เรื่องสั้น
คำขม
นายประยุดเป็นเพื่อนคนหนึ่งของผม ที่สนิทกันมากมาตั้งแต่เป็นทหารเกณฑ์ด้วยกันเมื่อหลายสิบปีก่อนโน้น เขารักผมมาก เพราะผมมักจะยอมให้เขาสบายใจ ในเมื่อเราเข้าเวรคู่กันเสมอ
เช่นการทำความสะอาดห้องสุขา เขาจะช่วยใช้ผ้าเช็ดถูเมื่อผมล้างเสร็จแล้ว เสมอ
หรือการเข้าเวรยามที่ผมจะต้องเข้าต่อจากเขาคนละสองชั่วโมง แต่เขาจะปลุกผมก่อนเวลาครึ่งชั่วโมงหรือกว่าเสมอ
หรือเวลากินข้าวที่โรงเลี้ยง เขาจะยอมให้ผมอิ่มทีหลัง เพราะกินช้ากว่าเขาเสมอ
หรือเมื่อทดสอบความรู้ที่เป็นข้อเขียน เขาก็จะยอมลอกคำตอบของผม จนเขาได้คะแนนมากกว่าเสมอ
จนกระทั่งได้งานการทำแล้วทั้งสองคน เงินเดือนของเขาก็มักจะไม่พอใช้อยู่แทบทุกปลายเดือน ต้องมาขอหยิบขอยืมแล้วก็ลืมใช้คืนเสมอ
ผมก็เป็นคนใจอ่อนและใจง่าย ก็เลยไม่ค่อยได้ขัดศรัทธาแทบทุกคราวที่เขามีเรื่องเดือดร้อน ก็มักจะให้ไปมากบ้างน้อยบ้างตามแต่จะแพลมออกมาให้เขาเห็น เพราะเขาก็เป็นคนขี้เกรงใจ กลัวว่าผมจะไม่มีใช้เหมือนกัน เขาเคยสรรเสริญผมว่า
“ เพื่อนเอ๋ย.....ผมเองมีเพื่อนมามากมาย ทั้งเมื่อสมัยก่อนและสมัยนี้ ผมไม่เคยประทับใจใครเท่าคุณเลย รู้มั้ย คุณดีกับผมมาก คุณไม่เคยรังเกียจผมเลย ผมไม่มาหาคุณก็ไม่รู้จะไปหาหมาที่ไหนแล้ว “
ผมรู้สึกว่าเขามีวาจาที่ตรงกับหัวใจเป็นอย่างยิ่ง ก็เลยสนองตอบไปว่า
“ ไม่เป็นไรหรอกเพื่อน เราเป็นเพื่อนกัน คบกันมาหลายสิบปีจนแก่ตัวลงไปด้วยกันแล้ว มีอะไรขัดข้องก็บอกกันตามจริงไม่ต้องเกรงใจ ผมยินดีช่วยเหลือเพื่อนเสมอ....ถ้าช่วยได้ “
“ น่านน่ะซี “
เขาสนองรับโดยฉับไว
“ ผมอุตส่าห์รักนับถือคุณขนาดนี้ ถ้าคุณไม่ช่วยผม ก็หมาเต็มทีละวะ จริงมั้ยเพื่อน “
ผมว่าเขาพูดเป็นคติดีมากนะครับ คุณผู้อ่านจะลองจดจำเอาไปใช้กับเพื่อนของคุณบ้าง ก็ไม่เลวนะครับ
##########
คำคมหรือคำขม ๓ พ.ค.๖๐
คำขม
นายประยุดเป็นเพื่อนคนหนึ่งของผม ที่สนิทกันมากมาตั้งแต่เป็นทหารเกณฑ์ด้วยกันเมื่อหลายสิบปีก่อนโน้น เขารักผมมาก เพราะผมมักจะยอมให้เขาสบายใจ ในเมื่อเราเข้าเวรคู่กันเสมอ
เช่นการทำความสะอาดห้องสุขา เขาจะช่วยใช้ผ้าเช็ดถูเมื่อผมล้างเสร็จแล้ว เสมอ
หรือการเข้าเวรยามที่ผมจะต้องเข้าต่อจากเขาคนละสองชั่วโมง แต่เขาจะปลุกผมก่อนเวลาครึ่งชั่วโมงหรือกว่าเสมอ
หรือเวลากินข้าวที่โรงเลี้ยง เขาจะยอมให้ผมอิ่มทีหลัง เพราะกินช้ากว่าเขาเสมอ
หรือเมื่อทดสอบความรู้ที่เป็นข้อเขียน เขาก็จะยอมลอกคำตอบของผม จนเขาได้คะแนนมากกว่าเสมอ
จนกระทั่งได้งานการทำแล้วทั้งสองคน เงินเดือนของเขาก็มักจะไม่พอใช้อยู่แทบทุกปลายเดือน ต้องมาขอหยิบขอยืมแล้วก็ลืมใช้คืนเสมอ
ผมก็เป็นคนใจอ่อนและใจง่าย ก็เลยไม่ค่อยได้ขัดศรัทธาแทบทุกคราวที่เขามีเรื่องเดือดร้อน ก็มักจะให้ไปมากบ้างน้อยบ้างตามแต่จะแพลมออกมาให้เขาเห็น เพราะเขาก็เป็นคนขี้เกรงใจ กลัวว่าผมจะไม่มีใช้เหมือนกัน เขาเคยสรรเสริญผมว่า
“ เพื่อนเอ๋ย.....ผมเองมีเพื่อนมามากมาย ทั้งเมื่อสมัยก่อนและสมัยนี้ ผมไม่เคยประทับใจใครเท่าคุณเลย รู้มั้ย คุณดีกับผมมาก คุณไม่เคยรังเกียจผมเลย ผมไม่มาหาคุณก็ไม่รู้จะไปหาหมาที่ไหนแล้ว “
ผมรู้สึกว่าเขามีวาจาที่ตรงกับหัวใจเป็นอย่างยิ่ง ก็เลยสนองตอบไปว่า
“ ไม่เป็นไรหรอกเพื่อน เราเป็นเพื่อนกัน คบกันมาหลายสิบปีจนแก่ตัวลงไปด้วยกันแล้ว มีอะไรขัดข้องก็บอกกันตามจริงไม่ต้องเกรงใจ ผมยินดีช่วยเหลือเพื่อนเสมอ....ถ้าช่วยได้ “
“ น่านน่ะซี “
เขาสนองรับโดยฉับไว
“ ผมอุตส่าห์รักนับถือคุณขนาดนี้ ถ้าคุณไม่ช่วยผม ก็หมาเต็มทีละวะ จริงมั้ยเพื่อน “
ผมว่าเขาพูดเป็นคติดีมากนะครับ คุณผู้อ่านจะลองจดจำเอาไปใช้กับเพื่อนของคุณบ้าง ก็ไม่เลวนะครับ
##########