ปัญหานี้จะหมดไป ถ้าภาครัฐคิดที่จะแก้ปัญหากันจริงๆ
วิธีที่เราเห็นมาจากอังกฤษ
เมื่อเด็กตั้งท้องอย่างมีปัญหา ต้องมีหน่วยงานภาครัฐจัดตั้งขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหานี้โดยเฉพาะ
ไม่มีการตำหนิ มีแต่จะให้ความช่วยเหลือ เพื่อไม่ให้แม่ๆเหล่านี้ไปแก้ปัญหากันเองด้วยวิธีที่ผิดๆต่างๆนานา อย่างที่เห็นกันเป็นประจำ
วิธีนี้ที่อังกฤษก็ทำกันอยู่ และแก้ปัญหานี้ได้อย่างดี เราอยู่อังกฤษมาเกือบสิบปี ไม่เคยมีข่าวแบบนี้เกิดขึ้นเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ต่างจากเมืองไทยที่เกิดขึ้นรายวัน ทั้งที่บ้านเขาก็มีเด็กที่ตั้งท้องแบบไม่ต้องการเด็กเยอะมากพอๆกันกับเรา
เขาทำกันแบบนี้นะ
เมื่อท้องและไม่ต้องการเด็ก แจ้งหน่วยงานของรัฐที่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหานี้โดยเฉพาะ
หน่วยงานรับทราบ และติดต่อเด็กที่ท้องเป็นระยะๆ
เมื่อคลอด ไม่ว่าจะไปคลอดที่ไหน แจ้งทางโรงพยาบาลนั้นว่าเรามีติดต่อกับหน่วยงานนี้ไว้แล้วว่าจะไม่เอาเด็ก ทางโรงพยาบาลรับรู้ และเมื่อคลอดเด็กแล้ว แม่ก็กลับบ้านได้เลย ไปใช้ชีวิต ไปเรียน ไปทำงานตามปกติ
แล้วหน่วยงานที่ว่านี้ก็เข้ามารับเด็กจากโรงพยาบาล แล้วส่งไปไหน?
จะมีแม่บ้านที่อยู่ตามบ้านเฉยๆ ว่างงาน ได้สมัครลงทะเบียนไว้แล้วว่าตนเองมีความต้องการที่จะรับเลี้ยงเด็กเหล่านี้
แต่ทางการจะมีแบบทดสอบทางด้านร่างกายและจิตใจ(ไม่เป็นโรคจิต ไม่เป็นโรคติดต่อร้ายแรง ) มีจิตใจดี
และมีบ้านที่มีความพร้อม สะอาด ถูกสุขอนามัย อยู่ในย่านที่มีสิ่งแวดล้อมที่ดี
ซึ่งจะมีคนมาสมัครสำรองไว้เป็นจำนวนมาก(บ้านเราควรใช้กลุ่ม อสม เป็นผู้คัดกรอง)
และทางการก็เลือกส่งเด็กไปให้กับแม่บ้านที่มีคะแนนความพร้อมที่สูงๆไว้ก่อน แม่บ้านเหล่านี้ก็จะได้เด็กมาเลี้ยง
โดยจะได้รับค่าจ้างวันละ 350-400 บาทต่อเด็ก 1คน (ที่อังกฤษจ่ายวันละ 100 ปอนด์หรือราวๆ5000 บาทต่อวันต่อเด็ก 1 คน เพื่อนเราที่อังกฤษก็มีทำอาชีพนี้อยู่ บางเดือนทางการมีเด็กแบบนี้มาให้เลี้ยงถึง 4 คน)
แต่จะวนเวียนผัดเปลี่ยนเด็กทุกๆ 3 เดือน เพื่อไม่ให้แม่บ้านเกิดความผูกพันกับเด็กๆ.
และทางการจะส่งเด็กไปให้พ่อแม่ที่ต้องการรับเด็กพวกนี้ไปเลี้ยง ซึ่งจะมีอยู่ทั่วโลก
และเขาจะมีระบบคัดกรองกันอย่างดี เด็กเหล่านี้จะได้ไปอยู่กับครอบครัวที่ดี
ที่พร้อมที่ให้การศึกษาและชีวิตที่ดีแก่พวกเขา เหมือนกับที่มูลนิธิพระมหาไถ่พัทยา
ที่มีเด็กกำพร้ามาอยู่ด้วยมากมาย และเด็กมากมายที่ถูกส่งไปให้กับพ่อแม่บุญธรรมในต่างประเทศ
และหลายๆคนก็มีชีวิตที่ดีกลับมา บางคนได้กลับมาทำงานในบริษัทใหญ่ๆในเมืองไทย มีเงินเดือนสูงๆ
หลายๆคนมีชีวิตที่ดีกว่าเด็กที่มีพ่อแม่จริงๆอีกด้วยซ้ำ เท่านี้ภาพข่าวทารกถูกทิ้งรายวันก็หายไปแล้ว
ปัญหาเด็กทารกถูกทิ้งรายวัน เรา ควรจะดูเฉยๆ หรือแค่โทษเวรโทษกรรม หรือคิดหาวิธีแก้ปัญหานี้ให้หมดไป (มีภาพประกอบ)
วิธีที่เราเห็นมาจากอังกฤษ
เมื่อเด็กตั้งท้องอย่างมีปัญหา ต้องมีหน่วยงานภาครัฐจัดตั้งขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหานี้โดยเฉพาะ
ไม่มีการตำหนิ มีแต่จะให้ความช่วยเหลือ เพื่อไม่ให้แม่ๆเหล่านี้ไปแก้ปัญหากันเองด้วยวิธีที่ผิดๆต่างๆนานา อย่างที่เห็นกันเป็นประจำ
วิธีนี้ที่อังกฤษก็ทำกันอยู่ และแก้ปัญหานี้ได้อย่างดี เราอยู่อังกฤษมาเกือบสิบปี ไม่เคยมีข่าวแบบนี้เกิดขึ้นเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ต่างจากเมืองไทยที่เกิดขึ้นรายวัน ทั้งที่บ้านเขาก็มีเด็กที่ตั้งท้องแบบไม่ต้องการเด็กเยอะมากพอๆกันกับเรา
เขาทำกันแบบนี้นะ
เมื่อท้องและไม่ต้องการเด็ก แจ้งหน่วยงานของรัฐที่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหานี้โดยเฉพาะ
หน่วยงานรับทราบ และติดต่อเด็กที่ท้องเป็นระยะๆ
เมื่อคลอด ไม่ว่าจะไปคลอดที่ไหน แจ้งทางโรงพยาบาลนั้นว่าเรามีติดต่อกับหน่วยงานนี้ไว้แล้วว่าจะไม่เอาเด็ก ทางโรงพยาบาลรับรู้ และเมื่อคลอดเด็กแล้ว แม่ก็กลับบ้านได้เลย ไปใช้ชีวิต ไปเรียน ไปทำงานตามปกติ
แล้วหน่วยงานที่ว่านี้ก็เข้ามารับเด็กจากโรงพยาบาล แล้วส่งไปไหน?
จะมีแม่บ้านที่อยู่ตามบ้านเฉยๆ ว่างงาน ได้สมัครลงทะเบียนไว้แล้วว่าตนเองมีความต้องการที่จะรับเลี้ยงเด็กเหล่านี้
แต่ทางการจะมีแบบทดสอบทางด้านร่างกายและจิตใจ(ไม่เป็นโรคจิต ไม่เป็นโรคติดต่อร้ายแรง ) มีจิตใจดี
และมีบ้านที่มีความพร้อม สะอาด ถูกสุขอนามัย อยู่ในย่านที่มีสิ่งแวดล้อมที่ดี
ซึ่งจะมีคนมาสมัครสำรองไว้เป็นจำนวนมาก(บ้านเราควรใช้กลุ่ม อสม เป็นผู้คัดกรอง)
และทางการก็เลือกส่งเด็กไปให้กับแม่บ้านที่มีคะแนนความพร้อมที่สูงๆไว้ก่อน แม่บ้านเหล่านี้ก็จะได้เด็กมาเลี้ยง
โดยจะได้รับค่าจ้างวันละ 350-400 บาทต่อเด็ก 1คน (ที่อังกฤษจ่ายวันละ 100 ปอนด์หรือราวๆ5000 บาทต่อวันต่อเด็ก 1 คน เพื่อนเราที่อังกฤษก็มีทำอาชีพนี้อยู่ บางเดือนทางการมีเด็กแบบนี้มาให้เลี้ยงถึง 4 คน)
แต่จะวนเวียนผัดเปลี่ยนเด็กทุกๆ 3 เดือน เพื่อไม่ให้แม่บ้านเกิดความผูกพันกับเด็กๆ.
และทางการจะส่งเด็กไปให้พ่อแม่ที่ต้องการรับเด็กพวกนี้ไปเลี้ยง ซึ่งจะมีอยู่ทั่วโลก
และเขาจะมีระบบคัดกรองกันอย่างดี เด็กเหล่านี้จะได้ไปอยู่กับครอบครัวที่ดี
ที่พร้อมที่ให้การศึกษาและชีวิตที่ดีแก่พวกเขา เหมือนกับที่มูลนิธิพระมหาไถ่พัทยา
ที่มีเด็กกำพร้ามาอยู่ด้วยมากมาย และเด็กมากมายที่ถูกส่งไปให้กับพ่อแม่บุญธรรมในต่างประเทศ
และหลายๆคนก็มีชีวิตที่ดีกลับมา บางคนได้กลับมาทำงานในบริษัทใหญ่ๆในเมืองไทย มีเงินเดือนสูงๆ
หลายๆคนมีชีวิตที่ดีกว่าเด็กที่มีพ่อแม่จริงๆอีกด้วยซ้ำ เท่านี้ภาพข่าวทารกถูกทิ้งรายวันก็หายไปแล้ว