือกซื้อกล้องและเลนส์มือสอง
สำหรับคนที่สนใจกล้องคุณภาพใช้ได้ แต่ราคาไม่แพง



คุณเคยเห็นข้อความเหล่านี้ไหม กล้องสวย สภาพนางฟ้า ซัตเตอร์ 2x,xxx อุปกรณ์ครบ ราคา xx,xxx ตลาดต้องการตัว ทำงานเต็มระบบ ข้อความเหล่านี้สามารถเชื่อถือได้หรือไม่วันนี้ผมมาแบ่งปันความรู้ให้ครับ

แหล่งที่มาของกล้องและเลนส์มือสอง
1. ต่างประเทศ เช่น ประเทศญี่ปุ่น ร้านกล้องมีมากมายให้เลือกครับ ส่วนการเลือกซื้อกล้องที่ญี่ปุ่นต้องรบกวนเพื่อนๆดูในกระทู้ที่สมาชิกได้แบ่งปันไว้ครับ
2. ในประเทศ กล้องที่ขายก็มีที่มาจาก
2.1 ซื้อใช้ส่วนตัว เบื่อแล้วขายทิ้ง
2.2 ซื้อใช้ในการผลิตรายการโดยเฉพาะ ใช้จนคุ้มแล้วขาย
2.3 หลุดจากร้านขายฝาก จำใจต้องเอาไปฝาก


2.4 ขโมยมาขาย

ประเภทกล้องและเลนส์ที่นำมาขาย
ก็จะมี DSLR Film Mirrorless และCompact รวมถึงกล้องฟรุ้งฟริ้งด้วย ประเภทของเลนส์ก็จะมี Auto และ Manual มือหมุน
การเลือกซื้อ
ต้องยอมรับเลยว่าการค้าขายสมัยนี้สะดวกและรวดเร็วมากเพียงคลิ๊กเดียวหรือจิ้มไม่กี่ครั้งก็สามารถสั่งซื้อได้อย่างง่ายดาย การซื้อขายก็จะมีอยู่ 2 แบบ แบบที่ 1 คือซื้อตามหน้าร้านทั่วไป
แบบที่ 2 ซื้อผ่านออนไลน์
ก็เลือกตามสะดวกเลยครับ
วิธีการตรวจสอบ
การเลือกซื้อจากหน้าร้าน
ผมขอแนะนำเฉพาะ Digital Camera ครับ สำหรับ Film Camera ผมไม่มีประสบการณ์จริง ถ้ามีโอกาสได้ใช้จะมาแบ่งปันความรู้ให้อีกครั้ง
สำหรับคนที่มีเวลาเดินชิวๆไปเลือกซื้อเลือกใช้กันที่หน้าร้านก็จะดีมากเลยครับ
ก่อนอื่นจะต้องขออนุญาตเจ้าของร้านก่อนนะครับว่าสามารถลองได้ไหมเป็นมารยาทที่ดีครับ
1 Body ภายนอก ขั้นตอนนี้เราต้องคุ้นเคยหรือเคยเห็นรุ่นหรือยี่ห้อของกล้องด้วยครับ
1.1 ดูรอบนอกของ Body ด้านบน ด้านล่าง ด้านข้าง มีรอยถลอก รอยบุบ รอยแตก รอยทากาวตรงGrip ยางหรือฝาปิดช่องต่างๆบวมหรือปิดสนิท หรือไม่และแฟลชหัวกล้องล๊อกอยู่ไหม
1.2 ตรง Hot shoes ต้องไม่มีคราบสนิม คราบตะกรัน
2. เปิดเครื่องครับดูหน้าจอแสดงผลหลัก และจอแสดงผลรองด้านบนกล้อง(ถ้ามี)
2.1 เรื่องจอสังเกตุที่มุมขอบว่ามืดหรือไม่ ถ้าเป็น Compact สังเกตุเลนส์ด้วยนะครับว่าหมุนออกมาปกติหรือค้าง
2.2 สังเกตุว่ามี Dead Pixel หรือไม่
2.3 ถ้าเป็นจอหมุนหรือพับได้ ให้ลองหมุนดู ภาพจะต้องมาอยู่ในทิศทางเรามองเสมอ ตรงนี้ต้องระวังเล็กน้อยหมุนแรงเดี๋ยวพังคามือ 55+
2.4 จอ Touch Screen ปกติหรือไม่
2.5 ถ้าเปิดไม่ติดอย่าลืมขอ Battery จากทางร้านมาลองเปิดด้วยนะครับ 555+
2.6 ตรงนี้แถมถ้าถอด Battery ออกมาทิ้งไว้สักพักแล้วใส่กลับเข้าไปใหม่ ปรากฏว่ากล้องให้ตั้งค่าวันที่ ภาษาใหม่ สันนิฐานได้เลยว่า Battery Backup หมดอายุ คล้ายๆกับเปิดคอมพิวเตอร์มาแล้วต้องกด F1 หรือต้องตั้งค่าวันที่ใหม่ทุกครั้ง
3. ปุ่มกดใช้งานและคำสั่งต่างๆให้ลองกด หรือหมุนทุกปุ่มเบาๆนะครับ ถ้ากดติดโดยไม่ต้องออกแรงมากแสดงว่ายังโอเคอยู่ ถ้าออกแรงมากเราจะเหนื่อยครับ
3.1 ปุ่มคำสั่งด้านหลังกล้อง
3.2 ปุ่มคำสั่งด้านหน้ากล้อง ก็จะมีพวกปุ่มปลดล๊อกแฟลช(บางรุ่นอยู่ด้านหลัง) ปุ่ม Raw/FX ลองกดดูครับถ้าไม่ติดไม่ต้องตกใจบางทีเค้าอาจไม่ได้เปิดใช้งานไว้
3.3 ปุ่มคำสั่งด้านบนกล้องเช่น WB ISO และ Drive Mode ต่างๆ ให้ลองหมุนและกด
3.4 และที่สำคัญ Dial ที่เอาไว้หมุนโทรเอ้ย ปรับค่าต่างๆ เช่น Shutter Speed และ (F) Aperture หมุนซ้ายหมุนขวาดูครับว่าตอบสนองตามที่หมุนหรือไม่
3.5 พอร์ตต่างๆด้านข้างตัวกล้อง ลองสังเกตุดูด้วยครับ
4. ช่องมองภาพให้ส่องกับหลอดไฟบนเพดาน ถ้ามีจุดดำๆ หรือขีดเส้นขาวๆให้สันนิษฐานว่าเป็นราไว้ก่อนครับ
4.1 ช่องมองภาพ DSLR ถ้าใช้งานมานานจะเกิดคราบขาวปนเหลืองขึ้นบริเวณที่ขอบช่องมองภาพ
4.2 ส่วน Mirrorless รุ่นที่มีช่องมองภาพก็ต้องส่องดูครับว่า จอแสดงผลภายในแสดงชัดเจนหรือมี Dead Pixel ตรงไหนหรือไม่ ตรงส่วนนี้ต้องถามผู้รู้มาอธิบายเรื่องจอแสดงผลในMirroless อีกรอบ
4.3 กดShutter ลงครึ่งนึงเพื่อทดสอบระบบโฟกัสครบทุกจุดหรือไม่ จำนวนโฟกัสขึ้นอยู่กับรุ่นและยี่ห้อ
5. Shutter และ Sensor
เพื่อนๆคงเคยเจอแล้วใช่ไหมครับข้อความที่ว่า Shutter น้อย Shutter 2x,xxx หมายความว่าอย่างไร เวลาเรากด Shutter 1 ครั้ง เราได้ภาพ 1 ภาพ กล้องก็จะมีระบบนับ Shutter ให้เป็น 1 ครั้ง แล้วมันใช้ได้ถึงจำนวนเท่าไหร่ละ บางยี่ห้อก็แจ้งไว้ว่าที่ 100,000 ครั้ง
200,000 ครั้ง แต่ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งาน แล้วที่เค้าบอกว่า Shutter น้อย จริงหรือไม่ตรงนี้ผมก็พยายามหาคำตอบอยู่เหมือนกัน เพราะเจ้าของเดิมอาจนำกล้องไปใช้ในการบันทึก Video เป็นจำนวนหลายชั่วโมง อ้าวแล้วมันเกี่ยวอะไร ตรงนี้อาจส่งผลกระทบต่อ
Sensor โดยตรงครับใช้นานๆเกิดความร้อนสะสมทำให้ Sensor ไหม้ เกิดDead Pixel ขึ้นทำให้ภาพที่ถ่ายออกมามีจุดสีดำๆ และที่ว่าน้อยเนี่ยก็อาจเปลี่ยนชุดกลไกShutter มาแล้วก็เป็นได้
และเรื่องที่ต้องระวังอีกอย่างคือ Sensor ครับ โดยเฉพาะMirrorless ถอดเลนส์ออกมาก็เห็น Sensor ตั้งเด่นเป็นสง่าครับถ้าใช้ไม่ระวัง ฝุ่นหรือของมีคมไปโดนเนี่ยเกิดปัญหาแน่ๆ
5.1 ให้ลองกด Shutter ดูครึ่งนึงก่อน ถ้ากดเพียงครึ่งนึงแล้วมันบันทึกภาพเลยหรือมีเสียงกลไก Shutter ทำงานสงสัยได้เลยน่าจะมีปัญหา
5.2 กดถ่ายเป็นพิธี 1 ภาพ พร้อมกับลองเปิดFlash หัวกล้อง(ถ้ามี) เพื่อตรวจสอบว่ามี Dead pixel หรือสิ่งแปลกปลอมในภาพ และเพื่อตรวจสอบว่าภาพได้ถูกบันทึกเข้า SD card จริงๆ
5.3 ลองอัดวิดีโอ ดูภาพและเสียงที่ได้มีอาการแปลกๆหรือไม่
6. เรื่องเลนส์
6.1 ตรวจดูสภาพภายนอกมีริ้วรอย แหวนยางปรับโฟกัส แหวนยางปรับระยะ แหวนยางปรับค่า F มีความฝืดหรือบวมหรือไม่
6.2 ส่องดูชิ้นเลนส์ และเบลด จากภายนอกใส มองทะลุชัดเจน ไม่มีรา ฝ้า (ฝุ่นอาจมีเล็กน้อย)
6.3 ทดลองระบบโฟกัสของเลนส์ เลนส์ Auto ถ้าใช้งานมานานระบบขับเคลื่อนภายในตัวเลนส์อาจฝืดหรือติดขัดเกิดขึ้นได้ การลองก็จะมีระยะโฟกัส 3 ระยะคือ Macro Normal และ Tele
ให้เราหาวัตถุหรือคนใกล้ระแวกนั้นละ ลองโฟกัสดูตามระยะต่างๆของเลนส์เช่น 16mm 85mm 200mm โดยแบ่งระยะห่างจากวัตถุออกเป็นใกล้ที่สุด และไกลที่สุด ฟังเสียงและลองคำนวณความเร็วในการโฟกัสแต่ละครั้ง
เพื่อดูว่าระบบทำงานปกติหรือไม่ ส่วนจะเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับรุ่นและยี่ห้อที่ผลิตออกมา
6.4 ระบบพิเศษต่างๆ เช่นกันสั่น ลองเปิดใช้งานดู
6.5 เลนส์มือหมุนก็เหมือนกันครับแต่เพิ่มตรงที่ต้องดูเบลดภายในด้วยครับว่ามีคราบสารหล่อลื่นติดอยู่หรือไม่ แหวนปรับ F เปลี่ยนได้ทุกค่า แหวนหมุนโฟกัสต้องลื่นไม่สะดุด
7. อุปกรณ์พื้นฐานที่ให้มากับกล้อง แท่นชาร์ต Battery คู่มือการใช้งาน สายUSB กล่อง สายคล้องกล้อง กระเป๋า(ถ้าแถม) ถ้าไม่มีสงสัยได้เลยว่าขโมยมาแน่ๆ ใครเค้าจะใช้กล้องไม่มีที่ชาร์ต นอกจากใส่ถ่าน AA
ต่อไปจะเป็นการซื้อผ่านออนไลน์ซึ่งมีความสะดวก และประหยัดเวลามาก แต่มีความเสี่ยงสูงตามมา
1. ต้องอ่านรายละเอียดการขายให้ดีครับ ภาษากำกวม ต้องระวัง
2. ดูรูปภาพประกอบการขายยิ่งภาพหลายมุมยิ่งดี ภาพตัวอย่างที่ถ่ายจากกล้องตรงนี้ต้องแน่ใจด้วยว่าเป็นภาพปัจจุบัน
3. ถามรายละเอียด(อ้างอิงได้จากข้อมูลที่แจ้งไว้ด้านบน) ที่เราอยากรู้เพิ่มเติมเช่น สามารถคืนได้ไหมถ้ากล้องหรือเลนส์มีปัญหาภายในระยะเวลากี่วันก็ว่าไป
4. ถ้าเรามั่นใจแล้วว่ากล้องหรือเลนส์ตัวนี้โดนใจใช่เลยก็ทำการขอรูปภาพที่ระบุวันที่ปัจจุบันจากคนขาย และถ้าคนขายมืออาชีพเค้าจะแสดงบัตรประชาชนให้ดูด้วย
5. ตกลงราคาให้เรียบร้อย รวมค่าส่งเท่าไหร่ ส่งแบบธรรมดา หรือแบบด่วน ขั้นตอนนี้ก็เสี่ยงอยู่ครับถ้าบรรจุไม่ดีมีหวังกระจกสะท้อนกระเด็นออกมาแน่ๆ
6. โอนเงินเก็บหลักฐานการโอนด้วย รอรับของได้เลย
สุดท้ายนี้ข้อมูลทั้งหมดนี้เป็นเพียงประสบการณ์อันน้อยของผมถ้าข้อมูลตรงส่วนไหนที่ขาดตกไปเพื่อนๆสามารถแจ้งเพื่อทำการแก้ไขให้ถูกต้อง หรือถ้าเพื่อนๆมีประสบการณ์ดีๆก็มาแบ่งปันกันได้ครับ
ปล.การตัดสินใจซื้อเป็นความพอใจและความสุขส่วนตัวของท่านครับ
ขอบคุณ Pantip ที่ให้พื้นที่แบ่งปันข้อมูล
แบ่งปันประสบการณ์การเลือกซื้อกล้องและเลนส์มือสอง
แหล่งที่มาของกล้องและเลนส์มือสอง
1. ต่างประเทศ เช่น ประเทศญี่ปุ่น ร้านกล้องมีมากมายให้เลือกครับ ส่วนการเลือกซื้อกล้องที่ญี่ปุ่นต้องรบกวนเพื่อนๆดูในกระทู้ที่สมาชิกได้แบ่งปันไว้ครับ
2. ในประเทศ กล้องที่ขายก็มีที่มาจาก
2.1 ซื้อใช้ส่วนตัว เบื่อแล้วขายทิ้ง
2.2 ซื้อใช้ในการผลิตรายการโดยเฉพาะ ใช้จนคุ้มแล้วขาย
2.3 หลุดจากร้านขายฝาก จำใจต้องเอาไปฝาก
2.4 ขโมยมาขาย
ประเภทกล้องและเลนส์ที่นำมาขาย
ก็จะมี DSLR Film Mirrorless และCompact รวมถึงกล้องฟรุ้งฟริ้งด้วย ประเภทของเลนส์ก็จะมี Auto และ Manual มือหมุน
การเลือกซื้อ
ต้องยอมรับเลยว่าการค้าขายสมัยนี้สะดวกและรวดเร็วมากเพียงคลิ๊กเดียวหรือจิ้มไม่กี่ครั้งก็สามารถสั่งซื้อได้อย่างง่ายดาย การซื้อขายก็จะมีอยู่ 2 แบบ แบบที่ 1 คือซื้อตามหน้าร้านทั่วไป
แบบที่ 2 ซื้อผ่านออนไลน์
ก็เลือกตามสะดวกเลยครับ
วิธีการตรวจสอบ
การเลือกซื้อจากหน้าร้าน
ผมขอแนะนำเฉพาะ Digital Camera ครับ สำหรับ Film Camera ผมไม่มีประสบการณ์จริง ถ้ามีโอกาสได้ใช้จะมาแบ่งปันความรู้ให้อีกครั้ง
สำหรับคนที่มีเวลาเดินชิวๆไปเลือกซื้อเลือกใช้กันที่หน้าร้านก็จะดีมากเลยครับ
ก่อนอื่นจะต้องขออนุญาตเจ้าของร้านก่อนนะครับว่าสามารถลองได้ไหมเป็นมารยาทที่ดีครับ
1 Body ภายนอก ขั้นตอนนี้เราต้องคุ้นเคยหรือเคยเห็นรุ่นหรือยี่ห้อของกล้องด้วยครับ
1.1 ดูรอบนอกของ Body ด้านบน ด้านล่าง ด้านข้าง มีรอยถลอก รอยบุบ รอยแตก รอยทากาวตรงGrip ยางหรือฝาปิดช่องต่างๆบวมหรือปิดสนิท หรือไม่และแฟลชหัวกล้องล๊อกอยู่ไหม
1.2 ตรง Hot shoes ต้องไม่มีคราบสนิม คราบตะกรัน
2. เปิดเครื่องครับดูหน้าจอแสดงผลหลัก และจอแสดงผลรองด้านบนกล้อง(ถ้ามี)
2.1 เรื่องจอสังเกตุที่มุมขอบว่ามืดหรือไม่ ถ้าเป็น Compact สังเกตุเลนส์ด้วยนะครับว่าหมุนออกมาปกติหรือค้าง
2.2 สังเกตุว่ามี Dead Pixel หรือไม่
2.3 ถ้าเป็นจอหมุนหรือพับได้ ให้ลองหมุนดู ภาพจะต้องมาอยู่ในทิศทางเรามองเสมอ ตรงนี้ต้องระวังเล็กน้อยหมุนแรงเดี๋ยวพังคามือ 55+
2.4 จอ Touch Screen ปกติหรือไม่
2.5 ถ้าเปิดไม่ติดอย่าลืมขอ Battery จากทางร้านมาลองเปิดด้วยนะครับ 555+
2.6 ตรงนี้แถมถ้าถอด Battery ออกมาทิ้งไว้สักพักแล้วใส่กลับเข้าไปใหม่ ปรากฏว่ากล้องให้ตั้งค่าวันที่ ภาษาใหม่ สันนิฐานได้เลยว่า Battery Backup หมดอายุ คล้ายๆกับเปิดคอมพิวเตอร์มาแล้วต้องกด F1 หรือต้องตั้งค่าวันที่ใหม่ทุกครั้ง
3. ปุ่มกดใช้งานและคำสั่งต่างๆให้ลองกด หรือหมุนทุกปุ่มเบาๆนะครับ ถ้ากดติดโดยไม่ต้องออกแรงมากแสดงว่ายังโอเคอยู่ ถ้าออกแรงมากเราจะเหนื่อยครับ
3.1 ปุ่มคำสั่งด้านหลังกล้อง
3.2 ปุ่มคำสั่งด้านหน้ากล้อง ก็จะมีพวกปุ่มปลดล๊อกแฟลช(บางรุ่นอยู่ด้านหลัง) ปุ่ม Raw/FX ลองกดดูครับถ้าไม่ติดไม่ต้องตกใจบางทีเค้าอาจไม่ได้เปิดใช้งานไว้
3.3 ปุ่มคำสั่งด้านบนกล้องเช่น WB ISO และ Drive Mode ต่างๆ ให้ลองหมุนและกด
3.4 และที่สำคัญ Dial ที่เอาไว้หมุนโทรเอ้ย ปรับค่าต่างๆ เช่น Shutter Speed และ (F) Aperture หมุนซ้ายหมุนขวาดูครับว่าตอบสนองตามที่หมุนหรือไม่
3.5 พอร์ตต่างๆด้านข้างตัวกล้อง ลองสังเกตุดูด้วยครับ
4. ช่องมองภาพให้ส่องกับหลอดไฟบนเพดาน ถ้ามีจุดดำๆ หรือขีดเส้นขาวๆให้สันนิษฐานว่าเป็นราไว้ก่อนครับ
4.1 ช่องมองภาพ DSLR ถ้าใช้งานมานานจะเกิดคราบขาวปนเหลืองขึ้นบริเวณที่ขอบช่องมองภาพ
4.2 ส่วน Mirrorless รุ่นที่มีช่องมองภาพก็ต้องส่องดูครับว่า จอแสดงผลภายในแสดงชัดเจนหรือมี Dead Pixel ตรงไหนหรือไม่ ตรงส่วนนี้ต้องถามผู้รู้มาอธิบายเรื่องจอแสดงผลในMirroless อีกรอบ
4.3 กดShutter ลงครึ่งนึงเพื่อทดสอบระบบโฟกัสครบทุกจุดหรือไม่ จำนวนโฟกัสขึ้นอยู่กับรุ่นและยี่ห้อ
5. Shutter และ Sensor
เพื่อนๆคงเคยเจอแล้วใช่ไหมครับข้อความที่ว่า Shutter น้อย Shutter 2x,xxx หมายความว่าอย่างไร เวลาเรากด Shutter 1 ครั้ง เราได้ภาพ 1 ภาพ กล้องก็จะมีระบบนับ Shutter ให้เป็น 1 ครั้ง แล้วมันใช้ได้ถึงจำนวนเท่าไหร่ละ บางยี่ห้อก็แจ้งไว้ว่าที่ 100,000 ครั้ง
200,000 ครั้ง แต่ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งาน แล้วที่เค้าบอกว่า Shutter น้อย จริงหรือไม่ตรงนี้ผมก็พยายามหาคำตอบอยู่เหมือนกัน เพราะเจ้าของเดิมอาจนำกล้องไปใช้ในการบันทึก Video เป็นจำนวนหลายชั่วโมง อ้าวแล้วมันเกี่ยวอะไร ตรงนี้อาจส่งผลกระทบต่อ
Sensor โดยตรงครับใช้นานๆเกิดความร้อนสะสมทำให้ Sensor ไหม้ เกิดDead Pixel ขึ้นทำให้ภาพที่ถ่ายออกมามีจุดสีดำๆ และที่ว่าน้อยเนี่ยก็อาจเปลี่ยนชุดกลไกShutter มาแล้วก็เป็นได้
และเรื่องที่ต้องระวังอีกอย่างคือ Sensor ครับ โดยเฉพาะMirrorless ถอดเลนส์ออกมาก็เห็น Sensor ตั้งเด่นเป็นสง่าครับถ้าใช้ไม่ระวัง ฝุ่นหรือของมีคมไปโดนเนี่ยเกิดปัญหาแน่ๆ
5.1 ให้ลองกด Shutter ดูครึ่งนึงก่อน ถ้ากดเพียงครึ่งนึงแล้วมันบันทึกภาพเลยหรือมีเสียงกลไก Shutter ทำงานสงสัยได้เลยน่าจะมีปัญหา
5.2 กดถ่ายเป็นพิธี 1 ภาพ พร้อมกับลองเปิดFlash หัวกล้อง(ถ้ามี) เพื่อตรวจสอบว่ามี Dead pixel หรือสิ่งแปลกปลอมในภาพ และเพื่อตรวจสอบว่าภาพได้ถูกบันทึกเข้า SD card จริงๆ
5.3 ลองอัดวิดีโอ ดูภาพและเสียงที่ได้มีอาการแปลกๆหรือไม่
6. เรื่องเลนส์
6.1 ตรวจดูสภาพภายนอกมีริ้วรอย แหวนยางปรับโฟกัส แหวนยางปรับระยะ แหวนยางปรับค่า F มีความฝืดหรือบวมหรือไม่
6.2 ส่องดูชิ้นเลนส์ และเบลด จากภายนอกใส มองทะลุชัดเจน ไม่มีรา ฝ้า (ฝุ่นอาจมีเล็กน้อย)
6.3 ทดลองระบบโฟกัสของเลนส์ เลนส์ Auto ถ้าใช้งานมานานระบบขับเคลื่อนภายในตัวเลนส์อาจฝืดหรือติดขัดเกิดขึ้นได้ การลองก็จะมีระยะโฟกัส 3 ระยะคือ Macro Normal และ Tele
ให้เราหาวัตถุหรือคนใกล้ระแวกนั้นละ ลองโฟกัสดูตามระยะต่างๆของเลนส์เช่น 16mm 85mm 200mm โดยแบ่งระยะห่างจากวัตถุออกเป็นใกล้ที่สุด และไกลที่สุด ฟังเสียงและลองคำนวณความเร็วในการโฟกัสแต่ละครั้ง
เพื่อดูว่าระบบทำงานปกติหรือไม่ ส่วนจะเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับรุ่นและยี่ห้อที่ผลิตออกมา
6.4 ระบบพิเศษต่างๆ เช่นกันสั่น ลองเปิดใช้งานดู
6.5 เลนส์มือหมุนก็เหมือนกันครับแต่เพิ่มตรงที่ต้องดูเบลดภายในด้วยครับว่ามีคราบสารหล่อลื่นติดอยู่หรือไม่ แหวนปรับ F เปลี่ยนได้ทุกค่า แหวนหมุนโฟกัสต้องลื่นไม่สะดุด
7. อุปกรณ์พื้นฐานที่ให้มากับกล้อง แท่นชาร์ต Battery คู่มือการใช้งาน สายUSB กล่อง สายคล้องกล้อง กระเป๋า(ถ้าแถม) ถ้าไม่มีสงสัยได้เลยว่าขโมยมาแน่ๆ ใครเค้าจะใช้กล้องไม่มีที่ชาร์ต นอกจากใส่ถ่าน AA
ต่อไปจะเป็นการซื้อผ่านออนไลน์ซึ่งมีความสะดวก และประหยัดเวลามาก แต่มีความเสี่ยงสูงตามมา
1. ต้องอ่านรายละเอียดการขายให้ดีครับ ภาษากำกวม ต้องระวัง
2. ดูรูปภาพประกอบการขายยิ่งภาพหลายมุมยิ่งดี ภาพตัวอย่างที่ถ่ายจากกล้องตรงนี้ต้องแน่ใจด้วยว่าเป็นภาพปัจจุบัน
3. ถามรายละเอียด(อ้างอิงได้จากข้อมูลที่แจ้งไว้ด้านบน) ที่เราอยากรู้เพิ่มเติมเช่น สามารถคืนได้ไหมถ้ากล้องหรือเลนส์มีปัญหาภายในระยะเวลากี่วันก็ว่าไป
4. ถ้าเรามั่นใจแล้วว่ากล้องหรือเลนส์ตัวนี้โดนใจใช่เลยก็ทำการขอรูปภาพที่ระบุวันที่ปัจจุบันจากคนขาย และถ้าคนขายมืออาชีพเค้าจะแสดงบัตรประชาชนให้ดูด้วย
5. ตกลงราคาให้เรียบร้อย รวมค่าส่งเท่าไหร่ ส่งแบบธรรมดา หรือแบบด่วน ขั้นตอนนี้ก็เสี่ยงอยู่ครับถ้าบรรจุไม่ดีมีหวังกระจกสะท้อนกระเด็นออกมาแน่ๆ
6. โอนเงินเก็บหลักฐานการโอนด้วย รอรับของได้เลย
สุดท้ายนี้ข้อมูลทั้งหมดนี้เป็นเพียงประสบการณ์อันน้อยของผมถ้าข้อมูลตรงส่วนไหนที่ขาดตกไปเพื่อนๆสามารถแจ้งเพื่อทำการแก้ไขให้ถูกต้อง หรือถ้าเพื่อนๆมีประสบการณ์ดีๆก็มาแบ่งปันกันได้ครับ
ปล.การตัดสินใจซื้อเป็นความพอใจและความสุขส่วนตัวของท่านครับ
ขอบคุณ Pantip ที่ให้พื้นที่แบ่งปันข้อมูล