สวัสดีครับพี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ ชาวพันทิปทุกท่าน จากวันนั้นจนถึงวันนี้ผมก็อยู่กับ CB400 ครบ 2 ปีแล้ว
กำลังจะก้าวเข้าสู่ปีที่ 3 และตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมาผมได้ประสบพบเจออะไรมาบ้างจะมาขอเล่าสู่กันฟังในกระทู้นี้ครับ
ช่วง 1 ปีแรกกับCB400 เป็นอะไรที่ราบรื่นสดใสดั่งคู่รักข้าวใหม่ปลามัน ทำอะไรก็ดีไปหมด มีออกทริปไปขี่รถเล่นกับพี่ๆ น้องๆ อยู่บ้าง


พอเริ่มเข้าสู่ปีที่ 2 นี่ละครับ พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ที่รู้จักเริ่มขยับเปลี่ยนรถกันเป็นว่าเล่น
BMW GS800F ,Yamaha Fj09 ,Honda African Twin ,Suzuki GSX1000R เป็นต้น ซึ่งแต่ละคนก็เริ่มแสดงตัวตัวที่ชัดเจนในสไตล์การขับขี่ และก็มีบางส่วนที่เลิกขี่ขายรถออกไปก็มี ทำให้ผมเริ่มมีความหวั่นไหวว่าเราจะเปลี่ยนรถตามคนอื่น หรือว่าจะขายรถแล้วเลิกขี่ดี ซึ่ง ณ ตอนนั้นCB400 ก็มีคนมาถามขอซื้ออยู่ตลอด แต่จนแล้วจนรอดผมก็ไม่ได้ขาย ไม่ได้เปลี่ยนรถ ก็ได้แต่งรถไปบ้างนิดๆ หน่อยๆ
อาจจะด้วยที่ผมไม่ค่อยมีเวลาว่างมากนักในการออกทริปไปขี่รถไกลๆหมือนเพื่อนคนอื่นๆ ทำให้ผมอยู่กับCB400 คันนี้ต่อไปได้
และคลื่นลูกล่าสุดที่โหมกระหน่ำรุนแรงกว่าครั้งไหนๆ ก็คือCB1100RS นี่เอง

ด้วยความที่หน้าตาที่เป็นรถ Neo Classic เหมือนกัน CB1100RS ได้ใจผมไปเต็มๆ
อีกทั้งศูนย์บิ๊กวิงยังได้นำเข้ามาจำหน่ายในเมืองไทย ในราคาที่ถูกกว่าที่ผมคาดการณ์ไว้เยอะ และตัวผมเองที่ในชีวิตก็คิดอยากจะลองรถระดับ1000ซีซี.กับเขาบ้างสักครั้งในชีวิตอยู่แล้ว
ทำให้เกิดอาการหวั่นไหว พร่ำเพ้อ โหยหา ถึงกับคิดขายCB400 เพื่อแอบหาเงินเอาไปดาวน์CB1100RS โดยที่ไม่ให้ภรรยารู้
แต่ทว่าเรื่องเงินๆทองๆกับภรรยาผมเป็นสิ่งที่ไวต่อกันมาก เมื่อภรรยาผมรู้เรื่องเข้าเธอได้ยื่นคำขาด “เปลี่ยนรถได้นะ แต่ต้องไม่เพิ่มเงิน”
สรุปว่าเป็นอันจบ ปิดโครงการ CB1100RS ไปโดยปริยาย
หลังจากนั้นผมก็จอดรถไว้อีกพักใหญ่ แทบไม่ค่อยได้ขี่เลย เพราะอาจจะด้วยความอยากได้ CB1100RS มันทำให้ผมหน้ามืดตามัว
จนเวลาผ่านไปหลายสัปดาห์ ผมก็เข็นเอาCB400 ออกจากโรงรถมาล้าง ขณะที่เข็นรถรับรู้ถึงน้ำหนักของตัวรถว่ารถแค่400ซีซี. ยังหนักขนาดนี้
ถ้าตัว1000ซีซี.ตัวเราคงเอาไม่ไหวแน่ๆ เท่านั้นละครับ เหมือนค้นพบทางสว่าง หลังจากที่เหมือนคนโลกมืดตาบอดอยู่เกือบเดือน
หลายคนคงจะว่าผมบ้าไปแล้วแน่ๆ
รถเขาซื้อมาขี่ ไม่ได้ซื้อมาเข็นนะเฟ้ย
แต่เหมือนผมได้ค้นพบสัจธรรมจากน้ำหนักของรถนี่ละครับ รถที่น้ำหนักพอดีกับตัวเรา เราสามารถจะควบคุมในการขับขี่ได้ง่ายกว่ารถที่มีน้ำหนักเกินกว่าตัวของเรา แม้กระทั่งตอนเข็นรถที่น้ำหนักพอดีขณะไม่ได้ขี่ถ้ารถเสียสมดุลเราก็ยังสามารถดึงกลับมาได้ง่ายกว่า
เมื่อได้สติแล้วผมก็เริ่มกลับมาขี่CB400 มากขึ้นๆๆ เท่าที่จะหาเวลาว่างจะขี่ได้ ยิ่งขี่ก็ยิ่งรู้สึกดีครับ ได้ออกไปเจอมิตรภาพใหม่ๆ ที่ไม่จำกัดกับคำว่าซีซี. รถเล็ก รถใหญ่ ต่างรุ่น ต่างซีซี. ก็สองล้อเหมือนกันแต่ก็ร่วมทางไปด้วยกันได้


ล่าสุดได้มีโอกาสแวะเวียนไปซื้ออะไหล่ที่ร้านลุงหนวดแดง ได้พบกับพี่ไก่เจ้าของร้าน ได้พูดคุยเกี่ยวกับ CB400 อยู่สักพัก ได้คำปรึกษาและคำแนะนำดีๆมากมายจากพี่ไก่ ยิ่งทำให้รู้สึกว่าผมคิดถูกจริงๆ ที่ไม่สละยานขายCB400 ทิ้งไปซะก่อน ไม่งั้นป่านนี้ผมกลับมานั่งน้ำตาเช็ดหัวเข่าอยู่บ้านแล้ว
สุดท้ายนี้ผมคงอยู่กับCB400 ไปอีกนานเท่าที่ผมจะยังขี่ไหว (ผมก็แก่ขึ้นทุกปีๆเรี่ยวแรงคงถดถอยลงไปตามรถแน่นอน) เพราะรถที่ถูกใจไม่ใช่รถที่จะหาเจอกันง่ายๆ ถึงแม้ตลอดเวลา 2 ปีที่ผ่านมาผมจะหวั่นไหว ลังเล ไปตามกระแสรถใหม่ๆที่เข้ามา
แต่เมื่อเข็นCB400 คันนี้ออกมาจอดล้าง จอดเช็ด ครั้งใด ผมกลับมีแต่รอยยิ้มแห่งความสุขเกิดขึ้นได้ทุกครั้งที่ได้มองมัน
เหมือนผมตกหลุมรักรถคันเดิมได้ทุกวันเลยสิน่า I love it. CB400
ปล.ขอบคุณทุกท่านที่ทนอ่านกันจนจบนะคร้าบ
เมื่อผมยังอยู่กับ CB400
กำลังจะก้าวเข้าสู่ปีที่ 3 และตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมาผมได้ประสบพบเจออะไรมาบ้างจะมาขอเล่าสู่กันฟังในกระทู้นี้ครับ
ช่วง 1 ปีแรกกับCB400 เป็นอะไรที่ราบรื่นสดใสดั่งคู่รักข้าวใหม่ปลามัน ทำอะไรก็ดีไปหมด มีออกทริปไปขี่รถเล่นกับพี่ๆ น้องๆ อยู่บ้าง
พอเริ่มเข้าสู่ปีที่ 2 นี่ละครับ พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ที่รู้จักเริ่มขยับเปลี่ยนรถกันเป็นว่าเล่น
BMW GS800F ,Yamaha Fj09 ,Honda African Twin ,Suzuki GSX1000R เป็นต้น ซึ่งแต่ละคนก็เริ่มแสดงตัวตัวที่ชัดเจนในสไตล์การขับขี่ และก็มีบางส่วนที่เลิกขี่ขายรถออกไปก็มี ทำให้ผมเริ่มมีความหวั่นไหวว่าเราจะเปลี่ยนรถตามคนอื่น หรือว่าจะขายรถแล้วเลิกขี่ดี ซึ่ง ณ ตอนนั้นCB400 ก็มีคนมาถามขอซื้ออยู่ตลอด แต่จนแล้วจนรอดผมก็ไม่ได้ขาย ไม่ได้เปลี่ยนรถ ก็ได้แต่งรถไปบ้างนิดๆ หน่อยๆ
อาจจะด้วยที่ผมไม่ค่อยมีเวลาว่างมากนักในการออกทริปไปขี่รถไกลๆหมือนเพื่อนคนอื่นๆ ทำให้ผมอยู่กับCB400 คันนี้ต่อไปได้
และคลื่นลูกล่าสุดที่โหมกระหน่ำรุนแรงกว่าครั้งไหนๆ ก็คือCB1100RS นี่เอง
ด้วยความที่หน้าตาที่เป็นรถ Neo Classic เหมือนกัน CB1100RS ได้ใจผมไปเต็มๆ
อีกทั้งศูนย์บิ๊กวิงยังได้นำเข้ามาจำหน่ายในเมืองไทย ในราคาที่ถูกกว่าที่ผมคาดการณ์ไว้เยอะ และตัวผมเองที่ในชีวิตก็คิดอยากจะลองรถระดับ1000ซีซี.กับเขาบ้างสักครั้งในชีวิตอยู่แล้ว
ทำให้เกิดอาการหวั่นไหว พร่ำเพ้อ โหยหา ถึงกับคิดขายCB400 เพื่อแอบหาเงินเอาไปดาวน์CB1100RS โดยที่ไม่ให้ภรรยารู้
แต่ทว่าเรื่องเงินๆทองๆกับภรรยาผมเป็นสิ่งที่ไวต่อกันมาก เมื่อภรรยาผมรู้เรื่องเข้าเธอได้ยื่นคำขาด “เปลี่ยนรถได้นะ แต่ต้องไม่เพิ่มเงิน”
สรุปว่าเป็นอันจบ ปิดโครงการ CB1100RS ไปโดยปริยาย
หลังจากนั้นผมก็จอดรถไว้อีกพักใหญ่ แทบไม่ค่อยได้ขี่เลย เพราะอาจจะด้วยความอยากได้ CB1100RS มันทำให้ผมหน้ามืดตามัว
จนเวลาผ่านไปหลายสัปดาห์ ผมก็เข็นเอาCB400 ออกจากโรงรถมาล้าง ขณะที่เข็นรถรับรู้ถึงน้ำหนักของตัวรถว่ารถแค่400ซีซี. ยังหนักขนาดนี้
ถ้าตัว1000ซีซี.ตัวเราคงเอาไม่ไหวแน่ๆ เท่านั้นละครับ เหมือนค้นพบทางสว่าง หลังจากที่เหมือนคนโลกมืดตาบอดอยู่เกือบเดือน
หลายคนคงจะว่าผมบ้าไปแล้วแน่ๆ รถเขาซื้อมาขี่ ไม่ได้ซื้อมาเข็นนะเฟ้ย
แต่เหมือนผมได้ค้นพบสัจธรรมจากน้ำหนักของรถนี่ละครับ รถที่น้ำหนักพอดีกับตัวเรา เราสามารถจะควบคุมในการขับขี่ได้ง่ายกว่ารถที่มีน้ำหนักเกินกว่าตัวของเรา แม้กระทั่งตอนเข็นรถที่น้ำหนักพอดีขณะไม่ได้ขี่ถ้ารถเสียสมดุลเราก็ยังสามารถดึงกลับมาได้ง่ายกว่า
เมื่อได้สติแล้วผมก็เริ่มกลับมาขี่CB400 มากขึ้นๆๆ เท่าที่จะหาเวลาว่างจะขี่ได้ ยิ่งขี่ก็ยิ่งรู้สึกดีครับ ได้ออกไปเจอมิตรภาพใหม่ๆ ที่ไม่จำกัดกับคำว่าซีซี. รถเล็ก รถใหญ่ ต่างรุ่น ต่างซีซี. ก็สองล้อเหมือนกันแต่ก็ร่วมทางไปด้วยกันได้
ล่าสุดได้มีโอกาสแวะเวียนไปซื้ออะไหล่ที่ร้านลุงหนวดแดง ได้พบกับพี่ไก่เจ้าของร้าน ได้พูดคุยเกี่ยวกับ CB400 อยู่สักพัก ได้คำปรึกษาและคำแนะนำดีๆมากมายจากพี่ไก่ ยิ่งทำให้รู้สึกว่าผมคิดถูกจริงๆ ที่ไม่สละยานขายCB400 ทิ้งไปซะก่อน ไม่งั้นป่านนี้ผมกลับมานั่งน้ำตาเช็ดหัวเข่าอยู่บ้านแล้ว
สุดท้ายนี้ผมคงอยู่กับCB400 ไปอีกนานเท่าที่ผมจะยังขี่ไหว (ผมก็แก่ขึ้นทุกปีๆเรี่ยวแรงคงถดถอยลงไปตามรถแน่นอน) เพราะรถที่ถูกใจไม่ใช่รถที่จะหาเจอกันง่ายๆ ถึงแม้ตลอดเวลา 2 ปีที่ผ่านมาผมจะหวั่นไหว ลังเล ไปตามกระแสรถใหม่ๆที่เข้ามา
แต่เมื่อเข็นCB400 คันนี้ออกมาจอดล้าง จอดเช็ด ครั้งใด ผมกลับมีแต่รอยยิ้มแห่งความสุขเกิดขึ้นได้ทุกครั้งที่ได้มองมัน
เหมือนผมตกหลุมรักรถคันเดิมได้ทุกวันเลยสิน่า I love it. CB400
ปล.ขอบคุณทุกท่านที่ทนอ่านกันจนจบนะคร้าบ