แล้วพี่ที่ได้คุยกันเรื่องหุ้นเมื่อวานนี้ จะทำได้หรือ ????
เมื่อวานไปตากอากาศกลางสนามรบตลาดหุ้น ifec ที่อิมแพคมา



ไปๆมาๆ ผมแทบไม่ได้ฟังที่เขาทะเลาะตบตีกันด้วยวาจาเลย
ไม่ว่าจะเป็นคุณศิริวัฒน์ ที่พูดด้วยน้ำเสียงดังและดุเดือด
ประมาณว่าถ้ากรรมการหวงบริษัทนัก
ก็ซื้อหุ้นเพิ่ม แล้วก็ทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ไปเลยซิ ???
ทำเอาคนทั้งห้อง ตบมือให้ดังลั่น
ส่วนกรรมการบนเวที โต้กลับลงมาด้วยอารมณ์เช่นกัน
ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายที่สนับสนุนคำพูดของผู้ถือหุ้นรายย่อย หรือต่อต้านก็ตาม
สาเหตุที่ไม่ค่อยได้ฟังการทะเลาตบตีการด้วยวาจาก็คือ
มีผู้ถือหุ้นรายย่อยท่านหนึ่ง ทีนั่งกันใกล้ๆโดยมีเก้าอี้ที่ผมวางเอกสารคั่นอยู่กลางอยู่
คุยกันไป คุยกันมา
จับใจความได้ว่า
พี่เค้าเคยเป็นพนักงานการรถไฟ ซึ่งเกษียณอายุมา ในรุ่นที่ยังมีสิทธิ์ได้รับบำนาญ
เนื่องจากขายที่ดินได้
เลยนำเงินมาลงในหุ้น โดยไม่เกี่ยวกับเงินบำนาญ ซึ่งจะเป็นค่าใช้จ่ายประจำวัน
แรกๆก็น่าจะกำไรดี พี่เขายกตัวอย่างให้ฟังว่า
เคยจองไอพีโอราชบุรี จากธนาคารไทยพาณิชย์
มาขายในตลาดหลังจากถือมา ๕ ปี ได้กำไรสี่แสนบาท
ยิ่งฟังก็ยิ่งมึนว่า แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับการเดินทางแสวงหาเงินในตลาดหุ้นของพี่
จากคนที่กล้าถือหุ้นราชบุรีนานถึงห้าปี กลายมาเป็น...
พี่เขาเล่าว่า ตอนนี้เล่นหุ้นแบบเก็งกำไร เน้นเดย์เทรดเป็นหลัก
เล่นอยู่สองตัวคือ ifec กับ gl ตอนนี้เท่ากับเหลือ gl อยู่ตัวเดียว
ใช้วิธีซื้อขายด้วยกราฟ ทุกวันนี้ยังได้กำไรจากการซื้อๆขายๆ gl
พอคุยกันถึงว่า ผมซื้อ ifec ราคาเท่าไร
คำตอบก็อย่างที่หลายท่านเคยอ่านเจอในกระทู้ ไม่ขอเล่าซ้ำ
พี่เขาทำหน้าทึ่ง ที่ผมถือหุ้นมาได้นานขนาดนั้น ในราคาขนาดนั้น
ผมก็เลยบอกว่า
เป็นคนเล่นหุ้นแบบซื้อเร็ว ขายเร็วไม่เป็นมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
พี่เขาถามว่า แล้วซื้อหุ้นมาตอนไหน ถือหุ้นนานแค่ไหน
ผมตอบว่า ซื้อมาตอนเกิดวิกฤตซับไพร์ม
ส่วนจะถือนานแค่ไหนก็ได้
ตามใดที่หุ้นมันดีอยู่ (ไม่ได้อธิบายเกี่ยวกับเรื่องแต้มต่อที่กำหนดไว้ เพราะคงฟังไม่รู้เรื่อง)
ยิ่งคุยเรื่องถือหุ้นได้นาน มากเท่าไร
ในที่สุดพี่เขาก็บอกว่า ผมอยากเปลี่ยนวิธีซื้อขายหุ้นแล้ว
รู้สึกเหนื่อยและเครียด กับการต้องจ้องจอติดตามราคาหุ้น เพื่อเล่นเดย์เทรด (ในวัยเจ็ดสิบ !!!)
ถึงมีกำไร ก็ไม่คุ้มกับสุขภาพจิต สุขภาพกาย
ผมเสริมว่า เผลอๆค่ามิชชั่นที่ต้องจ่ายให้โบรกเกอร์จากการเล่นเดย์เทรด
จะมากกว่าเงินกำไรที่ได้อีก ซึ่งพี่เขาก็เห็นด้วย
ที่ประชุม ก็ทะเลาะตบตีกันด้วยวาจาไป ส่วนผมกับพี่ ก็นั่งคุยนอกเรื่องไปกัน
เชื่อว่า ไม่ได้รบกวนผู้อื่น เพราะเสียงอภิปรายโต้ตอบกันดังมาก
ลงท้าย พี่เขาบอกอยากจะขอความรู้เกี่ยวกับการวิธีซื้อขายหุ้น แล้วถือหุ้นได้นานๆมากขึ้น
ผมฟังแล้วมึนไปเลย
เกิดมาในขีวิต ไม่เคยสอนเรื่องหุ้นให้ใครแบบตัวตัว
ไอ้ที่เปิดคอร์สสอน แล้วเก็บเงินค่าสอนได้ทีเป็นแสนๆ บาท
ยอมรับว่าอิจฉาที่เขาทำได้

พี่เขาขอเบอร์โทรศัพท์บ้าน ผมบอกไปว่าไม่ค่อยให้เบอร์โทรศัพท์ใคร
เลยให้เป็นเบอร์มือถือแทน
มารู้เหตุผลที่ขอเบอร์โทรบ้าน ก็ตอนที่พี่เขาบอกว่า่
ขอเบอร์บ้าน คุยได้นานๆ เสียแค่ ๓ บาท


ลงท้าย ผมจดวิธีเข้าห้องสินธรผ่านทางกู่เกิ้ล โดยให้พิมพ์คำว่า "ห้องสินธร"
แล้วคลิ๊กต่อไปจนเข้าหน้าห้องสินธร ตรงช่อง smart search ด้านบน ให้พิมพ์คำว่า "๙ แล้ว ๖ ๖ แล้ว ๙"
ก็จะได้กระทู้ที่ผมเคยตั้ง ให้เลือกอ่านอันที่เห็นว่าน่าสนใจ
ในวันนั้น พี่เขาถามว่า ค่าพีอีคืออะไร !!!!!
ก็เลยอธิบายง่ายๆและจดให้ไว้บนซองเอกสารการประชุมของพี่เขา
ให้เอาราคาหุ้นของบริษัทวันนี้ หารด้วยกำไรต่อหุ้นของบริษัทนั้น
ได้ค่าที่ต่ำมากเท่าไร ก็ยิ่งดีมากเท่านั้น
ก่อนผมจะขอตัว ออกมาเดินงานสถาปนิก 60
พี่เขาได้แนะนำ รายการวิทยุที่ทำให้ผมทึ่งหนักเข้าไปอีก
มันไม่ใช่รายการเรื่องเกี่ยวกับหุ้นแต่อย่างใด
พี่เขาแนะนำ ทุกเช้าให้เปิดฟังรายการธรรมะของอาจารย์....ทางวิทยุ ท่านสอนดีมาก
ผมคิดในใจ ระหว่างเดินออกมาจากห้องประชุม ifec
ทุกคนมีปัจจัยพื้นฐานสะสมไม่เหมือนกัน
ผลลัพธ์ของการกระทำ จึงไม่เหมือนกัน
เรื่องบางเรื่อง ต่อให้รู้ดี ก็ยังขึ้นอยุ่กับว่า รู้แล้ว ทำได้หรือทำไม่ได้อีกต่างหาก
ทื่ผมไม่แน่ใจว่า พี่เขาจะเปลี่ยนแนวทางการลงทุนได้หรือไม่
ที่ผมบอกตอนเจอกันคือ
ถ้าเป็นตอนนี้ เล่นสั้น น่าจะดีกว่าถือยาว
ที่ผมถือยาว เพราะถือมาตั้งแต่ตอนที่ควรจะถือยาว
และตอนนี้กินเงินปันผลเป็นหลักแล้ว ก็เลยไม่ได้เล่นรอบ
และให้เหตุผลสำคัญคือ อะไรทำแล้ว เสียทั้งสุขภาพจิต สุขภาพกาย
ต่อให้ได้เงิน มันก็เกินวัยที่ผมจะต้องยอมเสียสละแบบนั้นแล้ว
เมื่อวานนี้ ผมก็ได้บอกพี่เขาไปตามตรงว่า
ไม่แน่ใจว่า จะเปลี่ยนแนวการซื้อขายหุ้นได้ เพราะเล่นเดย์เทรดมานานแล้ว
ความจริงผมนึกไปถึงคำสอนของพระอาจารย์ฺชาตามภาพประกอบ
ถ้าพี่ได้เข้ามาอ่านกระทู้นี้
ผมก็ขอให้พี่สามารถหาแนวทางการเล่นหุ้น
ที่ไม่ทำให้เสียสุขภาพจิต สุขภาพกายให้ได้ครับ
วัยอย่างเราๆ ได้เงินก็อาจจะไม่ได้ใช้
ไม่รู้จะได้ไปทำไม ในเมื่อขีวิตก็อยู่ได้อยู่แล้ว
ของพี่ อยู่ได้ด้วยเงินบำนาญ
ของผมอยู่ได้ด้วยเงินปันผลรับรายปี



๙ แล้ว ๖ ๖ แล้ว ๙ คำตอบที่ยังวนเวียนอยู่ในหัวคือ.....
เมื่อวานไปตากอากาศกลางสนามรบตลาดหุ้น ifec ที่อิมแพคมา
ไปๆมาๆ ผมแทบไม่ได้ฟังที่เขาทะเลาะตบตีกันด้วยวาจาเลย
ไม่ว่าจะเป็นคุณศิริวัฒน์ ที่พูดด้วยน้ำเสียงดังและดุเดือด
ประมาณว่าถ้ากรรมการหวงบริษัทนัก
ก็ซื้อหุ้นเพิ่ม แล้วก็ทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ไปเลยซิ ???
ทำเอาคนทั้งห้อง ตบมือให้ดังลั่น
ส่วนกรรมการบนเวที โต้กลับลงมาด้วยอารมณ์เช่นกัน
ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายที่สนับสนุนคำพูดของผู้ถือหุ้นรายย่อย หรือต่อต้านก็ตาม
สาเหตุที่ไม่ค่อยได้ฟังการทะเลาตบตีการด้วยวาจาก็คือ
มีผู้ถือหุ้นรายย่อยท่านหนึ่ง ทีนั่งกันใกล้ๆโดยมีเก้าอี้ที่ผมวางเอกสารคั่นอยู่กลางอยู่
คุยกันไป คุยกันมา
จับใจความได้ว่า
พี่เค้าเคยเป็นพนักงานการรถไฟ ซึ่งเกษียณอายุมา ในรุ่นที่ยังมีสิทธิ์ได้รับบำนาญ
เนื่องจากขายที่ดินได้
เลยนำเงินมาลงในหุ้น โดยไม่เกี่ยวกับเงินบำนาญ ซึ่งจะเป็นค่าใช้จ่ายประจำวัน
แรกๆก็น่าจะกำไรดี พี่เขายกตัวอย่างให้ฟังว่า
เคยจองไอพีโอราชบุรี จากธนาคารไทยพาณิชย์
มาขายในตลาดหลังจากถือมา ๕ ปี ได้กำไรสี่แสนบาท
ยิ่งฟังก็ยิ่งมึนว่า แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับการเดินทางแสวงหาเงินในตลาดหุ้นของพี่
จากคนที่กล้าถือหุ้นราชบุรีนานถึงห้าปี กลายมาเป็น...
พี่เขาเล่าว่า ตอนนี้เล่นหุ้นแบบเก็งกำไร เน้นเดย์เทรดเป็นหลัก
เล่นอยู่สองตัวคือ ifec กับ gl ตอนนี้เท่ากับเหลือ gl อยู่ตัวเดียว
ใช้วิธีซื้อขายด้วยกราฟ ทุกวันนี้ยังได้กำไรจากการซื้อๆขายๆ gl
พอคุยกันถึงว่า ผมซื้อ ifec ราคาเท่าไร
คำตอบก็อย่างที่หลายท่านเคยอ่านเจอในกระทู้ ไม่ขอเล่าซ้ำ
พี่เขาทำหน้าทึ่ง ที่ผมถือหุ้นมาได้นานขนาดนั้น ในราคาขนาดนั้น
ผมก็เลยบอกว่า
เป็นคนเล่นหุ้นแบบซื้อเร็ว ขายเร็วไม่เป็นมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
พี่เขาถามว่า แล้วซื้อหุ้นมาตอนไหน ถือหุ้นนานแค่ไหน
ผมตอบว่า ซื้อมาตอนเกิดวิกฤตซับไพร์ม
ส่วนจะถือนานแค่ไหนก็ได้
ตามใดที่หุ้นมันดีอยู่ (ไม่ได้อธิบายเกี่ยวกับเรื่องแต้มต่อที่กำหนดไว้ เพราะคงฟังไม่รู้เรื่อง)
ยิ่งคุยเรื่องถือหุ้นได้นาน มากเท่าไร
ในที่สุดพี่เขาก็บอกว่า ผมอยากเปลี่ยนวิธีซื้อขายหุ้นแล้ว
รู้สึกเหนื่อยและเครียด กับการต้องจ้องจอติดตามราคาหุ้น เพื่อเล่นเดย์เทรด (ในวัยเจ็ดสิบ !!!)
ถึงมีกำไร ก็ไม่คุ้มกับสุขภาพจิต สุขภาพกาย
ผมเสริมว่า เผลอๆค่ามิชชั่นที่ต้องจ่ายให้โบรกเกอร์จากการเล่นเดย์เทรด
จะมากกว่าเงินกำไรที่ได้อีก ซึ่งพี่เขาก็เห็นด้วย
ที่ประชุม ก็ทะเลาะตบตีกันด้วยวาจาไป ส่วนผมกับพี่ ก็นั่งคุยนอกเรื่องไปกัน
เชื่อว่า ไม่ได้รบกวนผู้อื่น เพราะเสียงอภิปรายโต้ตอบกันดังมาก
ลงท้าย พี่เขาบอกอยากจะขอความรู้เกี่ยวกับการวิธีซื้อขายหุ้น แล้วถือหุ้นได้นานๆมากขึ้น
ผมฟังแล้วมึนไปเลย
เกิดมาในขีวิต ไม่เคยสอนเรื่องหุ้นให้ใครแบบตัวตัว
ไอ้ที่เปิดคอร์สสอน แล้วเก็บเงินค่าสอนได้ทีเป็นแสนๆ บาท
ยอมรับว่าอิจฉาที่เขาทำได้
พี่เขาขอเบอร์โทรศัพท์บ้าน ผมบอกไปว่าไม่ค่อยให้เบอร์โทรศัพท์ใคร
เลยให้เป็นเบอร์มือถือแทน
มารู้เหตุผลที่ขอเบอร์โทรบ้าน ก็ตอนที่พี่เขาบอกว่า่
ขอเบอร์บ้าน คุยได้นานๆ เสียแค่ ๓ บาท
ลงท้าย ผมจดวิธีเข้าห้องสินธรผ่านทางกู่เกิ้ล โดยให้พิมพ์คำว่า "ห้องสินธร"
แล้วคลิ๊กต่อไปจนเข้าหน้าห้องสินธร ตรงช่อง smart search ด้านบน ให้พิมพ์คำว่า "๙ แล้ว ๖ ๖ แล้ว ๙"
ก็จะได้กระทู้ที่ผมเคยตั้ง ให้เลือกอ่านอันที่เห็นว่าน่าสนใจ
ในวันนั้น พี่เขาถามว่า ค่าพีอีคืออะไร !!!!!
ก็เลยอธิบายง่ายๆและจดให้ไว้บนซองเอกสารการประชุมของพี่เขา
ให้เอาราคาหุ้นของบริษัทวันนี้ หารด้วยกำไรต่อหุ้นของบริษัทนั้น
ได้ค่าที่ต่ำมากเท่าไร ก็ยิ่งดีมากเท่านั้น
ก่อนผมจะขอตัว ออกมาเดินงานสถาปนิก 60
พี่เขาได้แนะนำ รายการวิทยุที่ทำให้ผมทึ่งหนักเข้าไปอีก
มันไม่ใช่รายการเรื่องเกี่ยวกับหุ้นแต่อย่างใด
พี่เขาแนะนำ ทุกเช้าให้เปิดฟังรายการธรรมะของอาจารย์....ทางวิทยุ ท่านสอนดีมาก
ผมคิดในใจ ระหว่างเดินออกมาจากห้องประชุม ifec
ทุกคนมีปัจจัยพื้นฐานสะสมไม่เหมือนกัน
ผลลัพธ์ของการกระทำ จึงไม่เหมือนกัน
เรื่องบางเรื่อง ต่อให้รู้ดี ก็ยังขึ้นอยุ่กับว่า รู้แล้ว ทำได้หรือทำไม่ได้อีกต่างหาก
ทื่ผมไม่แน่ใจว่า พี่เขาจะเปลี่ยนแนวทางการลงทุนได้หรือไม่
ที่ผมบอกตอนเจอกันคือ
ถ้าเป็นตอนนี้ เล่นสั้น น่าจะดีกว่าถือยาว
ที่ผมถือยาว เพราะถือมาตั้งแต่ตอนที่ควรจะถือยาว
และตอนนี้กินเงินปันผลเป็นหลักแล้ว ก็เลยไม่ได้เล่นรอบ
และให้เหตุผลสำคัญคือ อะไรทำแล้ว เสียทั้งสุขภาพจิต สุขภาพกาย
ต่อให้ได้เงิน มันก็เกินวัยที่ผมจะต้องยอมเสียสละแบบนั้นแล้ว
เมื่อวานนี้ ผมก็ได้บอกพี่เขาไปตามตรงว่า
ไม่แน่ใจว่า จะเปลี่ยนแนวการซื้อขายหุ้นได้ เพราะเล่นเดย์เทรดมานานแล้ว
ความจริงผมนึกไปถึงคำสอนของพระอาจารย์ฺชาตามภาพประกอบ
ถ้าพี่ได้เข้ามาอ่านกระทู้นี้
ผมก็ขอให้พี่สามารถหาแนวทางการเล่นหุ้น
ที่ไม่ทำให้เสียสุขภาพจิต สุขภาพกายให้ได้ครับ
วัยอย่างเราๆ ได้เงินก็อาจจะไม่ได้ใช้
ไม่รู้จะได้ไปทำไม ในเมื่อขีวิตก็อยู่ได้อยู่แล้ว
ของพี่ อยู่ได้ด้วยเงินบำนาญ
ของผมอยู่ได้ด้วยเงินปันผลรับรายปี