[CR] [CR] สวัสดีเจแปน // Tokyo trip 7 วัน 5 คืน สองหมื่นก็ไปได้ ^^

นานาสวัสดี
สวัสดีผู้อ่านทุกท่านนะครับ ^^
   **ผมเคยตั้งกระทู้รีวิวนี้แล้วครับ แต่ขออนุญาตลบอันเก่าเพราะเขียนชื่อกระทู้ผิดไป แล้วไม่สามารถแก้ไขได้ ผมเลยตั้งใจเขียนขึ้นใหม่ให้เพื่อนๆได้อ่านกันนะครับ**
   ขอเกริ่นจุดเริ่มต้นในการเกิดทริปนี้ก่อนนะครับ ทริปนี้เกิดขึ้นเมื่อพฤษภาคมปีที่แล้วครับ ด้วยความที่ผมกับเพื่อนๆในกลุ่มดูคลิปรีวิว อ่านหนังสือเที่ยวญี่ปุ่นกันอยู่บ่อยๆ จนอยากลองไปญี่ปุ่นดูสักครั้ง ครั้นถ้าจะไปเที่ยวคนเดียว หรือคนสองคน ก็คงไม่สนุก ผมเลยลองชวนเพื่อนๆ สรุปไปสรุปมา มีสมาชิกทริปนี้ทั้งหมด 6 คนครับ พอได้เพื่อนร่วมทริปแล้ว ก็ถึงเวลาการจองตั๋ว พอดีเห็นราคาโปรของเวียดนามแอร์ไลน์ไปญี่ปุ่น 8 พันกว่าบาท จะรออะไรล่ะ ก็กดจองกันเลย อ้อผมจองกับ Hflight นะครับ บริการดีมากเลยครับ หลังจากนั้นก็จองโรงแรม เกริ่นพอละเนาะ ไปอ่านรีวิวกันเถอะครับ ออกตัวก่อนครับ เนื้อหาไม่ค่อยแน่นนะครับ อิอิ

//DAY1 : 10 MAY 2016//   วันเดินทาง เราเดินทางกันวันที่ 10 พฤษภาคมครับ แต่ถึงญี่ปุ่นวันที่ 11 ตอนเช้า เพราะบินแบบต่อเครื่อง เริ่มต้นการเดินทางมีเปลี่ยนเกต และดีเลย์ราวๆชั่วโมงนิดๆได้ครับ พอขึ้นเครื่องปุ๊บสัมผัสแรก คือ ที่นั่งสบาย ไม่แคบ เป็นเครื่อง a321 ไม่ใหญ่มาก แต่ไม่อึดอัด ในภาพเป็นอาหารไฟท์ กทม - ฮานอย ใช้ได้ทีเดียวครับ บินไม่ถึงสองชม ก็ถึงสนามบินฮานอย เราต้องมาต่อเครื่องที่นี่ รอต่อเครื่องถ้าจำไม่ผิดประมาณ 3 ชั่วโมงครับที่ผมเลือก การต่อเครื่องก็ไม่ยากครับ เดินตามป้าย transfer และเช็คเกตที่จอแค่นั้น ไม่ต้องเช็คอินใหม่ เพราะได้บอร์ดดิ้งพาสแล้วตั้งแต่ไทย เหลือแค่นั่งรอไฟท์ไปนาริตะครับ //แต่// แนะนำนะครับ ช่วงนั่งรอต้องฟังประกาศด้วย เพราะผมเจอประกาศให้เปลี่ยนบอดดิ้งใหม่ วุ่นวายเล็กน้อย แต่ผ่านไปได้ด้วยดี อ้อสนามบินฮานอยดีนะ มีไวไฟ แรงพอตัว ใช้ได้ดีอยู่ครับ
//DAY2 : 11 MAY 2016// เวียดนามแอร์ไลน์บินด้วยโบอิ่ง 787 ครับ ที่นั่งสบายมาก ไม่อึดอัด กระจกใหญ่ ม่านไฟฟ้า มีจอทีวี เพลง หนัง เกม มากมาย จอลื่นไหลแบบไอแพดเลย
ในรูปเป็นอาหารแบบ japanese style ครับ ไฟท์ฮานอย-โตเกียว
บินมาประมาณ 5 ชั่วโมง เราก็มาถึงแผ่นดินญี่ปุ่นกันแล้ว ซึ่งการผ่านตม.ก็ง่ายดายไม่มีการถามคำอะไร ตม.ยิ้มแย้มมากๆ พอออกมาด้านนอกแล้ว ด้วยความที่ไฟท์ของเรามาถึงตอนเช้า เราจึงต้องล้างหน้ากันก่อน ซึ่งทำให้เสียเวลาไปมากทีเดียว หลังจากนั้นเราก็ลงมาชั้นล่างเพื่อซื้อตั๋วรถไฟเข้าเมือง พวกเราซื้อตั๋ว keisei skyliner (วิธีซื้อสามารถหาอ่านได้ในพันทิพครับ) ราคา 5400 เยน ได้ตั๋วแบบไปกลับ และพาสแบบใช้งานไม่จำกัด metro+toei 72 ชม.  ภายในตัวขบวนรถไฟครับ ถือเป็นทางเลือกที่ดีในการเข้าเมือง  วิวระหว่างเดินทาง  41 นาทีรถก็มาถึงสถานี Ueno ครับ ตอนเดินขึ้นลงสถานี มันเป็นเรื่องที่ลำบากมากๆครับ เพราะตอนแรกๆเราหาลิฟท์กันไม่เจอ 555 และแล้วเราก็ถึงที่พักครับ irori nihonbashi hostel and kitchen พวกเราพักที่นี่ 4 คืน ที่พักเป็นโฮสเทลครับ คือ ชั้นนึงนอนรวมกันหลายคน เราได้เพื่อนใหม่ด้วย การนอนโฮสเทลเป็นประสบการณ์ที่ดีเลยครับ สนุก แปลกใหม่ดีด้วย ส่วนคืนสุดท้ายเราจะไปนอนสนามบินกัน เพราะกลัวไปไม่ทันขึ้นเครื่องตอนเช้าครับ

//1.Sensoji Temple// ที่แรกที่มา ไม่มาไม่ได้ครับ แลนด์มาร์คสำคัญ วัดเซนโซจิ มาขอพร มาขอบารมี อิ่มบุญกันทั่วหน้าเลยครับ แต่คนมาจากไหนนนนน เยอะมากๆ กราบในความศรัทธา กราบในความเบียดเสียด กราบบแล้วครับ 555 สองข้างทางเข้าวัด ล่อตาล่อใจมากๆครับ คนใจง่ายห้ามเดิน 555[img]https://f.ptcdn.info/049/045/000/obllahmxr9UyLJwte4n-o.jpg[/img วัดเซนโซจิ สวยมากก ต้องมานะ มื้อแรกในญี่ปุ่น พวกเรากินเทมปุระร้าน Aoi Marushin สาขาอาซากุสะครับ ใกล้ๆกับวันเซนโซจิ ออกมาจากวัดเลี้ยวขวาตรงมาเลยครับ ความอร่อย 10 ให้ 7 ล่างๆจะเค็ม และเลี่ยนๆ พนักงานน่ารักมากครับ บริการดีร้านนี้ พอทานเสร็จพวกเราก็กลับมาแถวที่พักเดินถ่ายรูปเก็บบรรยากาศไปเรื่อยครับ //2.Shibuya Croosing// วันแรกบอกเลยเดินชิบูย่าจนขาลากครับ ตามหารองเท้ากันสนุกสนาน ทั้งซื้อเอง ทั้งฝากซื้อมั่วไปหมด เดินที่ชิบูย่าเจอคนคนไทยเยอะมากๆครับที่นี่ เดินลืมเวลา เดินจนน่องปูด 555 จนสุดท้ายไม่ไหว ต้องกลับมาพักเอาแรงที่พักครับ เพราะพรุ่งนี้ตอนเช้าพวกเราจะไปดูฟูจิกันครับ

//DAY3 : 12 MAY 2016//
//3.Kawaguchiko station & Fujisan//
วันที่สองพวกเราตื่นแต่เช้าเพื่อไปดูฟูจิกันครับ พวกเราจองตั๋วรถบัสตั้งแต่ที่ไทยครับ วิธีจองมีอยู่ในพันทิพเลยครับ นั่งรถบัสมาชมกว่าๆ ก็มาถึงสถานี kawaguchiko สถานีนี้มีกลิ่นไอชนบทๆ อบอุ่น แบคกราวข้างหลังเป็นฟูจิ สวยงามมากครับ มื้อกลางวันพวกเรากินข้าวแกงกระหรี่กันครับ ร้านอยู่ตรงข้ามสถานีเลย ข้ามถนนมาร้านอยู่ชั้น 2 ข้างล่างเป็นร้านขายของฝาก รสชาติแกงกระหรี่ก็อร่อยพอได้  ให้ผ่านครับ เสร็จแล้วเราก็เดินไปทะเลสาป เพื่อไปขึ้นกระเช่า การใช้วิธีเดินไม่น่าเบื่อเลยครับ ถึงไกลแต่วิวข้างทางสวยมาก ถึงกระเช่า kachi kachi แล้วครับ ค่าขึ้นไปกลับ 800 เยนครับ โชคดีของพวกเรามากครับ ที่วันนั้นฟ้าเปิด ทำให้เราเห็นฟูจิ ชัดและสวยมากกกก
//4.Shinjuku// กลับมาจากฟูจิก็มาชินจูกุต่อ ก็อตซิล่าบุกแล้ว มื้อเย็นเราฝากท้องไว้กับร้านแกงกระหรี่คิงคองครับ พอทานเสร็จเราก็กลับที่พักกันครับ
//DAY4 : 13 MAY 2016//
//5.Harmonica Yokocho//
วันนี้เราจะไปเดินเล่นช๊อปปิ้งกันที่ตรอกฮาโมนิก้า ต้องเดินทางมาด้วยรถไฟ JR บัตรที่เราซื้อไม่ครอบคลุมนะครับ
ลองมาเดินดูครับ เผื่อได้ของสวยๆติดไม้ติดมือกลับไป ร้านนี้ตามรีวิวมาครับ ร้าน satou ลองกินคำแรกๆอร่อยนะ หลังจากนั้นเฉยๆ + เลี่ยนมากครับ
//6.Yodobashi akiba//
ตอนเย็นพวกเราไปห้าง yodabashi akiba ซึ่งขายของหลายอย่างมาก แต่ชั้นของเล่น คือ เยอะมาก ดูกันดั้มในภาพครับ เลือกกันไม่ถูกเลยอะ บอกเลย
//DAY5 : 14 MAY 2016//
//7.Ueno park//
เช้าวันที่สี่ในญี่ปุ่น เรามาเดินเล่นกันที่สวน Ueno สวนร่มรื่น สบายใจสุดๆเจอศาลเจ้าในสวน สวยงามครับ แล้วเราก็เดินมาที่ HIS สาขาอูเอะโนะ เพื่อมาซื้อพาส 24 ชม.เพื่อใช้ในวันสุดท้าย เจอเจ้าหน้าที่คนไทย บริการดีมาก แนะนำเลยครับ กลางวันเรามากินข้าวหน้าปลาดิบกันครับ ถามจากพี่ที่ HIS ว่าร้านนี้ดัง แต่พวกเราจำชื่อร้านไม่ได้แล้วอะครับ อยู่ย่านตลาด ameyoko
//8.Ameyoko market//
หลังจากนั้นเราก็มาเดินเล่นที่ตลาดอาเมะโยโกะ ซึ่งมีของขายมากมายเลยครับ ต้องมาเดินนะ
//9.Mori tower//
ต่อจากนั้นเราก็มาที่ตึก mori tower ตั้งใจมาดูโมริอาต แต่บอกเลยข้างในจัดแสดงน้อยไปหน่อย ค่าเข้าก็แอบแพง แถมเข้าใจยาก หรือเรางงเองไม่รู้ แต่ใครชอบงานศิลป์ก็ลองมาดู มันจะเปลี่ยนไปทุกๆเดือน ลองเชคตารางดูก่อนก็ได้ครับ แต่ไม่มาก็ไม่ผิด เสียดายตังนิดๆด้วยแหละตั๋วรวมค่าขึ้นชมวิวด้วยนะครับ //10.Tokyo One Piece Tower//
หลังจากชมวิวเสร็จ เราก็จะไปดู one piece กันที่ Tokyo tower ครับ ราคาตั๋วตามในภาพเลยครับ ข้างในก็จะมีรูปมีหุ่นในเรื่องจัดแสดง มีโชว์ด้วยครับ แฟนๆ one piece ควรมาครับมื้อเย็นเรากิน Ichiran Ramen อร่อยจริงๆ อันนี้สาขาน่าจะชินจูกุครับ หลังจากนั้นเราเดินเล่นริมแม่น้ำสุเมดะ แล้วกลับที่พักครับ

//DAY6 : 15 MAY 2016//
วันนี้เราเช็คเอาท์ออกจากที่พัก แล้วเอากระเป๋าไปฝากที่ HIS ครับ รับฝากโดยคิดใบละ 1000 เยน
//11.Meiji Jingu//ศาลเจ้าเมจิสวยงาม คนน้อยกว่าวัดเซนโซจิ แต่ความงามไม่แพ้กันเลย
กลางวันเรามากินร้าน Uobei Sushi อร่อยดีครับ ไม่แพงมากด้วยหลังจากนั้นช่วงเย็นเราก็ไปเอากระเป๋า และนั่ง keisei skyliner เพื่อไปสนามบิน คืนนี้เราจะนอนสนามบินกัน เพราะรุ่งขึ้นเรามีบินเช้า กลัวมาไม่ทันตรง Meeting point เป็นส่วนที่เราสามารถมานอนได้ครับ ปลอดภัยครับ มีคนดูแล มีคนไทยมานอนรอไฟท์บินพอสมควร

//DAY7 : 16 MAY 2016//
วันนี้ไม่มีอะไรมากครับ เป็นวันกลับไทยแล้ว ยังงั้นผมขอจบรีวิวเพียงเท่านี้นะครับ ส่วนรายละเอียดค่าใช้จ่ายขอไปบอกในความเห็นนะครับ  ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านครับ พาพันขอบคุณ
ชื่อสินค้า:   เที่ยวโตเกียว
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่