สวัสดีค่ะ 😊
เนื่องด้วยช่วงนี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายของเทอมเลยพอมีเวลาว่างนิดหน่อย เกริ่นก่อนนะคะ จขกท มาเรียนที่อเมริกาได้ปีกว่าแล้วค่ะ อะไรๆเริ่มลงตัวเลยคิดอยากจะขอแชร์วิธีการเตรียมตัวสอบ TOEFL ค่ะ ออกตัวนิดนึงคะแนนเราไม่ได้สูงมาก (ผ่าน minimums requirement มานิดหน่อย😂) แต่ที่สำคัญคือเรามาอยู่ที่นี่ใช้ภาษาได้ค่อนข้างสบาย
มาเริ่มกันเลยนะคะ
1. ต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนก่อนนะคะ เราจะได้มีเก็บเตือนตัวเองเวลาเหนื่อยค่ะ
2. เตรียมตัว เตรียมใจ วางแผนหาเวลา เพื่อฝึกฝน จขกทเองช่วงนั้นก้ทำงานไปด้วยค่ะ อย่างแรกคือ หาที่เรียนภาษาอังกฤษ ด้วยเวลาและตังค์ที่มีจำกัด เลยต้องวางแผนดีๆเพราะเรียนที่แพงๆอย่างคนอื่นไม่ไหว สุดท้ายเลือกไปที่ Fast English ค่ะ เราลงเรียน Grammar and Multi-English skill (2ครั้ง ห่างกัน 2ปีค่ะ)
3. เรียนพิเศษมาเพื่อให้ได้ Materials + แรงบันดาลใจ/แรงขับเคลื่อน 555+ อย่างที่ทราบกัน
4. เตรียม Materials ให้พร้อมต่อการเรียนรู้/ท่องจำค่ะ
4.1 คำศัพท์: เราทำเป็น flash cards ที่มี synonyms อยู่ในแผ่นเดียวกัน ที่สำคัญใช่สีสันเติมแต่งให้สวยงาม แต็มที่เลยค่ะ เอาให้สวยๆจะได้อยากอ่าน พกใส่กระเป๋า ไว้เปิดผ่านๆบนรถเมล์/BTS ค่ะ
4.2 Reading: download BBC news/ CBS news etc.ให้มัน notify ในมือถือค่ะ อ่านบ้างไม่อ่านบ้างแล้วแต่อารมณ์ 😁
4.3 Listening: นอกจาก download app ใน ipad/iphone ที่เป็นเหมือนข้อสอบจริง (มีจับเวลา มีเฉลย ลอง search ใน app store ว่า TPO) ทำวันละชุดทุกวันตอนใกล้สอบ เราเลือกดู american TV show ที่เราคิดว่าสนุกอ่ะค่ะ จขกทติดเรื่อง Bones มาก ดูทุกวันค่ะ ว่างเมื่อไหร่เปิดดู บ้างครั้งก็เปิดทิ้งไว้ให้มีเสียงฝรั่งพูดในบ้านตลอด (เปิด English subtitle ไว้ค่ะ) เหตุผลที่เลือกseries แทนหนังเพราะ นักแสดงคนเดิมพูดซ้ำๆเราจับสำเนียงแล้วเลียนแบบได้ง่ายกว่าค่ะ ส่วนเวลาอยู่นอกบ้านใช้ฟัง Pandora/TuneIn อะไรก้ได้ที่ฟังวิทยุที่อเมริกาได้ เอาง่ายๆคือให้มีภาษาอังกฤษผ่านหูตลอดเวลา หลักการเบื้องหลังคือเหมือนเด็กแรกเกิดที่ต้องฟังทุกวันๆจนกระทั้ง6-7เดือนจะเริ่มออกเสียงเริ่มเป็นคำ พัฒนาการคล้ายๆกันเลยค่ะ
4.4 Writing and Speaking: อันนี้ขอรวมกันนะคะ คือเราใช้วิธีอ่านmaterials ของ Fast English ซ้ำๆ คือจดที่อาจารย์พาทำใส่สมุดน่ารักๆ สีสันเต็มที่เหมือนเคยค่ะ เพื่อความสวยงาม เวลามาอ่านมันก้มีความสุขค่ะ เสียเวลาหน่อยแต่คุ้ม อิอิ พอเราเห็น Samples ของทั้ง Writing and Speaking เยอะๆ เราก้จะเริ่มเห็น pattern ค่ะ. อย่างที่ทราบกัน 2 parts นี้คำถามเป็น fixed structures คือคำถาม pattern เดียวกัน ดังนั้นคำตอบก็เช่นกันค่ะ เราใช่เวลาหาตัวอย่างคำตอบอยู่ประมาณเดือนกว่าได้ จากนั้นก้เริ่มคัดออกมาเป็น pattern ของตัวเองที่ประกอบไปด้วยคำของเรา. จากนั้นก้ท่องวนไปค่ะ ทุกวันๆจนคล่อง(ท่องจนวันสอบอ่ะค่ะ) พอถึงวันสอบเข้าไปปุ๊บเราก้จดPattern นั้นใส่กระดาษไว้รอเลยค่ะ
5. สุดท้ายคือเรื่องสำเนียงค่ะ เราใช้วิธีฟังเพงฝรั่งแล้วร้องตามในห้องน้ำค่ะ นอกจากฝึกสมองข้างขวาแล้ว ยังเป็นการฝึกลิ้นให้คล่อง/คุ้นชินกับการพูดภาษาอังกฤษค่ะ
ยังไงลองใช้แล้วมาแชร์กันนะคะ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนค่ะ
เป็นกำลังใจให้คนมีฝัน และ พร้อมจะล่าฝันนะคะ
👍🏻👍🏻👍🏻👍🏻👍🏻👍🏻👍🏻👍🏻👍🏻👍🏻👍🏻👍🏻👍🏻👍🏻👍🏻
Tips for TOEFL
เนื่องด้วยช่วงนี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายของเทอมเลยพอมีเวลาว่างนิดหน่อย เกริ่นก่อนนะคะ จขกท มาเรียนที่อเมริกาได้ปีกว่าแล้วค่ะ อะไรๆเริ่มลงตัวเลยคิดอยากจะขอแชร์วิธีการเตรียมตัวสอบ TOEFL ค่ะ ออกตัวนิดนึงคะแนนเราไม่ได้สูงมาก (ผ่าน minimums requirement มานิดหน่อย😂) แต่ที่สำคัญคือเรามาอยู่ที่นี่ใช้ภาษาได้ค่อนข้างสบาย
มาเริ่มกันเลยนะคะ
1. ต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนก่อนนะคะ เราจะได้มีเก็บเตือนตัวเองเวลาเหนื่อยค่ะ
2. เตรียมตัว เตรียมใจ วางแผนหาเวลา เพื่อฝึกฝน จขกทเองช่วงนั้นก้ทำงานไปด้วยค่ะ อย่างแรกคือ หาที่เรียนภาษาอังกฤษ ด้วยเวลาและตังค์ที่มีจำกัด เลยต้องวางแผนดีๆเพราะเรียนที่แพงๆอย่างคนอื่นไม่ไหว สุดท้ายเลือกไปที่ Fast English ค่ะ เราลงเรียน Grammar and Multi-English skill (2ครั้ง ห่างกัน 2ปีค่ะ)
3. เรียนพิเศษมาเพื่อให้ได้ Materials + แรงบันดาลใจ/แรงขับเคลื่อน 555+ อย่างที่ทราบกัน
4. เตรียม Materials ให้พร้อมต่อการเรียนรู้/ท่องจำค่ะ
4.1 คำศัพท์: เราทำเป็น flash cards ที่มี synonyms อยู่ในแผ่นเดียวกัน ที่สำคัญใช่สีสันเติมแต่งให้สวยงาม แต็มที่เลยค่ะ เอาให้สวยๆจะได้อยากอ่าน พกใส่กระเป๋า ไว้เปิดผ่านๆบนรถเมล์/BTS ค่ะ
4.2 Reading: download BBC news/ CBS news etc.ให้มัน notify ในมือถือค่ะ อ่านบ้างไม่อ่านบ้างแล้วแต่อารมณ์ 😁
4.3 Listening: นอกจาก download app ใน ipad/iphone ที่เป็นเหมือนข้อสอบจริง (มีจับเวลา มีเฉลย ลอง search ใน app store ว่า TPO) ทำวันละชุดทุกวันตอนใกล้สอบ เราเลือกดู american TV show ที่เราคิดว่าสนุกอ่ะค่ะ จขกทติดเรื่อง Bones มาก ดูทุกวันค่ะ ว่างเมื่อไหร่เปิดดู บ้างครั้งก็เปิดทิ้งไว้ให้มีเสียงฝรั่งพูดในบ้านตลอด (เปิด English subtitle ไว้ค่ะ) เหตุผลที่เลือกseries แทนหนังเพราะ นักแสดงคนเดิมพูดซ้ำๆเราจับสำเนียงแล้วเลียนแบบได้ง่ายกว่าค่ะ ส่วนเวลาอยู่นอกบ้านใช้ฟัง Pandora/TuneIn อะไรก้ได้ที่ฟังวิทยุที่อเมริกาได้ เอาง่ายๆคือให้มีภาษาอังกฤษผ่านหูตลอดเวลา หลักการเบื้องหลังคือเหมือนเด็กแรกเกิดที่ต้องฟังทุกวันๆจนกระทั้ง6-7เดือนจะเริ่มออกเสียงเริ่มเป็นคำ พัฒนาการคล้ายๆกันเลยค่ะ
4.4 Writing and Speaking: อันนี้ขอรวมกันนะคะ คือเราใช้วิธีอ่านmaterials ของ Fast English ซ้ำๆ คือจดที่อาจารย์พาทำใส่สมุดน่ารักๆ สีสันเต็มที่เหมือนเคยค่ะ เพื่อความสวยงาม เวลามาอ่านมันก้มีความสุขค่ะ เสียเวลาหน่อยแต่คุ้ม อิอิ พอเราเห็น Samples ของทั้ง Writing and Speaking เยอะๆ เราก้จะเริ่มเห็น pattern ค่ะ. อย่างที่ทราบกัน 2 parts นี้คำถามเป็น fixed structures คือคำถาม pattern เดียวกัน ดังนั้นคำตอบก็เช่นกันค่ะ เราใช่เวลาหาตัวอย่างคำตอบอยู่ประมาณเดือนกว่าได้ จากนั้นก้เริ่มคัดออกมาเป็น pattern ของตัวเองที่ประกอบไปด้วยคำของเรา. จากนั้นก้ท่องวนไปค่ะ ทุกวันๆจนคล่อง(ท่องจนวันสอบอ่ะค่ะ) พอถึงวันสอบเข้าไปปุ๊บเราก้จดPattern นั้นใส่กระดาษไว้รอเลยค่ะ
5. สุดท้ายคือเรื่องสำเนียงค่ะ เราใช้วิธีฟังเพงฝรั่งแล้วร้องตามในห้องน้ำค่ะ นอกจากฝึกสมองข้างขวาแล้ว ยังเป็นการฝึกลิ้นให้คล่อง/คุ้นชินกับการพูดภาษาอังกฤษค่ะ
ยังไงลองใช้แล้วมาแชร์กันนะคะ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนค่ะ
เป็นกำลังใจให้คนมีฝัน และ พร้อมจะล่าฝันนะคะ
👍🏻👍🏻👍🏻👍🏻👍🏻👍🏻👍🏻👍🏻👍🏻👍🏻👍🏻👍🏻👍🏻👍🏻👍🏻