เรื่องมีอยู่ว่า.....หนูเป็นนักศึกษาจบใหม่ค่ะแต่ระหว่างเรียนก็ทำงานประจำไปด้วยพอเรียนจบก็ออกมาเพื่อหวังว่าจะได้งานที่ดีกว่าเดิมและได้เงินเดือนในระดับวุฒิป.ตรี พอเรียนจบก็ออกหางานไปหลายบริษัทหมดรูปถ่ายไปเกือบ2โหลหางานอยู่เกือบ3เดือนเต็มๆไม่มีบริษัทไหนรับเด็กจบใหม่เลย บางบริษัทก็ดูถูกสถาบันที่เราเรียนจบมา ขนาดเราพอได้ภาษาอังกฤษบ้างทั้งฟังพูดอ่านเขียน ยังไม่มีบริษัทไหนให้โอกาสเราเลย สังคมสมัยนี้ เฮ้อ เราหางานจนท้อ ร้องให้บ้างไรบ้าง จนเราไปสัมภาษงานที่บริษัทแห่งหนึ่งเป็นบริษัท ต่างชาติ เจ้าของเป็นคนอินเดีย ตอนเราสัมภาษเจ้าของดูใจดีมาก Boss เสนอเงินเดือนให้เรา 10,000 บาท ขอย้ำว่า 10,000บาทจริงๆ ค่ะ คุณไม่ได้ตาลาย Boss บอกเราว่าถ้าผ่าน3 เดือน จะปรับให้ 12,000 บาท คร่าาา โอ้โห้สุดยอดไปเลย เรานี้จะลมจับ ขอย้ำอีกครั้ง เราใช้วุฒิ ป.ตรี นะครัช พอฟังเงินเดือนแล้วเศร้า เรานั่งคิดตกอยู่ในภวังค์มารู้ตัวอีกทรเราตกลงทำงานกับเขาไปสะแล้วเหอะๆๆๆ ในตอนนั้นคิดว่า ไปมาหลายที่ล่ะ ไม่มีที่ไหนให้งานเราทำเลยกะว่าจะลองทำที่นี้ดูอย่างน้อยก็ได้ประสบหารณ์ที่จะไปต่อยอดที่อื่นได้และได้ใช้ภาษาอังกฤษเพราะเพื่อนร่วมงานก็มีคนอินเดียด้วยในoffice เลยต้องใช้ภาษาอยู่ตลอดเวลา แต่ก็มีเพื่อนร่วมงานเป็นคนไทยด้วย office ที่เราทำงานเป็น Home office and Small company like family business ก็อยู่กันแบบครอบครัวค่ะ ในoffice เล็กๆ วันแรกของการทำงานบอกเลยว่าตื่นเต้น ม๊ากกก พอได้เห็นโต๊ะทำงานของเราแล้วก็ขาอ่อน เป็นโต๊ะคอม3 ตัวต่อกัน พี่คนที่จะสอนงานเรานั่งติดกำแพงเรานั่งตรงกลางและน้องร่วมงานอีกคนนั่งริ้มถัดไปเป็นโต๊ะทำงานงานอีก2 ตัว และไม่มีกระจกกั้นนั้งติดกันเลย จากที่ตื่นเต้นก็เหมือนนรกมาเยือนเลยค่ะ จากทื่เราทำงานตึกหรูชั้น 19 แถวรัชดา ตกลงมาที่แห่งนี้ทั้งเรื่องกลิ่นค่ะ กลิ่นปากมาเลยน้องคนที่นั่งข้างๆเรากลิ่นปากเหม็นมาก กลิ่นเหมือนส้วมแตกคร่าาา โอ้โห!!! ทำไงล่ะค่ะ ต้องนั่งทนไปสิค่ะเราก็พยายามกลั้นหายใจเวลานางพูด โอ้ยยย จะทนไม่ไหว เรานี่ขยับไปชิดพี่คนที่สอนงานจนติดกำแพง เออ เราลืมบอกเราเป็นบริษัททัวร์เล็กที่พาต่างชาติมาเที่ยวในไทย งานที่เราทำก็จะทำเกี่ยวกับโปรแกมทัวร์แต่วันที่จะพาลูกค้าไป ทำเสร็จก็ส่งให้ต่างประเทศ วันแรกของเรานะค่ะ นอกจากจะเจอกลิ่นปากแล้วยังต้องเจอกับมนุษย์ป้าค่ะ เรารู้ว่าทุกบริษัทจะมีมนุษย์ป้าอยู่ค่ะ นางหาเรื่องเราตั้งแต่วันแรกค่ะ นางเป็นเซลล์ค่ะ นางถามเราว่า อยู่ที่ประเทศไทยรู้จักสถานที่ท่องเที่ยวที่ไหนบ้างและรู้จัก โรงแรมอะไรบ้าง เหอะๆ ตอนนั้นเราตอบว่าไม่รู้ นางก็บ่นๆๆๆๆ จนพี่คนที่สอนงานบอกนางว่าพอแล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้น้องใหม่ไม่มาทำงาน เราคิดในใจว่าส่งสัยจะเจอศึกหนักซะแล้วเพราะพี่คนที่สอนงานเราจะออกจากงานแล้วด้วย เหอะๆชีวิต ในช่วงแรก เราปรับตัวเป็นอย่างมาก เจอทั้งกลิ่นปากไหนจะมนุษย์ป้าอีก เราไม่ชอบหน้ามันเอาซะเลย ป้าชอบโยนความผิดให้เราไม่ยอมโทษตัวเอง ขนาดทำโปรกแกมทัวร์ผิดทั้งๆที่มีชื่อนางในโปรแกรมยังมันยังมาโทษเราได้ เรานี้เจ็บใจสุดๆ งานเราก็เยอะ ต้องมาทนกับป้านี้อีก รำบากต้องทำงานร่วมกับมันบางวันเราโกรธจนร้องให้เพราะเถียงไม่ได้มันเป็นคนสำคัญขอบริษัท เวลานางพูดนะจะดัดเสียงหน่อยมองด้วยสายตาดูถูกและก็แบะปากเวลามองคนอื่น เวลาเราถามงานมันนะ จะมองเราตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วก็บอกว่าเรื่องแค่นี้ทำไมรู้ล่ะหนูมากจากจังหวัดอะไร บ้านอกจังเลย เรานี่อยากจะตอบกลับไปว่า อีห่า กูใหม่นะโว้ยกูไม่ใช้มืออาชีพจะได้รู้ว่า เกาะ พีพีไปยัง ที่กระบีมีท่าเรืออะไร ภูเก็ต มีท่าเรืออะไร เกาะห้องไปยังไง จะไป Full moon ไปยังไง เออกูใหม่เราไปไกลสุดแค่เกาะล้านในชีวิตนี้ แล้วมันบอกเราว่าบ้านนอก มันนี่ในเมืองมากเลยพกปลาร้ามากินที่ทำงาน แล้วมันยังมาว่าเราอีกว่าคนบ้านนอกต่างจังหวัดก็แบบนี้แหละไม่เหมือนคนในเมือง โอ้ยย อีในเมือง เราทำงานต้องทนรับอารมณ์์ ทุกอย่างจากมันพอมีความผิดก็โยนมาให้เรา เราพูดอะไรไม่ได้ก็อดทนไป ฟังมันบ่น มันบ่นเราตั้งแต่เรื่องงานยันเรื่องเราเข้าห้องน้ำ เราสังเกตุนะเวลาบอสพาไปกินข้าวร้านหรู่ๆ มีกุงตัวใหญ่ๆ อาหารทะเลดีๆ มันจะมองเวลาเรากิน เหอะๆ กูอยากจจะบอกว่ากูก็ไปกินบ่อยว่ะ ยังๆๆๆ ยังไม่หมด มนุษย์ป้ามันเยอะ มันไม่ใช่เจ้านายนะแต่เราต้องรอมันกลับบ้านทุกวัน เราเข้างาน9โมงเลิก6โมงเย็น พองานเราเสร็จถึงเวลาเราก็กลับ มันก็ว่าเราถึงเวลาก็กลับก่อน เอ่อ เราจะจะตอบว่าจะให้กูนั่งอยู่ทำซากอะไร ประเด็นคือ ต้องนั่งรอจนกว่ามันจะเสร็จงาน และจะบอกว่าทีเรางานเยอะมันไม่เห็นนั่งรอ เวลาที่Group ลงหลายร้อยคน มันไม่เคยอยู่ช่วยจัดน้ำให้ลูกค้าเลยมันมีธุระตลอด เงินเดือนก็น้อย สงกรานต์ มาทำงาน ไม่ได้พิเศษอะไร ทำงานเลยเวลาก็ไม่ได้อะไร เบี้ยขยันไม่มี ยังต้องมาเจอกับอีมนุยษย์ป้าอีก แถมยังต้องเจอกับกลิ่นปากทุกวันเรานี้อยากจะลาออก แถมนะ บริษัทนี้จะต้องกินข้าวด้วยกลางวันด้วยกัน เก็บค่าข้าววันล่ะ 50 บาท เราต้องหิ้วท้องรอ พวกมันกินข้าวเที่ยงบางวันได้กิน ตอน บ่าย 3 โมง จนเราเข้า รพ เพราะปวดท้องอาเจียน เพราะว่ากินข้าวไม่ตรง เวลา อีมนุยษย์ป้าก็บ่นๆๆ บางวันเราทนไม่ไหวนะอยากจะเอาเท้าเราไปแตะปากมันสักที เราไม่รู้ว่าจะทนอยู่ทำไม งานแบบนี้ อยากจะลาออก แล้วไปที่อื่น ก็กลัวจะไม่มีที่ไหนรับ ทุกวันนี้ท้อ เพราะอีมนุษย์ป้านี้แหละ เราคิดแล้วก็เสียดายไม่น่าลาออหจากบริษัทเก่าเราเลยเงินเดือน วุฒิม.6 เราได้14,000 บาทแถมหยุดเสาร์อาทิตย์ได้เบี่ยขยัน อยู่นี้หยุดวันอาทิตย์วันเดียวเงินเดือน 12,000 บาทเจ้านายก็ขี้งกเอาเปรียบเป็นที่สุด ดูถูกคนเราที่เป็นคนไทยอีก โอ้ย บริษัทอะไรวะเนี่ย เวลาทำงานก็ต้องทำงานตามใจคนอยากได้อะไรก็ต้อง พอผิดมาก็โทษเรา โยๆ งานมาให้เรา ทำำงานยังกับ ได้ค่าแรงเยอะ เอาเปรียบสุดๆเลย เงินเดือนก็ไม่ได้ตามกฎหมายแรงงานเลย ลากิจก็ไม่ได้ต้อง ทำงาน1 ปีถึงจะลาได้ สงสัยดราจะลาออกก่อนที่จะได้ลากิจ สภาพแวดล้อมก็แย่ พูดแล้วก็เกลียด เวรกรรมจริงๆ จะติดโรคเพราะกลิ่นปากไหมเนี่ย เราอยู่ที่นี้เราจะเป็นบ้าเราพอีป้านี้ไหมเนี่ย ถ้าบริษัทอื่นเราคงอธิบายได้ แต่บริษัทนี้ฟังแต่อีป้านี้คนเดียว โอ้ยยยเกลียดดมันโว้ยยยยยยย พรุ่งนี้ต้องตื่นไปดจออีป้านี้อีก แถมต้องไปเจอกลิ่นปากขนาดผ้าปิดจมูกยังเอาไม่อยู่เราต้องทาน้ำยาดมลงไปในผ้าด้วย นี่มันเวรกรรมอะไรของเราว่ะเนีย โอ้ยยยยยย
อยากเตะปากเพื่อนร่วมงานทำไงดีค่ะ?