คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
ถ้ากลับมาเร็วขนาดนี้แสดงว่าอาจจะผ่าออกไม่หมด เช่นต่อมน้ำเหลืองบริเวณใกล้เคียง
คุณหมอผ่าตัดในส่วนที่ท่านมองเห็นออกหมด แต่ส่วนที่ท่านมองไม่เห็น ท่านก็ไม่ได้เอาออกให้
เพื่อป้องกันความเสี่ยง คุณหมอศัลยกรรมจะส่งต่อไปที่คุณหมอคึโม
เพื่อฆ่าเซลล์มะเร็งให้หมด และชะลอระยะเวลาการกลับมา
(ถ้ากลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิม เช่น ทานเนื้อสัตว์ที่ย่อยยาก ไม่ทานผัก ผลไม้ ออกกำลังกาย ยังไงก็กลับมาค่ะ)
ในเคสนี้คุณหมอคงเห็นว่าคนไข้อายุเยอะแล้ว พยาธิสภาพของร่างกาย อาจจะไม่สามารถทนต่อคีโม และฉายแสงได้
ท่านเลยไม่ส่งต่อ (คนไข้จะทนผลข้างเคียงจากคีโมและฉายแสงไม่ไหว จะไม่ได้จากไปเพราะมะเร็งค่ะ)
ของพี่ พี่ให้คนไข้ออกจากห้องไปก่อน ขอคุยกับหมอ สองต่อสอง เพราะบางทีหมอก็ไม่อยากบอกความจริงต่อหน้าคนไข้
ในเคสนี้คุณหมอก็ยังคงไม่ทิ้งกัน ยังคงนัด follow up ทุก สามเดือน เลยพบว่าคุณเนื้อร้ายกลับมา
คุณหมอบอกรึเปล่าคะว่า หลังผ่าตัดย้อมชิ้นเนื้อ ต่อมน้ำเหลืองที่ผ่าตัดออก
เจอเซลล์เนื้อร้ายกี่ต่อม เช่นผ่าออกมา 70 ต่อม มีเชื้อเนื้อร้าย 65 ต่อม อะไรทำนองนี้อะค่ะ
ในมุมมองพี่ คุณหมอน่าจะใช้ดุลยพินิจดีแล้ว แต่ไม่ได้อธิบายให้คนไข้และญาติฟังทั้งหมด
เวลาคนในครอบครัวเป็นโรคนี้ เราต้องศึกษาข้อมูลพื้นฐานไว้เยอะ ๆ จะได้เข้าใจแนวทางในการรักษา
ถ้าสงสัยตรงไหน จะได้ถามเลย เพื่อที่จะได้มีโอกาสทราบความเสี่ยง และได้ร่วมตัดสินใจกับคุณหมอ
ของคุณพ่อพี่ พี่ศึกษาครบถ้วน เข้าใจว่าทำไมคุณหมอ ไม่ผ่าตัดปอด (มะเร็งขั้วปอด)
คุณหมอส่งไป คีโม และฉายแสงก่อน พอก้อนมะเร็งยุบลง คุณหมอฉายแสง ส่งกลับมาผ่าตัด
ณ เวลานั้น พี่เห็นภาพCT scan ของก้อนเนื้อ
พี่สามารถคาดคะเนได้ว่าต้องผ่าตัดปอด ออกกี่กลีบ และ จาก comment คุณหมอศัลย์ครั้งแรก
คุณพ่อก็ยังไม่น่าจะผ่าตัดได้อยู่ดี แต่ก็ไม่สามารถขัดคุณหมอฉายแสงได้ ต้องไปตามนัดค่ะ
พอไปพบคุณหมอศัลย์ ท่านก็แนะนำว่าไม่ควรผ่า เนื่องจากเราศึกษาไปบ้างแล้ว พอคุณหมออธิบายนิดเดียวเราก็เลยจะเข้าใจง่าย
คุณหมอศัลย์ก็จะอธิบายระดับ advance ขึ้นเพื่อให้เราเห็นภาพชัด มากกว่าที่เราศึกษาจาก internet
แนวทางการตัดสินใจ จะไม่ใช่คุณหมอตัดสินใจ แต่จะเลือกให้เราตัดสินใจแทนค่ะ คุณหมอไม่อยากเสี่ยง
อย่าเพิ่งตีโพย ว่าอ่านมารอบสองรักษายาก
เพราะเท่าที่อ่านคนไข้ยังไม่เคยผ่านการให้คีโม และฉายแสง
ร่างกายยังไม่ช้ำมาก โอกาสในการักษาให้หายก็เพิ่มขึ้น
การจะรักษาได้ คุณหมอต้องทราบชนิดของร้าย และระยะเวลาของโรค
รวมไปถึง สภาพร่างกายผู้ป่วย ว่าจะทนต่อการรักษาอะไรได้บ้าง
ขนาดพ่อพี่ แข็งแรงมาก หลังจบ course ฉายแสงแล้ว
ผลกระทบคือกลืนอาหารแล้วแสบมาก ทำให้ทานอาหารไม่ได้ น้ำหนัก ลดไป 20 โล ภายใน สองอาทิตย์
ต้องรอร่างกายฟื้นตัว ให้ร่างกายรักษาแผลไฟไหม้จากแสงที่ฉาย ประมาณ 3 - 4 เดือน
ยังคิดอยู่เลย ว่าตกลงเราทำร้ายพ่อรึเปล่า
ถ้าจะให้แนะนำ ลองหาเวลาพบหมอแบบไม่มีคนใข้ในห้องน่ะคะ
คุณหมอจะได้มีโอกาสบอกความจริงทั้งหมด ต่อญาติคนไข้ค่ะ
คุณหมอผ่าตัดในส่วนที่ท่านมองเห็นออกหมด แต่ส่วนที่ท่านมองไม่เห็น ท่านก็ไม่ได้เอาออกให้
เพื่อป้องกันความเสี่ยง คุณหมอศัลยกรรมจะส่งต่อไปที่คุณหมอคึโม
เพื่อฆ่าเซลล์มะเร็งให้หมด และชะลอระยะเวลาการกลับมา
(ถ้ากลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิม เช่น ทานเนื้อสัตว์ที่ย่อยยาก ไม่ทานผัก ผลไม้ ออกกำลังกาย ยังไงก็กลับมาค่ะ)
ในเคสนี้คุณหมอคงเห็นว่าคนไข้อายุเยอะแล้ว พยาธิสภาพของร่างกาย อาจจะไม่สามารถทนต่อคีโม และฉายแสงได้
ท่านเลยไม่ส่งต่อ (คนไข้จะทนผลข้างเคียงจากคีโมและฉายแสงไม่ไหว จะไม่ได้จากไปเพราะมะเร็งค่ะ)
ของพี่ พี่ให้คนไข้ออกจากห้องไปก่อน ขอคุยกับหมอ สองต่อสอง เพราะบางทีหมอก็ไม่อยากบอกความจริงต่อหน้าคนไข้
ในเคสนี้คุณหมอก็ยังคงไม่ทิ้งกัน ยังคงนัด follow up ทุก สามเดือน เลยพบว่าคุณเนื้อร้ายกลับมา
คุณหมอบอกรึเปล่าคะว่า หลังผ่าตัดย้อมชิ้นเนื้อ ต่อมน้ำเหลืองที่ผ่าตัดออก
เจอเซลล์เนื้อร้ายกี่ต่อม เช่นผ่าออกมา 70 ต่อม มีเชื้อเนื้อร้าย 65 ต่อม อะไรทำนองนี้อะค่ะ
ในมุมมองพี่ คุณหมอน่าจะใช้ดุลยพินิจดีแล้ว แต่ไม่ได้อธิบายให้คนไข้และญาติฟังทั้งหมด
เวลาคนในครอบครัวเป็นโรคนี้ เราต้องศึกษาข้อมูลพื้นฐานไว้เยอะ ๆ จะได้เข้าใจแนวทางในการรักษา
ถ้าสงสัยตรงไหน จะได้ถามเลย เพื่อที่จะได้มีโอกาสทราบความเสี่ยง และได้ร่วมตัดสินใจกับคุณหมอ
ของคุณพ่อพี่ พี่ศึกษาครบถ้วน เข้าใจว่าทำไมคุณหมอ ไม่ผ่าตัดปอด (มะเร็งขั้วปอด)
คุณหมอส่งไป คีโม และฉายแสงก่อน พอก้อนมะเร็งยุบลง คุณหมอฉายแสง ส่งกลับมาผ่าตัด
ณ เวลานั้น พี่เห็นภาพCT scan ของก้อนเนื้อ
พี่สามารถคาดคะเนได้ว่าต้องผ่าตัดปอด ออกกี่กลีบ และ จาก comment คุณหมอศัลย์ครั้งแรก
คุณพ่อก็ยังไม่น่าจะผ่าตัดได้อยู่ดี แต่ก็ไม่สามารถขัดคุณหมอฉายแสงได้ ต้องไปตามนัดค่ะ
พอไปพบคุณหมอศัลย์ ท่านก็แนะนำว่าไม่ควรผ่า เนื่องจากเราศึกษาไปบ้างแล้ว พอคุณหมออธิบายนิดเดียวเราก็เลยจะเข้าใจง่าย
คุณหมอศัลย์ก็จะอธิบายระดับ advance ขึ้นเพื่อให้เราเห็นภาพชัด มากกว่าที่เราศึกษาจาก internet
แนวทางการตัดสินใจ จะไม่ใช่คุณหมอตัดสินใจ แต่จะเลือกให้เราตัดสินใจแทนค่ะ คุณหมอไม่อยากเสี่ยง
อย่าเพิ่งตีโพย ว่าอ่านมารอบสองรักษายาก
เพราะเท่าที่อ่านคนไข้ยังไม่เคยผ่านการให้คีโม และฉายแสง
ร่างกายยังไม่ช้ำมาก โอกาสในการักษาให้หายก็เพิ่มขึ้น
การจะรักษาได้ คุณหมอต้องทราบชนิดของร้าย และระยะเวลาของโรค
รวมไปถึง สภาพร่างกายผู้ป่วย ว่าจะทนต่อการรักษาอะไรได้บ้าง
ขนาดพ่อพี่ แข็งแรงมาก หลังจบ course ฉายแสงแล้ว
ผลกระทบคือกลืนอาหารแล้วแสบมาก ทำให้ทานอาหารไม่ได้ น้ำหนัก ลดไป 20 โล ภายใน สองอาทิตย์
ต้องรอร่างกายฟื้นตัว ให้ร่างกายรักษาแผลไฟไหม้จากแสงที่ฉาย ประมาณ 3 - 4 เดือน
ยังคิดอยู่เลย ว่าตกลงเราทำร้ายพ่อรึเปล่า
ถ้าจะให้แนะนำ ลองหาเวลาพบหมอแบบไม่มีคนใข้ในห้องน่ะคะ
คุณหมอจะได้มีโอกาสบอกความจริงทั้งหมด ต่อญาติคนไข้ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
มะเร็งกลับมาแล้ว ขอแบ่งปันประสบการณ์ครับ
แต่ล่าสุดส่องกล้องมาพบว่ามันกลับมาอีก ตอนนี้รอผล CT ว่ามีการแพร่กระจายหรือไม่
ระยะเวลาจากการผ่าตัดจนถึงวันที่พบว่ามันกลับมาแค่ 4 เดือนเท่านั้น สอบถามหมอก็บอกว่ายังให้คำแนะนำใดๆ ไม่ได้ต้องรอผลที่แน่นอน ได้อ่านจากอินเตอร์เน็ตบอกว่าการกลับมามักจะรุนแรงกว่าเดิม รักษายากกว่าเดิม แต่หาข้อมูลแบบละเอียดไม่ค่อยมีเลย
อยากขอแบ่งปันประสบการณ์จากคนพันทิปหน่อยครับว่าใครเคยมีประสบการณ์ตรงก็ดี หรือคนรอบตัวก็ดี ว่าเป็นซ้ำแล้วอาการเป็นอย่างไร
ขอบคุณครับ